Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เนเฟอร์ตีตี จอมราชินีแห่งลุ่มน้ำไนล์( ตอนสอง)  

สามารถอ่านส่วนแรกได้ที่

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8483288/W8483288.html#9

---------------------------------------------------------------------------
บทที่สอง
มหานครแห่งจักรวรรดิ

ถนนภายในนครธีบส์ดูพลุกพล่าน ผู้คนมากมายเดินผ่านไปมา สองข้างทางเป็นบ้านเรือนที่สร้างเรียงรายเป็นแถว มีทั้งที่สร้างจากดินเหนียวตากแห้งและอิฐเผา บ้านส่วนใหญ่เป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งหลังคามีลักษณะเป็นดาดฟ้าที่ถูกใช้งานเป็นพื้นที่เอนกประสงค์ มีกรอบประตูของบ้านทำจากไม้ ส่วนกำแพงบ้านเป็นสีออกขาวจากการขัดถูด้วยน้ำมะนาวตามความนิยม

ผู้คนแต่งกายด้วยผ้าลินินสีขาวทั้งชายและหญิง โดยผู้ชายมักจะเปลือยร่างท่อนบน ขณะที่ผู้หญิงนั้นสวมชุดยาวกรอมข้อเท้า พลตระเวนที่เรียกว่า เมดจาย* แต่งกายด้วยผ้าลินินเปลือยท่อนบนผมบนศรีษะถักเป็นเปียเล็กๆจำนวนมากและย้อมทับด้วยขี้ผึ้งจนเคลือบหนา ที่เอวเหน็บดาบสั้น มือถือหอกและโล่ คอยเดินตรวจตราเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของเมือง

ตลอดทางทั้งสองข้างของถนน มีเพิงไม้จำนวนมากของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่นำสินค้ามาวางขายพร้อมกับร้องเชิญชวนให้ผู้ที่ผ่านไปมาแวะเข้ามาซื้อหา สินค้าที่วางขายมีทั้ง ผ้าลินิน ม้วนปาปิรัส เบียร์ เครื่องหอม อาหาร เครื่องปั้นดินเผา หินมีค่า หนังสัตว์ รวมทั้งสัตว์เลี้ยงและของอื่นๆอีกหลายอย่าง เสียงสนทนาของผู้คนและเสียงเจรจาต่อรองซื้อขายดังอยู่เซ็งแซ่

นับแต่สมัยของฟาโรห์หญิงฮัตเซปซุท** อียิปต์ได้มีการขยายเส้นทางการค้าออกไปอย่างกว้างไกล นอกจากจะทำการค้ากับดินแดนในเอเชียไมเนอร์แล้ว ยังมีการส่งกองเรือสินค้าลงไปค้าขายกับอาณาจักรพันต์***ที่อยู่ทางตอนต้นแม่น้ำไนล์อีกด้วย ซึ่งการขยายเส้นทางการค้าในครั้งนั้น สร้างความมั่งคั่งให้กับอาณาจักรอียิปต์เป็นอันมาก อีกทั้งนโยบายทางการเมืองของพระนางฮัตเซปซุต ยังเน้นที่การสร้างสัมพันธไมตรีกับชาติเพื่อนบ้านมากกว่าการแผ่แสนยานุภาพ จึงทำให้ในยุคของพระนางเป็นยุคแห่งความสงบสุข

แต่อย่างไรก็ตามการขึ้นครองราชย์ของพระนางก็สร้างความไม่พอใจให้เหล่าขุนนางบางส่วนรวมทั้งเจ้าชายทุตโมซิสผู้เป็นพระราชนัดดาของพระนางด้วย ดังนั้นหลังจากพระนางสวรรคต บรรดารูปสลักและจารึกต่างๆของพระนางก็ถูกฟาโรห์ทุตโมซิสสั่งให้ทำลายเสีย กระนั้นก็ดีความมั่งคั่งที่พระนางสร้างเอาไว้ก็กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทุตโมซิสสามารถสร้างอียิปต์ให้กลายเป็นจักรวรรดิได้สำเร็จในเวลาต่อมา

*****************************

หลังจากมาพำนักที่บ้านพักของบิดาในนครธีบส์ได้สามวัน เนเฟอร์ตีติกับผู้เป็นบิดาก็ได้รับพระเสาวนีย์จากพระนางไทยีให้เข้าเฝ้าที่พระตำหนักส่วนพระองค์

บริเวณตำหนักหลังน้อยที่สร้างขึ้นในบริเวณอุทยานซึ่งมีคลองขุดที่ส่งน้ำจากแม่น้ำไนล์เข้ามาเพื่อใช้หล่อเลี้ยงพรรณไม้นานาชนิดในอุทยาน พระนางไทยีประทับบนตั่งไม้ประดับทองคำที่ปูลาดด้วยพรมขนแกะ โดยมีนางกำนัลสี่คนนั่งกึ่งหมอบอยู่บนพื้นรอบๆตั่งที่ประทับ แม้จะทรงมีพระชนมายุกว่าสี่สิบพระชันษาแล้ว ทว่าพระนางก็ยังทรงมีพระสิริโฉมงดงามอยู่

พระนางไทยีทอดพระเนตรสองพ่อลูกที่หมอบอยู่ ณ.เบื้องพระพักตร์ครู่หนึ่ง ก่อนจะทรงมีรับสั่งให้ทั้งสองลุกขึ้นและให้นั่งลงบนตั่งเตี้ยๆที่จัดเอาไว้

" มิได้พบกันเสียนานเลยนะ เมริเร" พระนางตรัสทักทาย "เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง "
"ด้วยพระบารมีของพระนางเจ้า ข้าบาทสุขสบายดีพะย่ะค่ะ"อีกฝ่ายกราบทูลตอบ
พระนางแย้มพระสรวลเล็กน้อย ก่อนจะหันพระพักตร์มาทางเด็กสาวที่นั่งก้มหน้าอยู่ใกล้ๆ
"นั่นรึ บุตรสาวของเจ้า ไหนลองเงยหน้าขึ้น ให้ข้าเห็นชัดๆหน่อยซิ"

เนเฟอร์ตีติเงยหน้าขึ้นและสบกับสายพระเนตรของ องค์ราชินีอยู่ครู่หนึ่ง
"เจ้าชื่ออะไร"พระราชินีตรัสถาม
"เนเฟอร์ตีตี เพคะ" เด็กสาวทูลตอบ
"ปีนี้ เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว"ราชินีไทยีตรัสถาม
"สิบห้าเพคะ"

พระนางทรงใช้สายพระเนตรพินิจเด็กสาวที่อยู่เบื้องพระพักตร์อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะทรงยิ้มอย่างพอพระทัย "เป็นเด็กสาวที่งามมาก งดงามสมกับชื่อ*จริงๆ"
เมริเร ลอบยิ้มกับตัวเองอย่างสมคะเนก่อนจะกราบทูลขึ้นว่า " ข้าแต่พระนางเจ้า ข้าบาทเองนั้นมี ธิดาอยู่เพียงคนเดียว หากแม้นพระนางจะทรงเมตตาต่อนางบ้างแม้สักเพียงน้อย ก็นับได้ว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงต่อข้าบาทและลูก พะย่ะค่ะ"
องค์ราชินีแห่งไอยคุปต์ ทรงยิ้มคล้ายกับจะทรงรู้เท่าทันความคิดของญาติผู้น้อง ก่อนจะตรัสว่า
" เอาเถิด ถึงอย่างไร บุตรสาวของท่านก็มีศักดิ์เท่ากับเป็นหลานของข้า " พระนางทอดพระเนตรเด็กสาวอีกครั้ง"ข้าจะรับนางไว้เอง"
" นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อข้าบาทและบุตรสาวอย่างที่สุดแล้ว พะย่ะค่ะ" เมริเรกล่าวพร้อมกับรีบฉุดมือบุตรสาวให้หมอบถวายบังคม
"ไม่เป็นไร พวกเจ้าพ่อลูก ลุกขึ้นมาเถอะ" พระนางตรัสบอก
"พะย่ะค่ะ" ทั้งสองกล่าวก่อนจะลุกขึ้นนั่งตามเดิม
"แต่วันนี้ ข้าคงต้องให้เจ้าพาลูกสาวกลับไปเสียก่อน เอาไว้อีกสองวัน เจ้าค่อยพานางมาให้ข้า ก็แล้วกัน "องค์ราชินีทรงหันมาแย้มพระสรวลกับเด็กสาว "กลับไปก่อนนะ แล้วข้าจะให้คนจัดที่พักไว้ให้เจ้า"
"เพคะ"

พระนางไทยีทรงพยักพระพักตร์เล็กน้อย เป็นทีว่าการสนทนาจบลงแล้ว เมื่อเห็นดังนั้นเมริเรและเนเฟอร์ตีตีจึงถวายบังคมลา

จากคุณ : สิงขรลักษณ์
เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 20:13:14 A:192.168.1.108 X:58.8.144.54 TicketID:239718




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com