ศึกแม่มดมหัศจรรย์ บทที่ 1 คำสาปแห่งเซอเบอรัส
|
|
ศึกแม่มดมหัศจรรย์
<1> คำสาบแห่งเซอเบอรัส
เสียงฝีเท้าซึ่งก้าวเดินอย่างเร่งรีบสลับกับเสียงลมหายใจที่หอบเพราะความเหนื่อยดังขึ้นกลางป่าใหญ่ห่างไกลชุมชน ชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเดินอย่างเร่งรีบ โดยเฉพาะฝ่ายชายนั้นมีท่าทางกระวนกระวายใจอย่างมาก เขาหันมามองดูภริยาที่มีท่าทางอ่อนล้าลงทุกขณะด้วยสายตาที่ห่วงใย
เจ้าจะหยุดพักก่อนดีไหม เฟรย์ เขาถามเบาๆ สายตาสอดส่ายไปโดยรอบเพื่อหาที่สำหรับนั่งพัก เฟรย์พยักหน้าแทนคำตอบ ฝ่ายสามีจึงประคองเธอให้เดินไปยังขอนไม้แห้งริมทาง เขากุลีกุจอปัดฝุ่นและเศษใบไม้แห้งบนขอนไม้นั้นออกก่อนที่จะให้ภรรยาของเขานั่งลง
เจ้าเป็นยังไงบ้าง เขาถามด้วยความเป็นห่วงขณะส่งถุงหนังบรรจุน้ำให้กับเธอ เฟรย์รับมันมาดื่มสองสามอึกและส่งคืนให้เขาก่อนจะตอบ
ข้าไม่เป็นอะไร เพียงแค่รู้สึกปวดท้องเป็นบางครั้งเท่านั้น อย่าห่วงไปเลยเซิร์ท
ข้าไม่น่าพาเจ้ามาด้วยเลย เซิร์ทบ่นพร้อมกับลูบไปบนครรถ์ซึ่งแก่ใกล้คลอดของเฟรย์เบาๆ ไม่คิดว่าการเดินทางจะล่าช้ากว่าที่คิดไปถึงสองเดือน
นั่นเป็นเพราะข้ารั้นที่จะตามท่านมาต่างหาก ผู้เป็นภริยาแย้ง หากข้าเชื่อฟังและยอมรอท่านอยู่ที่บ้านคงจะไม่เป็นตัวถ่วงการเดินทางในครั้งนี้
เหลวไหล ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าจะเป็นตัวถ่วง ตรงกันข้ามหากการเดินทางคราวนี้ไม่มีเจ้ามาด้วย ข้าคงท้อแท้และหันหลังกลับไปตั้งแต่อาทิตย์แรกแล้ว เซิร์ทตอบภรรยาของเขา นางยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะนิ่วหน้า
ข้าปวดท้องขึ้นมาอีกแล้ว เฟรย์พูดพร้อมกับวางมือลงบนท้องอย่างแผ่วเบา ทำไมสองสามวันมานี่ข้ารู้สึกปวดถี่ขึ้นทุกที
หรือว่าเจ้าจวนจะคลอดเซิร์ทพูดด้วยสีหน้าวิตก เขารีบลุกขึ้นยืนและมองไปรอบบริเวณ ตอนนี้เราอยู่กลางป่า คงไม่มีบ้านคนอยู่แถวนี้แน่ ข้าจำได้ว่ามีหมู่บ้านขนาดเล็กอยู่อีกฟากหนึ่งแต่ต้องเดินทางอีกสองหรือสามวันจึงจะถึง เขาพูดอย่างกังวลขณะมองดูภรรยาด้วยสายตาเป็นห่วง นางฝืนยิ้ม
ข้าจะพยายามอดทนเดินทางไปให้ถึง
แต่ตอนนี้เราต้องหาที่พักกันก่อน เซิร์ทตอบพลางมองไล่สำรวจป่ารอบตัวอีกครั้ง แสงอาทิตย์ที่เคยฉายแสงร้อนแรงยามกลางวันบัดนี้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงและเคลื่อนคล้อยลงหลังทิวไม้ ความมืดของยามราตรีคืบคลานเข้ามาปกคลุมทั่วผืนป่าอย่างเชื่องช้า เซิร์ทมองตรงไปยังต้นไม้สูงตระหง่านเบื้องหน้า บริเวณโคนต้นของมันมีต้นหญ้าปกคลุมไปทั่วดูราวกับเป็นพรมกำมะหยี่สีเขียวอันอ่อนนุ่ม เขารีบเดินเข้าไปสำรวจทันที
เราจะพักค้างคืนกันตรงนี้ เขาหันมาบอกเฟรย์ พื้นหญ้านี่นุ่มและแถวนี้ยังเป็นที่โล่ง ไม่มีร่องรอยของสัตว์ป่าเลย ที่กว้างแบบนี้ข้าสามารถก่อกองไฟได้โดยไม่ต้องกังวลว่ามันจะลามไปไหม้ต้นไม้อื่น กลางคืนเจ้าจะได้ไม่หนาว
เซิร์ทบอกขณะเดินกลับมาหาเฟรย์และพยุงนางให้ลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะเดินไปยังโคนต้นไม้ใหญ่นั้น พลันบังเกิดกระแสลมปั่นป่วนรุนแรงราวกับพายุขึ้น เซิร์ทมองด้วยสายตาตระหนกและรีบกอดร่างของเฟรย์แน่น เขามองลมหมุนด้วยความประหลาดใจและพยายามเพ่งสายตามองฝ่าฝุ่นและเศษใบไม้แห้งซึ่งฟุ้งตลบเพื่อหาสาเหตุ แต่แล้วทั้งสองก็ถูกกระแสลมอย่างแรงจนล้มลง ทั้งคู่อุทานด้วยความตกใจ เซิร์ทรีบประคองภรรยาด้วยความเป็นห่วง เสียงเปรียะดังลั่นขึ้นภายในลมหมุนทำให้ชายหนุ่มหันไปมอง เขาเบิกตากว้างเมื่อเห็นแสงสีน้ำเงินเข้มสว่างเจิดจ้าขึ้น มันแผ่ขยายออกมาเป็นวงกว้าง เงาร่างสูงสง่าของใครบางคนปรากฏขึ้นภายในนั้นพร้อมกับเกรี้ยวกราดที่คำรามลั่นอย่างขุ่นเคือง
ใครกันที่บังอาจมาขวางทางของข้า!
เซิร์ทรีบขยับตัวบังร่างของเฟรย์ไว้ก่อนจะเอ่ยปากตอบเสียงสั่น
ข้าเอง เขากลืนน้ำลายขณะชำเลืองมองภรรยาด้วยความวิตกและพูดต่อ พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะขวางทางของท่าน แต่เมียของข้าท้องแก่ใกล้คลอดทำให้นางเดินได้ไม่เร็วนัก ขอได้โปรดอภัยให้กับเราทั้งด้วย
สิ้นคำพูดของเซิร์ท กระแสลมซึ่งกำลังกรรโชกอย่างรุนแรงก็หยุดลงโดยฉับพลัน ใบไม้ที่กำลังหมุนปลิวกระจัดกระจายนั้นก็ชะงักนิ่งและร่วงตกลงบนพื้น เป็นจังหวะเดียวกันกับร่างที่อยู่ในใจกลางแสงสีน้ำเงินเจิดจ้าขยับตัวและยกมือขึ้น เสียงทรงอำนาจดังก้องกังวาน
เจ้าว่าอะไรนะ เมียของเจ้ากำลังจะคลอดอย่างนั้นหรือ
ความเดือดดาลที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงนั้นสร้างความไม่แน่ใจให้กับเซิร์ท เขาเอื้อมมือไปแตะที่ด้ามดาบที่เอวดึงมันออกมาจากฝักอย่างระมัดระวัง ชายหนุ่มตอบผู้ที่กำลังเคลื่อนเข้ามาหา
นางแค่มีครรภ์แก่ใกล้คลอดเท่านั้น
จะแค่ท้องแก่หรือกำลังจะคลอด มันก็หมายความอย่างเดียวกัน เสียงพูดเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว เซิร์ทค่อยๆดันร่างของเฟรย์ให้ถอยห่างออกไปทีละน้อยในขณะที่ตัวของเขาเองลุกยืนขึ้นอย่างเชื่องช้าแต่ก็เต็มไปด้วยความระมัดระวัง
ฟังจากน้ำเสียง เหมือนท่านไม่พอใจกับการที่ได้พบหญิงมีครรภ์ เขาพูดเสียงกร้าวพลางขยับดาบในมืออย่างระแวง อีกฝ่ายส่งเสียงหัวเราะซึ่งฟังแล้วบาดลึกเข้าไปในความรู้สึกและเงียบลงอย่างฉับพลัน ดวงตาสีสีแดงก่ำทอประกาย
ช่างมีความกล้าเสียจริง แต่เป็นความกล้าที่แสนโง่ยิ่งนัก เจ้าบังอาจมากที่มายืนถือดาบแล้วเจรจาต่อปากต่อคำกับข้าเช่นนี้
เจ้าเป็นใคร ทำไมข้าจะพูดจาตอบโต้ด้วยไม่ได้ เซิร์ทโต้กลับอย่างไร้ความเกรงกลัว เห็นกันอยู่ว่าเจ้ามีเจตนาร้ายกับเมียข้า
ร่างนั้นหัวเราะอย่างหยามหยันขณะก้าวออกจากแสงสีน้ำเงินมายืนอย่างสง่าอยู่ตรงหน้าของชายหนุ่ม เซิร์ทยืนตกตะลึงตาค้างขณะจ้องสุนัขสีดำสนิทที่กำลังเดินตามหลังผู้เป็นนายมาไม่ห่าง มันจ้องเขาด้วยดวงตาลุกวาวและส่งเสียงคำรามอย่างดุร้าย เซิร์ทมองหัวที่สองและสามของมันซึ่งกำลังสะบัดไปมาด้วยความตระหนก หัวสุนัขทั้งสามหันมาจ้องหน้าเขาและแยกเขี้ยวขู่คำราม
ใจเย็นไว้ก่อนเซอเบอรัส เจ้าได้กินเนื้อหวานนุ่มของพวกมันแน่ น้ำเสียงเย็นเยือกเอ่ยขึ้น รวมทั้งของว่างที่อยู่ในท้องของนางนั่นด้วย
โทสะของเซิร์ทพุ่งขึ้นมาในทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของสตรีลึกลับผู้นั้น เขาตวัดดาบชี้ตรงไปที่นางพร้อมกับพูดเสียงห้วน
ข้าไม่มีวันยอมให้แกทำในสิ่งที่พูดออกมาแน่ นางปิศาจ!
| จากคุณ |
:
Moony_Lupin
|
| เขียนเมื่อ |
:
31 ต.ค. 52 13:50:14
|
|
|
|