 |
ภาพคนเป็น
|
|
ฉันทำงานอยู่ร้านถ่ายรูปเล็กๆแห่งหนึ่ง หน้าที่ของฉันคือคอยตกแต่งตัดต่อรูปทุกอย่างที่เข้ามาทำในร้านนี้
ตั้งแต่ฉันเข้าทำงานที่ร้านนี้ทำให้ฉันต้องไปปรึกษาจิตแพทย์บ่อยครั้ง เพราะฉันรู้สึกว่ามีคนมาอยู่ข้างหลังฉันตลอดเวลา
เรื่องแปลกของร้านนี้ก็คือวันหนึ่งๆ จะมีรูปที่ใช้เพื่อประดับหน้าโรงศพเข้ามาให้ฉันทำไม่น้อยกว่าสามรูปต่อวัน
ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตายกันถี่ขนาดนั้น รูปที่น่ากลัวมากจะเป็นรูปเก่าสีขาวดำที่ต้องตัดต่อจากบัตรประชาชนของผู้ตาย ปัจจุบันนี้ถึงแม้ว่าฉันจะลบรูปทิ้งทุกๆสามเดือนแต่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของฉันก็ยังคงมีรูปคนตายที่ไม่ใช่ญาติไม่ต่ำกว่าสองร้อยรูป
หลังจากฉันเข้าทำงานที่นี่ได้เดือนกว่าๆ เจ้าของร้านก็ไว้ใจให้ฉันย้ายเข้ามานอนเฝ้าร้าน
ฉะนั้นทุกๆ คืนฉันจะลงมาใช้คอมพิวเตอร์ ท่องอินเตอร์เนตไปเรื่อยเปื่อย เวลาที่ฉันนั่งอยู่คนเดียวจะได้ยินเสียงประหลาดๆเสมอ
ฉันอดคิดไม่ได้ว่า วิญญาณของศพพวกนั้นจะมาเยี่ยมเยียนฉันหรือเปล่า ฉันคิดในแง่ดีเสมอว่าพวกเขาคงมาขอบคุณที่ฉันทำรูปสวยๆให้เขา มีบ่อยครั้งเหมือนกันที่ฉันต้องตกใจเพราะความซนของเจ้าสีสวาท แมวของเจ้าของร้าน
แต่บางครั้งกรอบรูปที่ตั้งโชว์อยู่ดีๆก็ล้มลงมาเฉยๆ ประตูกระจกอยู่ดีๆก็เปิดอ้าออก พอให้ลมที่พัดแรง เข้ามากระทบตัวฉัน
ยิ่งชั้นบนของร้านยิ่งน่ากลัวไปใหญ่ ชั้นบนเป็นไม้ทั้งหมด วันดีคืนดีก็มีเสียงไม้กระดานลั่นเสียงดัง
และที่น่ากลัวที่สุดคือ เวลาที่ฉันนั่งอยู่ข้างล่างฉันจะรู้สึกเหมือนมีคนเดินอยู่ข้างบนเสมอ จิตแพทย์ที่ฉันเคยไปปรึกษา เคยมาดูที่ร้านนี้แล้วเขาบอกว่าเรื่องทั้งหมดที่ฉันเล่าให้เขาฟังมันเป็นเรื่องธรรมชาติ เกิดขึ้นได้กับบ้านที่เป็นไม้ทุกหลังและบางครั้งเราก็อาจเอาความรู้สึกเราเข้าไปผสมด้วย
แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันมานี้ฉันไม่กล้าเล่าให้หมอฟังเพราะกลัวหมอจะบอกว่าฉันเป็นบ้า โรคจิต และฉันก็คิดว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติแน่นอน
เมื่อสองวันที่แล้วมีหญิงสาวคนหนึ่งเอารูปใบเล็กมาให้ฉันเพื่อทำเป็นรูปตั้งหน้าศพ ฉันก็รับทำให้ โดยเขาให้ระบุว่าผู้ตายชาตะวันที่ 25 เมษายน 2524 มรณะวันที่ 10 มิถุนายน 2549
ถึงตอนนี้ฉันยังจำรูปนั้นได้ดี ผู้ตายมีลักษณะผิวขาว ผมหยิก จมูกโด่ง คิ้วดกดำ หน้าตาค่อนข้างดี อายุนับมาถึงวันตายก็เป็นพี่ฉันเพียงสามปีเท่านั้น ระหว่างเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงที่ฉันทำรูปนี้มีสิ่งแปลกๆมากมายเกิดขึ้น
แต่สิ่งที่แปลกที่สุดก็คือ หลังจากที่ฉันทำรูปเสร็จ หญิงสาวคนเดิมกลับมารับรูปด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใส แถมยังให้เงินฉันเพิ่มอีก เหมือนกับว่าผู้ชายในรูปตายสมใจเขา
แต่ฉันก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไรจนกระทั่งเวลาประมาณห้าทุ่ม ฉันนอนไม่หลับจึงเดินออกมานั่งเล่นหน้าร้าน ขณะที่นั่งมองรถวิ่งผ่านไปผ่านมา ฉันก็สังเกตเห็นหญิงสาวคนที่มารับรูปเมื่อเย็น ขี่รถมอเตอร์ไซผ่านหน้าร้านฉันไป
หญิงสาวคนนั้นหันมายิ้มให้ฉัน ซึ่งฉันก็ยิ้มตอบไป แต่ผู้ชายที่ซ้อนท้ายรถเขามานี่สิ นั่งนิ่งมาก และหน้าตาก็คล้ายๆกับคนในรูปนั้น
ด้วยความไม่แน่ใจฉันจึงนั่งรอเผื่อเขาจะกลับมาทางเดิมอีกครั้ง ฉันคิดไปในทางที่ดีเสมอว่า ผู้ชายในรูปนั้นคงมีคู่แฝด และถ้าไม่เป็นเช่นนั้นฉันคงโดนผีหลอกแน่นอน และฉันก็สมความปรารถนาเมื่อหญิงสาวคนนั้นขี่รถกลับมาทางเดิมอีกครั้ง และครั้งนี้ก็ใกล้มากหล่อนขี่รถชิดซ้ายมาฝั่งเดียวกับร้านถ่ายรูปที่ฉันทำงานอยู่ เหมือนเดิมครั้งนี้ หล่อนหันมายิ้มให้ฉัน แต่สิ่งที่ฉันสนใจคือคนที่ซ้อนท้ายอยู่ ฉันจึงไม่ได้ยิ้มตอบกลับไป
เมื่อฉันมองไปที่ท้ายรถฉันต้องตกใจสุดขีด เมื่อชายคนนั้นหันมายิ้มให้ฉัน หน้าตาเขามีความสุขมาก ไม่ว่าจะอย่างไรฉันคิดว่าคงเป็นผู้ชายคนในรูปเมื่อกลางวันแน่นอน หลังจากนั้นฉันนอนไม่หลับทั้งคืน ด้วยความสงสัยฉันจึงเปิดคอมพิวเตอร์ ดูรูปนั้นอีกครั้ง ทำให้ฉันต้องงงมากขึ้น รูปนั้นหายไป ฉันเดินไปหลังร้านเพื่อไปหารูปที่ฉันทำเสีย ซึ่งมีถึงสามรูป ฉันแอบเอาไปทิ้งไว้เพราะกลัวเจ้าของร้านด่า ซึ่งก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยทำรูปเสียมากขนาดนี้มาก่อน เหมือนเดิม ฉันหาเท่าไรก็ไม่พบ ฉันโดนดีเข้าแล้ว
วันรุ่งขึ้น เป็นวันที่ฉันเปิดร้านเช้ากว่าทุกวันที่ผ่านมา ฉันยังคงวุ่นอยู่กับเรื่องเมื่อคืนเหมือนเดิม ฉันเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อดูรูปชายคนนั้น ฉันค้นหาในคอมพิวเตอร์อยู่นาน และฉันก็พยายามหารูปที่ฉันทำเสีย ด้วยเช่นกัน ฉันวุ่นอยู่อย่างนี้จนกระทั่งบ่าย หญิงสาวคนเดิมเข้ามาในร้านพร้อมรูปตั้งหน้าศพที่ฉันทำให้เมื่อวาน หล่อนเศร้าโศกเสียใจมาก น้ำตาคลอเบ้าอยู่ตลอดเวลา หล่อนไม่ทันได้พูดอะไร ฉันก็เอ่ยปากถามหล่อนว่าผู้ชายในรูปเป็นใคร หล่อนได้ยินดังนั้นถึงกับน้ำตาตก แล้วเอ่ยปากบอกกับฉันหล่อนสาธยายยาวมากแต่ฉันจับใจความได้ว่า ผู้ชายคนนี้เป็นน้องชายซึ่งเหตุผลที่เขาเสียใจมากก็เพราะว่าเขามีกันอยู่เพียงสองคนพี่น้อง เป็นอันสรุปว่าชายคนนี้ไม่มีฝาแฝดที่หน้าตาเหมือนกันแน่นอน เวลานั้นฉันสั่นไปทั้งตัว ยิ่งตอนที่หล่อนยื่นรูปมาให้ ฉันถึงกลับต้องผวา
เมื่อเป็นเช่นนั้นหล่อนจึงมองหน้าฉัน แล้วบอกฉันว่า ช่วยเปลี่ยนวันมรณะให้หน่อย , อะไรนะ ? ฉันตะโกนใส่หน้าหล่อนเสียงดัง จนหล่อนต้องก้าวถอยหลังออกไป น้ำตาที่ไหลอยู่จู่ๆก็หยุด และหล่อนก็เล่าให้ฟังว่าครั้งแรกที่มาทำรูปตั้งหน้าศพนั้น เพื่อเป็นการเอาเคล็ดว่าคนในรูปได้ตายไปแล้วซึ่งเป็นความคิดของหมอดูเพื่อต่อชะตาให้กับน้องชายของเขาซึ่งโชคไม่ดีมาบ่อยครั้ง บางครั้งเกือบถึงชีวิต แต่ความคิดนี้ก็ต่อชะตาชีวิตได้เพียงวันเดียวและสุดท้ายฉันก็เปลี่ยนข้อความวันมรณะเป็น มรณะ 11 มิถุนายน 2549
นี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้ฉันไม่กล้าเล่าให้จิตแพทย์ฟัง เพราะเหตุการณ์ทั้งหมดฉันก็คิดไปเองทั้งนั้น คนกลัวผีอย่างฉันมีอะไรนิดหน่อยก็คิดไว้ก่อนว่าโดนผีหลอก แต่ไม่ว่าจะอย่างไรชีวิตฉันก็ยังมีโชคเข้ามาเรื่อยๆเสมอ เจ้านายที่ใจดี ไม่ดุไม่ด่า บอกกับฉันก่อนจะโยนกระดาษให้สามแผ่น อย่าเอารูปไปทิ้งหลังร้านอีกถังขยะหน้าร้านก็มี ฉันได้ยินดังนั้นก็โล่งอก ก่อนจะหน้าซีดเมื่อได้ยินคำว่า เธอลืมลบรูปในคอมพิวเตอร์อีกแล้วนะ พี่เห็นมันเยอะแล้วพี่ก็เลยลบทิ้ง
จากคุณ |
:
ศิลป์ใจ
|
เขียนเมื่อ |
:
22 ต.ค. 52 19:06:43
|
|
|
|  |