ความคิดเห็นที่ 1 Aomori เป็นเมืองที่ตั้งอยู่เหนือสุดของเกาะ Honshu มีความหมายว่า “ป่าเขียวขจี” เป็นเมืองที่เป็นประตูสู่ภูมิภาค Hokkaido นักท่องเที่ยวหลายต่อหลายคนมักจะแวะพักที่ Aomori ก่อนจะเดินทางไปต่อไปยัง Hokkaido ที่ Aomori  ก็เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ได้ผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่ 2  และได้รับการบูรณะกลับขึ้นมาอีกครั้ง Aomori มีแหล่งประมงและพื้นที่เกษตรกรรมที่อุดมสมบูรณ์ทำให้เป็นแหล่งผลิตผลิตภัณฑ์ทางด้านอาหารทะเล ข้าว และโดยเฉพาะที่นี่เป็นแหล่งปลูกแอปเปิ้ลใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 22:58:40

ความคิดเห็นที่ 2 ผมเดินทางจาก Sendai ประมาณหกโมงเย็น ด้วยขบวนรถไฟ SHINKANSEN YAMABIKO เพียงประมาณ 1 ชั่วโมงกับอีก 10 นาที ผมก็ถึงยังเมือง Hachinohe  เมืองเล็กๆ อยู่ในจังหวัด Aomori ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายของรถไฟสาย SHINKANSEN   ผมเดินลากกระเป๋าเดินทางอย่างอ้างว้างเล็กน้อยจากสถานีรถไฟไปยังที่พักซึ่งห่างไปไม่กี่สิบเมตร บรรยากาศรอบสถานีและในเมืองในช่วงเวลาประมาณสองทุ่มในวันอาทิตย์ ช่างดูเยือกเย็น เงียบ วังเวง ทำให้หวนคิดถึงบ้านในแถบต่างจังหวัดเล็กๆ ที่เวลาสองสามทุ่มก็ปิดบ้านกันหมดแล้ว ผมเดินผ่านสายลมเย็นๆ ในฤดูใบไม้ร่วง แต่กายของผมสัมผัสถึงความสบายๆ ไม่ถึงกับหนาวมากแต่ช่างชวนให้ใจเหงาเสียนี่กระไร และเข้าลงทะเบียนที่พักที่ Toyoko Hachinohe ซึ่งผมจะพักที่นี่ 2 คืน ผมได้รับการต้อนรับจากพนักงานอย่างดีพร้อมกับรับส่วนลด 30 % เนื่องจากได้สมัครเป็นสมาชิกล่วงหน้าไม่กี่วันมานี้เอง หลังจากเก็บกระเป๋าไว้ที่ห้องพักก็ออกไปนอกโรงแรม เดินสูดอากาศสดชื่นไปซื้ออาหารเย็นที่ร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตซึ่งเดินไปประมาณ 3 ไฟแดง ก็ได้อาหารกล่อง (Bento) หลายกล่อง พร้อมขนมอีกหลายอย่างกลับมา เนื่องจากว่าพรุ่งนี้จะนั่งรถบัสไปยังโตรกลำธาร Oirase แล้วตั้งใจว่าจะเอาอาหารนี้ไปกินกลางวันที่นั่น เนื่องจากไม่รู้ว่าจะหาอาหารแถวนั้นได้สะดวกหรือเปล่า จากนั้นก็เข้าที่พักนั่งเขียนอีเมล์ถึงเพื่อนๆ และนั่งสรุปค่าใช้จ่ายประจำวัน เช็คตารางการเดินทางไปเขา Hakkoda ที่ Aomori ด้วยการนั่งรถไฟ JR สายท้องถิ่นจาก Hachinohe แต่เช้าแล้วไปต่อรถบัสอีกครั้งที่ Aomori พูดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายประจำวันนั้น ผมตั้งค่าใช้จ่ายไว้ประมาณวันละ 10000 เยน (ราว 3600 บาท ) ซึ่งก็คือรวมค่าที่พัก ค่าอาหาร และ ค่าเดินทาง ซึ่งประสบการณ์การเดินทางมาญี่ปุ่นหลายครั้ง ค่าใช้จ่ายนี้เป็นค่าใช้จ่ายที่กินอยู่ได้ระดับปานกลาง ไม่ถึงกับต้องทนลำบากกินบะหมี่สำเร็จรูปหรือต้องนอนที่นอนแบบแคปซูลแต่อย่างใด ค่าที่พักสูงสุดที่ผมจองมาก็คือ 5000 เยน ต่ำสุดก็คือ 3000 เยน ซึ่งเป็นสถานหลับนอนได้สบายอย่างดี มีแอร์ มีฮีทเตอร์ ห้องส่วนตัว ไว้บริการ ซึ่งผมเอาไว้เฉลี่ยค่าใช้จ่ายไปมาสำหรับวันที่ใช้เกิน ส่วนอาหารที่ผมกินทั้งกลางวันและเย็นนั้น เฉลี่ยตกมื้อละ 500-800  เยน ก็เป็นอาหารอย่างดีมีสารอาหารครบ มีข้าว มีกับ มีซุป และเครื่องดื่ม วันไหนที่แทบไม่มีค่าใช้จ่ายในด้านการเดินทางก็นำไปเพิ่มในมื้อของอาหารที่ดูหรูขึ้นมาอีกนิด  ส่วนอาหารเช้าก็กินของโรงแรมซึ่งรวมอยู่ในค่าที่พักเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้าเทียบแล้วค่าใช้จ่ายระดับนี้ก็ไม่ต่างจากการเที่ยวในประเทศไทยที่หัวหิน ภูเก็ต หรือ พัทยาแต่อย่างใด จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 22:59:22

ความคิดเห็นที่ 3 วันรุ่งขึ้นผมตื่นขึ้นมารีบเช็คสภาพอากาศทางอินเตอร์เน็ต วันนี้จะมีฝนทั้งวันที่ Aomori แผนวันนี้ดังที่กล่าวไปแล้วว่าควรจะเป็นการเข้าไปในตัวเมือง Aomori เพื่อต่อรถไปยังภูเขา Hakkoda เพื่อขึ้นกระเช้าชมวิว ทำให้ผมนึกสับสนว่าจะทำอย่างไรดี แต่เมื่อหาเหตุผลในตัวเองได้ว่าเนื่องจากถ้าฝนตกจะทำให้การขึ้นกระเช้าคงอันตราย อาจเจอพายุแล้วตัวกระเช้าคงโยนตัวไปมา ก็เลยเปลี่ยนแผนทันที เอาโปรแกรมของวันถัดไปก็คือ โตรกลำธาร Oirase ขึ้นมาแทน   ผมลงมากินข้าวเช้าที่ห้องอาหารท่ามกลางแขกชาวญี่ปุ่นที่ลงมากินอาหารเช้าก่อนจะไปออกไปทำงาน ผมนั่งกินข้าวเช้าเป็นข้าวปั้นญี่ปุ่น และมิโซซุป พร้อมทั่งนั่งมองชีวิตผู้คนชาวญี่ปุ่นที่เตรียมตัวไปทำงาน ต่างคนต่างนั่งกินข้าวอย่างเป็นระเบียบ บางคนก็อ่านหนังสือพิมพ์ไป ไร้เสียงเอะอะโวยวาย รีบกิน รีบเก็บ แล้วไปทำงานทันที ดูเป็นระบบเหมือนป้อนโปรแกรมเอาไว้ ผมมีข้อมูลการเดินทางไปทำงานของคนญี่ปุ่นมาขยายอีกเยอะครับ ตอนการเดินทางของผมไปถึงโตเกียว ผมคว้ากระเป๋าที่บรรจุกล้องและเลนส์ แล้วเดินออกจากที่พักพลางมองดูท้องฟ้าที่ขมุกขมัวไปด้วยเมฆฝน ไปยังสถานี Hachinohe ในใจก็คิดว่าถ้าฝนตกจะทำอย่างไรดี แต่เมื่อ the show must go on ก็ต้องไปลุ้นเอาว่าจะแก้สถานการณ์อย่างไร การเดินทางวันนี้จะไปชมโตรกธาร Oirase  นั้นจะใช้เส้นทางเดียวกับการเที่ยวชมทะเลสาบ Towadako แต่ถึงก่อน ใช้เวลาประมาณ 1.15 ชั่วโมง พาหนะของการเดินทางในวันนี้คือรถบัส JR Tohoku สายวิ่งบริการระหว่างสถานี  Hachinohe และทะเลสาบ Towadako ส่วนค่าใช้จ่ายนั้นผมใช้บัตร JR Rail Pass แบบ Nationwide คือใช้เดินทางได้ทั่วประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นจึงสามารถใช้ขึ้นรถบัสที่นี่ได้ ดังนั้นค่าใช้จ่ายไปกลับระหว่างสถานี  Hachinohe และโตรกธาร Oirase ร่วม 3000 เยน ก็ไม่ต้องเสียแต่อย่างใด เพียงแสดงบัตร JR Rail Pass เพื่อให้พขร. บันทึกหมายเลขบัตรก็อันเป็นเสร็จพิธี ถึงเวลา 8.50 น.รถบัสก็ออกเดินทาง บนรถนอกจากผมแล้วก็มีนักท่องเที่ยวอีกประปราย เพราะวันนี้เป็นวันจันทร์ และมีนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยอีก 3 คนเป็นครอบครัว พ่อ แม่ และลูกชาย ซึ่งวางแผนมาเที่ยวเองเหมือนกัน ครอบครัวนี้จะไปลงทีทะเลสาบ ส่วนผมก็ลงที่โตรกธาร พวกเราคนไทยนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ หลังรถ  พลางมองออกไปนอกหน้าต่างว่าฝนจะตกเมื่อไหร่  เมื่อรถบัสขับออกจากเมืองแล้ว รถพาพวกเราผ่านบรรยากาศท้องทุ่งแห่งวิถีชีวิตเรียบง่ายของเกษตรกรชาวญี่ปุ่นไปตลอดทาง  ถึงแม้บรรยากาศจะสลัวเพราะเมฆฝน แต่บางครั้งก็ยังมีแสงอาทิตย์ลอดผ่านเมฆสาดแสงส่องลงมาเพิ่มความงามให้แก่ทิวทัศน์เป็นที่ประทับใจต่อนักท่องเที่ยวต่างถิ่นแบบพวกเรา จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 22:59:48

ความคิดเห็นที่ 4 รถบัสพาพวกเราไปตามเส้นทางประมาณ 45 นาทีก็เริ่มเข้าเขตวนอุทยาน ซึ่งสังเกตได้จากตลอดข้างทางที่รถผ่านไป เหมือนรถกำลังผ่านเข้าไปในอุโมงค์ป่าใบไม้เปลี่ยนสี ตลอดสองข้างทางเราจะเห็นต้นไม้ที่มีใบไม้หลากหลายสีไม่ว่าจะเป็นสีแดง สีเหลือง สีทอง สีเขียว หรือ ส้ม เป็นภาพที่น่ามหัศจรรย์เหลือเกิน ผมตื่นตาตื่นใจได้ไม่นานรถบัสก็พาผู้โดยสารมาถึงป้าย Yakeyama ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโตรกธาร Oirase ผมก็ล่ำราเพื่อนร่วมทางคนไทยและลงรถที่ป้ายนี้ทันที จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 23:00:18

ความคิดเห็นที่ 5 พอลงรถมาฝนก็ตกต้อนรับผมพอดี แถมลมยังแรงอีกด้วย ผมไม่ได้เอาร่มมาก็ได้แต่ยืนรอให้ฝนหาย และคิดอยู่ในใจว่าวันนี้คงถ่ายภาพได้ไม่มาก เพราะฝนคงตกทั้งวันแถมผมก็กลัวว่ากล้องจะเสียอีกด้วยถ้าโดนฝนหนักๆ แบบนี้ จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 23:00:39

ความคิดเห็นที่ 6 ราวกับฟ้าฝนจะได้ยินคำอธิษฐานของผม อยู่ดีๆฝนก็หยุดตก ฟ้าเริ่มเปิดแสงแดดเริ่มส่องลงมา ผมก็เริ่มทำเวลาด้วยการถามเจ้าหน้าที่ที่ Information Center โดยโชว์ภาพโตรกธารที่พิมพ์มาจากอินเตอร์เน็ตว่าอยากไปเที่ยวที่นี่ต้องเริ่มต้นอย่างไร เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าให้เดินไปอีก 1.4 กม. แล้วผมก็เริ่มเดินทางตามรอยโตรกธาร Oirase จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 23:01:08

ความคิดเห็นที่ 7 โตรกธาร Oirase เป็นลำธารไหลมาจากทางตะวันออกของทะเลสาบ  Towadako ที่ไหลผ่านเลาะเลี้ยวเข้าไปในหุบเขา ผ่านโตรกผา เกาะแก่งหินจนทำให้เกิดเป็นลำธาร เวิ้งน้ำ น้ำตกเล็ก น้ำตกน้อย ฯ  ตลอดระยะทาง 14 กิโลเมตร ซึ่งมีช่างภาพจากมากมายต่างพร้อมใจมาถ่ายภาพโตรกธารที่โอบล้อมไปด้วยใบไม้สีสันแห่งฤดูใบไม้ร่วง ผมเดินถ่ายรูปไปสักพักก็สังเกตว่าป้ายที่ผมลงรถคงไม่ใช่จุดถ่ายภาพแน่เพราะนอกจากไม่มีใครเลยนอกจากผมคนเดียว แล้วภาพที่เห็นตรงหน้าก็ไม่เหมือนภาพที่พิมพ์มาจากอินเตอร์เน็ต ผมก็เลยคิดว่าน่าจะนั่งรถบัสขึ้นไปอีกเรื่อยๆ เพื่อเป็นการสำรวจเส้นทางแล้วถ้าเจอตรงไหนที่มีบรรยากาศสวยๆ งามๆ ก็ค่อยจดชื่อป้ายรถบัสไว้แล้วย้อนกลับมาอีกที จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 23:01:32

ความคิดเห็นที่ 8 ฝนก็เริ่มตกลงมาอีก ผมขึ้นรถบัสต่อไปยังอีกประมาณอีก 3 ป้าย ตลอดทางก็เห็นลำธารทอดตัวไหลผ่านเกาะแก่ง และ ป่าเปลี่ยนสีอย่างตื่นตาตื่นใจ จากการนั่งรถบัสย้อนขึ้นไปสำรวจเส้นทางแล้ว ก็ได้ข้อสรุปว่า ป้ายรถที่ต่อจาก Yakeyama ขึ้นไปก็คือ Shimeikei,  Ishigedo และ  Makado Iwa  ที่ป้ายรถ Makado Iwa  มีจุดที่ถ่ายภาพโตรกได้สวยงามมากเพราะสายน้ำจะไหลแรงผ่านแก่งหินจะทำให้ถ่ายภาพออกมาแล้วสายน้ำจะสวยเหมือนแพรไหม ส่วนป้าย Ishigedo จะถ่ายภาพมุมกว้างของโตรกธารได้สวยกว่า ใจจริงผมอยากย้อนกลับมาลงป้าย Makado Iwa  แต่เนื่องจากฝนตกและลมแรงจึงไม่มีประโยชน์ที่จะกางขาตั้งกล้อง ก็เลยตัดสินใจนั่งรถบัสมาลงป้าย Ishigedo และจะเดินชมความงามของธรรมชาติท่ามกลางสายฝนย้อนกลับไปยังป้าย Yakeyama ป้ายรถที่ลงในครั้งแรก จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 23:01:55

ความคิดเห็นที่ 9 ถึงแม้จะเป็นการเดินเที่ยวชมลำธารเพียงแค่สองป้ายรถเมล์นั้น แต่เป็นการเดิน hiking กว่า 3 กิโลเมตรเลยทีเดียว ตลอดเส้นทางของลำธาร Oirase นั้นภาพที่เห็นจะเป็นสายน้ำที่ไหลผ่านป่าที่พร้อมใจกันเปลี่ยนสีของใบไม้ ถึงแม้จะมีฝนตกลงมาแต่ก็มิได้ลดความงามลงแม้แต่น้อย มีแต่เพิ่มความงดงามเนื่องจากเป็นความงามที่เต็มไปด้วยของกลิ่นอายของความสดชื่นที่สามารถสัมผัสได้จากประสาทรับรู้ทั้งห้า จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 23:02:23

ความคิดเห็นที่ 10 ผมเปิดฮูดหมวกที่ติดมากับแจ๊กเก็ตแล้วคลุมศีรษะจากนั้นก็เดินชมทิวทัศน์สองข้างทางคนเดียวแต่ไม่รู้สึกเงียบเหงา เพราะตลอดเส้นทางนอกจากเสียงลำธารที่ไหลหลั่งเปรียบเสมือนเสียงดนตรีบรรเลงร่วมกับสายฝนเป็นเพื่อนร่วมทางผมแล้ว ยังมียานพาหนะที่ขับผ่านไปมาลอดอุโมงค์ป่าเปลี่ยนสีทำให้ผมรู้สึกว่าไม่ได้รู้สึกว้าเหว่แต่อย่างใด มีเพียงความรู้สึกอย่างเดียวคือความหนาวเย็นที่เกิดจากลมและฝน อีกทั้งผมเปียกไปหมดทั้งตัว แต่มิได้ทำให้ผมยกเลิกความตั้งใจนี้แต่อย่างใด จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 23:02:54

ความคิดเห็นที่ 11 กว่าสองชั่วโมงที่เดินฝ่าสายฝนเดินชมพร้อมถ่ายภาพโตรกธาร Oirase ผมได้รับรู้ถึงวิถีของการสั่งใจให้รู้จักอดทนต่อดินฟ้าอากาศ ต้องต่อสู้กับความหิวเนื่องจากไม่มีที่ร่มให้แวะนั่งกินข้าวกลางวันซึ่งกว่าจะได้กินข้าว ก็ต้องมากินที่จุดพักของนักท่องเที่ยวที่ป้ายรถ Yakeyama ซึ่งก็เกือบบ่ายสองโมงแล้ว จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 23:03:23

ความคิดเห็นที่ 12 ประสบการณ์ครั้งนี้ของผมเป็นการเผชิญอุปสรรคที่ไม่ได้คาดหมาย ก่อนที่จะก้าวไปถึงจุดสิ้นสุดของการเดินทางในวันนี้  แต่สิ่งที่ได้มานั้นก็คือความงามของธรรมชาติยามใบไม้เปลี่ยนสีกลางสายฝน ที่ยังตราตรึงอยู่ในใจของผมจนยากจะลืมเลือน เราคงมีโอกาสพบกันอีกครั้ง...... Oirase Gorge   การเดินทางไปยัง Oirase Gorge :  จากสถานี  JR  Hachinohe Station หรือ JR  Aomori Station ให้นั่งรถบัส JR Bus for Towada-ko แล้วลงป้าย Yakeyama หมายเหตุ : ถ้ามีบัตร JR Rail Pass (Nationwide) สามารถใช้ขึ้นรถบัสนี้ได้ฟรี แล้วพบกันใหม่กับเพลงใบไม้ร่วงเพลงต่อไป : ถ้าหัวใจฉันมีปีก @ Towada Lake สวัสดีครับ จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 23:03:56

ความคิดเห็นที่ 13 เปียกๆ แบบนี้ก็ดูสวยไปอีกแบบนะคะ รอเพลงต่อไปค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 00:37:24

ความคิดเห็นที่ 14 ภาพสวยจังเลยนะคะ จากคุณ : minafiba เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 07:57:39

ความคิดเห็นที่ 15   สบายใจจังเลยค่ะ วันหลังมี รูป และ ความทรงจำสวยๆ อย่างนี้ เอามาโชว์อีกนะค่ะ ชอบค่ะ จากคุณ : เสือน้อย เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 14:27:22 A:118.172.204.76 X:

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณมากนะคะที่เอารูปและเรื่องมาแบ่งปันกัน แต่ว่าถ้าลดขนาดรูปลงนิดนึง ให้อ่านหน้าจอได้ง่ายๆ ไม่ต้องเลื่อยซ้ายขวา จะยิ่งชวนอ่านมากขึ้นค่ะ จากคุณ : scottie เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 23:21:10

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : จิตเดิม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 01:05:04

ความคิดเห็นที่ 18 ชอบมากเลยครับ จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 52 11:35:45