บริษัทยอดแย่ และ มนุษยืเงินเดือน ภาค ๑
|
|
อีกไม่กี่วันก็จะถึงเวลาปิดยอดบัญชีแล้วนะครับหลายบริษัทก็เตรียมการจัดงานปาร์ตี้ฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หลายคงคงรอนึกถึงการปรับเงินเดือนใหม่ การปิดยอดขายเตรียมรับคอมมิชชั่นปลายปี และลืมไม่ได้สำหรับทุกตำแหน่งคือโบนัสประจำปี ซึ่งทุกคนหวังไว้มาก เพราะจะนำเงินก้อนนี้ไปใช้จ่ายช่วงเทศกาลปีใหม่ ช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขจริงๆ สำหรับชาวมนุษย์เงินเดือนแบบพวกเราที่ได้มาทำงานที่ องด์กรดีๆแบบนี้ที่มีนายจ้างที่ดีและเห็นความสำคัญของบุคลากร ซึ่งหลายท่านบอกว่าตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดีอย่างงี้อย่างงั้น ผมขอถามง่ายๆถ้ามันไม่ดีทำไมภาครัฐและหลายองค์กรมีการปรับขึ้นเงินเดือน ให้สวัสดิการที่ดีกว่า มีการปรับโบนัสรางวัลขยัน ปลายปี แต่ก็ต้องยอมรับบางองค์กรปรับลดพนักงานแต่ขอให้สังเกตดีๆนะครับว่าพนักงานที่ปลดเป็นแบบพวกแรงงานไร้ฝีมือและคุณภาพ เพราะยุคใหม่นี้เค้าใช้เทคโนโลยี่แทนใช้กำลังคนแล้วและฐานการผลิตบางส่วนเราย้ายฐานไปประเทศเพื่อนบ้านกันหมดแล้ว
แต่ว่ามีพนักงานหลายบริษัทอาจไม่สมหวัง [ ไม่ได้หมายถึงแห้วนะครับ ] หมายถึงโครงสร้างการบริหารงานล้มเหลวไม่เป็นท่า ไม่มีการวางแผนที่ดีเพื่อรองรับสังคมยุคโลกาภิวัฒน์แบบมาเร็วและไปเร็วตามกระแส และรอแต่โชคช่วย และประการสุดท้ายเงินทุนอาจจะไม่พอหมุนในปีหน้าเพราะไม่มีออร์เดอร์ต่อเนื่อง พูดง่ายๆ หวังน้ำบ่อหน้าบางทีเจ้าของและผู้ประกอบการ ต้องประหยัดทุกทาง ซึ่งบางครั้งต้องทำให้ลูกน้องฝันค้างเหมือนนั่งรอความหวังลมๆแล้งๆก็มี ว่าปลายปีนี้จะปรับเงินเดือนไหม จะได้โบนัสเท่าไร และจะรับคอมมิชชั่นวันไหน ซึ่งผู้ประกอบการแบบนี้ชอบบอกว่า ปีนี้เศรษฐกิจไม่ดีไว้ปีหน้าว่าอีกที บ้างก็พูด นี่ต้องเอากำไรเก่าสะสมมาใช้จ่ายที่จริงอาจไปกู้ยืมเค้ามาก็ได้ใครจะรู้ ซึ่งเป็นคำพูดซ้ำๆ แบบ ขอไปที พูดง่ายๆผู้ใหญ่หลอกเด็ก ซึ่งเด็กมันก็รู้ ว่าโดนหลอกก็ต้องทนเพราะไม่มีที่ไป บางคนอยู่นานเป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่ พูดง่ายๆเป็นพวกวัตถุโบราณหรือกระโถนท้องพระโรงไว้คอยให้เจ้าของไว้:-)น้ำลายเล่น และไอ้พวกนี้มันก็แปลกชอบแสดงความกร่างเหมือนกุ้งก้ามกรามหรืออึ่งอ่างพองลมชอบข่มคนที่มาใหม่และผมเคยโดนมาก่อนบางทีเราก็แกล้งโง่ไม่อยากใส่ใจไอ้คนแบบนี้เพราะถือว่าเดี๋ยวเราก็ไปแล้วตอนนี้เรามาศึกษางานและท่องว่า ต้องอดทน และอดทน
ส่วนคนที่มีที่ความสามารถและมีที่ไปแล้วและไปสัมผัสองค์กรที่เห็นความสำคัญของบุคลากร พอหันมองกลับอดีตเก่าๆที่เคยสัมผัสและผ่านมาแล้ว ก็สมเพทตัวเองที่เคยทนอยู่ที่นี่และต้องทนทำงานอยู่กับ บริษัท และ เจ้านาย ห่วยๆแบบนี้ รวมทั้งไอ้พวกลิ่วล้อคอยประจบสอพลอ เพราะต้องทนทำงานแบบฝากอนาคตไม่ได้เลย เพราะมันสั่นคลอนอาจจะเจ๊งเมื่อไรก็ไม่รู้เหมือนระเบิดเวลาต้องรอนับวันตาย พวกที่ทำอยู่ก็แบบหน้าไหว้หลังหลอกไม่มีใครจริงใจให้ใครก็เพราะว่าเจ้านายมันคอยจับผิดลูกน้องเพราะตัวเองเคยทำกับที่เก่ามาก่อนก่อนจะมาทำธุระกิจส่วนตัวเปรียบเหมือน กงกรรมกงเกวียนวงเวียนกรรม แต่ต้องยอมรับนะครับว่าผู้ประกอบหรือเจ้านายบริษัทพวกนี้มันกล่อมลูกน้องหรือเด็ก ดื้อและโง่ เก่งมากๆใช้จิตวิทยาในการโนม้น้าวสูง ส่วนพนักงานฉลาดเด้าจะไม่พูดพอรับผลประโยชน์แล้วเค้าก็บินหนีไป ยกเว้นเจ้าของกิจการมันมีข้อผูกมัด เหตุผลง่ายนิดเดียว เพราะเจ้าของกิจการแบบนี้ไม่มีสิ่งจูงใจให้พนักงานเกิดความเชื่อมั่นในการร่วมงาน ในการฝากอนาคตเช่น ไม่มีอาคารสำนักงานเป็นของตนเองเพราะไม่มีเงินทุนพอที่จะไปซื้อตึกแถวเล็กๆหรือแม้แต่โฮมออฟฟิตในเมืองหรือนอกเมืองได้ เพราะมันทำแค่อยู่ไปวันๆเท่านั้นไม่อยากลงทุนเพิ่มเพราะว่าตัวเองก็เริ่มแก่ชรามากแล้วและไม่มีทายาทมาสืบทอดกิจการสู้เก็บเงินสะสมไว้กินตอนบ้านปลายที่บ้านพักคนชราดีกว่าเพราะไม่มีลูกหลานสืบทอดกิจการ
ถ้าคุณได้ทำงานบริษัทประเภทนี้พูดได้เลยว่าไม่มีอนาคตแน่ เพราะถ้าเกิดวันดีคืนดีเจ้าของบริษัทเกิดเป็นโรคปัจจุบันเช่น เส้นโลหิตในสมองแตกและต้องเข้าโรงพยาบาลและเป็นอัมพาติง่อยกิน หรืออย่างเลวร้ายเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำและพิการ หรือเกิดตายโดยฉับพลัน และพวกพนักงานจะทำเช่นไร
และสิ่งที่แปลกมากๆเท่าที่ผมเคยพบและสัมผัสมาคือถ้าเกิดพนักงานลาออกจากงานด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งและไปทำงานกับบริษัทที่มั่นคงกว่า นายจ้างพวกนี้มักจะตามไปด่าและประจานลูกน้องเก่าลับหลังโดยสิ่งแรกก็บอกเล่าให้พนักงานที่ทำงานอยู่ได้รู้ก่อนและตามไปบอกเล่าตามออฟฟิตลูกค้าซึ่งเป็นความคิดที่โง่และหลังเขามากๆเอาเรื่องในบ้านตัวเองไปโพนทะนาให้คนอื่นเค้ารู้ ซึ่งส่วนมากเค้าจะหัวเราะเยาะลับหลังแล้วบอกต่อกันว่าไอ้หมอนี่ช่างโง่เองเอาเรื่องในบ้านมาประจานแสดงถึงภูมิปัญญาที่ขาดการพัฒนาทางสมอง เพราะว่าเค้ากลัวลูกน้องเก่ามากๆ เหมือนกุ้ง ( ขี้ขึ้นหัว ) ต้องทำลายลูกน้องเก่าก่อนเพราะกลัวจะเอาความลับบริษัทไปเปิดเผยซึ่งตัวเองเคยทำมาก่อน แต่ขอบอกเลยว่าวิธีนี้แบบคนยุคเก่าเค้าทำกันโบราณมากๆปัจจุบันเค้าไม่ใช้แล้วสำหรับวิธีนี้ เพราะตัวเองขาดศักยภาพในการทำงานและบริหารไม่เป็นแต่ก็หลอกตัวเองว่าเก่งมีคอนเนกชั่นกับคนมากสามารถสร้างมาได้จากการเริ่มต้นจากโดยไม่มีอะไรมาก่อน และเท่าที่ผมสัมผัสกับเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งเค้ากลับ ชอบ และเค้ามีเหตุผล ซึ่งผมฟังแล้วอึ้งเพราะเค้าพูดมีเหตุผลที่น่าฟังทีเดียวเค้าบอกว่าพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสซิหมายถึง ลูกค้ามักจะบอกว่าไอ้บริษัทเก่าคุณนี่เค้ามาช่วยส่งข่าวว่าคุณได้ออกจากงานแล้วเหมือนแมสเซนเจอร์ส่งเอกสารส่วนตัวให้คุณ และส่วนมากลูกค้าเค้าจะถามที่มาและที่ไปและร้อยละเก้าสิบเปอร์เซ็นเค้าจะเห็นใจพนักงานคนนั้นเพราะเค้าก็เป็นลูกจ้างเหมือนกัน ลูกค้าบางคนตอบแทนด้วยว่า ดีนะบริษัทเก่าคุณช่วยโปรโมทคุณทางอ้อมโดยคุณไม่ต้องลงทุนเพราะว่ายิ่งด่าคนยิ่งอยากรู้ แล้วเค้าก็จะถาม เรื่องราวต่างๆและความเป็นไปเป็น แต่ขอบอกล่วงหน้านะครับในโลกยุคโลกาภิวัตน์ โลกไร้พรมแดนทุกคนมีสิทธิแข่งขันทางการค้าเท่าเทียมกัน ไม่มีอาวุโส หรือ อ่อนหัด มันอยู่ที่สมองมากกว่า
จบภาค ๑ ไว้ต่อภาค ๒ เร็วๆนี้
จากคุณ |
:
ramboo1
|
เขียนเมื่อ |
:
7 พ.ย. 52 16:22:44
|
|
|
|