อยากเล่าเรื่องผี...เบาะด้านหลังคนขับ
|
|
เมื่อประมาณต้นเดือนตุลาคม 2552 หลังเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวัน อาจเพราะความเครียดที่สะสมมานานประกอบกับการที่ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ถึงแม้จะเป็นเวลาเกือบๆ จะ 5 โมงเย็นก็ตาม จิตใจที่มันร่ำร้องอยากจะให้ถึงบ้านไวๆ เพื่อไปพักผ่อน ทำให้ตัดสินใจเรียกรถแท็กซี่แทนที่จะกลับรถเมล์ตามปกติวิสัย ดังนั้นเมื่อเห็นแท็กซี่ติดไฟว่างจึงแสนจะดีใจรีบยกไม้ยกมือขึ้นโบกชนิดไม่เกรงใจใคร เมื่อรถแท็กซี่ชะลอจอดเทียบและก่อนที่รถจะจอดสนิทเลยจากจุดที่ฉันยืนโบกมือเรียกไปแค่ไม่กี่ก้าว
เหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นเพียงแค่เสี้ยววินาทีในขณะที่รถแท็กซี่ชะลอผ่านหน้านั้นเอง ด้วยความใสของบานกระจกตรงประตูผู้โดยสารด้านหลัง ฉันได้เห็นใบหน้าซีดขาวของคนที่ฉันแทบจะมองเห็นร่างของเขาไม่ได้เลยที่เบาะนั่งด้านหลังคนขับ ใบหน้านั้นคล้ายใบหน้าผู้หญิงมีผมปรกหน้าเล็กน้อยสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ลักษณะของใบหน้านั้นคล้ายว่าเธอกำลังชะโงกหน้ามองมาที่ฉัน แม้จะเป็นการมองเห็นแบบเสี้ยววินาทีที่ค่อนข้างจะเร็วมากสำหรับฉันในขณะนั้นแต่มันก็ชัดเจนจนจำได้ติดตาเสียแล้ว ฉันยอมรับว่าตอนนั้นแอบสะดุ้งเล็กๆ อยู่เหมือนกัน
'ตายละหว่าจะทำไงดี ดันเรียกรถไปแล้วด้วยสิ' ฉันได้แต่รำพึงอยู่ในใจเมื่อรถแท็กซี่คันนั้นจอดสนิท
'เอาวะ! ทำไงได้ ก็เรียกรถเขาไปแล้วนี่หว่า เอ้า! จะต้องขึ้นก็ต้องขึ้นละว้า ไม่เป็นไรทำใจดีสู้ผีเอาไว้ให้ได้ก็แล้วกันวะ แค่นี้เอง จิ๊บ...จิ๊บ...' คิดได้อย่างนั้นฉันจึงเดินไปเปิดประตูผู้โดยสารด้านหลังและบอกจุดหมายปลายทางที่ต้องการไปให้กับคนขับทราบ แล้วจึงก้าวขึ้นรถ
เมื่อขึ้นนั่งบนรถแท็กซี่แล้ว แม้ว่าเธอผู้นั้นจะไม่ได้ปรากฏกายให้เห็นอีก แต่ฉันก็สามารถรับรู้ได้ทันทีถึงความมีอยู่ของเธอ เธอยังคงนั่งอยู่ตรงเบาะหลังคนขับนั่นเอง แม้ว่าจะรู้สึกเสียวๆ สันหลังอยู่บ้างแต่ฉันก็ยังแข็งใจตั้งจิตบอกกับเธอไปว่า
'ที่ใครที่มันนะ ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างนั่ง แบ่งๆ กันไปแล้วกันนะ อย่าได้มายุ่งกันเลยนะ แล้วก็อย่าเข้ามาใกล้ๆ ด้วยนะ กลัว' จากนั้นฉันก็พยายามนั่งนิ่งๆ คุมสติให้อยู่กับตัวไม่ให้เผลอส่งจิตออกนอก เพราะกลัวว่าประเดี๋ยวจะได้เห็นกันอีก และเกรงว่าตัวฉันอาจจะเกิดอาการรับไม่ได้เพราะความจริงเป็นคนกลัวผีขึ้นสมองอยู่แล้วด้วย
ตลอดเส้นทางที่รถแท็กซี่แล่นมาจนถึงบ้าน ดูเหมือนว่าเธอคนนั้นก็จะนั่งอยู่ประจำที่ของเธออยู่ตลอดเวลา ด้วยความสงบนิ่งเช่นกัน สรุปว่าทั้งเธอและฉันต่างคนต่างนั่ง ต่างคนต่างอยู่ อยู่ในที่ของตัวเองไม่ล้ำเส้นกร่ำกรายซึ่งกันและกัน
ถึงบ้านแล้วฉันลงจากรถแท็กซี่ด้วยความโล่งใจ เธอคนนั้นยังคงนั่งไปกับรถแท็กซี่ในที่นั่งของเธอด้วยความสงบ แม้จะไ้ม่ได้เห็น แต่ใจของฉันสัมผัสได้ว่ามันเป็นเช่นนั้น
ฉันไม่รู้หรอกว่าเธอนั่งอยู่ในรถคันนี้มานานแค่ไหนแล้ว ฉัันไม่รู้หรอกว่ามันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับเธอ ที่ทำให้เธอต้องมานั่งอยู่ในรถคันนี้ และฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าการที่ฉันได้มีโอกาสได้เห็นใบหน้าซีดขาวของเธอชะโงกหน้ามองหน้าฉันนั้น มันเกิดขึ้นเพราะความบังเอิญ หรือว่าเธอจงใจให้ฉันเห็น และถ้าเป็นการที่เธอจงใจที่จะทำให้ฉันเห็นนั้นจะเป็นไปเพื่ออะไรตัวฉันเองก็ยังไม่อาจรู้ได้
แต่ที่แน่ๆ ฉันได้พบกับเธอก่อนที่จะไปทำบุญทอดกฐินเพียงเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ จะเป็นไปได้ไหมที่เธอรู้ว่าฉันกำลังจะไปทำบุญใหญ่จึงมาปรากฏใบหน้าให้เห็น หากเป็นเช่นนั้นก็ดี หรือ ไม่เป็นเช่นนั้นก็ดี ฉันขออุทิศในส่วนบุญกุศลที่ได้จากการทอดกฐินให้แด่เธอผู้นั้น และขอให้เธอผู้นั้นจงได้อนุโมทนารับเอาส่วนบุญกุศลนั้นไป เพื่อให้พ้นจากบ่วงทุกข์ ให้ได้ถึงซึ่งความสุขด้วยเทอญ
ปล. เชื่อไหมคะว่าความจริงเนี่ยตั้งใจจะเล่าเรื่องนี้ลงในบล็อก แค่เพื่อที่จะอัพบล็อกหลังจากปล่่อยร้างมาพอสมควร แต่ตอนที่พิมพ์ถึงช่วงที่อุทิศส่วนบุญกุศลให้เธอนี่สิ ดันได้ยินเสียงน้องหมาหอนมาจากไหนไม่รู้เหมือนจะไกลอยู่มากแต่มันแว่วๆ เหมือนลอยลมมาชอบกลแฮะ
ปล. ต่ออีกนิดนะคะ เรื่องนี้ลงในบล็อกเมื่อวันศุกร์ที่ 6 นี้เองค่ะ ด้วยความที่ตั้งใจจะเขียนเล่าแบบซอฟๆ เท่านั้นแต่บังเอิญมีเพื่อนมาอ่านแล้วถามว่าได้อ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับเช้าวันที่ 7 หรือยังที่คนขับแท็กซี่โดนตำรวจจับคดีฆ่าข่มขืนสาวพนักงานการทางหลวงชนบท จึงตามข่าวไป ลักษณะของคนขับรถแท็กซี่คันนั้นละม้ายคล้ายกันมาจนสามารถคิดว่าเป็นคนๆ เดียวกันได้ แต่เนื่องจากว่าระยะเวลาของเหตุการณ์ผ่านมาเดือนนึงแล้วด้วยจึงไม่กล้าที่จะฟันธงลงไปว่าจะใช่คันเดียวกันหรือเปล่า แต่ที่รู้ๆ วันนั้นในความรู้สึกของตัวเองนี่ไม่ได้กลัวผีอย่างเดียวนะ กลัวคนขับด้วยเพราะคนขับน่ากลัวมาก แต่ก็กังวลกับผี เพราะผีนั่งใกล้กว่า ก็เลยพยายามนั่งสงบจิตสงบใจไว้กับตัวเองให้มากที่สุด ยังไม่วายจะคิดติดตลกด้วย ว่าถ้าคนขับไม่ดีจริงเกิดอะไรขึ้นเดี๋ยวผีคงช่วยเองแหละ เพราะผีนั่งหลังคนขับ เชื่อไหมคะว่าตอนที่อ่านข่าวไปขนแขนก็สแตนอัพตามไปด้วย นี่ถ้าใช่รถแท็กซี่คันเดียวกันนะคงจะแจ๊คพ็อตมากๆ ทางที่ดีขอเปลี่ยนเป็นซื้อล็อตเตอรี่แล้วถูกแจ๊คพ็อตรางวัลที่ 1 จะดีมากๆ เอิ๊กกกกก
จากคุณ |
:
มณีนาคา
|
เขียนเมื่อ |
:
8 พ.ย. 52 22:00:33
|
|
|
|