Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เปิดตำรา ... ล่าหัวใจ (๖)  

เปิดตำรา ... ล่าหัวใจ (๑) http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8384211/W8384211.html

เปิดตำรา ... ล่าหัวใจ (๒) http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8396250/W8396250.html

เปิดตำรา ... ล่าหัวใจ (๓) http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8412243/W8412243.html

เปิดตำรา ... ล่าหัวใจ (๔) http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8433970/W8433970.html

เปิดตำรา ... ล่าหัวใจ (๕) http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8460069/W8460069.html


.........



บอบช้ำ ...



ยามสายเช่นนี้ท้องถนนเต็มไปด้วยรถยนต์วิ่งกันขวักไขว่ กฤตินฆ่าเวลาระหว่างรอทดสอบฝีมือหมอนวดด้วยการบริโภค ข้าวมันไก่ร้านนี้อยู่ในอาคารพาณิชย์ขนาดเล็กริมถนน ที่จอดรถหายากราวกับทองคำ แถมวันดีคืนดียังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดอดมาแจกใบสั่งฐานจอดรถในที่ห้ามจอดเสียอีก แต่ลูกค้าก็ยังแวะเวียนมาเสมอ อาจเพราะติดใจเนื้อไก่นุ่มๆ ชิ้นโต ข้าวมันส่งกลิ่นเย้ายวนชวนน้ำลายสอ หรือไม่ก็น้ำจิ้มรสเด็ด


ระหว่างรอข้าวมันไก่ กฤตินอุ่นเครื่องด้วยขนมถ้วยรสชาติกลมกล่อม เจ้าของคงเจตนาวางยั่วน้ำลายและก็ได้ผล ยังไม่ทันที่ข้าวมันไก่จะมาเขาจัดการขนมถ้วย ๓ คู่บนโต๊ะเสียเกลี้ยง หันรีหันขวาง เอื้อมหยิบกระดาษทิชชูมาทำลายหลักฐานแถวมุมปาก ก่อนดูดโอเลี้ยงจนแก้มตอบ

พลันสายตาไปสะดุดเอากับหญิงสาวรูปร่างสะโอดสะองผู้หนึ่ง จูงเด็กหญิงอายุราว ๔ – ๕ ขวบผลุบเข้าไปในโรงรับจำนำฝั่งตรงข้าม แม้ข้าวมันไก่จะมาแล้ว แต่กฤตินยังจ้องไม่วางตา

ตักข้าวมันไก่ใส่ปาก เคี้ยวหมุบหมับ แต่สติสตางค์ไปอยู่ที่โรงรับจำนำ

ครู่หนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นก้าวออกมา ก้มลงไปลูบหน้าลูบตาเด็กน้อย จัดผมจัดเผ้าให้ดูเรียบร้อย บรรจงหอมแก้มซ้ายขวา ก่อนอุ้มร่างน้อยเข้าเอว วิ่งข้ามถนนตรงมาที่ร้านข้าวมันไก่แห่งนี้

เธอเข้ามานั่งโต๊ะข้างๆ กฤติน สั่งข้าวมันไก่จานเดียว

“แม่ไม่กินเหรอจ๊ะ” เด็กน้อยถามเสียงอ่อนหวาน

แม่ของเด็กน้อยส่ายหน้า ยิ้มละไม “แม่ไม่หิวหรอก ลูกกินเถอะ”

เด็กน้อยมองตาแป๋ว “หนูกินไม่หมดหรอก เดี๋ยวแม่ช่วยหนูหน่อยนะจ๊ะ”

“จ้ะๆ” ผู้เป็นแม่พยักพเยิดหน้า หันไปยกน้ำในกระบอกรินใส่แก้วที่ภายในบรรจุน้ำแข็งไว้จนเต็ม ยกขึ้นดูดผ่านหลอดพลาสติกสีขาวใสรวดเดียวหมด เธอรินน้ำเติมลงไปในแก้วเดิม

กฤตินไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรเขาถึงสนใจสองแม่ลูกนี้นัก อาจเพราะท่าทางที่เธอแสดงออกถึงความรักที่มีต่อลูก และเขาพอเดาได้ว่าเธอเข้าไปในโรงรับจำนำเพื่ออะไร พยายามกินช้าๆ เพื่อรอดูพฤติกรรมสองแม่ลูกต่อไป

เด็กน้อยกินไปเกือบหมดจานจึงหันไปอ้อนแม่ “หนูกินไม่ไหวแล้ว แม่ช่วยหน่อยนะจ๊ะ”

ผู้เป็นแม่ยิ้มอ่อนโยน ใช้หลังมือซับเหงื่อที่ผุดอยู่ตามหน้าผากและไรผมของลูกน้อย กลืนน้ำลาย ก่อนตักข้าวที่เหลืออยู่ในจานด้วยมือสั่นเทา

กฤตินเห็นดังนั้นเร่งจัดการกับข้าวที่เหลืออีกเพียงไม่กี่คำ ก่อนลุกออกไปจ่ายเงินหน้าร้าน


สองแม่ลูกแปลกใจที่เจ้าของร้านเอาข้าวมันไก่มาส่งให้อีกหนึ่งจาน

“เราไม่ได้สั่งนะคะ” แม่ละล่ำละลักบอก

เจ้าของร้านยิ้มกว้าง “กินไปเถอะ มีคนเขาสั่งให้”

“ใครสั่งคะ” แม่ยังไม่หายสงสัย

“คนที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ เมื่อกี้น่ะ เขาจ่ายค่าข้าวให้แล้วด้วย”

แม่ยังดูงงๆ แต่ก็ยกมือไหว้เจ้าของร้านปลกๆ

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร กินให้เต็มที่”

แม่ยิ้มบางๆ หันไปถามลูกสาวว่ากินอีกหรือเปล่า เด็กน้อยส่ายหน้า เธอจึงก้มหน้าก้มตากินจนหมด



เมื่อใกล้เวลานัดหมาย กฤตินเปลี่ยนชุดเข้าไปนอนคอยในห้อง หมอนวดที่จะมาทดสอบวันนี้มี ๒ คน ปกติเขาเป็นคนที่รักษาเวลามาก แต่คนแรกมาผิดเวลาไป ๒๐ นาที ป้าบัวจึงเดินเข้ามาถามว่าจะให้โอกาสหมอได้ทดลองหรือเปล่า เมื่อกฤตินอนุญาตป้าบัวจึงส่งเข้ามา

เมื่อหมอนวดคนแรกนวดจบ กฤตินรีบยืดเส้นยืดสาย คลายกล้ามเนื้อที่ตึงไปทั้งตัว ป้าบัวเปิดม่านเข้ามาเจอพี่คิงคองของยายเหมียวซ่ากำลังดัดตัวด้วยท้วงท่าพิสดารจึงขำกลิ้ง

“เป็นอย่างไรบ้างคะ” ป้าบัวถามกลั้วหัวเราะ

กฤตินทำหน้าเหยเก “นวดหนักเป็นบ้า แต่ไม่โดนเส้นสักจึ๊ก” เขาบอกพลางส่ายหน้า

“ให้ค่าแรงเขาครับ แล้วบอกว่าจะติดต่อกลับไป”

ป้าบัวพยักหน้ายิ้มๆ เดินออกจากห้องไป

อันที่จริงกฤตินไม่กลัวหมอนวดมือหนัก เขาผ่านการถูกนวดมาอย่างโชกโชน ทั้งหมัดเท้าเข่าศอก แต่การที่หมอนวดใช้แรงเข้าว่าโดยไม่สนใจว่าจะถูกเส้นหรือเปล่าเนี่ย น่ากลัว เพราะคนถูกนวดจะเนื้อช้ำเป็นจ้ำๆ บางครั้งฝากริ้วรอยไว้เป็นสัปดาห์ก็มี

กฤตินนอนคิดโน่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อย เกือบจะเคลิ้ม ดีแต่ว่าป้าบัวเปิดเข้ามาเสียก่อน เลยสะดุ้งตื่น

“อีกคนมาแล้วค่ะ ไหวหรือเปล่า” ป้าบัวถามด้วยความห่วงใย เพราะทราบดีว่า การทดสอบหมอ ถ้าเจอหมอที่นวดยังไม่ค่อยเป็นจะเจ็บระบมอย่างไร

“ไหวครับป้า สู้ๆ” กฤตินเน้นประโยคท้าย ป้าบัวหัวเราะคิกคัก


คนที่สองเข้ามาถึงยกมือขึ้นบริกรรมคาถาเสียยกใหญ่ กฤตินเห็นแล้วอดขำไม่ได้ ต้องเบือนหน้าหนีทำเป็นไม่เห็นเสีย เขาเข้าใจดี หมอนวดบางคนก่อนลงมือนวดจะระลึกถึงครูบาอาจารย์เพื่ออันเชิญบารมีมาช่วยในการรักษาทั้งยังเป็นการสร้างกำลังใจอีกด้วย แต่การนวดไปเป่าคาถาไปตามจุดที่นวดด้วยนี่เกินรับ ดีไม่ดีลูกค้าจะหาว่าร้านนวดของเขาเปิดเป็นสำนักพ่อมดหมอผีไปเสียเปล่าๆ  

เมื่อจบการนวดเขาจึงให้ป้าบัวจ่ายค่าแรง แล้วบอกว่าจะติดต่อกลับไปเหมือนเดิม

หลังจากยืดเส้นยืดสายบรรเทาอาการปวดเมื่อย จากพิษสงของหมอนวดคนแรกอยู่นาน กฤตินกำลังจะลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ป้าบัวเดินเข้ามา

“มีหมอผ่านมาสมัครพอดี คุณกฤตจะลองเลยไหมคะ” ป้าบัวถาม ท่าทางเกรงอกเกรงใจ “มีลูกมาด้วย ท่าทางกำลังลำบาก”

กฤตินดูท่าก็รู้ว่าป้าบัวคงสงสารหมอใหม่คนนี้ “ให้เข้ามาเลยครับ”

ป้าบัวหน้าตาแช่มชื่น เดินยิ้มร่าออกไป


เมื่อผ้าม่านที่ทำหน้าที่เป็นเสมือนประตูถูกรูดออก กฤตินกระพริบตาถี่ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ตาฝาด หมอนวดที่มาใหม่เป็นคนเดียวกับผู้หญิงที่อุ้มลูกออกมาจากโรงรับจำนำ เขาจำเธอได้ติดตา แต่ไม่ได้แสดงอาการอะไรให้รู้

โลกช่างกลมจริงหนอ

เพียงสัมผัสแรกที่นิ้วของเธอกดลงบนฝ่าเท้า กฤตินรู้ทันที นี่เป็นน้ำหนักการนวดของหมอมืออาชีพ เมื่อการนวดผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ความเมื่อยล้าบริเวณขาหายเป็นปลิดทิ้ง เรื่องฝีไม้ลายมือไม่มีปัญหา แต่ติดตรงท่าทางมากกว่า ในการนวดขา เธอเข้าไปอยู่ระหว่างขาของผู้นวด ซึ่งดูจะใกล้ชิดกันเกินพอดีสำหรับร้านของเขา

“เคยเป็นหมอที่ไหนมาก่อนครับ” กฤตินถามขึ้น

“เคยนวดแถว ... ปิ่นเกล้าค่ะ” เธอตอบตะกุกตะกัก

กฤตินพยักหน้า “น้ำหนักในการนวดดีมากเลยครับ แต่ถ้าผมจะขอปรับท่าให้เหมาะสมกับร้านสักนิดจะได้ไหม” เธอทำหน้าสงสัย กฤตินยิ้มในหน้า อธิบายต่อ

“การเข้าไปอยู่ระหว่างขาของลูกค้า สำหรับร้านของเราดูไม่ค่อยเหมาะนัก อยากให้ออกมาอยู่ด้านข้างของลูกค้าแทน”

“อ๋อ ... ได้ค่ะ” เธอพยักหน้ายิ้มๆ

“พร้อมจะเริ่มงานเมื่อไหร่ครับ”

ใบหน้าที่น่ามองอยู่แล้ว เมื่อฉาบด้วยรอยยิ้มยิ่งทำให้น่ามองไปใหญ่ “ค...คุณ จะรับพิมพ์เข้าทำงานเหรอคะ”

กฤตินเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง “ขอพูดตรงๆ นะครับ รายได้ของหมอที่นี่เทียบไม่ได้กับหมอย่านปิ่นเกล้า หากคุณพิมพ์รับในจุดนี้ได้ก็ไม่มีปัญหา”

พิมพ์ส่ายหน้าดิก “ไม่เป็นไรค่ะ แค่มีงานทำพิมพ์ก็ดีใจแล้ว” เธอเหลือบมองกฤติน ยิ้มเฝื่อนๆ

“พิมพ์ขอพาลูกมาด้วยได้ไหมคะ”

กฤตินกำลังดื่มด่ำกับการถูกนวด ไม่ทันได้ฟังหมอคนใหม่ เขาชักติดใจน้ำหนักมือของหมอพิมพ์เสียแล้ว ถ้าป้าบัวรู้เข้าคงน้อยใจน่าดู

“คุณคงไม่อนุญาตใช่ไหมคะ”

“อะไรนะครับ” กฤตินยิ้มเก้อๆ “แหม ... คุณพิมพ์นวดสบายเสียจนผมเกือบหลับ”

หมอพิมพ์ยิ้มแหยๆ เอ่ยอย่างเกรงอกเกรงใจ “คือ ... ลูกพิมพ์ยังไม่ได้เข้าโรงเรียน ตอนนี้ไม่มีคนดู พิมพ์อยากขออนุญาตพามาที่นี่ด้วยได้ไหมคะ แต่แกเป็นเด็กเรียบร้อยนะคะ ไม่ดื้อ ไม่ซน” สายตาเว้าวอนของเธอรอคอยคำตอบ

กฤตินคิดถึงเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยแล้วอดเอ็นดูไม่ได้ “เอาสิครับ ผมมีห้องพักผ่อนสำหรับหมอนวดอยู่แล้ว ให้แกอยู่ในนั้นก็ได้”

หมอพิมพ์ยกมือไหว้ เอ่ยขอบคุณ ก่อนก้มหน้าก้มตานวดต่อไป

จากคุณ : อริย์ธัช
เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 52 11:09:58




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com