ความคิดเห็นที่ 1 อันภาพนี้ พลอยใช้ มาหลายครั้ง แสงแรกหวัง เห็นหัวใจ ใครมีส่วน เป็นทะเล นิ่งใส ใช่เรรวน อย่าว่ากวน ใจพลอยขัง เค็มจังเลย ที่ขังอยู่นั่นเค็มแน่ๆ ไม่เชื่อคุณหนุ่ยชิมดูสิครับ แซวภาพข้างบนนั้น จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 16:39:17

ความคิดเห็นที่ 2   "o-o จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 17:06:03

ความคิดเห็นที่ 3 เพื่อยืนยัน มีอีกภาพ กำซาบลิ้น จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 17:12:12

ความคิดเห็นที่ 4 ไพรชอุ่ม อุ้มดวงใจ คลายร้อนรุ่ม ภมรรุม เร้าเกสร เกราะป้องหนาว ลมเจ้าชู้ วสันต์สาด จบเรื่องคาว กลิ่นไอสาว อบอวล กำจรกำจาย เพลา เพ-ลา ผันผวน ใยต้องสะท้าน ลมสมาน แผลรัก บาดเจ็บย่อมหาย เหมันต์ย้อม ความทุกข์เศร้า พัดเหงาคลาย ระทมใจ รักป่วยไข้ หายยั่งยืน เจ้าคิมหันต์ ไตรมาส ชลอยึดติด ขจัดความคิด พินิจ สานสดชื่น สายชลเย็น เย็นเช่นใจ เคียงขวัญยืน รันทดไม่ฟื้น หวนกลับ รังควานนวล จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 17:21:51

ความคิดเห็นที่ 5 แสงจันทร์ส่องฉายอาบทุกคราราตรี เรวดีพาหวนไห้ขาดคู่สร้าง เพียงมิตรแท้พี่ค้างคาวคอยปีกกาง ร้างคู่หมดทางสิ้นหวังจบภิรมย์ จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 17:37:31

ความคิดเห็นที่ 6 "ริมฝั่งน้ำ ริมฝั่งครวญ" ให้ชวนฝัน ใจเดียวกัน ใจจึงหวน ทวนความหลัง ใจเดียวกัน ใจจึงหวน ทวนภวังค์ อยู่ริมฝั่ง ใจยังครวญ  ถึงนวลนาง.. อ่านกระทู้แล้ว เยี่ยมยอดเหลือเกิน จนอดใจไม่ไหว.. แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 52 16:01:24 จากคุณ : นักแต้ม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 20:00:35

ความคิดเห็นที่ 7 ริมฝั่งนั่งเล่นเช่นฝั่งครวญ คะนึงหวนถึงเธอเพ้อหนักหนา คนที่รักรักยิ่งต้องจากลา ขอฝั่งน้ำผ่านมาเป็นพยาน ว่าริมฝั่งน้ำนี้มีความหวัง เธอคืนยังถิ่นเดิมซึ่งถิ่นฐาน แม้นจะพรากจากไกลมิเนิ่นนาน ความร้าวรานจะไหลไปกับน้ำเอย.. จากคุณ : จิตเดิม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 22:56:08

ความคิดเห็นที่ 8 ริมฝั่งน้ำ ภาพทบทวน คราน้องเหย้า ภาพสองเรา เงาซ้อนคู่ น่าอิจฉา จักรยาน น้ำต๋อมแต๋ม ถอดบาจา เสน่หา ณ.ริมฝั่ง นิยามครวญ ริมฝั่งน้ำ คราขาดน้อง ฟ้องภาพใหม่ เพื่อนคู่ใจ คู่คันเบ็ด เหยื่อฉนวน เจ้าพรานเบ็ด ไร้วิญญาณ สร้อยซิวกวน อกปั่นป่วน คนึงนิตย์ เพ้อพรรณา แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 52 23:31:18 จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 23:17:40

ความคิดเห็นที่ 9 ริมฝั่งน้ำฟากนี้เห็นฝั่งโน้น กลับไกลโพ้นเชื่อมใจยากหนักหนา ฝั่งนี้ครวญหวนไห้อาลัยลา ฝั่งโน้นหาหัวใจไม่เห็นมี สองฟากฝั่งฝังใจไว้ริมน้ำ ยังเจ็บช้ำใจเตือนไม่เลือนหนี น้ำตาหลั่งเป็นสายคล้ายนที ปริ่มไหลปรี่เปรียบดั่งริมฝั่งครวญ มาเยี่ยมคุณพลอยธนาค่ะ.. แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 52 10:54:33 จากคุณ : คุณแม่ใจดี เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 10:29:52

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ , พี่ ๆ ทุกท่านค่ะ ขอขอบคุณ สำหรับ คะแนน และ ถ้อยคำทักทาย และบทกลอนนะคะ ... คุณ แสงแรก ประดับดิน,คุณ D_AkIrA,คุณ  สิริชน,คุณ คนสาธารณะ, คุณ นักแต้ม,คุณ tudong,คุณ จิตเดิม,คุณ black in black ......................................................... คุณแสงแรก ประดับดิน คะ ... ภาพที่พลอยหามานั้น พลอยพบโดยบังเอิญค่ะ เป็นทะเลสาปรูปหัวใจ ที่เขาว่า "ว่ามีจริง" ค่ะ แต่พลอยก็ไม่ทราบค่ะว่า มีจริงไหม ? ยังมิได้ค้นข้อมูลค่ะ พลอย "ชอบ" ภาพนี้ค่ะ เลยนำมาแต่งกลอนประกอบไว้หลายบทค่ะ ... ... น้ำทะเลเนี่ย ต้อง "เค็ม" ค่ะ มิอย่างนั้นก็ไม่ใช่ทะเลสิคะ จริงไหม ? ... แต่ ใจพลอยน่ะ มิเค็มอย่างน้ำทะเลค่ะ แต่รสชาติเป็นอย่างไรนั้น ตอบไม่ถูกจริงๆ เพราะว่า พลอยก็ไม่เคยชิมใจตัวเองซะด้วยสิคะ 555 ... (แซวเล่นนะค๊า .. ) ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยมเยียนและทักทายพลอยค่ะ ... ......................................................... คุณ thedarkknight คะ ... ขอบคุณมากค่ะ สำหรับ มาตรฐาน ม อ ก ที่มอบให้เป็นการรับรองคุณภาพ ของกระทู้ค่ะ ... 555 ... ......................................................... คุณ ท่าราชวงศ์ คะ ... ขอบคุณค่ะ ที่เป็นแฟนคลับประจำ ที่ยกตำแหน่ง "ยอดขยัน" ให้เลยล่ะค่ะ หวังว่า กระทู้นี้จะไม่มีการแบ่งชนชั้นวรรณะกันนะคะ ...555... ......................................................... นักแต้ม คะ ... ขอบคุณค่ะ ที่มาเยี่ยมเยียน กระทู้ และบทกวีอันแสนไพเราะค่ะ ......................................................... คุณ จิตเดิม คะ ... ขอบคุณค่ะ ที่มาเยี่ยมเยืยน กระทู้ และ บทกวีอันแสนไพเราะค่ะ ......................................................... คุณแม่ใจดีคะ ... ขอบพระคุณคุณแม่มากค่ะ ที่กรุณามาเยี่ยมเยียนกระทู้พลอยค่ะ บทกวีของ คุณแม่ ไพเราะเสมอเลยค่ะ พลอยติดตาม แต่อาจไม่ค่อยได้แสดงตัวค่ะ ... ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ คุณแม่ ... ......................................................... จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 12:49:09

ความคิดเห็นที่ 11 ยามล่องเรือ เหนือน้ำ อันล้ำหลาก....................จำจรจาก ชานเรือน เคลื่อนไกลฝั่ง คลื่นทัมถม ลมแสร้ง แย้งประดัง.....................หมายหยุดยั้ง  เส้นทาง ขวางแรมรอน น้ำเชี่ยวเหนือ เรือน้อย ลอยลำล่อง..................กายใจพร่อง  กำลัง ดังสังหรณ์ คลื่นอารมณ์ ตรมกระหน่ำ  พร่ำอาวรณ์.............หมายถอดถอน ปีกฝัน อันโสภา ปีกเสรี รี่ถลา มาเผยโฉม...............................คล้ายจู่โจม โหมเหิม ประเดิมหา อิสระ ระฟ้าฟื้น คืนวิญญา..............................ลิ่งเริงร่า คลุมเวหาส ภาสกร เธอบินล่อง ท่องไป ในโลกกว้าง.....................อย่างสรรค์สร้าง จินตนา  ศรัทธาสรณ์ แรงหนุนเนื่อง เฟื่องพลัง หวังอาทร..................ดับแล้งร้อน ผ่อนล้า  สารพัน ได้รู้สึก  ลึกเร้น ที่เป็นอยู่..............................จึงเฝ้าดู ห่างห่าง ตามทางฝัน ผู้แกร่งกล้า ล้าแรง อย่าแกล้งกัน....................ต้องบุกบั่น ฟันผ่า มุ่งหน้าไป ขวัญเสรี ที่เห็น และเป็นอยู่............................พึงรับรู้  ถ้อยบรรจง อย่าสงสัย ท่วงทำนอง ร้องบรรเลง เพลงอุ่นไอ.................ยังวนเวียน เคียงใกล้ ไม่เปลี่ยนแปร ปีกเสรี รี่ถลา อย่าหยุดยั้ง..............................แม้นผิดพลั้ง เหนื่อยล้า อย่าท้อแท้ เสียงรำพึง หนึ่งห้วง ช่วงดวงแด......................ยังเหลียวแล โอบอุ้ม คอยคุ้มครอง ลอยร่วมทาง กลางทะเล อันเหว่ว้า...................ข้ามเวลา ทุกข์ระทม ตรมทั้งผอง ส่งเธอสู่ จุดหมาย ที่หมายปอง.......................ตามครรลอง ปีกฝัน อันเสรี จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 12:50:11

ความคิดเห็นที่ 12 ล่องเรือน้อยกลางบึงใหญ่อนุทิน ฤทัยถวิลจิตติณพูนสุข กลางบึงน้ำชลอเลื่อนเคลื่อนภิมุข ผิวน้ำคลึงคลุกระวางธารสวรรค์ สายน้ำเอยเจ้าอารีย์หรือหลอกลวง สินธุ์ทั้งมวลคุณอนันต์โทษมหรรณ์ เชี่ยวกรากล่มเรือราบเรียบเอื้อรังสรรค์ คำวิจารย์ภัยน้ำหลากมากน้ำใจ จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 18:28:39

ความคิดเห็นที่ 13 (เพลงขวัญใจ) บุญนำพา วาสนาพบพลอย มณีสาวน้อย เปี่ยมความเมตตา สนามอักษร ลานกวีคุณค่า นามพลอยธนา ไม่ผิดฝาผิดตัว ขวัญใจ ทำบุญด้วยสิ่งใด ครบครันวิไล ปราศปัจจัยหมองมัว อำนวยพร แสงพลอยไร้กาลสลัว เจิดจรัสถ้วนทั่ว มวลหมู่มิตรกวี แม่เอยงามจริง งามเหนืออื่นใด ธำรงคลั่งไคล้ คำบรรยายเทพี ป่าดงพงไพร งามภาพสรรหาทุกที่ ป่านฉะนี้ คนดีรันรอนถิ่นใด จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 20:49:52

ความคิดเห็นที่ 14 ริมฝั่งน้ำ นำแลฉ่ำ ลำน้ำใส สานฤทัย ผสานลาน ฉานธารสรวง ริมฝั่งน้ำ ฉ่ำชุ่มพันธุ์ แพรวพรรณปวง สานใจล่วง ห้วงน้ำกัน ปันน้ำใจ ริมฝั่งครวญ ชวนคร่ำ ลำนำกลอน ละอาวรณ์ ย้อนอดีต จิตข้องไข ริมฝั่งครวญ หวนเรื่องร้อย ลอยน้ำไป ซ่านฤทัย ใสเย็นผ่อง ล่องฝั่งครวญ จากคุณ : black in black เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 10:48:32

ความคิดเห็นที่ 15 ... ริมฝั่งน้ำ ... พรำชอุ่ม ... สุมทุมไม้ ... ธารลุ่มล้ำ ... ฉ่ำไล้ ... น้ำใจเด่น ... ฤดูกาล ... สานจริง ... สิ่งที่เป็น ... ให้พบเห็น ... เช่นภวังค์ ... ริมฝั่งใจ ... จากคุณ : D_AkIrA เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 18:00:40

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ , พี่ ๆ ทุกท่านค่ะ คุณ ท่าน้ำ คะ ... ขอบคุณมากค่ะ สำหรับ บทกลอน และเพลง ที่แต่งให้อย่างสม่ำเสมอค่ะ ... ซึ้งใจจริงๆ นะคะ คนขยัน 555 ..  ว่าแต่ตั้งชื่อ อัลบัม ได้ยังคะเนี่ย (แซว 55.. ) ......................................................... คุณ black  in black คะ ... ขอบคุณค่ะ สำหรับบทกลอน และการเียี่ยมชมกระทู้ ค่ะ ......................................................... คุณ D_AkIrA ... ภาพสวยมาก คำกลอนคุ้นๆ แฮะ อยากไปจริงๆ เลยนะ สถานที่นี้น่ะ ... 555 ... ......................................................... แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 52 20:21:14 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 20:11:52

ความคิดเห็นที่ 17 มาต่อภาคจบ ของบทกลอน คคห.11 ค่ะ ...................................................... เหนือน่านน้ำ  ฉ่ำซึ้ง ถึงน่านฟ้า.............โอบโลกหล้า ธราดล ท้นสักขี เกลียวคลื่นโหม โถมถา สิ้นปราณี.........ไร้ฤทธี ปาฎิหาริย์ ฤาต้านทัน ลอยลำเวียน เพียรล่อง ท่องสมุทร........บ้างยื้อยุด ฉุดกระชาก วิบากฝัน บนเส้นทาง กางก้ำ น้ำ - ตะวัน.............คืนประหวั่น  เหลื่อมล้ำ น้ำ - จันทรา มิร้องขอ มรสุม  ยังรุมรุก....................มิร้องทุกข์  ปลุกใจ ใคร่โหยหา มิคร่ำครวญ พรวนพร่ำ เจ้าน้ำตา............มิถือสา อุปสรรค ทั้งหนักเบา แต่ร้องขอ คลอสำเนียง เคียงไหล่บ่า.....แนบอุรา  ยาใจ ยามไกลเหงา พร้องสัมผัส  หัตถา  พาทุเลา...............ยามโศกเศร้า หันไป หาใครเจอ แม้นเขตแดน แค่นดัก กักกันไว้............ด่านแคว้นใด หว่านล้อม อย่าน้อมเผลอ ดังหัวใจ เสรี ที่เป็นเธอ.......................ช่างเลิศเลอ ศักดิ์ศรี ที่โบยบิน บินข้ามคืน ขื่นขวัญ วันแปลบปร่า..........ซุกเมฆา ยามเหนื่อย เนือยโผผิน โฉบฉายเดี่ยว เพียวเพลิน  เกินชาชิน.....สู่แดนดิน ถิ่นใหม่ ดังใจจร บินข้ามวัน ฝันร้าย  กระหายคลื่น...........เรือแตกตื่น โคลงเคลง  เร่งลืมหลอน ค้านรู้สึก ลึกร้าง บางช่วงตอน...............ฝ่าลุ่มดอน มรสุม ซุ่มหลบภัย แห่งแดนสรวง ห้วงขวัญ มหรรณพ.........สุดบาดาล ใต้พิภพ  ลบลวงไหล สู่ทิศทาง ย่างก้าว  อันยาวไกล.............แด่ดวงใจ ปีกฝัน อันเสรี จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 20:15:12

ความคิดเห็นที่ 18 หลับตา ลอยเรือ เหนือคลื่นล้า จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 22:09:42

ความคิดเห็นที่ 19 หลับตา  ลอยเรือ  เหนือคลื่นล้า คลื่นหวน  คลื่นซ่า น่าหวาดเสียว เรือจ้าง  พังผุ  ล่องดายเดียว หมดแรง  หมดเรี่ยว  ใครฤๅล้า ปองใจ  ชื่นชู  เรือจ้างบ้าง พายงัด  พายง้าง  อนาถา เยาว์ชน เยาว์มาลย์  ครุณา ขาดท่า ขาดฝั่ง  เรือล่มจม แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 52 12:42:47 จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 12:37:36

ความคิดเห็นที่ 20 (เพลง เลือกรักผิดคน) ขวัญเอ๋ย ขวัญอย่ากระเจิงเลยหนอ ทรวงอกพี่แกร่งพอ ขอปกป้องน้องสาว มรสุมใดใด มิอาจทำร้ายขวัญข้าว ตราบที่พลอยพราว มั่นใจซบทรวงพี่ยา เลือกรักผิดคน หน้ามลจำทนกลัดหนอง กิ้งก่าได้ทอง คนรักน้องช่างไม่ประสา ไก่แจ้ได้พลอย จิกไปก็กร่อยไร้ค่า ป้อรักขาดศรัทธา น่าเวทนากระไรเช่นนี้ ขวัญเอ๋ย ขวัญพลอยจะรู้ไหมเล่า พี่ปวดร้าวเหงาเศร้ามานานนับปี หญิงขอควงแขน สมัครเป็นแฟนเคียงพี่ พี่ชายคนนี้ ไม่ยินดีเพราะมีใจรักเดียว จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 12:55:44

ความคิดเห็นที่ 21 กลับมาแล้วค่ะ..   คิดถึงทุกๆท่านจริงๆ.... หายไปหลายวันเลย  เพราะติดภารกิจสำคัญ ไม่รู้มาช้ารึเปล่า?..กับกระทู้ใหม่แสนไพเราะของท่านเจ้าของกระทู้.. ไม่ว่ากันนะจ๊ะเพื่อน.... ...ฟ้าครามแจ่ม  แย้มกว้าง  กางปีกโอบ เมฆคลอซบ  กลบขุนเขา  พราวนวลแสง ทะเลนิ่ง  อิงทรายขาว  ราวสิ้นแรง เงาเมฆแฝง  แต่งผืนน้ำ  รำระเริง..                                         ปลายแหลมยื่น  คลื่นลืมปลุก  ลุกไม่ไหว                                         ลอยคอไล้  คลายงานหนัก  ยากยุ่งเหยิง                                         ทั้งๆแค่  ดูแลคลื่น  ให้รื่นเริง                                         หากคลื่นเหลิง  ระเริงแรง  ต้องแย้งเลย.. ทรายแก้วเงียบ  เรียบร้อย  ดูหงอยเหงา น้ำคลอเคล้า เฝ้าเคียงข้าง  ก็ยังเฉย โกรธไรเหรอ?..เอ้อระเหย  ทำเฉยเมย ไม่เปิดเผย  เฉลยคำ  น้ำงงงัน..                                         ต้นไม้ไหว  ใบขยับ  รับลมหนาว                                         บอกเรื่องราว เล่าขานวันสุขสันต์                                         ธรรมชาติ  สดใสซับ  รับเหมันต์                                         เริ่มฤดูกาล  วันใหม่  ใต้ฟ้าคราม............. บรรยายตามความรู้สึกที่มาจากภาพข้างล่างนี้จริงๆค่ะ.. แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 52 13:41:34 จากคุณ : สิริชน เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 13:30:23

ความคิดเห็นที่ 22 สวัสดีค่ะ คุณแสงแรก ฯ - ขอบคุณมากค่ะ ที่แวะมาเยี่ยมเยียนกระทู้อีกครั้งค่ะ ... หลับตา ลอยเรือ เหนือคลื่นล้า ... ธารา หลั่งไหล ไม่สิ้นสุด ... ลืมตา ลอยเรือ ดั่งยื้ดยุด ... จ้ำรุด ห่างท่า เป็นอาจิณ ......................................................... สวัสดีค่ะ คุณท่าน้ำ - รับทราบค่ะ ครบ 12 เพลงเมื่อไหร่ ค่อยตั้งชื่ออัลบัมค่ะ ขาดเสียงคนร้องน่ะ เพลงเริ่มเยอะค่ะ เลยมึนๆ นิดหน่อย ถ้ามีทำนอง เสียงร้องประกอบ คงจะ หายมึนได้บ้างค่ะ        ... ทำไงดีเอ่ย ? ... ... สาวมากมาย รายล้อม พร้อมควงแขน พ่อขุนแผน ฤาเลี่ยง บ่ายเบี่ยงหนี แต่ละนาง พร่างพิศ อิสตรี งามโสภี หรือพี่ นี้เกี่ยงงอน ... ... เฝ้าหว่านล้อม ดอมพร่ำ ดั่งหยดหยาด จงใจราด เสน่หา มาหลอกหลอน ชั้นเชิงขั้น อันตราย หมายบังอร จึงกวาดต้อน ... แมลงเม่า ... เข้ากองไฟ     ......... กันละค๊า คุณท่าน้ำ ......................................................... แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 52 13:36:35 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 13:35:10

ความคิดเห็นที่ 23 แมลงเม่า เข้ากองไฟ นั้นตัวพี่ ชีพพลี สละแก่ เสน่หา หมายบังอร แน่แท้ พลอยธนา มุ่งมั่นฟันฝ่า ด่านหิน ไม่เกี่ยงงอน ดวงฤดี ย่อมรู้ด้วย กระแสจิต กามนิต วาสิฏฐี ละครสอน เจ้าพลายแก้ว เล่ห์เจ้าชู้ ผิดขั้นตอน อุทาหรณ์ จินตนา แนวรักใด 555 จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 15:15:52

ความคิดเห็นที่ 24 คุณท่าน้ำคะ ... พลอยลงท้าย ด้วย "เอย" แล้ว ถ้าจะต่อ คงต้องเปิดประเด็นใหม่แล้วนะคะ ... หวานซะขนาดนี้ เจอ "ขุนแผน" ตัวจริงซะละมั๊งเนี่ย ... แซวเล่นนะค๊า ..................................................... .... ให้พลีร่าง กลางเพลิง เปิงร้อนรุ่ม ก่อฟืนสุม วายวอด จนมอดไหม้ อันโบราณ ท่านว่า อย่าเล่นไฟ ดั่งดวงใจ ใครหวาน แท้ถ่านดำ ... ...  เกิดเป็นหญิง จริงแท้ รังแกง่าย คำเท็จชาย คลายชื่น คงขื่นขำ ลวงล่อหญิง ลิงหลอก เจ้าประจำ จมน้ำคำ คงสำรัก กระอักเอย ...     *** เอย นะ คุณท่าน้ำนะ *** ..................................................... คุณหนุ่ยจ๋า ... เดี๋ยวรอถึงบ้านก่อนน๊า จะมาตอบแบบ "หวาน" เลยจ้า ... 55 .. แต่ถ้า ช่วงนี้ว่าง ช่วยจัดการ "ท่าน้ำ" ให้หน่อยสิ .. สู้ไม่ไหวอ่ะค่ะ ..................................................... แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 52 16:18:17 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 16:16:55

ความคิดเห็นที่ 25 กลอนเพราะ ภาพสวยจริง ๆ ค่ะพี่พลอย แอบมาบอกว่าคิดถึงมากมายเจ้าค่ะ หวังว่าไอซ์คงไม่ได้มาช้าไป แหะ ๆ กองหนังสือกำลังจะทับไอซ์แบนอยู่แล้ว เลยต้องแอบหนีมาเติมความอบอุ่นให้หัวใจก่อน ริมฝั่งน้ำ เคยพร่ำรัก พักหัวใจ อิงแอบไอ อุ่นละมุน หนุนตักหอม เอ่ยคำรัก หวานล้ำ ลำนำกล่อม หมายเด็ดดอม หัวใจรัก มาพักเคียง ริมฝั่งครวญ หวนไห้ อาลัยรัก อนาถนัก รักหวาน เลือนหายเกลี้ยง ที่เคยพร่ำ คำรัก เคยร้อยเรียง ก็แค่เพียง ลวงให้รัก จนช้ำทรวง จากคุณ : ดอกไม้ป่า (Argent) เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 20:06:40

ความคิดเห็นที่ 26 สวัสดีค่ะ คุณหนุ่ย ... มาแล้วล่ะค่ะ ...                  ... มองชม้าย ซ้ายขวา หน้าไม่เห็น    การละเล่น  "พื้นบ้าน"  ลนลานหา    เดินรั้งแถว แนวหลัง ตั้งใจช้า    ชำเลืองหา ขวาซ้าย  แมกไม้บัง ...                   ... โยนหินถาม ตามทาง รึว่างเปล่า !?!    หินไร้ร้าว ขาวงาม ถามไม่ขลัง    จะตะโกน โหนเสียง เอียงอายจัง    เป่าปากพลั้ง ดังก้อง พ้องสำเนียง ...                    ... "จู้ฮุกกร ... จู้ฮุกกรู "... อยู่ไหนหนา ?    สาลิกา  ป่าดง   คงยินเสียง    เล่น "ซ่อนหา" ทีไร ไร้คอนเคียง    มีคนเลี้ยง ใหม่แล้ว เจ้าแก้วไกร !?! ...                   ... เดินทอดน่อง ย่องเบา หมายเย้าเล่น    มัวซ่อนเร้น เล่นแง่ อยู่แควไหน ?    แวะมาเยือน เพื่อนจ๋า ช้าอยู่ใย    หนีเที่ยวไกล หรือแกล้งให้ "จู้..ฮุก .. กรู" !?! ... ............................................................. สวัสดีค่ะ น้องไอซ์... - แค่แวะมา พี่พลอยก็ดีใจมากแล้วล่ะค่ะ และยินดีถ้าเข้ามาในกระทู้แล้ว "อบอุ่นหัวใจ" จ๊ะ ............................................................. แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 52 20:51:36 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 52 20:42:53 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 20:42:12

ความคิดเห็นที่ 27 ... เดินทอดน่อง ย่องเบา หมายเย้าเล่น   มัวซ่อนเร้น เล่นแง่ อยู่แควไหน ?   แวะมาเยือน เพื่อนจ๋า ช้าอยู่ใย   หนีเที่ยวไกล หรือแกล้งให้ "จู้..ฮุก .. กรู" !?! ... 555 ... จากคุณ : D_AkIrA เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 21:04:44

ความคิดเห็นที่ 28 มาตอนดึกยังไม่สายนะจ๊ะ.... ไม่ได้ไปไหนไกลเลย  อยู่ใกล้ๆพลอยเอง  เห็นอะไรๆ..รำไรๆ..ด้วย.. อยู่นี่จ้ะ  มาแล้ว แก้วตาเพื่อน คล้ายๆเหมือน เตือนหยิก จิกกัดเน๊อะ หายไปนิด ติดภาระ จริงนะเธอ กลับมาเจอ คนเพ้อ เฮ้อ...กลุ้มใจ..  (ไม่ได้หมายถึงพลอยนะ)                                  งอนแล้วนะ คุณท่าน้ำฯ ไม่ถามหา                                  แค่หายหน้า สี่ห้าวัน พลันสงสัย                                  จ้ำเรือหลง  โค้งหาย ไม่คัดพาย                                  ช่างใจร้าย  ซ้ายขวา ไม่พาที.. คุณท่าน้ำฯคะ  คุ้งน้ำน่ะ คดเคี้ยวเลี้ยวลดนะคะ.. เดี๋ยวพาเรือไปไม่ถึงท่าน้ำนะ.. จากคุณ : สิริชน เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 23:51:10

ความคิดเห็นที่ 29 บรรยายตามภาพข้างล่างค่ะ..... ฝากให้ใครบางคนค่ะ ท่าน้ำเหงา กลางเงาหมอก ละลอกขาว หมอกบางเบา หนาวสะท้าน  สะพานหมอง ทุกสิ่งเงียบ เลียบริมน้ำ  ฉ่ำละออง ทุกสิ่งผอง  พ้องรับ  กับการคอย..                                  ผืนน้ำนิ่ง ไม่ติงไหว  คล้ายยังหลับ                                  ย้ำสำทับ  กับผืนเงา ที่เหงาหงอย                                  กิ่งไม้ใบ  ไม่เคลื่อนไหว คล้ายสำออย                                  การรอคอย  ช่างหงอยเหงา เศร้าใจจัง......เฮ้อ.. เหงา....เหงา....เหงา....หงอย....หงอย....หงอย.... จากคุณ : สิริชน เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 00:42:49

ความคิดเห็นที่ 30 ขอใช้สิทธิ์ถูกพาดพิงใน คคห.# 1 หน่อยนะคะท่านเจ้าของกระทู้.. ภาพนี้น่าจะใช้ชื่อว่า..แสงแรก..ประทับน้ำ..ประดับทรายนะคะ คุณแสงแรกฯ.. กลอนบทนี้มอบให้คุณแสงแรกฯ พยานรักแห่งท้องทะเลนะคะ..                                                ...ฟองฟูฟ่อง ต้องแสงแรก แทรกเนื้อน้ำ                                                คลื่นโถมตาม ทรายงามผ่อง สีทองใส                                                น้ำทะเล  เห่กล่อม  ล้อมกอดทราย                                                กระซิบอาย.. ทรายจ๋า...มากอดที.. เมื่อคืนน่ะ..ทรายจ๊ะ.. ละเมอเหรอ?.. เห็นทรายเผลอ เพ้อถาม น้ำนะนี่ กลางคืนน้ำ แค่ลามไล้ ทรายรู้ดี กระเพื่อมคลี่ ขยี้เ้ย้า แค่เบาบาง..                                               ไหงทรายถาม น้ำรักน้อย ถอยลงเหรอ                                               เพิ่งรู้เน๊อะ  ทำละเมอ เพ้อขึงขัง                                               แค่กลางคืน คลื่นเบาไป ไหงบึ้งจัง                                               เดี๋ยวรุ่งสาง จะถั่งโถม โหมแรงๆ.. ...แสงอรุณ หนุนเตือน เหมือนรู้เห็น คล้ายดั่งเป็น เช่นพยาน ฉานส่องแสง น้ำซัดสาด หาดทรายเจ้า เย้ารุนแรง น้ำ-ทราย-แสง  แจ้งประจักษ์   น้ำรักทราย.... อาจเป็นเพราะหนุ่ยเป็นคนรักธรรมชาติมั้งคะ..บทกวีฯ เลยออกจะวนเวียน อยู่แต่กับ ..สายลม..แสงแดด..ขุนเขา..เงาหมอก..ละลอกคลื่น..ผืนน้ำ... ฟ้าครามใส..ไพรพฤกษ์...ประมาณนี้ล่ะค่ะ  และทุกสิ่งทุกอย่างนั้นต่างมอบ ความบริสุทธิ์ และ ความรักให้กันและกันเสมอมานะคะ  คุณแสงแรกว่ามั๊ย? อุ๊ย...รู้สึกจะทำตัวแอบแฝงเป็นเจ้าของกระทู้เองซะแล้ว.. ขอโทษนะคะ ท่านเจ้าของ..อิอิ.. แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 52 03:04:38 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 52 02:32:37 จากคุณ : สิริชน เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 02:27:19

ความคิดเห็นที่ 31 ซึ้งใจเรา เท่าฟองคลื่น มารื่นหาด เข้ามาวาด ศิลป์สวย ด้วยแสงหวัน เหมือนนกยักษ์ หัดบิน อยู่ทั้งวัน ปีกคลื่นนั้น เชื่อมแสงแรก แทรกถึงใจ แต่งสดได้เท่านี้เองครับ จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 08:22:28

ความคิดเห็นที่ 32 จะบอกว่าแสงแรกตั้งกระทู้ชวนดูดาวตกกลางเดือนนี้ ชอบนอนดูดาวด้วย ถ้าฝนไม่ตก จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 08:36:45

ความคิดเห็นที่ 33 มาทักทายตอนเช้าค่ะ ... เพื่อนๆ ... เพื่อนหนุ่ยจ๋า ขอบคุณมากเลยจ้า ที่มาเป็นแนวร่วม เมื่อคืนนอนดึกนะเนี่ย ระวังเป็น "หมีแพนด้า" นะจ๊ะ ... ขอบคุณมากมายเลยค่ะ ...  // หวานได้มิต้องยั้ง ให้หนุ่มๆ แถวนี้ หัวใจละลายไปเล๊ย ... ขอบคุณจริงๆ ค่ะ// ......................................................... ... คุณแสงแรก ฯ คะ ขอบคุณมากๆ เช่นกันค่ะ ... ดีนะที่มีคุณหนุ่ยมาช่วยเติมความหวานให้ เพิ่งจะเห็นคุณแสงแรกหวานนะเนี่ย (แซวเล่นนะคะ 55 ...)... ขอบคุณอีกครั้งค่ะ // ......................................................... ... สำหรับคุณ ท่าน้ำ อย่าน้อยใจนะคะ  วันนี้จะมีกลอน หวานหรือเปล่าไม่รู้ มาฝากเพื่อนๆ นะคะ แต่รอหน่อยนะ สำหรับเรื่องเพลงนั้น พลอยแซวเล่น นะคะ ... ครบอัลบัมเมื่อไหร่ แจ้งชื่ออัลบัมด้วยค่ะ ... ......................................................... ทำงานก่อนนะคะเพื่อนๆ   จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 09:00:24

ความคิดเห็นที่ 34 แสงแรกหวานสม่ำเสมอแหละ อย่าทำให้เขินสิ เอาหัวใจไปไว้ใกล้ทะเล มันจะหวานได้อย่างไร ทะเลหนะเค็ม เอ้า เลี้ยงก๋วยเตี๋ยวครับ จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 11:03:08

ความคิดเห็นที่ 35 (เพลง บอกพลอย) เจตนาดี บอกพลอยรับรู้ไว้ก่อน สมองไหลรวมเป็นก้อน ไม่ปลิ้นปล้อนลวงใคร อ่อนโยนสุภาพ ใครพบเป็นต้องปักใจ นั่นไชยามิตรชัย แยกไม่ได้พิมพ์เดียวกันเลย เจตนาดี บอกพลอยรับรู้ไว้ก่อน สนใจต้องรีบตัดตอน อย่ายอกย้อนเมินเฉย แม่ยกทั่วหล้า ศรัทธาเป็นกิ๊กเหมือนเคย บางรายให้เป็นลูกเขย กินนอนเฉยเฉยนิยาม เจตนาดี บอกพลอยรับรู้ไว้ก่อน โฟมดมาออดอ้อน ง้องอนชวนเต้นระบำ ทาทายังเก้อ อี๊ฟ อั้ม ขยันเดินตาม หนักใจประจำ ไม่ยอมรับคำโดยไม่มีใจ เจตนาดี บอกพลอยรับรู้ไว้ก่อน ฐานะเศรษฐีบางซ่อน มีสมบัติมากมาย ที่ใต้ทางด่วน ประมาณสองสามร้อยไร่ หากว่าพลอยสนใจ ยกให้เป็นสินสอดแต่งงาน แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 52 12:04:59 จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 11:58:15

ความคิดเห็นที่ 36 จากกระทู้ ดูดาวตกพร้อมใครในเดือนนี้ บทกวีนี้ดาวใจไม่เคยร่วง ของคุณ แสงแรก ประดับดิน http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8533686/W8533686.html#5 ... ดาวพริ้งพราย ฉายพร่าง ทางช้างเผือก ดั่งเกลียวเชือก  พันพราว สกาวไหว ดาราจักร สลักหล้า จากฟ้าไกล ล้านแสงใส ไสวเฟื่อง ดังเรืองดาว ... ... สร้อยแสงเพชร เท็จจริง อิงพิสูจน์ ตกกราวรูด ทรวงสว่าง ณ กลางหาว แต่งม่านฟ้า ราตรี นี้แวววาว ห้วงขวัญร้าว คนึงจิต อธิษฐานพร ... ...  เสน่หา แห่งอาทร พรสัมฤทธิ์ ยามฟ้าปิด หฤษฎ์สร้าง กลางแสงศร พร้อมสืบสาน กาลขจิต ฤทธิรอน ข้าวิงวอน อ้อนแสง แห่งดวงดาว .. จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:28:51

ความคิดเห็นที่ 37 ... แห่งคืนค่ำ กรำกร้าว เพลงดาวฝน ร่ายสกล ตอกย้ำ ดำและขาว ร้อยลำแสง แย้งเหงา เศร้าสักคราว ช่วยส่งข่าว ฝากไว้ ในสายลม ... ... คืนวิเวก เสกสรรค์ รำพันไข จากห้วงลึก จาระไน ใคร่สุขสม คืนสว่าง ปางสวรรค์ อันภิรมย์ คล้อยอารมณ์  สดชื่น ครื้นเครงพลัน ... ... วงโคจร รอนแรม แต่งแต้มฟ้า พสุธา อุปโลกน์ โลกแห่งฝัน รับเรื่องจริง อิงนิยาย คล้ายเดิมพัน “ความทรงจำ” ห้วงนั้น มั่นมิคลาย ... จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:29:36

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณพลอยมากครับ ใช้เนตมาหลายปี ขอสารภาพว่า ไม่เคยทำลิงค์เลย และไม่แน่ใจว่าถ้าทำมันจะใช้ได้หรือเปล่า สงสัยต้องฝึกทำบ้างแล้ว ลองเลยแล้วกันครับ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8533686/W8533686.html#5 กอปลงมา คลิกขวา ทำไมไม่มีคำว่าทำลิงค์ให้ล่ะเนี่ย จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:59:35

ความคิดเห็นที่ 39 สวัสดีวันใหม่ค่ะ..คุณแสงแรกฯ... มาก่อนใครทุกวันเลย... ขอโทษค่ะ ที่ร้อยรสพจนาอยู่แต่กับทราย..ทะเล..ที่แสนเค็ม.. แต่ความเค็ม  คือสัญลักษณ์ของความเสมอต้นเสมอปลาย   และ... ความเป็นนิรันดร์นะคะ...........เลี่ยนรึเปล่าคะ?.. งั้นเปลี่ยนไปหาชะบาน้อย..ค่อยๆหวานดีกว่านะคะ....                                                   ....เพราะลุ่มหลง  นงคราญ  หวานเกสร                                                   หนุ่มภมร  ร่อนบิน  ถวิลหา                                                   เพ่งพินิจ พิศพราย ร่ายมนตรา                                                   แต้มชิวหา ชะบาสาว  เย้ายวนใจ.. ...ลิ้มรสหวาน ผ่านเกสร  จนอ่อนล้า สิเน่หา  ชะบาน้อย  พลอยหลับใหล เคลิ้มใจหวาม ยามหลบ ซบเคียงกาย ลุ่มหลงใหล คล้ายต้องมนต์ จนเผลอตัว............ หวานทีละน้อย...ทีละน้อยนะคะ....   กลัวมดยุ่มย่ามคุณแสงแรกฯน่ะค่ะ.. แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 52 23:25:04 จากคุณ : สิริชน เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:05:38

ความคิดเห็นที่ 40 ค่ะ คุณแสงแรก ฯ ... ถ้าพลอย มีแต่งเพิ่ม พลอยจะไปเติมอีกนะคะ กลอนที่พลอยแต่งจะ เผื่อไว้ สำหรับแต่งเพิ่มได้อย่างที่เคยอ่านผ่านตาไปบ้างแล้วอ่ะค่ะ ... ... ถ้า"แต่งสด" ระหว่างการทำงานได้เท่าที่เห็นค่ะ ไว้พลอยมีเวลาว่างอีก พลอยจะมาแต่งต่อค่ะ เพราะเห็นว่าเรื่องราวสวยงาม และมีเนื้อหาด้วยค่ะ แล้วพลอยอาจขออนุญาต นำมาเรียงต่อกันเป็นการสรุปอีกครั้งนะคะ ... ขออนุญาตผ่านมาทางนี้เลยนะคะ .. จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:08:05

ความคิดเห็นที่ 41 สิริชน ที่ว่าเค็มไม่ได้ว่าหนุ่ยเลย คุยเรื่องรูปหัวใจใกล้ทะเลครับ ที่แต่งมานี้ ท่าจะหวานจริงจริง ความเห็นที่สามสิบหนึ่งต่างหากที่เขียนให้สิริชนอ่าน หวานหรือปะแล่มๆก็ม่ายรู้ หญิงพลอยจงเจริญดั่งทะเล สิริชนดั่งก้อนเมฆ จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 14:46:24

ความคิดเห็นที่ 42 สงสัยจะ "เค็ม" อย่างคุณแสงแรก ฯ ว่าน่ะแหละ มิได้เค็มอย่างเดียว "ใจแข็ง" ด้วยสิ --->แม่นางพลอย จากคุณ : D_AkIrA เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 14:58:45

ความคิดเห็นที่ 43 คู่แน่งน้อย พลอยธนา สิริชน นฤมล หลนเรียงร้อย สายน้ำผึ้ง หวานสลัก ซึมซับ อ้อยตาลรำพึง คละเคล้าคลุกคลึง เกลากรอม เฉลยคำ ภมรเกี่ยวก้อย เริงร่า เมินเกสร อรชร สอดซ้อน ภิรมย์ดื่มด่ำ พจนา สาส์นอักษร กรัตล้ำ หวานน้ำคำ หวานน้ำใจ มิตรศรีพรรณ จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 15:17:09

ความคิดเห็นที่ 44 สวัสดีครับ..กลับมาเยือน ริมฝั่งน้ำ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 52 16:13:15 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 52 16:10:02 จากคุณ : นักแต้ม เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 16:08:16

ความคิดเห็นที่ 45 เจ้าผึ้งห้าว ช่างบังอาจ ลิ้มชะบา เย้ยเยาะทายท้า เส้นชัย ข้าเข้าถีง งามชะบา กลบุปผา ห่วงค่ายกลึง ขึงพืดขึง ยากหลุดพ้น ทุกกรณี ชะบาบาน หวานเกสร ปมเจือปน โรยเกลือป่น ฉนวนคั่น ฤๅโฉมศรี ท่านแสงแรก แย้มนัย ทะเลนที ตอมจำปี ลิ้มจำปา คงพ้นภัย 555 ล้อกันเล่น อาจารย์สิริชน จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 16:15:36

ความคิดเห็นที่ 46 พับหัวใจ ใส่ไว้ ในขวดโหล มีมากโข โหลใจ เศษกระดาษ เค้าโครงเส้น เด่นขลัง ดังภาพวาด พู่กันปาด สีใส ไล้ระบาย ... ....................................................... ...ดั่งภาพฝัน วันคืน ชื่นเสมอ ใช่ละเมอ เพ้อผ่าน วันวานหาย คราสูญเสีย เฉลี่ยไว้ ไม่เสียดาย สิ่งสุดท้าย “ทรงจำ” ย้ำว่ามี ... ....................................................... ... ความทรงจำ ย้ำคุณค่า เวลาหนึ่ง ยามคิดถึง อณูสุข ทุกดิถี สิ่งแนบชิด ติดกาย คล้ายชีวี มีขวัญใจ ดวงนี้  ที่เกี่ยวพัน ... ....................................................... ...หัวใจเรา เข้าถึง ซึ่งห่วงหา แม้นบางครา ปานสลาย คล้ายผกผัน ยังสูบฉีด เลือดเนื้อ เอื้อเฟื้อกัน ทรงกายนั้น คงอยู่ สู้ทุกทาง ... ....................................................... ...จนถึงวัน ฝันเฟื่อง เรื่องประหลาด ริมชายหาด  แปลกตา น่ากล่าวขาน “หัวใจ” ใคร ถูกทิ้งไว้ มาเนิ่นนาน ? มองเพียงผ่าน ดวงใหญ่  ไม่เอนเอียง !!... ...สะดุดตา คราแรกเห็น โดดเด่นนัก มนต์ประจักษ์ ชุ่มฉ่ำ น้ำหล่อเลี้ยง สะท้อนฟ้า ศรัทธาสรวง  น่าควงเคียง มิบ่ายเบี่ยง ลำเลียงรัก สลักอุรา... ....ฟังจังหวะ พริ้วไหว หัวใจเต้น !! ช่างใสเย็น เช่นน้ำใจ  ในมหา ... มหาสมุทร  พิสุทธิ์รื้น ผืนธารา ที่ฉันกล้า เอ่ยเต็มปาก อยากดูแล !!... ....................................................... ...สรุปว่า ครานี้ ฉันมีสอง เฝ้าประคอง ทุกวัน หมั่นแยแส ใจดวงหนึ่ง ติดกาย กายเหลียวแล ใจดวงหนึ่ง มิตรแท้ แลเหลียวเธอ... ....................................................... ... มองเบื้องหน้า ฟ้ากว้าง กว้างกว่ากว้าง ใครทิ้งขว้าง ให้เธอ เก้อและเก้อ ไม่แปลกนะ ถ้าจะเก็บ เพราะฉันเจอ ข้อเสนอ “ดูแล แค่พองาม”... ...หากวันใด  ใจเธอ เจอเจ้าของ จะสนอง คืนให้ ไม่แม้ถาม สมธาตุแท้ ... แร่สมุทร .. พิสูจน์นาม คงนิยาม  ว่า “รัก .... คือการให้” .... ....................................................... จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 16:35:11

ความคิดเห็นที่ 47 ....ฟังจังหวะ พริ้วไหว หัวใจเต้น !! ช่างใสเย็น เช่นน้ำใจ  ในมหา ... มหาสมุทร  พิสุทธิ์รื้น ผืนธารา ที่ฉันกล้า เอ่ยเต็มปาก อยากดูแล !!... ....................................................... แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 52 18:28:25 จากคุณ : D_AkIrA เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 18:28:07

ความคิดเห็นที่ 48 (เพลง หนึ่งน้องในฝัน) หนึ่งน้องในฝันโสภี มลฤดีโสภาบาดใจ เพทายดูงามน้อยไป ไม่อำไพเทียบเทียมเคียงนาง แวววาวบุศราคัม ขุ่นครั่งคร้ามอับแสงเลือนราง มรกตมัวหมองค้าง ชั้นสังวาลประกายประปราย เปรียบพรรณไม้บุปผาชาติ งามผุดผาดผุดผ่องตระการ กุหลาบแรกแย้มเบิกบาน แพ้นงคราญพราวพร่างพริ้มพราย จำปาหอมมะลิซ้อน มิอาจฟ้อนประชันโฉมฉาย รองเท้านารีกล้วยไม้ จำเนียรพ่ายอายน้องเนื้อนวล น้องนางนวยนาดแช่มช้อย ปรกท้ายทอยดำขลับเกศา หยาดเยิ้มยามชม้ายตา มยุราขยาดขบวน ครวญคร่ำรำพันพร่ำเพ้อ ฝันละเมอจิตใจรัญจวน หลงเรียมปรนเปรอชักชวน อิงแนบทรวงเสมอสมใจ จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 21:35:36

ความคิดเห็นที่ 49 ... คืนแสงสรรค์ พรรณราย ประกายทิพย์ วูบระย้า วาบระยิบ พริบไหวหวาม มนต์ม่านพลุ จักษุซ้อง ตระกองตาม ทั่วเขตคาม  งามล้ำ เลอค่ำคืน ... ...  ด้วยพรึงเพริด เฉิดวสันต์ วันดาวสวย บุหลันฉวย ช่วงหลับใหล ไม่แข็งขืน วิมานฟ้า พาสะเก็ด เพชรกลมกลืน กระสายคลื่น ฉายตระการ ล้านลูกไฟ ... ... ดาวพริ้งเพรา เคล้าสล้าง ทางช้างเผือก ดั่งเกลียวเชือก  พันพราว สกาวไหว ดาราจักร สลักหล้า  ธาราไกล ล้านอำไพ ไสวเฟื่อง ฟุ้งเรืองดาว ... ... สร้อยแสงเพชร เท็จจริง อิงพิสูจน์ ตกกราวรูด ทรวงสว่าง ณ กลางหาว แต่งม่านฟ้า ราตรี ที่แวววาว แห่งห้วงร้าว คนึงจิต ... อธิษฐานพร ... ... เนิ่นนานปี ทีหน ดลประสบ เพียงคำรบ หนึ่งนี้ ที่ออดอ้อน ข้าหวานอม ขมขึ้ง จึงเว้าวอน หนึ่งช่วงตอน ที่หวัง ประทังใจ ... ...  เร่งนับวัน ผันคืน ยืนประจบ กระทั่งครบ รอบประสงค์ ตรงสมัย ทุกพร่ำพจน์ สะกดชัด พิกัดใด โอม..ขอให้ สมจิต ... อธิษฐานพร ...   ...  เสน่หา อาวรณ์  พรสัมฤทธิ์ ยามฟ้าปิด หฤษฎ์สร้าง กลางแสงศร พร้อมสืบสาน กาลขจิต ฤทธิรอน ข้าวิงวอน อ้อนแสง แห่งดวงดาว ... ... ยามคืนค่ำ กรำเร่ง เพลงดาวฝน ร่ายสกล ตอกย้ำ ดำและขาว ร้อยลำแสง ทะแยงภพ จบเรื่องราว แสนปวดร้าว พัดไป ในสายลม ... ... คืนวิเวก เสกสรรค์ รำพันไข จากห้วงลึก จาระไน ใคร่สุขสม คืนสว่าง ปางสวรรค์ อันพร่างพรม คล้อยอารมณ์  สดชื่น ครื้นเครงพลัน ... ... วงโคจร รอนแรม แต่งแต้มฟ้า พสุธา อุปโลกน์ โลกเหมือนฝัน รับเรื่องจริง อิงนิยาย คล้ายเดิมพัน "ความทรงจำ" ห้วงนั้น มั่นมิคลาย ... จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 22:15:37

ความคิดเห็นที่ 50 สำหรับพลอยธนา กับสิริชน มันมากกว่าขอบคุณ ภาพงาม คำไพเราะ แสงสวรรค์ วรรณพิลาส วาดประกาย พลอยธนา พรรณราย สายสมร สิริชน ดอกไม้ช่อ อรชร จิตเดิม จร ใจแสงแรก จะแหลกแล้ว มันจะหวานข้ามกระทู้มั้ยเนี่ย จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 23:30:02

ความคิดเห็นที่ 51 คุณท่าน้ำฯคะ.. บทกวีฯนี้ไม่ได้หมายความถึงคุณท่าน้ำฯนา..   อย่าใจน้อย..น้อยใจนะคะ.. ขอมอบบทกวีฯนี้ให้ค่ะ.. ..ผีเสื้อน้อย คอยเจ้าชู้ อยู่เสมอ รึแค่เธอ  เพ้อหลง ดงพฤกษา แวะเฉวียน เวียนว่อน อ้อนมายา หยอกล้อร่า บุษบา เดียงสาเยาว์..                                       บุปผาน้อย พลอยเคลิ้ม ประเดิมสาว                                       คอยวันเฝ้า เจ้าผีเสื้อ เชื่อใจเขา                                       รสชิวหา  พฤกษาน้อย พลอยหูเบา                                       แค่คลอเคล้า เท่านั้น พลันหลงคำ.. ผีเสื้อจ๊ะ.. อย่านะ.. เฟอะฟะน่ะ.. เพลินจนละ ผละหนี ทำผลีผลาม เก่งจริงหนอ อ้อล้อคำ จำนรรความ พฤกษาถาม คำเดียว อย่าเลี้ยวนา..                                       ..รักเจ้านะ  จะมาหา  คราคิดถึง                                       ทำไมจึง  คิดถึง  จึงมาหา                                       ไม่คิดถึง ทำไมจึง ถึงไม่มา                                       ทำไมมา คราคิดถึง จึง..ถึงมา...... คุณท่าน้ำฯคะ..  รู้สึกจะมึนอยู่กับคำว่า..คิดถึง..ทำไมจึง..ถึงมา..ทำไมถึงไม่มา.. ซะแล้วล่ะค่ะ..   ไม่รู้ใครทำให้มึนยังงั้น...ไม่ได้ว่าคุณท่าน้ำฯนะคะ... และขอขอบคุณด้วยค่ะที่ทำให้รู้ตัวว่า สะกดคำว่าชะบาผิดไป   แต่ก็กลับไปแก้ไขแล้วค่ะ  ขอบคุณมากๆนะคะ.. จากคุณ : สิริชน เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 00:27:20

ความคิดเห็นที่ 52 มัวแต่ทักทายคนโน้น คนนี้.. รู้ตัวอีกที....แหม...น่าหยิกกัดให้เนื้อเขียวจังเลยเนาะเพื่อนเนาะ... งั้น...    กวีฯบทนี้   ขอแซวแบบโหดๆซะเลย..                                    ..บอกพลอยฯแล้ว แซวมา ประสาเพื่อน                                    วันเดือนเคลื่อน เลื่อนลา อย่าว่าหนา.....                                    หยิกก็แล้ว แซวซะเหนื่อย เมื่อยแล้วนา..                                    พลอยธนา หาเจ้าชายฯ..  ได้รึยัง?.. แรงไปหน่อย แต่พลอยจ๋า อย่าโกรธล่ะ.. ทุกคนน่ะ คงจะคอย พลอยสมหวัง เจ้าชายหนุ่ม อุ้มเคียง สู่เวียงวัง เฝ้าเคียงข้าง กางหัตถ์โอบ ซบเคลียคลอ..                                    คุณท่าน้ำ....ราชวงศ์  คงไม่ขวาง                                    ร้อยเรียงร่าง สร้างบทเพลง แต่งเองหนอ                                    "สารภาพครับ..ยอมรับว่า...ผ่านมารอ"...                                    เฝ้าวอนขอ ท้อใจแท้ แม่หญิงพลอย.. ช่างเถอะนะ คุณท่าน้ำฯ ตามก็เหนื่อย ถ้าหากเมื่อย เฉื่อยแรง ก็แกล้งถอย นางฟ้าหวาน..ไม่หันมา ก็อย่าคอย จรดถ้อย เรียงร้อยคำ ลำนำเพลง..                                    ..เฮ..เฮ่..เฮ้..  เห่เพลง บรรเลงล่อง                                    ท่วงทำนอง ก้องสะท้าน หวานโหวงเหวง                                    ขอเจ้าชาย  พอพระทัย ในบทเพลง                                    ที่บรรเลง...เพลงเศร้า.. เท่านั้นพอ................. ...เฮ้อ...เศร้าจังเลย... อุ๊ย.....ไม่รู้แซวโหดๆกะใคร..... จากคุณ : สิริชน เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 02:49:54

ความคิดเห็นที่ 53 บทกลอนหนุ่ยไปแจม กระทู้คุณแสงแรกมาค่ะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8533686/W8533686.html#5                                           ...ประกายแสง แต่งแต้ม แซมผืนฟ้า                                           เวิ้งเวหา นภาตื่น ชื่นเกล็ดแสง                                           คล้ายดังฟ้า ราโรย โหยเรี่ยวแรง                                           สะบัดแสง แห่งพลัง หวังพักกาย.. ดาราราย กระจายร่วง ห้วงพิภพ จันทราหลบ มิพบเห็น เร้นหนีหาย ม่านราตรี มีแค่เพียง ดาวเรียงราย ร่วงริ้วสาย ให้เห็น เป็นขวัญตา..                                           ..ฟ้าจ๋าฟ้า..  ครานี้   มีไรจ๊ะ..                                           ดูคล้ายจะ  ละทุกสิ่ง ยิ่งกังขา                                           ปล่อยเกล็ดดาว พราวพร่าง ดั่งระอา                                           พรูหล่นมา  สาแก่ใจ  รึไรกัน?.. เสียงอื้ออึง ถึงเบื้องบน บ่นกังขา ฟ้าหันมา  ยิ้มร่า  ช่างน่าขัน ไม่รู้เหรอ?.. รึพวกเธอ  เพ้อไรกัน นั่นแค่ฉัน  ส่งสัญญาณ....."ม่านรักไง"....... จากคุณ : สิริชน เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 03:01:56

ความคิดเห็นที่ 54 สวัสดีตอนเช้าจ้า ... เพื่อนหนุ่ย อีกหน่อยจะเปลี่ยนเป็น แพนด้าหนุ่ย 55... ขยันเป็นพิเศษเลยจ๊ะ มาเพิ่มดีกรีความหวานให้ได้มากเชียวแหละ ... ขอบคุณมากค่ะ ............................................... คุณแสงแรก ฯ ค่ะ ขอบคุณเช่นกันสำหรับบรรยากาศ ฝนดาวตก ที่พาไปชม เตรียมตัวดูดาวแล้วล่ะซิคะเนี่ย 55.. ............................................... D_AkIrA ภาพสวย แต่กลอนคุ้นๆ เช่นเคยนะ มิว่ากัน มิว่ากัน 55... ............................................... นักแต้มคะ ถ้าว่างก็เชิญได้บ่อยๆ เลยค่ะ มิเก็บค่าบัตรผ่านประตูค่ะ 55.. ............................................... คุณท่าน้ำคะ หลังจากแกะคำวรรคต่อวรรคแล้ว ถึงกับ "มึน" เลยรึเปล่าคะเนี่ย สงสัยต้องพิจารณาตนเองแล้วจริงๆ โทษฐานทำให้ "มึน" 55.. ............................................... สวัสดีวันทำงานอีกวันค่ะ เพื่อนๆ จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 07:57:27

ความคิดเห็นที่ 55 อธิษฐาน พรเทพ บันดาลดล นฤมล พลอยธนา เสพสมหวัง วิมานฟ้า เทพบุตร พร้อมเวียงวัง ทรัพย์พลัง ศฤงคาร นิราศทุกข์ จักรวาล เวิ้งว้าง มิติปรากฏ หางดาวตก วิปโยค ภพสั่นทรุด สึนามิ อุทกคลั่ง ภัยลามลุก บทพิสุจน์ คนขวางโลก ว้าเหว่เอย 555 จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 10:00:42

ความคิดเห็นที่ 56 (เพลง รักไม่รู้อิ่ม) รักเอยรักเราเคยชื่นเชย เคียงเขนยคลอเคล้าผูกพันธ์ ใต้เงาจันทร์คืนที่เธอกับฉัน สาบานรักกันจวบจนชีพวาย เสียดายห้วงแห่งเวลา หลงวาจารักหญิงไม่รู้หน่าย โธ่เอ๋ยใยหญิงช่างใจร้าย เบื่อรักหนีไกลทิ้งฉันได้ลงคอ คนเขาปรามาสหญิงชอบเปลี่ยนแปร หญิงรักไม่แน่วแน่รักเดียวหญิงไม่พอ เปลี่ยนชายทุกปีเปลี่ยนหน้าตามพ.ศ. หญิงไม่รั้งรอพนอแต้มต่อปลายปี ไม่แค้นเป็นห่วงน้องหญิงเอย ทรามเชยใคร่ครวญให้ดี รักไม่รู้อิ่มกายหญิงยอมพลี โรคร้ายอาจราวีศักดิ์ศรีหญิงไม่เหลือเลย จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 10:23:49

ความคิดเห็นที่ 57 หวัดดีจ้ะเจ้าหญิง... ก่อนอื่นใด.. ขอเสริฟกาแฟตอนเช้าก่อนเจ้าค่า..  เอ๊ะ..   ต้อง ตอนสายซิเนาะ.. จากคุณ : สิริชน เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 10:29:54

ความคิดเห็นที่ 58 เปิดเจอภาพที่แสนสวยนี้เข้า เป็นภาพแรก.. คำบรรยายถ่ายทอด มันค่อยๆไหลออกมาเป็นตัวอักษรเลยจ้ะ..  อุ๊ย..เว่อร์ไปเปล่าน้อ.. พลอยช่วยอธิบายคุณแสงแรกฯด้วยนา ว่าหนุ่ยชอบทะเล.. ...เช้าวันใหม่ ฟ้าใสงาม น้ำสวยใส เมฆนวลใย ใสขาว พราวผ่องแสง ริ้วคลื่นแ่ผ่ แซะผืนทราย คล้ายอ่อนแรง แดดอ่อนแสง แต่งฟ้ากว้าง สว่างพราย..                                 ทรายเปลี่ยนสี เจ้าพี่ฟ้า ทาบทาส่อง                                 เกาะแก่งป้อง น้องหญิง คลื่นนิ่งหาย                                 สาดเอื่อยเลื้อย เฉื่อยล้า เข้าหาทราย                                 ก่อนสลาย หายวับ กับหาดคราม.. เปลี่ยนสีน้อง เหมือนลองใจ ชอบมั๊ยจ๊ะ?.. จริงๆน่ะ.. จะเปลี่ยนให้.. โดยไม่ถาม เพราะสีใด ทรายก็สวย ด้วยความงาม ขาว-หม่น-คราม ยามไหนๆ ทรายก็สวย..ช่วยแต่งโลก..หายโศรกซึม.. จบแบบกลอนพาไป ห้ามไม่หยุดจ้ะ......  อิอิ.. จากคุณ : สิริชน เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 11:06:37

ความคิดเห็นที่ 59 คืนฝนพราวพร่างพร้อม..........ราตรี หยาดเพชรเกล็ดแก้วมณี........เบิกฟ้า สะพรั่งพลุหลากสี.................ตรึงประดับ กาลแฮ ดังทิพย์วิมานหล้า.................อุบัติซ้องหทัยหวัง ดังตระกองกอดด้าว..............แดนดิน กราวกราดกระแสสินธุ์...........ลุ่มล้ำ บรรจงกล่อมนครินทร์............รมย์สวัสดิ์ พิพัฒน์เอย เพียงจิตอธิษฐานย้ำ..............ช่อระย้าโคมสกาว จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 11:28:58

ความคิดเห็นที่ 60 พลอย.. พราวรวยยิ่งด้วย         ใครงก ธนา...   สารมรดก                  กว่านี้ แสง...  จำรัสทุกศก                ปีผ่าน แรก..   รักอารมณ์ชี้               ไข่ต้มลวกร้อน หญิง..  ไทยยุคเรียกร้อง         ทวงสิทธิ์ สิ....     ขรยากปกปิด             แม่บ้าน ริ..        เริ่มรวมตัวคิด             ติก่อ ชน..      ทุกระดับต้าน             ร่วมค้านทารุนกรรม จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 12:28:10

ความคิดเห็นที่ 61 เฉี่ยวๆไปทางการเมืองแล้วเหรอคะ คุณท่าน้ำฯ.. เอ๊า...วันนี้เอาแบบกลอนแปดผสมโคลงสี่สุภาพก็ได้ค่ะ.. ....กุลสตรี ยุคนี้น่ะ อย่ามองข้าม หากไตร่ถาม ความเมือง เรื่องไหนๆ ไม่เคยเฉย ละเลยข่าว เรื่องราวใด อยู่ข้างไหน เก๊าะคนไทย ใจผูกพัน..                                  อาจบอบบางร่างน้อย...............กลอยใจ                                  อาจไม่เห็นถูกใจ.....................ไม่รู้                                  อาจจะแค่เยาว์วัย.....................ก็ไม่ เคยแคร์                                  อาจแค่เป็นนักสู้.......................อยู่รั้งหลังขบวน... แต่สิ่งหนึ่ง ซึ่งมั่น ในวันนี้ ขอแค่มี อิสรภาพ ฉาบความหวัง ทุกสิ่งอย่าง อย่าตั้งแง่ และตึงตัง ร่วมสะสาง ทางเดิน อย่าเขินอาย..                                  แนวหลังยังกู่ก้อง.....................มองเมียง                                  ถึงอยู่หลังยังเคียง....................ร่วมสู้                                  หากเป็นห่วงขอเพียง.................เสียงส่ง มาแฮ                                  ขอแค่บอกให้รู้.........................ร่วมสู้อยู่แล้วนา.. ยังกะบ้านเมืองกำลังจะมีสงครามเนาะคุณท่าน้ำฯเนาะ.. กลอนพาไปน่ะค่ะ...อย่าคิดมากนะคะ.. จากคุณ : สิริชน เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 13:49:11

ความคิดเห็นที่ 62 จันทร์อับแสง ขาดแรงจูง ดวงดารา อ่อนสิ้นท่า ล้าประกาย ตอบสนอง รอนละเมิด บนฟ้าเปิด ทิพย์รวงทอง สุรีย์ส่อง ท้องนภา สว่างวง จันทร์พริ้มพราว ดาวสั่งสู้ ผนวกแสง ฟ้าระแวง แสงคู่มิตร พิศวง จันทร์ดารา ปรารถนา ฟ้ามั่นคง รับส่ง ทิวา-ราตรี งดระแวง จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 15:18:06

ความคิดเห็นที่ 63 มาแบบเป็นเวอร์ชั่น ได้มั๊ยคะ?..  แม่หญิงพลอย.. ถือวิสาสะเวอร์ชั่นแรกก่อนแล้วกันค่ะ.. เวอร์ชั่นนี้..                     ..โหยหา........แต่ว่ายัง เฝ้าฝั่งรอ.. ..ความหมายมั่น ช่างมั่นคง ตรงเสกสรรค์ ทุกคืนวัน หมั่นรอ มิท้อถอย เหมือนสายหมอก ละลอกไล้ ใฝ่รอคอย เรือลำน้อย ลอยล่องมา ศาลาใจ..                                     แม้แค่จะ ละโลม ห่มคลายร้อน                                     แม้เพียงอ้อน ซ้อนอิง กิ่งไม้ไหว                                     แม้พริ้มห่ม โลมเล้า  เป่าร้อนคลาย                                     ก็เพียงหมาย ให้หายร้อน อ้อนออดไพร.. ..รอแล้วรอ.. รอเล่า.. เฝ้ารอต่อ รอและรอ ขอแค่ว่า จะมาไหม?.. จะเฉลย เอ่ยคำ  ความในใจ ประทับไว้ ในศาลา.....ท่าน้ำงาม................. ยังมีต่อนะคะ...   ต้องรอ..รอ...รอ...  ให้ท่านเจ้าของกระทู้งามเค้าอนุญาตน่ะค่ะ.. จากคุณ : สิริชน เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 15:23:27

ความคิดเห็นที่ 64 เพื่อนหนุ่ยจ๋า เต็มที่เลย มิต้องยั้งเลยนะ ตอนนี้ขอทำงานโลดจ้า หัวฟู ฟู ... ปลีกตัวมานิดหน่อยจ้า ... ........................................................ คุณท่าน้ำ คะ ... จันทร์อับแสง ขาดแรงจูง ดวงดารา อ่อนสิ้นท่า ล้าประกาย ตอบสนอง รอนละเมิด บนฟ้าเปิด ทิพย์รวงทอง สุรีย์ส่อง ท้องนภา สว่างวง... จันทร์พริ้มพราว ดาวสั่งสู้ ผนวกแสง ฟ้าระแวง แสงคู่มิตร พิศวง จันทร์ดารา ปรารถนา ฟ้ามั่นคง รับส่ง ทิวา-ราตรี งดระแวง... ...................................................... ..................................................... คุณท่าน้ำ คะ ... ...จันทร์อับแสง แรงล้า ดาราผอง ประกายหมอง อ่อนใส ไร้ลำแสง รอนละเมิด เชิดอุรา ฟ้าระแวง สุรีย์แย้ง แปลงนภา สว่างพราว... ....จันทร์อับแสง แย่งประชัน ตะวันเฉือน ฟ้าแชเชือน เพื่อนพ้อง ฟ้องเหน็บหนาว เชื่อมปรองดอง สองใจ ให้ยืนยาว ลืมรวดร้าว ร่วมทิวา จรดราตรี... แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 52 16:01:28 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 15:53:18

ความคิดเห็นที่ 65 ใจพองโต ขึ้นอักโข รุดหน้าต่อ มีคนรอ ย่อมไม่ท้อ สู้ไถง แม้น้ำเชี่ยว เพิ่มแรงเรี่ยว พายขาดใจ ถึงเป้าหมาย เพิงท่าน้ำ ศาลาลอย เป็นกังวล คนคอยรอ อาจท้อก่อน หวังงามงอน ผ่อนระยะ อย่าคิดถอย เอ๊ะคนรอ สิริชน หรือน้องพลอย รอหน่อยๆ คนดี ใกล้แล้วเอย จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 16:55:28

ความคิดเห็นที่ 66 เจ้าของพื้นที่อนุญาตแล้วค่ะ.. เวอร์ชั่นแรก ต้องคอยตอนสองต่อก่อนค่ะ.. เวอร์ชั่น 2  (ไม่เกี่ยวกับเวอร์ชั่นแรกนะคะ)                         ..ลมหายใจ ของสายหมอก.. บอกรักเธอ... ..ทะเลหมอก พอกห่ม จมขุนเขา แซะคลอเคล้า เว้าวอน อ้อนคำหวาน คล้ายจะบอก หยอกกระเซ้า เย้าดวงมาลย์ ย้ำสัญญาณ  ผ่านไอขาว พราวละออ..                                 ขุนเขาจ๋า..ทำท่างอน อ้อนไรเหรอ?..                                 ลมเพื่อนเกลอ เจอหมอก บอกร้องขอ                                 รีบเลยนะ..หมอกจ๋า..อย่ารีรอ                                 ขุนเขาพ้อ ต่อว่ามา ทำท่างอน.. อ๋อ..รู้แล้วล่ะ..เพราะวสันต์ วานช่วยเหลือ แผ่จุนเจือ เอื้อเฟื้อครา ฟ้าฝนถอน หมอกหลังฝน พ่นกระจาย คลายร้าวรอน วสันต์อ้อน ต้อนหมอกไว้ จนไหลเพลิน...... และแล้ว เวอร์ชั่น 2 ก็ต้องเบรคเอาไว้ก่อน เพื่อบอกว่า.. โปรดติดตามชมตอนต่อไป   ในเครือเมเจอร์เร็วๆนี้นะคะ.... จากคุณ : สิริชน เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 18:19:41

ความคิดเห็นที่ 67 G I V E จะหมดอีกแล้วค่ะ มิว่ากันน๊า มอบ ให้แทนค่ะ ( แ อ บ เ ก็ บ ไ ว้ 2 0 แ ต้ ม ค่ ะ เ ดี๋ ย ว ไ ม่ มี แ จ ก ก ร ะ ทู้ ห น้ า น ะ ) *************************************************** จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 19:08:36

ความคิดเห็นที่ 68 ...                   หากเหนื่อยนัก พักหน่อย ปล่อยคันเร่ง         สนนักเลง  เบ่งก้าน  ทานปั้นจั่น           เก้าอี้ไม้ รายล้อม พร้อมกำนัล         ขาดแค่วัน ปล่อยวาง ไม่ว่างเลย ...                     อยากต้อนรับ  ขับสู้ ผู้เหนื่อยอ่อน          จึงทนร้อน ทนหนาว ราวนิ่งเฉย          หวังใจเพื่อน ผู้มาเยือน เพียงเอื้อนเปรย          “เก้าอี้เอย ... เหนื่อยจัง ... ขอนั่งพัก” จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 52 08:10:47

ความคิดเห็นที่ 69 หวัดดีตอนสายจ้ะ..แม่หญิงพลอย เสริฟกาแฟก่อนนะจ๊ะ... แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 52 10:38:48 จากคุณ : สิริชน เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 52 10:24:29

ความคิดเห็นที่ 70 มาต่อเวอร์ชั่น 2 ตอนจบจ้า...          ...กอดขุนเขา..เฝ้าบอก..หมอกรักเธอ...                                  ...พอเหมันต์ ผันผ่าน มาขานทัก                                  เลยลืมทัก..รักเสมอ....เธอ"ขุนเขา"                                  มัวสุขสันต์ วสันต์กล่อม ตะล่อมเอา                                  วานหมอกขาว พราวแต้ม แซมไอเย็น.. เพื่อนร้องขอ  ออเซาะ  ก็เลยหลง เพียงแค่ส่ง วงจร ทุกตอนเห็น หมอกช่วยเพื่อน เคลื่อนคลี่ อย่างที่เป็น เพื่อนความเย็น เช่นเหมันต์  เริ่มผันมา..                                   หมอกก็ยัง เป็นดังหมอก บอกให้รู้                                   ยังเคียงคู่  พรูกลุ่มไอ ให้ภูผา                                   บอกดังๆ.. ยังรักเธอ.. เสมอมา                                   ขุนเขาจ๋า...มาใกล้ๆ......ให้กอดที.......................... ปิดฉาก เวอร์ชั่น 2 แล้วนะจ๊ะ..   กาแฟหวานมั๊ย?..... ลองใส่บทกลอนหนุ่ยลงไปในถ้วยดูหน่อยนะ.. จะรู้ว่ากาแฟปูเลี่ยนๆน่ะเป็นยังไง (ไม่ใช่กาแฟอิตาเลี่ยนนะจ๊ะ) แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 52 10:41:38 จากคุณ : สิริชน เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 52 10:38:10

ความคิดเห็นที่ 71 สิริชน เอ๋ย ความรักเข้าสิงหรือไร ภาพสวยมาก แล้วเขียนเอาจริงเอาจังมาก ภาพทะเลได้ที่หนึ่ง หมอกขโมยภูเขาของเราไปที่สอง แล้วกำลังกินกาแฟพอดี กาแฟนี่รสชาติเหมือนความรักแฮะ จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 52 11:00:27

ความคิดเห็นที่ 72 ทำไมกิฟหมดแล้วเติมไม่ได้หละ เพราะมีคนให้กิฟเรามาเยอะ พันธ์ทิพย์น่าจะให้มีการรับกิฟแล้วนำไปให้ต่อได้สิ แล้วมันจะไม่มีวันหมด หลวงพ่อปัญญานันทะบอกว่า ยิ่งให้ยิ่งได้ มันจริงมั้ยเนี่ย ฮือ ฮือ กิฟ หมด คงเป็นเพราะเจอสิริชนนี่แหละ กิฟหมดก่อนวันอันสมควร จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 52 11:09:17

ความคิดเห็นที่ 73 เหนื่อยแสนเหนื่อย ปลีกตัว พักบ่ได้ ขาดปัจจัย การเรียนรู้ ประเทืองเสริม เพิงหมาแหงน ริมทาง เหลือจะเกิน งานหนักเริ่ม เพิ่มพิกัด ขอชี้แจง เก้าอี้เอย ภาระหนัก กระทบเจ้า หัวอกสาว เหนื่อยล้า ยากแถลง สนเหลือซาก สลับฉาก รากขาดแรง พ้นตำแหน่ง อารักษ์ คนหัวฟู 555 จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 52 11:37:57

ความคิดเห็นที่ 74 (เพลง เทวาทำร่วง) ช่างงามเพริศแพร้ว พลอยธนา เทพเทวา ทำร่วงจากฟ้าหรือไร พบนางฟ้า ผ่องอำไพ แสนประทับใจ ยากลบหายลืมเลือน พร่ำเพ้อ ถีงภาพงามตา สวรรค์ประทานมา ส่งนางฟ้าลงเยือน หัวใจฉัน คอยย้ำเตือน กี่วันกี่เดือน กี่ปีตั้งตารอคอย แม้ปรากฏกาย อีกครั้ง ใช้กำลังฉุดรั้ง ไม่มีวันยอมปล่อย นางฟ้าเอย ไร้หนทางหลุดลอย ห้องหัวใจน้อยน้อย ฉันเปิดรอรับอยู่ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 52 14:40:31 จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 52 12:19:00

ความคิดเห็นที่ 75 คุณแสงแรกคะ.. แซวรุนแรงจังเลยค่ะ  แต่ถ้าโดนสิงจริงๆล่ะก็...จะตามไปหลอกหลายๆคนเลยค่ะ และก็ จะพกน้ำผึ้ง...พกน้ำตาล ไปหว่าน ไปพรมให้หลายคนสำลักเลย.. ล้อเล่นนะคะ....อิอิ.... ภาค 2 ของเวอร์ชั่นแรกค่ะ(..โหยหา..แต่ว่ายัง เฝ้าฝั่งรอ....)                     ..ขอให้พบ  ซบแอบอิง กับสิ่งรอ.....   ......ท่าน้ำนี้ มีบางสิ่ง พักพิงอยู่ ทุกสิ่งรู้  ดูก็เห็น  เย็นหวิวหวาม ใบไม้นิ่ง  อิงซับ  กับหมอกงาม ไม่เคยถาม ตอกย้ำถึง  สิ่งซึ่งคอย..                                            ....ผืนน้ำก็  ไม่ต่อคำ  ถามโน่นนี่                                            เพราะรู้ดี  อาจจี้ไป  ให้เหงาหงอย                                            รู้ดีจ๊ะ  ว่าตรงนี้  มีการคอย                                            งั้นต้องปล่อย  พลอยนิ่งตาม  ไม่ถามเลย.. ...ศาลาน้อย  ค่อยๆแซะ  และปลอบโอบ ขอให้พบ  ซบอิงแอบ  แนบเขนย ให้ความรัก  สลักอยู่  คู่ทรามเชย เรือน้อยเอ๋ย.......เผยตัวมา....อย่าเหนียมอาย................... ยังจบไม่ลงค่ะ.... ต้องต่อภาค 3 ให้จบแบบ.. แฮ้ปปี้เอนดิ้ง น่ะค่ะ.. พลอยจ๊ะ......กาแฟรสชาดเป็นไงเอ่ย.............. จากคุณ : สิริชน เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 52 12:43:42

ความคิดเห็นที่ 76 สวัสดีค่ะ ... เพื่อนๆ ... - เพื่อนหนุ่ยจ๋า ... สงสัยจะติดเครื่องเทอร์โบ มาแรงดีจริงเลย กลอนมาเป็น ระลอกเลยจ้า ... ภาพสวย คำหวาน ... ขอบคุณมากค่ะ // ถามเรื่องรสชาด กาแฟเหรอเนี่ย ... งานนี้ตอบไม่ถูกเลยจ๊ะ เพราะว่า พลอยไม่ทานกาแฟนี่สิ ... 555 ... ... - คุณแสงแรก ฯ คะ ขอบคุณค่ะ ที่แวะเวียนมาค่ะ สำหรับ "กิฟท์" นั้น ถ้าหมด เติมความ "หวาน" ได้ค่ะ เพื่อนหนุ่ยมิปฏิเสธค่ะ 55 ... ขอบคุณมากเลยค่ะ // - คุณท่าน้ำ คะ นั่น "เพลงอีแซว" รึเปล่าคะนั่น .. 55.. ขอบคุณมากนะคะ ..// รับทราบ "ชื่ออัลบัม" ค่ะ ... ไม่ค่อยหวานเท่าไรนะ .......................................................... มีความสุข และ ยิ้ม ทุกวันนะคะเพื่อนๆ 555... แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 52 12:53:12 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 52 12:52:04

ความคิดเห็นที่ 77 สำหรับ บทกลอน และ ถ้อยคำ ทุกคำ ค่ะ ... ต่างตอบแทน ... ... เพียงยาใจ คลายเหงา เคล้ารอยยิ้ม แสนสุขอิ่ม พริ้มเพรา เย้าเป้าหมาย คำชูรส รจนา พาผ่อนคลาย ร้อยเรียงราย แฝงวลี ที่บทกลอน ... เห็นทุกข์-สวย รวย-เศร้า เคล้าขำ-ฝืด ชิมเปรี้ยว-จืด ค่ำ-สว่าง กลาง-ย้อนศร เสพเพลินนิด ติดกะไหล่ ไวยากรณ์ หัวถึงหมอน นอนกรุ้มกริ่ม ถึงฉิมพลี ... สุขใดเล่า สุขเท่า เย้าเธอยิ้ม ใจเอิบอิ่ม ฉันทลักษณ์ จักรราศี ล้านแสนหมื่น พันถ้อย ร้อยดุษฎี สาสุนทรีย์ อารีรอบ เธอขอบใจ .......................................................... พักสายตาเถอะนะ คนดี ... จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 52 13:19:56

ความคิดเห็นที่ 78 สวัสดีครับคุณพลอย เห็นฝูงปลาสีลูกกวาด เลยอดทักทายไม่ได้ครับ... สีสันสวย พวยพุ่ง มุงหมู่ปลา ตระการตา ละลานเลิศ เพริศพริ้งแผ้ว ปลา ฤ ไร ไป่แลล้า จ้าวับแวว แหวกว่ายแนว แจวแจ้วแล้ว แพรวพิศเพลิน จากคุณ : black in black เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 52 14:04:59

ความคิดเห็นที่ 79 สอพลอกระทู้ 70 อาจารย์สิริชนหน่อยครับ กอดขุนเขา เหงาเย็นเยือก นะจอมขวัญ อุ่นนิรันดร์ ต้องอกชาย ทุกสมัย ชื้นไอหมอก ทุกระลอก สั่นฤทัย ไฉนไม่ ลองซบทรวง ล้วงความจริง ไออุ่นชาย นิรภัย ข่ายปกป้อง มิขัดข้อง เอื้ออาทร เอื้อขวัญผิง เอื้อนุ่มเนื้อ คลายหนาว ขนาบแอบอิง โอบสมหญิง พริ้มเพลิน หาใช่ประเทือง จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 52 14:51:09

ความคิดเห็นที่ 80 สวัสดีค่ะ คุณ black in black ภาพปลา “น่ารัก” มากเลยค่ะ สีสันสดใส เขาว่ากันว่า ใครที่ชอบเลี้ยงปลา เป็นคนใจเย็น อ่อนโยน ละมุนละไม อันนี้จริงหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ค่ะ ... ขอบคุณค่ะที่แวะมาอีกครั้งค่ะ ฉวัดเฉวียน เวียนว่าย โฉบสายน้ำ ชุ่มฉ่ำ เร้นรื้น ดั่งคลื่นโถม เย็นซ่าน หวานเจ้า เฝ้าเล้าโลม ครีบแขนง แฝงโคม สะคราญตา ... ... พริ้วไหว ในห้วง ด่ำดวงจิต เพลินนิด ราวนัด หมู่มัจฉา โยกย้าย ส่ายระบำ ล้ำลีลา ยากคะเน ... เสน่หา ... ชลาชล ... จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 52 16:10:52

ความคิดเห็นที่ 81 สงสารปลาตู้ ถูกจอง จำกัดเขต เวียนว่าย เอกเขนก ฉวัดเฉวียน ดั่งโคมหลากสี ยูงรำแพน ว่ายเวียน สะท้านน้ำเปลี่ยน เสรีภาพ บ่มี มัจฉาเริงร่า ศักดิ์ดา ชลาชล เสรีกมล กร่างว่าย กลางวารี ทะยานหัวปัก สบัดร่าง เต็มที่ สุดเส้นสาย นที ชีวีปลาเป็น ?????????????????????????? สุดเส้นสาย นที ชีวีปลาเป็น จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 52 17:46:01

ความคิดเห็นที่ 82 ...  มาเอาใจคุณท่าน้ำโดยเฉพาะเลยค่ะ ... ... ถ้าสงสารปลาในตู้ พลอยก็จะเสียสละลงไปหาปลาในทะเลเองเล๊ย ดีไหมคะ ... ... ยิ้มได้รึยังคะ กับภาพนี้ 555 ... จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 52 19:05:48

ความคิดเห็นที่ 83 (เพลงหลงเสน่ห์) ญวนยาเล ญวนยาเล ชายหลงเสน่ห์ น้องน้อยพลอยธนา (สร้อย) พลอยธนาแก้มแดง พราวแสงแบ่งดวงจันทรา หมู่ดาวค่อนฟ้า ตั้งวงล้อมพลอยธนา        (สร้อย) พลอยธนาแก้มนวล เย้ายวนขบวนเมฆา พิรุณสั่งฟ้า ระพีพจน์พลอยธนา          (สร้อย) พลอยธนาแสนงาม นิยามคู่กรรณิการ์ ช่องามพฤกษา กมลาพลอยธนา           (สร้อย) พลอยธนาอารีย์ ภินโศภี ศรีเอมอร ตระการอักษร พิชญ์พิมลพลอยธนา            (สร้อย) จากคุณ : ท่าราชวงศ์ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 12:56:33

ความคิดเห็นที่ 84 กระทู้ใหม่ค่ะ "คืนเหน็บหนาว ผ่าวเร้น ... เธอเห็นใคร ?" http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8549897/W8549897.html ขอบคุณมากมายเลยค่ะเพื่อนๆ จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 11:28:19

ความคิดเห็นที่ 85 ริมฝั่งน้ำย้ำรอคลอใครหนอ ผะผ่าวพ้อล้อลมเตือนหาเพื่อน หนาวเปล่าเดียวเปลี่ยวคล้ายฤทัยเลือน เยี่ยงยอกเยือนเชือนแชไม่แลไกล ริมฝั่งใจไหวไหวระไล้หลอน คอยอุทธรณ์กร่อนเก็บแต่เหน็บใคร่ ระบายคมระบาดขมลวงร่ำไร กระจายไข้ไพล่วิ่งเข้าอิงครวญ สวัสดีค่ะคุณพลอย และพี่ๆทุกคน จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 52 17:28:08