ตัวตน (ปรับปรุง)
|
|
วันนี้ได้อ่านเรื่อง "กระจกเงาสะท้อนอะไร? ของคุณ Garnet19th" เลยอยากจะเอา "ตัวตน" ในมุมมองที่เคยลงไปแล้วกลับมานำเสนออีกครั้งครับ
ตัวตน
...ลืมตาตื่นตั้งแต่ฟ้ายังมืดสนิท...
เดินโซเซลงชั้นล่างเพื่อเสียบปลั๊กไฟกระติกน้ำร้อน ก่อนที่จะเดินกลับไปอาบน้ำที่ชั้นบน
ส่องกระจกดูความเรียบร้อยของสภาพร่างกาย ผมเผ้า และใบหน้า
ออกจากห้องน้ำ น้ำในกระติกน้ำร้อนก็เดือดพอดี
นั่งดูข่าวหน้าโทรทัศน์ จิบกาแฟหอมกรุ่นที่เพิ่งชงเสร็จเมื่อสักครู่
แต่งตัวหลังจากกาแฟหมดแก้วแล้ว ตรวจสอบสภาพร่างกายอีกครั้งก่อนจะเริ่มต้นออกเดินทางไปทำงาน
ช่วงเช้าที่ต้องอยู่บนท้องถนน ต่อรถโดยสารหลายต่อหลายต่อกว่าหนึ่งชั่วโมง
เพื่อที่จะไปทำในสิ่งซ้ำๆ ซากๆ งานเดิมๆ ในสถานที่เดิมๆ
รอเวลาให้เข็มสั้นชี้ไปยังเลขห้าและเข็มยาวที่เลขสิบสอง
ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านด้วยวิธีเดิมเช่นเดียวกันกับเมื่อเช้า แต่ต่างกันตรงที่ความอ่อนล้าและเหนื่อยหน่าย
ดูโทรทัศน์ ติดตามข่าวสารซ้ำๆ ซากๆ อาบน้ำแปรงฟัน และเข้านอน
เพื่อที่จะตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้นและทำแบบเดิมเช่นเดียวกับวันก่อนๆ...
กับวัฎจักรซ้ำๆ ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงมาตลอดระยะเวลาหลายปี
มันซ้ำซากและนานจนบ่อยครั้งที่ผมอดจะถามตัวเองไม่ได้
...ผมทำอย่างนั้นทำไม...
...นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่กันแน่...
ทำไมผมหรือใครๆ ถึงต้องใช้ชีวิตที่ยุ่งยากซับซ้อนขึ้นทุกวัน
ทำไมถึงต้องทำอะไรซ้ำซากจนน่าเบื่อหน่ายขนาดนี้ด้วย
ทำไมถึงต้องตั้งเงื่อนไขกฎเกณฑ์มากมายขนาดนี้ในการดำเนินชีวิต
...ทั้งๆ ที่ความเรียบง่ายก็อาจจะเพียงพอแล้วแท้ๆ...
ทำไมผมต้องดิ้นรนถีบตัวเองให้สูงขึ้นและขวนขวายสิ่งต่างๆ ให้ได้มากขึ้น
ทั้งๆ ที่หากจะว่าไปแล้วการค่อยๆ เดินด้วยเท้าที่ติดดินนั้นก็น่าจะมั่นคงและสบายกว่าเป็นไหนๆ และสิ่งที่มีอยู่ในเวลานี้ก็เพียงพอแก่การดำเนินชีวิตแล้วแท้ๆ
ทำไมเราถึงทำอะไรตามใจไม่ได้ ทั้งๆ ที่หลายๆ อย่างที่ต้องทำเป็นสิ่งที่เราไม่ต้องการ
บ่อยครั้งในขณะที่ผมนั่งอยู่บนรถโดยสารเพื่อไปทำงานในเวลาเช้า สายตาเหม่อมองผู้คนขวักไขว่รอบกาย
...เขาเหล่านั้นจะมีความคิดเหมือนเราไหมนะ...
คนที่เดินสวนทางผ่านเราไป คนที่กำลังรอรถประจำทางป้ายเดิมทุกๆ เช้า คนที่นั่งอยู่ในรถฝั่งตรงข้ามกับเรา
ทั้งๆ ที่เราได้พบเจอกันเกือบทุกวัน แต่ทำไมเราถึงไม่รู้จักกัน ทำไมเราถึงไม่เคยพูดคุยกัน
บางที การที่ใครเข้าไปทักทายใครที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนโดยไม่มีสาเหตุอาจจะเป็นเรื่องแปลก
ด้วยความคิดเหล่านั้น จึงทำให้เราได้เพียงแค่มองหน้าหรือสบตากันเพียงแวบหนึ่ง และต่างคนต่างหันหน้ากันไปคนละทางเหมือนกับอีกบุคคลหนึ่งไม่ได้มีอยู่ที่ตรงนั้น
...เขาจะคิดเหมือนผมไหมนะ...
เขารู้สึกอย่างไรเวลาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามและมองมาทางผมหรือใครต่อใครบนรถคันเดียวกัน
ในขณะที่ผมนั่งอยู่และมีความรู้สึกอย่างหนึ่ง คนอื่นๆ ที่กำลังทำกิจกรรมอื่นอยู่จะมีความรู้สึกอย่างไรกันแน่
...ผมอยากมองเห็นโลกในแบบที่คนอื่นมองเห็น...
บ่อยครั้งที่ผมมองตัวเองในกระจก คำถามผุดขึ้นมาในใจ
...คนแปลกหน้าที่อยู่ตรงหน้าเราเป็นใคร...
คนที่มองจ้องกลับมาด้วยแววตาหม่นหมอง สีหน้าอมทุกข์นั้นเป็นใครกัน
กาลเวลาพัดพาความสุข ความร่าเริง ให้หมดไปจากใบหน้าและดวงตาของเขา
...คนที่อยู่ในกระจกคนนั้น ใช่ตัวผมแน่หรือ...
กระจกเงาบานนั้น สะท้อนตัวตนของผมอยู่อย่างนั้นหรือ
บางทีที่ผมเป็นผมอยู่ทุกวันนี้ ทำทุกอย่างอยู่อย่างทุกวันนี้
...การดำเนินชีวิตแบบเดิมๆ ด้วยวิธีเดิมๆ ทำงานเดิมๆ ในสถานที่เดิมๆ พบปะพูดคุยกันคนเดิมๆ ด้วยถ้อยคำเดิมๆ...
อาจจะเพียงแค่เพราะ มันเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้ผมรู้สึกว่าผมยังคงมีตัวตนอยู่ มันเป็นสิ่งยืนยันได้ถึงการมีตัวตนของผม อย่างน้อยก็กับคนคุ้นเคยเหล่านั้น
ท่ามกลางสังคมปัจจุบันที่สับสนวุ่นวาย ต่างคนต่างเร่งรีบราวกับแย่งกันอยู่แย่งกันใช้
กระแสลมแห่งกาลเวลาพัดผ่านไปเร็วจนไม่มีใครคิดแม้แต่จะเหลียวมองใคร
...ผมอาจจะเพียงแค่กลัว...
กลัวว่าจะถูกทิ้งให้อยู่ด้านหลังเพียงลำพัง
กลัวว่าจะถูกกระแสลมแรงแห่งกาลเวลาพัดพาตัวตนจนหายลับไปจากความทรงจำของใครต่อใคร
...ใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่า...
การที่เรามองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ เกิดจากแสงตกกระทบสิ่งนั้น และสะท้อนกลับมายังตาของเรา
เราเห็นร่างกายของเรา ใบหน้าของเรา ทั้งจากการมองโดยตรงและจากกระจกเงาด้วยหลักการเดียวกัน
...แต่ทว่าทำไม...
ในบางเวลาที่ผมหลับใหล ผมกลับยังคงมองเห็นภาพต่างๆ ได้อยู่
...ในโลกที่ไม่ต้องอาศัยแสงในการมองเห็น...
ในนั้นผมจะอายุเท่าไหร่ก็ได้ จะไปที่ไหนก็ได้ เป็นอะไร ทำอะไรก็ได้ มันเป็นสถานที่ๆ รอยยิ้ม ความสนุกสนาน และช่วงเวลาแห่งความสุขยังคงอยู่
ผมยังคงเห็นหน้า พูดคุย โอบกอด คนที่ผมรักสุดหัวใจที่ล่วงลับไปได้ สถานที่นั้นเป็นสถานที่ซึ่งกาลเวลาหยุดนิ่งตราบเท่าที่เราอยากให้มันเป็น
บ่อยครั้งที่ผมถามตัวเอง ตัวตนที่แท้จริงของผมอยู่ที่ไหน
...โลกที่ใช้แสงในการมองเห็นและยืนยันตัวตน...หรือโลกไร้แสงซึ่งอยู่ลึกลงไปในห้วงคะนึงกันแน่...
จากคุณ |
:
KTHc
|
เขียนเมื่อ |
:
27 ต.ค. 52 19:52:04
|
|
|
|