Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ผู้ชายของฉัน ไม่ใช่คนที่ฝันเอาไว้ บทที่ 8  

บทนำ+บทที่ 1
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8433345/W8433345.html

บทที่ 2
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8437368/W8437368.html

บทที่ 3
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8444375/W8444375.html

บทที่ 4
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8451542/W8451542.html

บทที่ 5
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8459788/W8459788.html

บทที่ 6
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8467394/W8467394.html

บทที่ 7
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8473825/W8473825.html

==========================================

บทที่ 8

ทำไมเรื่องมันเป็นแบบนี้ไปได้กัน!

เพชรน้ำหนึ่งคิดอย่างเพลียๆกับงานที่ต้องเจอในวันนี้ รวมไปถึงเรื่องที่เธอก่อเอาไว้เพราะความปากเบาของตัวเองถึงต้องมานั่งสะสาง แถมต้องมารับรู้เรื่องจุดไต้ตำตอที่เป็นหนึ่งวางระเบิดเอาไว้ให้เธออีกต่างหาก แล้วเธอก็ดันบ้าที่ดันกระโดดลงไปเป็นแม่พระช่วยอีตานั่น (ถึงส่วนหนึ่งทำเพื่อตัวเองกับเพื่อให้คู่ของไพรวัลย์ราบรื่นก็เถอะ แต่จะพาลใครจะทำไม อ้อ...ต่อให้เธอไม่ชอบพี่โจ้ก็ตาม แต่เธอก็ยอมรับเขาถึงไม่เต็มใจก็เถอะ เพียงเพราะเขาเป็นคนที่เพื่อนเธอรักและยอมรับเท่านั้นเอง) แถมยังตัดสินใจคว้านายคนผิดปกติที่ว่านั่นมาร่วมแผนปฏิบัติการลับขอบฟ้าของเธออีกต่างหาก

เพราะผ่านช่วงเวลาที่รถคับคั่งไปแล้ว รถแต่ละคันส่วนมากถึงที่หมายจอดรถกันเต็มบริเวณในที่จอดรถของผับมากมาย รถจึงไม่ติดเหมือนเมื่อตอนที่เธอออกจากที่ทำงาน ใช้เวลาแค่สิบห้านาทีเท่านั้น เธอก็มาถึงบ้านอย่างปลอดภัย

ลุงเปิดประตูให้เธอเช่นเดิม เมื่อเพชรน้ำหนึ่งจอดรถเดินเข้ามาในตัวบ้านก็ต้องแปลกใจที่ไฟในบ้านเปิดเอาไว้ เธอคาดว่ามารดาน่าจะไปเข้าร่วมงานเปิดตัวคอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง และนายจิ้งจกก็น่าจะออกไปท่องราตรีในคืนวันศุกร์ แล้วนี่ใครที่อยู่บ้านกันละเนี่ย

ทันที่ถอดรองเท้าย่างเข้าบ้าน ไอเย็นแผ่ซ่านชวนขนลุกก็ทำให้ขนคอลุกชัน บรรยากาศเดิมๆกลับมาทำให้เพชรน้ำหนึ่งกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอได้อย่างยากลำบาก

นั่นประไร...เดจาวูชัดๆ

ภาพหญิงสาววัยกลางคนในชุดราตรียาวกรอมเท้า ยังไม่ได้ปลดแม้กระทั่งสร้อยคอ และต่างหูเพชรระยับเข้าชุดกันออกเสียด้วยซ้ำ ผมกระบังสูงเวลาทำงานเปลี่ยนเป็นเซทพองฟูเป็นเห็ดคล้ายทรงผมนิยมของบรรดาหญิงวัยกลางคนที่พยายามทำตัวให้ชาวบ้านเขาดูไม่ออกเล้ยว่าผมเหลือน้อยจนบางแทบติดหนังศีรษะ ทีท่าที่กำลังอ่านนิตยสารผู้หญิงจำพวกคุณหญิงคุณนายชอบอ่านฉบับล่าสุดเหมือนกำลังผ่อนคลาย

“เธอกลับดึกนะ” เพชรน้ำเอกเงยหน้าขึ้นมอง เลิกคิ้วราวกับเพิ่งเห็นเธอเดินเข้ามาทั้งที่น่าจะรู้อยู่ว่าเธอกลับมาถึงบ้านแล้ว เสียงรถเสียงเปิดประตูก็ใช่เบา

“แม่ก็กลับดึก” หญิงสาวตอบกลับมารดาเบาๆ ไม่มีอารมณ์ต่อล้อต่อเถียงด้วย ทั้งที่รู้ว่าท่าทางของเพชรน้ำเอกเป็นแบบนี้ น่าจะเรื่องยาว

“ถ้ากลับเร็วกว่านี้ฉันก็คงได้รู้อะไรช้ากว่านี้”

เพชรน้ำหนึ่งทำหน้าฉงนพร้อมกับระวังตัวขึ้นทันที เธอไม่เคยมีความลับอะไรกับแม่ หรือจะให้พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ แม่เธอรู้ทุกอย่างและไม่มีใครปิดบังแม่ได้ เท่าที่คิดออกอยู่เรื่องเดียวตอนนี้ก็คือเรื่องที่เธอไปโกหกเอาไว้ตอนที่เพชรน้ำเอกตั้งใจจะจับเธอประเคนให้นายจิ้งจกนั่นเท่านั้น

แล้วแม่ไปรู้อะไรเข้า?

“แม่พูดถึงอะไร” หญิงสาวถามเสียงเนือย เธอหย่อนกระเป๋าถือใบใหม่เอี่ยมอ่องวางข้างโซฟา (ปกติโยนแต่พอดีแม่อยู่เลยทำตัวดีหน่อย) แล้วนั่งลงอย่างเรียบร้อย

“คนที่อยู่กับเธอคืนนี้เป็นใครกัน”

ชิ...ทำไมซื้อหวยไม่ถูกนะ

เป็นหนึ่งเห็นว่าคงต้องคุยรายละเอียดกันยาว เขาจึงชักชวนไปคุยต่อที่อื่นที่สงบพอจะพูดกันได้ จนได้ข้อสรุปเธอถึงได้ขับรถกลับมาบ้าน ทีตอนที่ไพรวัลย์กับจรินทร์อยู่ด้วยไม่เห็นมาฟ้อง ทีตอนที่เธอเจรจาระดับทวิภาคีกับเป็นหนึ่ง พลทหารม้าหน้าเริดก็คาบข่าวมาบอกแม่เธอไวดีเหลือเกิน

“แล้วแม่คิดว่าใครละ”

“อย่ามายอกย้อนกับฉัน” เพชรน้ำเอกเอ่ยเสียงเย็นเฉียบ

“หนึ่งเปล่า” หญิงสาวตอบกลับเสียงเรียบ “หนึ่งก็เห็นแม่ถามทุกครั้งที่เห็นหนึ่งอยู่กับผู้ชายคนไหน หนึ่งก็ตอบแม่ความจริงทุกครั้ง แล้วแม่ก็ไม่เคยพอใจคำตอบหนึ่งสักที คราวนี้หนึ่งไม่อยากตอบแล้ว แม่เติมคำในช่องว่างเองก็แล้วกัน”

ว่าจบหญิงสาวก็เมินหน้าไปในขณะที่คนเป็นแม่ซึ่งนั่งอยู่อีกฟากของโต๊ะ เพชรน้ำเอกนั่งนิ่งมองลูกสาวตนเอง สีหน้ายังคงเรียบไม่เปลี่ยนแปลง กระทั่งแววตาก็ยังคงนิ่งราวทะเลคลื่นลมสงบนิ่ง

“แล้วเธอคิดว่าฉันควรพอใจกับสิ่งที่เธอทำอยู่หรือเปล่า” เพชรน้ำเอกถามกลับบ้าง “แต่ละคนเธอพูดเหมือนๆกันหมดว่าเพื่อน หรือกิ๊กแก๊กอะไรของเธอนั่น ขนาดตอนที่เธอคบนายเมฆอยู่เธอก็บอกว่าคนอื่นเป็นเพื่อน แต่เรื่องที่เข้าหูฉันแต่ละเรื่อง...หึ...ลูกสาวฉันเอาแต่เรื่องดีๆมาให้ทั้งนั้น”

ความโมโหพุ่งปรี๊ดขึ้นมาถึงระดับเจ็ด ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้บ้าง (ถ้าเป็นประมาณ 5 ปีก่อนระดับนี้เป็นระดับที่เธอวีนแหลกไปแล้ว) ดังนั้นถึงภายในพายุจะเริ่มก่อตัว แต่เพชรน้ำหนึ่งจึงยังตอบมารดาไปด้วยน้ำเสียงสงบอยู่ได้

“ถ้าแม่เชื่อสิ่งที่เข้าหูแม่มากกว่าหนึ่ง แม่จะมาถามหนึ่งทำไม”

เพชรน้ำเอกไม่ได้ตอบทันที ต่างฝ่ายต่างทิ้งความเงียบไว้ในห้องอันน่าอึดอัด ก่อนจะเสียงถอนใจยาวจะดังขึ้นพร้อมกับคำตอบ

“ฉันไม่ชอบฟังความข้างเดียว”

“แม่จะฟังกี่ข้างก็ตาม แต่ที่แน่ๆคนที่แม่ไม่เชื่อก็คือลูกตัวเอง” เธอตอบเสียงเนือย “วันนี้เราเหนื่อยกันทั้งคู่แล้ว หนึ่งไม่อยากเถียงกับแม่เรื่องนี้อีก เอาเป็นว่าสำหรับรายนี้ เขาคือเหตุผลที่หนึ่งไม่อยากแต่งงานกับพี่เพชรก็แล้วกัน”

ดวงตาคนฟังเปลี่ยนไปทันทีจากนั้นก็กลับสู่สภาพเดิมโดยคนเป็นลูกจับไม่ทันว่าเปลี่ยนไปในอารมณ์ไหน แง่บวกหรือแง่ลบ แต่น้ำเสียงที่ถามต่อมาเข้มงวดมากกว่าเดิม

“ลูกเต้าเหล่าใคร ทำงานที่ไหน”

“เดี๋ยวแม่ก็ได้รู้” เธอบอกเรียบๆพร้อมทั้งลุกขึ้นเดินมาแตะร่างบางของคนเป็นมารดาเอ่ยเสียงอ่อนลง “นี่ดึกแล้ว แม่ไปอาบน้ำนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องไปไหนหรือเปล่า”

“ฉันว่าจะไปเลือกซื้อต้นไม้ วันก่อนอ่านนิตยสารเห็นเขาเอาพวกดอกไม้โทนสีม่วงมาแต่งสวน เห็นมันสวยดี...เดี๋ยวให้นายเพชรขับไปให้” เพชรน้ำเอกถอนใจเล็กน้อย เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ย่างเท้าเข้าบ้านวันนี้ที่เธอเห็นแม่ทำตัวแบบคนธรรมดาบ้าง

“แล้วตอนกลับมาไปงานแต่งงานต่อ ลูกชายของลูกค้ารายใหญ่เขาแต่งงานเห็นบอกฝ่ายผู้หญิงเป็นพวกลูกหลานคนจีนที่ไหนไม่รู้ ไม่เห็นรู้จัก ก็ยังดีหรอกที่ดูน่าจะขยัน คงอดทนช่วยงานสามีได้ รู้จักไว้ก็ไม่เสียหาย” จากนั้นก็เอ่ยเหมือนรำพึง “นี่ฉันไม่ได้ออกงานกับเธอนานแค่ไหนแล้วนะ ไปทีไรไปกับนายเพชรตลอด”

“เกือบสี่ปี” เพชรน้ำหนึ่งตอบเสียงเบา “ตั้งแต่หนึ่งไปเรียนเมืองจีนกลับมาก็ย้ายไปอยู่กับพี่เมฆ พี่เขาไม่ค่อยชอบออกงานเท่าไร”

“ทำตัวเป็นพวกศิลปินไส้แห้งไปได้” เพชรน้ำเอกบ่นพลางลุกขึ้นเมื่อลูกสาวประคองพาขึ้นไปชั้นบนของบ้าน “คนเรามันก็ต้องอยู่กับสังคมทั้งนั้น จะทำตัวเป็นฤๅษีปลีกวิเวกไม่คบค้าใครได้ที่ไหนกัน ถ้าเกิดมาบนกองเงินกองทองไม่ต้องทำมาหากิน ไม่ต้องมีพ่อมีแม่มีคนห่วงอยู่เบื้องหลัง ไม่ต้องมีลูกมีเมีย ไม่มีบ่วงมาผูกคอ แบบนั้นมันก็ได้อยู่...”

เพชรน้ำหนึ่งอดทนฟังเงียบๆ ในขณะที่มองมือขาวบางเกือบใสทว่าย่นเล็กน้อยตามอายุของมารดาเกาะเกี่ยวแขนของเธอเอาไว้ เธอคร้านจะพูดกับแม่เรื่องนี้แล้ว แต่ก็ไม่อยากทะเลาะอีกจึงปล่อยให้มารดาพูดต่อไปตามแต่พอใจ

“แต่นั่นไม่ใช่ชีวิตสำหรับเธอ ฉันรู้ว่าเธอไม่พอใจ ที่ฉันพูดแบบนี้แต่เธอโตแล้ว อายุจะขึ้นเลขสามอยู่แล้ว ลืมตาให้กว้างๆแล้วเธอจะเห็นว่าชีวิตแบบนายเมฆไม่ได้เหมาะกับเธอเลยสักนิด ฉันถึงไม่อยากให้เธอแต่งงานกับนายเมฆ เขาเป็นแกะดำของเศรษฐเวชช์อย่างที่ฉันรู้ เธอก็รู้ สังคมก็รู้”

ความโกรธเริ่มพุ่งขึ้นสูงเข้าสู่ระดับแปด ซึ่งเป็นขั้นกรี๊ดแตกไปแล้ว แต่พอดีอีกฝ่ายเป็นมารดาทำให้จุดเดือดของเธอยืดสูงกว่าเดิมได้อีกนิดหน่อย โชคดีที่ถึงห้องของมารดาพอดี หญิงสาวเปิดประตูให้เพชรน้ำเอกเดินผ่านเข้าไป

“แม่รีบนอนเถอะ อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์แม่กลับดึกตลอดเลยนะ”

เพชรน้ำเอกมองดวงตาที่ละม้ายคล้ายเธอของลูกสาว ยิ้มจางๆ “ฉันไม่นึกว่าเธอจะรู้ว่าฉันกลับดึก ขอบใจที่เป็นห่วง”

ประตูปิดลงไปพร้อมกับที่เพชรน้ำหนึ่งถอนใจยาว เธอเดินย้อนลงมาที่ห้องรับแขกอีกครั้งหนึ่งเพื่อหยิบกระเป๋าถือซึ่งวางนอนนิ่งอยู่บนโซฟาไปเก็บที่ของมัน ทว่าได้ยินเสียงรถยนต์แล่นเข้ามาในบ้านเสียก่อน เธอรู้ได้ทันทีว่าพชรกลับมาถึงบ้านแล้ว หญิงสาวจึงนั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกนั้นต่อไป

จากคุณ : peiNing
เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 52 12:27:52




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com