Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Dozen ศึกสิบสอง ภูตศักดิ์สิทธิ์ ๐ ภาค 1 รัตติกาล ฤา จะไร้หัวใจ - ตอน 22 ข้าคือจิระยาเมะ (ก่อนอวสานแล้วงับ ^-^)  

ตอนก่อนหน้านี้

1-14 อยู่ในคลังอ่ะจ๊า ตามไปดูนะครับ

15 รอยนาคี http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8086552/W8086552.html

16 กาฬปักษ์ราตรี http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8233946/W8233946.html

17 วารีระทึก http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8272624/W8272624.html

18 จารึก เปลี่ยนใจ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8329178/W8329178.html

19 เด็กชายกลิ่นไวลด์เบอร์รี่ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8366426/W8366426.html

20 เร่งเร้าให้ระลึกด้วยละคร http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8407042/W8407042.html

21 ประตูพิภพรัตติกาล
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8441459/W8441459.html


(สงวนลิขสิทธิ์ ถ้าแอบลอกเลียนละก็ ตามไปเจื๋อนมือแน่!)



22
ข้าคือจิระยาเมะ



“ยาเมะ...!” แสงดาวเพรียกหาเพื่อนผ่านจิต หล่อนไม่รู้หรอกว่ายาเมะอยู่ตรงไหน เพราะแต่ละทิศนั้นไกลมาก ส่วนยาเมะแม้จะถูกรัดจนดิ้นไม่หลุด หากลมหายใจพอจะเริ่มเคลื่อนเข้าออกได้ เขาก็ตั้งจิตมั่น จะต้องทำอะไรสักอย่างแน่ กระทั่งแว่วเสียงของแสงดาวดังเข้ามากลางศีรษะ จะด้วยวิธีการใดหรือสิ่งใดดลบันดาลก็ตาม เขาเบิกตาวาว สายตาคู่แหลมนั้นมองไปยังทิศที่มีแสงสีเหลืองนวลอ่อนของร่างเสือดาวทอง

“ฉันจะมอบแสงให้เธอ” อาจเป็นแค่คิดไปเอง แต่เขารู้สึกเหมือนหน้านวลของเพื่อนสาวกระซิบใกล้ ๆ

“ขอบใจมาก” ยาเมะตอบในใจ ลองภาวนาอาโลกกสิณังหรือกสิณแสงที่ไม่เคยบันดาลได้ และช่างน่าอัศจรรย์นัก แสงสีทองเจิดจรัสไล่ฉาบตั้งแต่หัวจรดเท้า ผิวนิลสว่างไสว ร่างผอมถูกคลายจากพันธนาการแห่งความมืดเป็นอิสระทันที

“วาโยกสิณัง จงรั้งข้าไว้!!” เสร็จสิ้นกสิณแสง กสิณลมก็ถูกบันดาลขึ้นอีก พยุงให้ยาเมะเหินหาว

....



จ้าวแห่งพิภพรัตติกาลหันมองเจตภูตทุกตัวอย่างสนใจ และจะวิเศษเพียงไหนหากได้ครอบครองดวงจิตแห่งภูต ซึ่งสถิตในร่างของผู้ชักจูงอ่อนหัดทั้งหลายที่ลอยเรียงรายทั่วอัฏฐาทิศนี้

“ลาเฟล!” ติกะที่ลอยตัวหน้าเหนือกาลเอื้อนเอ่ย ปลุกมังกรดำอริเก่าให้ตื่นจากฝันหวาน ท่วงท่าของจ้าวอากาศนั้นตั้งระวังไว้เตรียมสู้ สองขาหนาใหญ่กางกรงเล็บทู่ ๆ ออก “ตอนนี้เจ้าก็ได้ขึ้นมาเบื้องบนแล้ว ปล่อยมนุษย์เหล่านี้ลงไปซะสิ นี่เป็นเรื่องของภูตอย่างเรา พวกเขาไม่เกี่ยว!”

“โอ... ติกะ เต่าขาวใส!” เสียงหัวเราะขบขัน มังกรดำจ้องกลับ “ไม่ได้เจอกันเสียนานนะ”

“ข้าไม่ต้องการเจอกับเจ้า ปล่อยเด็กมนุษย์เหล่านี้ซะ!”

“ปล่อยเรอะ นั่นไม่ใช่นิสัยข้าแล้ว” ลาเฟลหรี่ตา ริ้วรอยที่ยุบทำให้เกร็ดดำบนใบหน้าเบียดตัวกันเรียงหยึกหยักดังกรุบกรับน่าขยะแขยง ก่อนหมุนตัวกลับไปมองไล่เจตภูตแต่ละตน มันส่ายหน้าผิดหวังที่บรรดาตัวแทนสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ไม่มีมังกรเขียวจอมโอหัง มีเพียงสิงโตทองร่างใหญ่ ที่ได้แต่แยกเขี้ยวคำราม และแม้จะไม่ได้เก่งเหมือนภูตตัวจริง แต่กระนั้นก็ไม่ควรปล่อยไว้

“อ๊ะ ๆ เจ้าคือตัวแทนเอิร์ธการ์ดจ้าวแห่งพิภพหรือนี่?” เมื่อทักเสร็จ ก็หันไปมองนกเพลิงทางทิศใต้อย่างชื่นชมในความงามแม้จะเป็นแค่ตัวสำรอง “โอว ข้าอยากจะมีไฟอันร้อนแรงแบบเจ้าเหลือเกิน เจ้านกน้อย” ก่อนเอี้ยวตัวไปยังทิศหรดี “ส่วนเจ้าก็แจ่มนัก พญาไอยราเอ๋ย ข้าอยากมีงวงทรงพลัง มีงาแข็งแกร่ง สงสัยข้าต้องขอดวงจิตแห่งภูตจากพวกเจ้ามาครอบครองเสียแล้ว!” มันเอี้ยวหัวอวดพลอยนิลเหนือศีรษะที่เคยได้มาจากพญาเสือดำแต่ครั้งบรรพกาล ก่อนพุ่งเข้ามาตะปบพญาช้างให้หลีกหมายงับว่านแก้วเพื่อกลืนกินไปทั้งร่าง แต่พญาช้างที่คอยปกป้องเด็กสาวอยู่รีบตวัดงวงรัดข้อเท้ามังกรดำเอาไว้ ทั้งเหวี่ยงงาเข้าเสียบ แต่กระนั้นร่างก็เล็กเกินไปมิอาจต้านแรงมหาศาลไหว ถอยกรูมากระแทกเด็กสาวจนกระเด็นลิ่ว ว่านแก้วถึงกับกระเด็น เหล่าเจตภูตเห็นพญาไอยราเสียหลักจึงพร้อมใจกันถาโถมเข้าใส่ พญาครุฑร่อนร่างกางกรงเล็บปักกลางหลังลาเฟลแล้วจิกแน่น พร้อมกระพือหมายพาร่างนั้นขึ้นฟ้า แต่หากทำไม่ได้เพราะกำลังไม่พอ คงมีเพียงเกล็ดสีดำถลอกขาดติดไป พญาสิงโตก็โผเข้างับท่อนขาอีกข้าง เสือดาวทองพุ่งรับว่านแก้วไว้ให้

“อย่าดูถูกว่าเราเป็นเพียงเจตภูต!” เจตภูตแห่งนกไฟโผร่อนด้วยลีลาอรชรแต่น่าเกรงขามไปข้างหน้าจ้าวอสูร พร้อมกระพือปีกที่ฉายฉานและร้อนแรงด้วยเพลิงสีแสดเรืองรอง “เพราะพวกเราก็รับหน้าที่มาเพื่อกำจัดเจ้า”

“อย่าลำพองกันนัก! ข้าจะไม่กลับไปใต้โลกเพราะเพียงแค่เสียงขู่ของเหล่าเจตภูตอย่างเจ้าหรอก” ลาเฟลคำราม พร้อมสะบัดพวกจิ๊บจ้อยที่เกาะแกะลำตัวให้กระเด็นไปคนละทาง

“ดี ข้าก็จะไม่ยอมให้เจ้ากลับใต้ปฐพีหรอก เพราะเจ้ามันควรกลายเป็นธุลีมากกว่า” สิ้นคำพญานกไฟก็บันดาลเพลิงกาฬให้ทวีความแรง แม้ขนาดของเจตภูตแห่งพญานกจะเล็ก แต่ไฟที่ลุกโชนทำให้ร่างขยายขนาดอย่างน่ากลัวจนทัดเทียม ลาเฟลเห็นเช่นนั้นก็ตกใจ ตัวแทนจ้าวเพลิงนี้ไม่ด้อยกว่าตนอื่น เหล่าเจตภูตที่เหลือสัมผัสพลังรุนแรงก็รีบพาผู้ชักจูงของตนโผหลบจ้าละหวั่น

“หยุด!”

เมื่อเห็นเหล่าเจตภูตยังหนี มังกรดำชักใจไม่ดี ไฟกาฬนี้อาจร้อนไม่น้อยไปกว่าเมย์วองตัวจริงมาเอง ดังนั้นมันจึงตะคอกขู่พร้อมแววตาเจ้าเล่ห์ “ถ้าเจ้าบินมาใกล้ข้ามากกว่านี้ ข้าจะบีบพวกมนุษย์นี่ให้แหลกเละแน่!” ลาเฟลไม่พูดเปล่า ทั้งใช้อำนาจความมืดที่บังคับได้ประหนึ่งเชือกรัด กระชากเหล่าตัวประกันคือพวกเด็ก ๆ และเหนือกาลจากหลังเหล่าเจตภูตเข้ามาแนบกาย เมื่อเป็นเช่นนี้ นกไฟก็ชะงักร่างกางปีกค้าง เปลวเพลิงหรี่ลงทันที ติกะเห็นว่าลาเฟลร้ายด้วยเล่ห์นัก หากยิ่งมีผู้ชักจูงลอยเคียงข้างเช่นนี้ด้วยก็จะยิ่งเสียเปรียบและจัดการไม่ได้เสียที จึงหาทางออกด้วยการหายตัวมาข้างหลังจ้าวอสูร แล้วใช้แรงที่มีทั้งหมดงับหางยาว พร้อมสะบัดมังกรดำให้กระเด็นไปไกล ...ถลาร่างตาม

หากแต่มังกรดำนั้นตั้งตัวได้ เพราะกางปีกใหญ่มโหราฬต้านทานแรงเหวี่ยงไหว มันเกรี้ยวโกรธนัก

“งั้นข้าขอกินผู้ชักจูงของเจ้าก่อน! ดูซิ ยังจะมาร่อนเป็นเต่าบินอย่างนี้อยู่ได้ไหม?!” ลาเฟลสะกดความมืดให้กระชากร่างเหนือกาลพุ่งตามมา พร้อมอ้าปากกว้างรอกลืนมนุษย์หนุ่ม

“อย่า!” ยังไม่ทันพูดจบ ความเร็วแห่งมิติเวลาก็พาร่างใหญ่กว้างตะแคงบังไว้ทัน จะงอยปากแหลมของลาเฟลกระแทกกับกระดองของติกะอย่างจังจนถึงกับสะท้าน พญาเต่าอาศัยช่วงที่อีกฝ่ายเสียหลัก ใช้สองขาหน้าตะปบขย้ำลำคอดำทมิฬอย่างดุเดือด แต่มังกรร้ายนั้นฤทธิ์มาก ใช้ท่อนหางยาวทรงพลังเหวี่ยงมาหมายตัดคอพญาเต่าแทน แต่ติกะก็ผลุบหัวหลบ ภูตกับภูตตีกันจนอากาศเดือดดาล ฟ้าแลบไม่ขาดด้วยคลื่นของหมู่เมฆชนกัน

“ข้าไม่ได้บู๊อย่างนี้มานานแล้ว” ติกะหัวเราะขำ ก่อนหมุนตัวใช้สันกระดองฟาดจนเสียง ‘ผลั่ก!’ เหมือนถูกทุบดังสนั่น มังกรร้ายคำรามและพ่นไฟพรวดหมายย่างเต่า แต่ไฟนั้นเหมือนถูกครอบเอาไว้ด้วยถุงอากาศ

“เป็นไง เห็นฤทธิ์ของภูตศักดิ์สิทธิ์หรือยัง?”

“อย่าลืมสิ ว่าข้าใช้ความมืดรัดตรึงร่างของผู้ชักจูงอยู่” มังกรดำร้องเตือนขึ้นมา ทั้งยังไม่เท่านั้น อารมณ์กราดเกรี้ยวบังคับให้รัตติกาลพิโรธอีกครั้ง แม้เด็ก ๆ อยู่ไกลแค่ไหน แต่พลังงานสีดำก็แปรรูปเหมือนมือยักษ์บีบร่างของผู้ชักจูงทุกคนราวจะปลิดชีวิต พญาติกะหันไปเห็นเช่นนั้นก็เจ็บใจนัก รีบร้องขอชีวิต

“ไม่ ข้าจะฆ่าให้จบสิ้นกันที” วายร้ายตอบกลับไม่ใยดี “เมื่อครู่พอข้าเผลอ พวกเจ้าก็สำแดงฤทธิ์หมายปลิดชีวิตข้า แล้วทีนี้มาขอชีวิต!” ว่าแล้วมือแห่งความมืดทั้งหลายก็ถูกสะบัดเพื่อเหวี่ยงเหล่ามนุษย์ผู้ชักจูงให้ดิ่งลงพื้น เหล่าเจตภูตรีบร่อนลงตามไปช่วย แต่น่าประหลาดที่สุด เพราะเหมือนใยแห่งรัตติกาลที่อสูรร้ายบังคับนั้นถูกรั้งไว้ให้หยุด หรือไม่ก็มีใครโอบอุ้มร่างมนุษย์ชะตาขาดพวกนี้ ใครกัน?



“ง่ายไปหน่อยมั้ง ! ! ! ! ! !”



เสียงดังเน้นถ้อยคำชัดปรากฏขึ้น ลาเฟลชะงักราวถูกกระชากร่างไว้ให้หยุด ใครกันบังอาจ ไม่ใช่ทั้งติกะ และเหนือกาล ไม่ใช่ทั้งซ้ายขวา เด็กทุกคนก็น่าจะยังถูกพันธนาการความมืดรัดตรึงไว้ แล้วใครล่ะ?

ใครกัน???

จากคุณ : X RoBiN
เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 22:11:57




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com