ความคิดเห็นที่ 1 |
หญิงสาวสั่นศีรษะ ความเศร้าเกาะกุมจนน้ำตาเริ่มซึม
ฉันฟังภาษาอื่นที่ไม่ใช่เกาหลี ไม่ใช่ภาษาอังกฤษออก ก็แสดงว่าเป็นภาษาเกิดของฉัน แต่ฉันยังจำอะไรไม่ได้นี่สิ
แล้วฉันจะทำอย่างไรดีคะ
ไม่ต้องทำอะไร รอจนกว่าเธอจะจำได้ชายหนุ่มจับดวงหน้าที่เศร้าหมองด้วยฝ่ามืออุ่นทั้งสองข้างให้เงยขึ้นสบตา
ดวงตาวาววับหลังแว่นสายตาใสที่จ้องมาทำให้ยอนฮวานิ่งงัน
เธอรู้ไหม ว่าฉันโล่งอกแค่ไหน ที่เธอไม่ใช่คนเกาหลีนอกประเทศ ไม่ว่าเธอจะเป็นคนชาติไหนก็ตาม
ไม่เป็นไรหรอก ไม่เกินกำลังที่ฉันจะไปพบเธอได้ ถ้าเธอเป็นคนฟากโน้นนั่นสิเป็นปัญหาใหญ่ ถ้าถูกส่งกลับเมื่อไหร่ นั่นหมายถึงชาตินี้ฉันจะไม่ได้พบเธออีก
ทำไมคะ
คำตอบของชายหนุ่มทำให้เธอหัวใจเต้นผิดจังหวะ
เพราะฉันชอบเธอ
คะ แปลว่าอะไรคนต้องชอบกันสิถึงอยู่ด้วยกันได้นานขนาดนี้
ลีมินชูยกมุมปากกึ่งยิ้ม พูดอะไรคลุมเครือสำหรับผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เลย
ฉันรักเธอคราวนี้ไม่ต้องแปล ตรงเสียจนยอนฮวารีบดึงหน้าตัวเองลง แต่ไม่สำเร็จ ผิวแก้มร้อนซู่
เธออยากก้มลงหลบสายตา หัวใจเจ้ากรรมเริ่มเต้นแรงซะเฉยๆ กะอีแค่ประโยคง่ายๆของเขา มือไม้ไม่รู้จะวางตรงไหน เกะกะไปหมด
ก็อยากช่างสงสัยดีนัก แต่
เขาคงแค่เจอใครบางคนที่ พูดคุยได้รู้เรื่อง ต่อไปถ้าได้เจอคนดีๆเหมาะสมทั้งฐานะ หน้าตาและความสวย
ก็คงจะเข้าใจว่าสิ่งที่พูดเป็นเพียงความใกล้ชิดมากกว่าความรู้สึกแท้จริง
สำหรับเธอแล้วคงเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อเธอยังไม่รู้ตัวเองเป็นใครเลย
เป็นไปได้อย่างไรคะ คุณไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักครอบครัวฉัน
ฉันไม่ได้รักเธอที่ครอบครัวเธอเป็นอย่างไร แล้วทำไมฉันจะไม่รู้จัก เธอเป็นคนมีน้ำใจ
แค่นี้ก็เพียงพอที่จะบอกให้รู้ว่าคนเหล่านั้นก็เป็นคนดีเช่นเดียวกับเธอ
ทำไมต้องบอกฉันด้วย ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาสักหน่อยเสียงอุบอิบ
ฉันไม่อยากเสียเวลา หากไม่ได้บอกเธอตอนนี้ ฉันก็ต้องหาทางบอกเร็วๆนี้ ฉันเคยสูญเสียเฮชุนจินไป
โดยที่ฉันไม่มีโอกาสบอก และเป็นเรื่องที่ฉันเสียใจมาตลอด
เสียงทุ้มนุ่มนั้นมีแววเศร้าเมื่อพูดถึงตอนนี้ ยอนฮวาหยุดดิ้นรนที่จะเอาหน้าตัวเองออกจากอุ้งมือหนาอบอุ่น
คะเธออยากรู้ทันทีว่าไม่ได้บอกอะไร ดวงตาเริ่มใส
ฉันไม่เคยบอกชุนจินว่า..ฉันชอบเขาแค่ไหนเขาทอดเสียงแผ่ว คงเป็นเพราะว่าฉันเห็นเขาเหมือนน้องสาว
เหมือนคนที่อยู่ด้วยแล้ว สบายใจ เขาเล่าต่อช้าๆ ครุ่นคิดแล้วพูด
เขาเป็นคนสวย มีความรู้ ฐานะดี ในสังคมเห็นพ้องว่าเราเหมาะสมกันมาก รวมทั้งครอบครัวทั้งสองฝ่าย
และเพื่อความมั่นคงของหน้าที่ ฉันก็พอใจด้วย พอเราหมั้นกัน ไม่นานฉันอยากจะพาเขาไปเที่ยวในฐานะคนรักบ้าง
ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุป่านนี้ฉันก็คงอยู่กับเธอ และมีครอบครัวเงียบๆ มีลูกที่น่ารัก
เขามองเหม่อ
แต่ฉันยังไม่ได้ทำหน้าที่คนรัก หรือคู่หมั้นเลย ฉันกลับทำให้เธอเสียชีวิตซะก่อน
ตอนนี้ฉันแน่ใจว่าเธอรู้แล้วว่าคุณรักเธอและเสียใจมากยอนฮวาปลอบโยน
ชายหนุ่มมองดวงตาโตตรงหน้าด้วยความขอบคุณ เธอให้กำลังใจเขาเสมอ
แล้ว...เขาพูดต่อเพื่อถามความรู้สึกของเธอ แต่เสียงใสขัด
แล้วถ้าฉันยากจน
ฉันไม่ได้ต้องการเงินของเธอ ฉันมีมากพอแล้ว
ถ้าพ่อแม่หรือครอบครัวฉันเป็นคนไม่ดี
ก็บอกแล้วไง ว่าฉันไม่สนใจ ถามอะไรมากมายนะ
แล้ว แล้วถ้าฉันจำได้ นิสัยฉันไม่ดีล่ะคะ
เธอคิดว่าตอนนี้เธอนิสัยดีมากมายหรือไง
เอ๊ะ
ช่างถามไม่จบ
ก็สงสัย
เอาล่ะ เอาล่ะ ฉันชอบที่เธอเป็นเธอ ยอนฮวา ว่าแต่...เธอคิดอย่างไร
อะไรคะทำไขสือ
เธอคิดอย่างไรกับฉัน
แก้มที่เปลี่ยนสีเป็นแดงก่ำ พอที่จะทำให้หัวใจของชายหนุ่มพองโต
แต่แล้วคำพูดของเธอทำให้หัวใจที่ฟูฟ่องกลับเป็นปกติ
ฉันไม่รู้ค่ะ เพราะฉันไม่แน่ใจว่ามีภาระอะไรรออยู่ มีใครรออยู่หรือเปล่า
ชายหนุ่มหันมาจ้องหน้านวลใสนั้น แล้วถอนหายใจลึก
แต่.. แต่ ฉันชอบอยู่กับคุณนะคะ รู้สึกว่าถ้าหากต้องจากคุณไป ฉันคงต้องเศร้าเสียใจมากๆ
เสียงบอกความจริงใจ ทำให้ลีมินชูหันกลับมาคว้าร่างบางเข้ามากอด หญิงสาวดิ้นขลุกขลัก แล้วนิ่งเมื่อเขาลูบหลังเบาๆ ปลอบประโลม
ไม่เป็นไร ถ้าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้เธอรู้ว่า ฉันรักเธอเข้าเน้นสามคำหลังชัดเจน
ยอนฮวาขอบตาร้อนผ่าว ปล่อยให้ร่างวาบหวามอบอุ่นอยู่ภายในอกหนาแข็งแรงโดยไม่ขัดขืน
มันไม่ยุติธรรมเลย หากมีใครรอเธออยู่ จะทำอย่างไร
ฉันจะรอจนกว่าเธอจะได้ความจำคืนมา เมื่อวันนั้นมาถึง ฉันค่อยถามเธอใหม่
เขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
อย่าทุ่มเทหัวใจทั้งหมดให้ฉันเลยค่ะ ฉันกลัวว่าคุณจะเจ็บปวดอีกราวกับมีลางสังหรณ์ ยอนฮวากลับรู้สึกเจ็บในหัวใจ
ฉันคงจะเจ็บปวดมากกว่า ถ้าไม่มีโอกาสบอก
แต่ถ้ามีใครรอฉันอยู่เสียงยังกังวลใจ
ฉันจะปล่อยเธอไป อย่ากลัวเลย คุณลีมินชู
เอาล่ะ คราวนี้เพื่อไม่ให้เราห่างกันมากนัก เธอจะเรียกฉันว่า มินชู ได้ไหมเหมือนฉันเรียกเธอแค่ชื่อ
ก็ฉันไม่มีนามสกุลนี่คะ
ฉันก็จะพูดเรื่องนี้ เพราะที่เธอแนะนำตัวโดยไม่มีนามสกุลเป็นเรื่องแปลก บ้านตระกูลเฮ ก็ทำท่าสงสัย
พรุ่งนี้ฉันจะโทรไปปรึกษาคุณฮัน ขอเธอให้ยืมใช้นามสกุลชั่วคราวก่อน อาจจะบอกว่าเป็นญาติห่างๆก็ได้ ดีไหม
ดีสิคะยอนฮวาเห็นด้วย การแนะนำตัวเองโดยไม่ได้แนะนำชื่อตระกูลออกจะเสียมารยาทพอควร
จากกริยาของบ้านตระกูลเฮ ก็เห็นได้ชัดเจน
ถ้าอย่างนั้น เธอไปพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้เราเริ่มต้นกันใหม่
ค่ะ คุณลีมินชู
มินชู
ค่ะคุณมินชู
วันรุ่งขึ้น เมื่อมาถึงโรงแรม คุณลีมินชูแยกไปที่ห้องทำงาน ยอนฮวาเดินไปนั่งที่โต๊ะหลังทักทายเพื่อนร่วมงานทั้งสองที่ลอบมองเธออย่างสนใจ
วันนี้มีอะไรให้ฉันทำไหมคะ
ไม่มี ไม่มี
ถ้าอย่างนั้น ฉันขอดูแฟ้มแผนงานที่เหลือของปีนี้ได้ไหมคะ เผื่อจะเข้าใจงานมากขึ้น
เธอร้องขอเอกสารนอกเหนือจากแฟ้มที่ได้รับ กลับไม่มีแผนการตลาดต่างประเทศเลย
ไม่มี
อะไรนะคะ
ยังไม่มีแผนงานใหม่ๆ กำลังจะประชุมพอดีท่านรองประธานประสบอุบัติเหตุก่อน
อ้าว เราไม่ได้ทำล่วงหน้าเพื่อเตรียมงานก่อนหรือ
มีแต่ต้องปรับแผนใหม่ หลังจากที่ดำเนินการไปแล้วไม่ได้ผล ไม่ได้เป้าหมาย
อ๋อ ถ้าอย่างนั้นขอแผนเดิมก็ได้ค่ะ
หัวหน้ากังทำหน้าไม่ค่อยพอใจทันที
นี่คุณ...
คุณฮันค่ะ ฮันยอนฮวา
อ้อ คุณฮันยอนฮวา ก็บอกว่าแผนนั้นใช้ไม่ได้แล้ว คุณจะดูไปทำไม แล้วก็เป็นหน้าที่ของผมที่จะคิดแผนใหม่
โอ ขอโทษค่ะ ฉันไม่มีเจตนาจะไปล้ำเส้นคุณ เพียงจะขอดูเพื่อศึกษาแนวทาง เผื่อจะช่วยได้เท่านั้น
อยู่ที่ห้องท่านรองประธานลีควอนวู ถ้าคุณอยากได้ ก็เดินไปขอสิ
แต่ท่านรองประธานยังไม่กลับมาทำงานไม่ใช่หรือคะ
ไปขอกับผู้ช่วยของท่าน คุณหนูเฮจินซู คงจะช่วยหาให้ได้
หัวหน้ากังมยองมุน ยิ้มในหน้า เมื่อเห็นหญิงสาวทำท่าจะลุกขึ้นไป
ไปทางไหนคะ
ฉันไปส่งคุณคิมรับอาสา
ขอบคุณค่ะ แค่บอกทางก็ได้
ไม่เป็นไร ฉันจะเดินไปห้องน้ำด้วย
สองสาวเดินออกจากห้อง คุณกังมยองมุนมองตามไม่กล่าวอะไร เพราะเข้าแผนพอดีที่คุณหนูเฮ เรียกเขาทั้งสอง
ไปสอบถามเกี่ยวกับพนักงานใหม่ที่ท่านรองประธานลีมินชูพามา แต่ไม่สามารถให้คำตอบได้ ไปเจอกันเองคงซักถามได้ตรงตามต้องการ
นี่คุณคิมเรียกเมื่อเดินเลยห้องมาเล็กน้อย
คะยอนฮวาหันไปทำหน้าสงสัย
เธอจะไปหาคุณหนูเฮจินซู จริงๆหรือ
ใช่ค่ะ ก็ถ้าแฟ้มงานอยู่ที่ห้องนั้น ฉันก็คงไปขอความช่วยเหลือจากเธอ
พูดจากับเธอดีๆล่ะ ตอบอะไรก็ให้ตรงๆด้วย ไม่อย่างนั้นถ้าเธอโกรธจะเดือดร้อน
ยอนฮวาไม่แน่ใจว่าคุณคิมโซจังแนะนำด้วยความหวังดีหรือขู่กันแน่ เพราะหางเสียงไม่ได้บอกความหวังดีเสียเท่าไหร่เลย
เธอดุหรือคะ
ดุมาก และเธอก็หวังว่าจะได้เป็นคุณผู้หญิงบ้านตระกูลลีคนต่อไปด้วย
อ้อ เธอคบอยู่กับท่านรองประธานลีหรือคะ
ใช่ เธอก็รู้หรือ
ขอบคุณที่บอกนะคะ ฉันจะระวัง
ยอนฮวาเคาะประตูห้อง ก่อนจะเปิดเข้าไป ด้านในคล้ายกับห้องทำงานทั่วไปของแผนกอื่น
แต่ลึกเข้าไปเป็นประตูไม้ปิดทึบอีกหนึ่งบานที่เธอเข้าใจว่าคงเป็นห้องของท่านรองประธานฝ่ายการเงิน คุณลีควอนวู ซึ่งยังไม่ได้กลับมาทำงาน
บริเวณด้านนอกตั้งโต๊ะทำงานทันสมัย สี่ชุด ที่มีพนักงานนั่งประจำ เงยหน้ามองผู้ที่มาใหม่พร้อมกัน
หญิงสาวกล่าวทักทายและแจ้งความประสงค์ที่จะขอพบคุณเฮจินซู ที่นั่งอยู่ด้านในสุดและกำลังเขม้นมองมาที่เธอ
เฮจินซู พยักหน้าให้
เธอต้องการแผนการตลาดต่างประเทศไปทำอะไร
คะ จะเอาไปศึกษาแนวทางค่ะ เผื่อจะได้คิดอะไรออก
เฮจินซูประเมินหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้า ใบหน้าที่ไม่ได้ตกแต่ง ดูซีดเซียวในสายตาของเธอ
เครื่องแต่งกายก็เรียบง่าย สีดำขาวไม่ทันสมัย กับดูไม่มีราคา เท่าชุดของเธอ
ผู้หญิงคนนี้ที่ ลีมินชูอุปป้า พาไปรับประทานอาหารเย็นอย่างสนิทสนม
แค่คิดก็มีอาการเดือดปุดขึ้นมาทันที
เธอเพิ่งมาใหม่ จะรู้เรื่องการตลาดของเราทันที ไม่แปลกไปหน่อยหรือ
แปลกยังไงคะ
เราจะแน่ใจได้ยังไง ว่าเธอจะไม่เอาแผนของเราไปบอกคนอื่น
ประโยคนั้นเรียกให้คนอื่นๆที่ก้มหน้าก้มตาลงไปทำงานในส่วนของตนต่อหลังจากที่หญิงสาวเดินไปที่โต๊ะของเฮจินซู เงยหน้าฟังอย่างสนใจ
หมายความว่ายังไง คะคุณเฮจินซู
ความหมายก็ตรงๆอยู่แล้ว เรายังไม่ไว้ใจเธอ
ดิฉันคิดว่าหน้าที่นี้เป็นของหัวหน้ากังมยอนมุนและท่านรองประธานลีมินชูนะคะ
| จากคุณ |
:
เฒ่าไม่เก่า
|
| เขียนเมื่อ |
:
28 ต.ค. 52 14:36:47
|
|
|
|