Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กาลครั้งหนึ่ง...ความรัก # 3  

เย็นวันนั้น ผมโทรไปหาเพื่อน เลยโดนคาดโทษข้อหาโดดเช็คชื่อวงเหล้า โดนปรับเป็นเบียร์หนึ่งลังพร้อมน้ำแข็ง ให้ดีเอากับแกล้มด้วยไม่ต้องห่วงว่าน้อยไป เพราะขณะนี้มีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคให้กับห้องเหลืออยู่อีกสองลัง พอไปถึง เพื่อนตั้งวงไว้รอแล้ว เพื่อนผมยกแก้วให้บอกว่าออกสตาร์ทช้าต้องเร่งตามให้ทัน พร้อมกับให้ผมกินรวดเดียวหมด 4 - 5 แก้วต่อกัน
เวลาผ่านไปซักพัก เราก็คุยกันเรื่องชีวิต ม.ปลายวีรกรรมของคนนู้นบ้าง คนนี้บ้าง ช่วงสอบ ent’สะท้าน ที่ต้องเป็นอัจฉริยะเดือนเดียว ในการอ่านเนื้อหาไล่ตั้งแต่ต้นจนจบ ช่วงปีหนึ่งแรกๆเราต่างก็เฮี้ยวกันน่าดู  มีเรื่องที่เราเห็นว่าไร้สาระมากมายในตอนนั้น ตอนนี้กลับเป็นช่วงเวลาที่มีค่า และไม่สามารถกลับไปทำหลายๆอย่างเหมือนเมื่อก่อน อาจเป็นเพราะอายุมากขึ้นหล่ะมั้ง

ผมเมา คนอื่นก็เมา เราหลับกันหมด ไม่มีใครกลับหอได้ซักคน สายๆหน่อยก็เริ่มรู้สึกตัว ผมไปล้างหน้าแล้วก็ลงไปขับรถกลับหอ ผมลืมไปเลยว่า เมื่อคืนมีเพื่อนคนนึงมันบอกให้ไปส่งมันด้วย แต่ก็ช่างเถอะ มันบอกให้ไปส่งเมื่อคืนนี่หว่า ไม่ใช่ให้ไปส่งตอนเช้า

กลับถึงหอ ผมยังปวดหัวไม่หาย ไม่นึกว่าการที่ผมกลับมากินเบียร์อีกที มันจะทำให้ผมปวดหัวได้ขนาดนี้ ตอนแรกก็ว่าจะอาบน้ำ แต่ก็ทนไม่ไหวเลยนอนต่อซะเลย ผมขับรถมาถึงหอได้นี้ นับเป็นบุญแล้วหล่ะ

ตื่นมาอีกทีก็ค่ำแล้ว ชีวิตผมก็เหมือนเดิม อาบน้ำกินข้าว แล้วก็ไปนั่งเล่นเกมส์ เล่นได้แปบเดียว ผมนึกขึ้นมาได้ ของใช้ในห้องผมหมดไปหลายอย่าง ไม่ได้ไปซื้อซักที แต่ก่อนมีคนคอยจัดการให้ แต่ตอนนี้อยู่คนเดียวแล้ว ผมเลยต้องไปหาซื้อเอาเอง ผมเลยขับรถไปห้างที่ใกล้ที่สุด

ทุ่มนิดๆ ผมกำลังจะเดินไปซื้อของ เป็นเรื่องบังเอิญมาก ผมเจอน้องนุช เธอก็ทักผม เธอมากับพ่อแม่แล้วก็แนะนำผมให้พ่อแม่เธอรู้จัก แน่นอนพ่อแม่เธอก็คือพ่อแม่นุ่นเองแหละ ผมตกใจมาก แต่ก็ไม่แสดงออกอะไร นุชว่าเธอกำลังไปกินเอ็มเค พ่อแม่เธอก็ชวนผมไปด้วยกัน ผมขัดไม่ได้ เลยต้องไปกับพวกท่าน นุชบอกว่าผมเป็นแฟนนุ่น แล้วยังเคยช่วยเธอจากคนเมาด้วย แต่เธอไม่ได้บอกว่า เธอเองก็เมาเหมือนกัน สงสัยพ่อแม่จะเข้มงวดกับน้องนุชพอดูเลยหล่ะ บรรยากาศเป็นกันเองมาก แต่ผมก็ยังให้ความเคารพผู้ใหญ่ท่านอยู่ พวกท่านจะคิดยังไงนะ ถ้ารู้ว่าผมเคยทำร้ายลูกสาวพวกท่านขนาดไหน ผมคิดในใจ

พอน้องนุชไปเข้าห้องน้ำ ผมอยู่กับพ่อแม่เธอ บรรยากาศเกิดเครียดเล็กๆเมื่อแม่เธอถามว่า ทำไมผมไปเจอยัยนุชได้ แล้วก็ถามเรื่องนุ่นกับผม ผมบอกเรื่องนุชว่า วันนั้นเป็นเรื่องบังเอิญ ผมเกิดหิวข้าว เลยไปกินบะหมี่ร้านหน้าหอยัยนุช เพราะเป็นเจ้าประจำ ส่วนเรื่องนุ่นนั้น ผมโกหกท่านไป บอกว่าผมทะเลาะกับเธอ เธอเลยหนีกลับบ้านไป แต่เรื่องที่ทะเลาะ แน่นอนว่าผมไม่บอก เพราะผมเองก็ไม่รู้ว่านุ่นบอกอะไรพ่อแม่เธอบ้าง ทีนี้ แม่เธอถามว่า ผมมีอะไรกับนุ่นหรือยัง ผมอึ้ง ไม่นึกว่าแม่เธอจะกล้าถาม แถมต่อหน้าพ่อเธอเสียด้วย ผมไม่ตอบ แม่เธอเลยบอกว่า ไม่เป็นไร แม่เข้าใจ ไม่ใช่เราไม่ดี ลูกแม่เองก็ไม่ดีที่ไปทำตัวแบบนั้น แต่ยังดีที่ไม่เกิดเรื่องอะไร ความหมายของแม่เธอ คงจะหมายความยังดีที่อย่างน้อย นุ่นก็ไม่ท้อง

แม่เธอยังบอกอีกว่า ยัยนุชหน่ะเป็นน้องของนุ่น ขอให้ผมดูแลเธอดีๆ จะทำอะไรก็คิดถึงหน้านุ่นไว้บ้าง ความหมายของแม่เธอ ก็คงจะหมายถึง อย่าไปมีอะไรกับลูกสาวอีกคนของเขานั่นแหละ ผมก็ตกลง ขณะที่แม่เธอกำลังจะถามเรื่องที่ทะเลาะกันเรื่องอะไร เพราะนุ่นกลับไปก็ร้องห่มร้องไห้ซะยกใหญ่ บอกจะไปเรียนเมืองนอก ไม่อยากอยู่เมืองไทยแล้ว น้องนุชก็เข้ามาช่วยชีวิตผมพอดี เธอกลับมา แม่เธอก็ไม่ซักต่อ บรรยากาศก็เริ่มผ่อนคลาย แต่ผมไม่ผ่อนคลายด้วยซะเลย

หลังจากทานเสร็จ ผมก็ขอตัวไปซื้อของ แต่แม่เธอก็บอกให้ไปด้วยกัน วันนี้รู้สึกความสัมพันธ์ของผมกับครอบครัวนี้จะแน่นขึ้นเยอะ น้องนุชถือว่าผมเป็นพี่ชายเธอไปซะแล้ว(มั้ง) ผมก็ทำหน้าที่เข็นรถเข็นให้ เกือบๆสามทุ่ม เราก็ไปคิดเงินที่เค้าเตอร์ ผมบอกว่าแยกของผมคิดเงินต่างหาก พ่อเธอก็ว่าไม่ต้อง ถือซะว่าเป็นค่าตอบแทนที่ผมไปช่วยยัยนุช ผมก็ว่าไม่เป็นไร ก็เถียงกันเล็กน้อย ก็ยอมตามผู้ใหญ่เค้า เดี้ยวจะเสียผู้ใหญ่

หลังจากวันนั้น นุชเธอเริ่มติดผมมากขึ้น คิดว่าผมพี่ชายเธอ จะไปซื้อของ จะไปดูหนัง เธอโทรเรียกผมตลอด เธอคงไว้ใจผมมาก หรือไม่ก็เอาผมไว้เป็นไม้กันหมา ผมก็ไม่ว่าอะไร คิดว่านุชเป็นน้องสาวไปจริงๆ บางครั้ง พ่อแม่เธอก็บอกนุชให้ชวนผมไปทานข้าวด้วยกันบ้าง ผมมักจะอ้างนู่นอ้างนี่ หลังๆมานี่แม่เธอเล่นโทรมาเองเลย ผมก็ขัดไม่ได้ ผมเองก็ชักสงสัยว่า ผมเป็นลูกเขยบ้านนี้ไปแล้วหรือยังไงนะ รู้สึกตะหงิดๆใจเหมือนกัน

หลังๆมา น้องนุชชักเอาใหญ่ เริ่มมาหาผมที่หอบ้าง ให้ไปหาเธอที่หอบ้าง ผมถามเธอว่า ไม่กลัวผมทำอะไรเธอเหรอ เธอก็ว่าไม่หรอก เธอเชื่อใจผมตั้งแต่ครั้งที่ผมช่วยเธอตอนเธอเมา แถมยังเช็ดตัวให้เธออีก เธอบอกว่าตอนนั้นเธอยังไม่หลับสนิทเพราะมันคัน เธอรู้ว่าผมเฝ้าเธอจนถึงเช้าแล้วยังไม่ฉวยโอกาส แถมยังกลับไปก่อนอีก เธอบอกว่าผมเป็นคนดีมากๆ เธอว่า พี่สาวเธอเลือกคนไม่ผิดหรอก

ผมได้ยินก็อึ้งนิดหน่อย ด่าตัวเองในใจ ถ้าไม่ใช่เพราะผม นุ่นคงไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนั้นหรอก น้องนุชคงเห็นผมเศร้า เธอเลยถามผมว่าเป็นไร คิดถึงพี่เธอเหรอ ผมว่า ก็คงใช่ เราคุยกันเรื่องผมกับยัยนุ่นอีกครั้ง นี่เป็นครั้งที่สอง ที่ผมกับนุชคุยกันเรื่องนุ่น ผมรู้สึกแปลกใจเหมือนกัน ผมเพิ่งรู้สึกตัวว่า ปกติน้องนุชไม่เคยพูดถึงนุ่นเลย ทั้งๆที่น่าจะคุยเรื่องนุ่นเป็นเรื่องปกติแท้ๆ

วันหนึ่ง ก่อนสอบสองสัปดาห์ได้ นุชให้ผมไปติวให้ ผมก็บอกว่าไม่ไหวหรอก ผมยังไม่ค่อยรอดเลย เธอก็ว่าไม่เป็นไร ไงๆก็เรียนมาแล้วก็คงรู้บ้าง วิชาปีหนึ่งเนี้ย ส่วนใหญ่มันเป็นวิชาพื้นฐาน ก็เลยเรียนเหมือนๆกันหล่ะมั้ง ถึงคนละคณะ ผมก็พอจะสอนเธอได้บ้าง

ตีสอง เราเริ่มง่วงๆกันแล้ว ติวกันก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง นุชก็บอกผมว่า ค้างนี่ก็ได้นะ ดึกแล้ว มันอันตราย ผมก็ว่า บ้าเหรอ พ่อแม่เธอรู้ เอาผมตายแน่ เธอก็บอกว่าไม่เป็นไร ไม่บอกหรอก พี่ก็ง่วงแล้วนี่ เกิดขับรถแล้วเป็นไรไป แบบนั้นไม่แย่กว่าเหรอ ผมก็ว่า แล้วเธอไม่กลัวพี่จะทำไรรึไง ยัยนุชดันสวนมาว่า กล้าทำหนูก็กล้าให้อ่ะ เอาดิ แล้วก็ทำหน้าทะเล้นใส่ ผมยอมรับว่า อยู่กับน้องนุชมันก็เกิดอารมณ์บ้างเหมือนกัน ยังไงก็ไม่ใช่น้องแท้ๆนี่นา

ตกลง คืนนั้นผมค้างที่หอกับนุช ผมอาบน้ำมาแล้ว เลยไม่มีปัญหาเท่าไหร่ ส่วนนุชก็อาบรอตั้งแต่ก่อนผมจะมาเลยไม่มีโอกาสแอบดู แต่ก็ช่างเถอะ ผมบอกว่าผมนอนพื้นแล้วกัน นุชนอนเตียงไปเถอะ นุชก็บอกว่า เฮ้ย พี่ ได้ไง พี่เป็นพี่นะ จะให้หนูนอนสบายคนเดียวได้ไง ขึ้นมานอนด้วยกันก็ได้ ไม่ต้องฟอร์ม เดี้ยวเป็นไข้ไปสอบไม่ได้ไม่รู้นะ แล้วเธอก็ดึงผมขึ้นมาบนเตียง ผมก็ เอาวะ นอนก็นอน ผมสวดมนต์ในใจ เพื่อลดละกิเลสตัณหาที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ได้ผล ผมเริ่มง่วงแล้วกำลังจะหลับไป แต่จู่ๆ มือนุชก็ดึงแขนผมไป ผมเลยหันไปดู

ละเมอนี่หว่า ผมคิดในใจ ยัยนุชไม่ระแวงผมเลยจริงๆรึไงนะ แต่ผมก็คิดนะว่านุชเองก็ให้ท่าผม ดูจากการกระทำที่ผ่านๆมาของเธอแล้ว ติดอยู่ที่ผมทำเลวกับพี่เธอมามากแล้ว จะให้ผมเอาเปรียบคนน้องอีก..... ขณะที่ผมคิดอะไรเพลินๆ จู่ๆนุชก็ตื่นขึ้นมา พี่นอนไม่หลับเหรอ เธอถาม ผมก็บอกว่าเดี้ยวก็หลับแล้ว หลับไปเถอะ พี่ไม่ทำไรนุชหรอก พี่สัญญา

พี่จะทำนุชก็ไม่ว่าพี่นะ คำพูดนี่ทำเอาผมอึ้ง เธอไม่ได้ล้อเล่นแน่ๆ ผมรู้ ลองเธอพูดแบบนี้ ผมเองก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูน จะให้สวดมนต์บทไหนก็ลดกิเลสผมไม่ได้ซะแล้วหล่ะ

นุช.....ผมเรียกชื่อเธอ แล้วก็ดึงตัวเธอเข้ามากอด ก่อนที่ผมจะไซ้ซอกคอของเธอ นุชไม่ขัดขืนผมจริงๆ แถมเธอยังกอดผมตอบ ผมหอมแก้มเธอเบาๆ ก่อนที่จะเริ่มบทรักครั้งแรกกับเธอ หน้านุชเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น ระหว่างเราเริ่มสื่อสารกันด้วยภาษากายกับเสียงที่อยู่ในลำคอกันกว่าภาษาพูด ผมเลิกชุดนอนนุชขึ้น หลังจากนั้น บทเพลงรักของเราสองคนก็เริ่มขึ้น

จากคุณ : 27march
เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 20:59:58




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com