เพราะความรัก...ไม่ต้องการเหตุผล
|
|
มีปัญหากับระบบค่ะ ถ้ายังไงตามไปอ่านที่บล็อกไอซ์อาจจะง่ายกว่า หรือถ้ายังไง พรุ่งนี้ไอซ์จะมาลงอีกรอบนะคะ ขอบคุณค่ะ -------------
หลับตา นิทราเถิด ความฝันเพริศ พราวรังสี หลับตา ให้ฝันดี ผ่านราตรี จักปลอบโยน
ฝันฝัน ให้อ่อนหวาน ละวางกาล ถอดหัวโขน วางโลก วางตัวตน เพียงแค่คน ที่ผ่านมา
กาพย์ยานีสองบทนี้ถูกเขียนไว้บนกระดาษขนาดครึ่งเอสี่ที่สอดไว้ในแฟ้มใสบนโต๊ะข้างเตียงคนไข้ตัวเล็ก
อาจเป็นเพราะโชคชะตา หรือพรหมลิขิตที่ผมก็ไม่รู้ว่ามันต่างกันอย่างไร แต่แฟ้มใส ๆ ที่มาปรากฏอยู่ในที่ที่ไม่น่าจะอยู่ก็ทำให้ผมอดมองด้วยความแปลกใจไม่ได้ และนั่นก็ทำให้ผมได้พบกับกระดาษใบนั้นที่เขียนอะไรบางอย่างเอาไว้ด้วยลายมือที่แม้มองจากระยะไกลก็ยังรู้สึกถึงความเป็นระเบียบสวย
ผมพยายามแล้วที่จะไม่สนใจ แล้วหันกลับมาตั้งสมาธิกับการสอบถามอาการผู้ป่วยเด็กที่นอนอยู่บนเตียงขาว เป็นยังไงบ้างคะคนเก่ง...วันนี้กินข้าวได้เยอะไหม
เยอะค่ะ...วันนี้หนูแนนกินจนหมดถาดเลย เสียงใสร้องบอก พร้อมด้วยสีหน้าออดอ้อนของเด็กน้อย พี่ไทม์ออฟเข็มให้หนูนะคะ
ผมอดขำไม่ได้กับท่าทางออดอ้อนและศัพท์ที่เธอคงได้ยินคุณหมอบนวอร์ดพูดจนชิน ขณะเดียวกันเมื่อมองไปที่สายน้ำเกลือที่มือเล็ก ๆ แล้วก็อดจะนึกสงสารไม่ได้
หนูแนนเป็นคนไข้ในวอร์ดมาตั้งแต่ที่ผมเข้ามาเรียนต่อที่นี่ใหม่ ๆ เธอต้องผ่าตัดหลายครั้งเพื่อเยียวยาโรคมะเร็งที่ค่อย ๆ กลืนกินเธอไปทีละน้อย บางครั้งผมก็อดสงสัยไม่ได้ ทำไมโชคชะตาถึงได้โหดร้ายต่อเธอนักนะ
ผมเหลือบดูบันทึกคนไข้ที่อยู่ในมือก่อนจะยิ้มให้ แล้วยกมือขึ้นลูบหัวเธอเบา ๆ ได้ค่ะ...แต่เป็นพรุ่งนี้เช้านะคะ ทนหน่อยนะคนดี
สีหน้าที่บอกถึงความผิดหวังอย่างชัดเจนนั้นทำให้หัวใจผมแกว่งไปไม่น้อย ถ้าทำได้ก็อยากจะถอดสายน้ำเกลือออกตามที่เธอร้องขอ แต่เพราะช่วงเวลาที่ถูกกำหนดไว้แล้วทำให้ผมทำอะไรไม่ได้ ผมได้แต่มองแล้วหันเหความสนใจของเธอไปทางอื่น สิ่งแรกที่เข้ามาในความคิดก็คือแฟ้มใสที่ใส่กระดาษเขียนกลอนเอาไว้
วันนี้ใครเอาอะไรมาฝากหนูแนนคะ
หนูแนนมองตามสายตาผมไปที่โต๊ะข้างเตียงซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับผม รอยยิ้มสวย ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธออีกครั้ง
พี่ทรายลืมทิ้งไว้เมื่อเช้าน่ะค่ะ หนูแนนจะเอาออกไปคืนแล้วแต่พี่พยาบาลไม่ยอมให้ไป เด็กหญิงทำแก้มป่องน่ารัก แววตาเป็นประกายอย่างมีความสุขเมื่อพูดถึงพี่สาวคนโปรด
ผมเองก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงรุ่นน้องสาวตัวผอมที่มักคอยแวะเวียนมาคอยพูดคุยดูแลเด็ก ๆ ที่พักฟื้นในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน แต่ที่เธอคอยมาคุยด้วยบ่อยที่สุดก็คงเป็นหนูแนนนี่ละ
พี่ไทม์รู้จักพี่ทรายไหมคะ...พี่ทรายน่ารักมาก ๆ เลย หนูแนนพยายามบรรยายถึงพี่สาวคนสวย อาจเพราะเธอไม่เคยเห็นเวลาที่ผมกับน้องทรายพบกัน
ไม่รู้ว่าถ้าเห็นเธอจะกลัวผมหรือจะรีบไปปลอบน้องทรายกันแน่ เพราะความที่ผมเป็นแพทย์ประจำบ้านหรือที่คนในวงการเรียกกันว่าเรสิเดนท์ บรรดานักศึกษาแพทย์จึงให้ความเคารพเช่นเดียวกับเคารพในรุ่นพี่ที่เป็นเสมือนผู้ช่วยอาจารย์ แต่บางครั้งก็พูดคุยกันสนุกสนานอย่างรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่กับผมดูจะต่างไปเล็กน้อยเพราะคำเล่าลือผิด ๆ ที่ทำให้บรรดารุ่นน้องกลัวจนไม่ยอมสบตากับผม
ช่างเป็นชะตากรรมที่น่าเศร้า แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมเดือดร้อนนักหากว่าคนที่ไม่ยอมสบตาผมนั้นจะไม่รวมเอาหญิงสาวร่างเล็กอย่างหนูทรายเข้าไปด้วย ผมได้แต่ยิ้มกับคำบอกเล่าของหนูแนน ก่อนจะบอกลาแล้วเดินไปดูคนไข้เด็กที่เตียงข้าง ๆ เธอ
เป็นครั้งแรกที่ผมต้องใช้ประสาทสัมผัสอย่างหนัก เมื่อปากต้องถามอาการหนูน้อย ขณะที่หูรับฟัง สมองประมวลผม มือเขียนบันทึกการตรวจ และสุดท้ายคือดวงตาที่เหลือบมองกาพย์สองบทที่เขียนไว้บนกระดาษในแฟ้มนั้น การเข้าเวรบนวอร์ดในคืนนั้นของผม จบลงด้วยกาพย์สองบทที่ถูกเขียนบนกระดาษอีกแผ่น ก่อนที่ผมจะนำไปสอดไว้ในแฟ้มใสข้างเตียงหนูแนน
บางที...นี่อาจเป็นทางให้ผมได้บอกความรู้สึกตัวเองกับเด็กคนนั้นเสียที
ได้แต่หวังว่าน้องทรายจะยอมตอบผมบ้างละนะ
แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 52 21:21:30
จากคุณ |
:
Argent
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ต.ค. 52 20:44:35
|
|
|
|