ความคิดเห็นที่ 1 รักแท้แต่เรื่อยๆ ของลูกผู้ชาย ประเดิมตอนแรกเลยนะ ตอน สุภาพบุรุษไปซื้อผ้าอนามัยให้ผู้หญิง ชื่อตอนนี้อาจไร้รสนิยมไปหน่อย แต่ผมชอบความเป็นเพศหญิงในส่วนที่แตกต่างจากเพศชายสุดกู่ทุกเรื่อง เช่น มีประจำเดือน และก็ท้องได้ ผมอยากเป็นผู้หญิงตรงท้องได้นี่แหละ มหัศจรรย์ของมนุษย์คือการมีชีวิตใหม่เกิดขึ้นและเติบใหญ่ในท้องของตัวเองเพื่อขยายพงศ์พันธุ์ ถ้าในวันหน้าวิทยาการสมัยใหม่ทำให้ผู้ชายท้องได้ ผมเข้าคิวคนแรกครับ คนอ่านจะได้อ่านหรือยังวะตู ติดนิสัย พร่ำๆ เพ้อๆ ไปหน่อย ขอโทษฮับ เรื่องมันมีอยู่ว่า ครั้งหนึ่ง ผมต้องไปซื้อผ้าอนามัยให้พี่สะใภ้ ทำไมต้องเป็นผม เรื่องไม่ยาว เล่าก็ได้ แต่มันไม่ใช่ประเด็นนี่สิ จำได้ว่าพี่สะใภ้เพิ่งคลอด หลังจากกลับจากโรงพยาบาล ทุกคนก็เอาแต่เห่อหลานอายุ 3 วัน ที่กำลัง “หลับ” จึงไม่มีใครว่างพอที่จะออกมาซื้อผ้าอนามัยให้คุณพี่สะใภ้ ข่าวว่ายี่ห้อเดิมมันไม่เหมาะกับคนที่เพิ่งผ่านการคลอด หรือว่าแพ้ไรนี่แหละ พี่ชายโทรสั่งผมซึ่งกำลังทำงานอยู่คลีนิคขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ครับ ผมเป็นหมอครับ เป็นหมอน่าจะหยิบๆ ผ้าอนามัยมาสักกล่องจากที่ทำงานได้ใช่ไหมล่า... แต่ปัญหาก็คือ... ผู้ป่วยของผมไม่เคยมีสักรายที่ต้องใช้อนามัยนี่สิ ฮ่าฮ่า ก็ผมเป็นสัตวแพทย์ครับ เราใช้ผ้าอ้อมสำหรับเด็กให้น้องหมาน้องแมวบางครั้ง แต่ไม่มีตัวไหนต้องใช้ผ้าอนามัย พี่ชายผมไม่สนเลยว่าน้องชายวัยฉกรรจ์ หล่อเหลา จะมีปัญหาในการเดินเท่อๆ ไปแวะซื้อผ้าอนามัย พี่แกบอกว่า “มรึงเป็นตั้งหมอหมา ซื้อผ้าอนามัยแค่นี้ ทำไม่ได้เหรอ” แล้วมันเกี่ยวอะไรกันละพี่ชาย หมอโง่มีถมถืด ส่วนใหญ่ก็ทึบทั้งนั้น ไม่งั้นเขาไม่ต้องให้เรียน 6 ปี กันเป็นอย่างน้อยหรอก แล้วที่เรียนสัด-แพด ใช่ว่าเพราะชอบ ซื่อบื้อฝนรหัสคณะผิดตอนสมัครเอ็นทรานซ์น่ะ จริงๆ อยากเป็นหนุ่มแบงค์เว่ย นับเงินนับทอง ก๊ากๆ เห็นมั้ยว่าผมพาออกนอกเรื่อง เอาใหม่ๆ กลับไปที่ซื้อผ้าอนามัยต่อ พี่ชายว่าให้แวะซื้อเซเว่นฯ แต่เรื่องอะไรผมจะยอมเชื่อ หาเรื่องเข้าห้างค้าส่งไปเล้ย... ปกติผมเองก็เคยแอบมองๆ ของใช้จุ๋งจิ๋งของพวกผู้หญิงทั้งหลาย อืม... มัน... น่ารักดี ที่กล้าบอกตรงนี้คือชุดชั้นในน่ารักๆ ของผู้หญิง เฮ่ย อย่าเข้าใจผิด ผมไม่ได้อยากสวมใส่เอง ผมแค่... ชอบดู ดูแล้วจินตนาการ ชุดน้อยๆ พวกนั้นมันดูเล็กบอบบางนิดเดียว ล้วนน่าทนุถนอมทั้งสิ้น สมัยก่อนมีโฆษณาชุดชั้นในที่เอาสาวน้อยวัยทีนคนหนึ่งใส่ชุดชั้นในเดินบนคันนา น่ารักมาก ผมเห็นแล้วยิ้มทุกที อยากจับขึ้นหลังแบกไปส่งถึงบ้าน ...จินตนาการแค่นั้นจริงๆ ไม่ได้คิดเลยหัวบันได สาบานได้... เออ เป็นนักเขียนเนี่ยดีนะ แอบใช้เป็นที่ที่บอกความคิดอุบาทว์ๆ ของตัวเองได้ เกิดไปบอกใครจริงๆ ร้อยทั้งร้อยว่าผมโรคจิตแน่ๆ แหม... ผู้ชายทั้งโลกก็ชอบเหลือบชุดชั้นในสาวๆ ทั้งนั้นแหละน่า ยี่ห้อที่ชอบกันมากคือยี่ห้อที่อยู่บนร่างสาวๆ ตัวจริงเสียงจริงไงครับ เหอๆ จากคุณ : zuzazu เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 01:11:13

ความคิดเห็นที่ 2 ฮ่าฮ่า กลับมาที่ผ้าอนามัยอีก ผมก็เคยมองๆ ตามร้านขายเหมือนกัน และในทีวีก็เจนตาพอกัน แต่...วันนั้นเมื่อผมเดินไปถึงแผนกผ้าอนามัย...ของห้างค้าส่งขนาดใหญ่ ผมเกือบตัดสินใจถอยหลังกลับเซเว่นฯ มันเต็มพรืดดดด... ไปทั้ง 2 ชั้นวางยาวเหยียดสุดสายตา สีสันมีทั้งแบบขรึมแบบหวาน แล้วผมจะซื้อยี่ห้อไหน แบบไหนล่ะ ยี่ห้อคุ้นๆ ในโฆษณาทีวีก็ดันมีซะหลายแบบ มีปีก ห่อตัว บางมาก ฯลฯ ทำมาเพื่อสนองผู้หญิงจริง รู้ว่าคุณเธอทั้งหลาย ช่างเลือก อิอิอิ แล้วผมก็ลืมถามว่า พี่สะใภ้แพ้ยี่ห้อไหน ผมจะได้หยิบยี่ห้ออื่นๆ แล้วไปจ่ายเงินโชคดีที่คนน้อยจึงไม่แปลกอะไรที่มีไอ้หนุ่มมายืนจ้องชั้นวางผ้าอนามัยแล้วควักโทรศัพท์มาคุย โอย สงสัยเด็กอายุ 3 วัน จะควบคุมจิตใจคนทั้งบ้านได้อยู่หมัด ไม่มีใครรับโทรศัพท์ผมสักราย... ผมเลยถอดใจวางหูซะ เดินไปจับเอายี่ห้อหนึ่งมาดูๆ กำลังจะโยนใส่รถเข็น ซึ่งมีเบียร์วางไว้ก่อนสองลัง (คือว่า จริงๆ ที่มาห้างค้าส่งก็เพราะเบียร์นี่แหละ) แต่มีเสียงใสปิ๊งทักขึ้น “มีอะไรให้ช่วยมั้ยคะ” ผ้าอนามัยกล่องนั้นร่วงหลุดมือผมทันที ทั้งเพราะตกใจ ทั้งเพราะอายสาวเจ้าของเสียงคนนั้น ...แต่เธอคงเข้าใจ ยิ้มให้หวานแหวว ตัวเล็กอ้อนแอ้นจนผมอยากพาเดินไปหาผู้จัดการแล้วบังคับให้ย้ายเธอไปอยู่แผนกสินค้าประเภทชุดชั้นใน แต่เสียงคุยต่อมาทำผมหน้าหงิกใบ้กิน “ภรรยาใกล้คลอด ซื้อแบบนั้นก็ถูกต้องแล้วค่ะ” เธอก้มลงหยิบผ้าอนามัยบนพื้นมายื่นให้ “คนคลอดจะใช้แบบนี้กันค่ะ” “เอ่อ ผะ ผมโสด มะ ไม่ได้มีเมีย” ...แล้วทำไมผมต้องติดอ่าง แล้วทำไมต้องปฏิเสธเรื่องไม่มีเมีย คงเพราะสัญชาติญาณตัวผู้บอกให้ผมเป็นหนุ่มโสดเสมอเมื่อเจอคนน่ารัก ทั้งที่จริงผมก็ยังโสด แฟนเคยมีแต่ตอนนี้หล่อนเป็นเมียชาวบ้านไปแล้ว เชอะ “คะ?” เธอคงงงๆ ที่พนักงานห้างค้าส่งต้องมายืนฟังผู้ชายติดอ่างบอกว่าไม่มีเมีย หน้าตาเธอเริ่มทำเหมือนสยองๆ กลัวผม รอยยิ้มที่เข้าใจว่ามีให้สำหรับคุณพ่อคนใหม่หายสนิท ผมต้องแก้ตัวยาวเหยียด “ผมซื้อผ้าอนามัยให้พี่สะใภ้ ที่เพิ่งคลอด ได้ข่าวว่าแพ้ยี่ห้อที่ใช้ในโรงพยาบาล” ค่อยพูดได้เหมือนคนหน่อย สาวเจ้าไม่ยิ้มแล้ว แต่ก็ยังมีน้ำใจหรือเพราะหน้าที่ไม่รู้ ช่วยเลือกให้ “อ่อๆ ได้ยินมาบ่อยเหมือนกันค่ะว่าส่วนใหญ่แม่ๆ จะแพ้แบบห่วง คลอดกี่วันแล้วคะ น่าจะใช้แบบธรรมดาไปเลย” “3 วัน ครับ” “งั้นใช้แบบธรรมดาไปเลยค่ะ อันนี้น่าจะได้” เธอหยิบยี่ห้อสีหน้ำเงินกล่องหนึ่งใส่รถเข็นให้ผม แล้วก้มดูลังเบียร์ “ฉลองใหญ่เลย ลูกชายหรือลูกสาวคะเนี่ย” แล้วเธอก็เดินไปทำงานเดิมต่อ คือยกของออกจากรถเข็นที่สูงพะเนินขึ้นชั้นวาง ดูเธอไม่เชื่อว่าผมยังโสดจริงๆ ผมไม่ยอมหรอก ไม่ว่าสาวไหนๆ ห้ามคิดว่าผมมีเมียแล้ว ผมรับไม่ได้!!! ผมจึงตามไปยืนยัน “ผมยังโสดจริงนะ นี่ของพี่สะใภ้” “ค่ะ ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ” โอย เธอเริ่มรู้ตัวแล้ว ว่าผมเริ่มหม้อ จึงไม่พูดอะไร แสดงว่าคงโดนจีบมาเยอะจนรู้ว่าวิธีไล่พวกหน้าหม้อคือเงียบและเฉยชาใส่ แต่ผมไม่ยอมหรอก ยังไงผมก็ต้องได้หม้อก่อนกลับบ้าน “เพิ่งมาทำงานที่นี่เหรอครับ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย” ง่ายจะตาย วิธีเริ่มคุยกับสาวๆ “แสดงว่ามาซื้อผ้าอนามัยบ่อยล่ะซีคะ” กร๊าก เธอยอมคุยกับผมแล้ว แต่วาจาเธอนั้นทิ่มแทงใจนัก หาว่าผมมาซื้อผ้าอนามัยบ่อย “แหะๆ” ผมทำเกาขมับ เพราะรู้ว่า... เวลาผู้ชายตัวใหญหล่อเหลายืนเกาหัวโง่ๆ จะทำให้ผู้หญิงใจอ่อน ฮา จริงด้วย เธอยอมหันมายิ้มแล้ว “มาทำได้ 2 เดือนค่ะ ยังอยู่ช่วงทดลองงาน เพิ่งจบรามฯค่ะ มีผัว มีลูกแล้วสองคนค่ะ” เธอนึกไงไม่รู้แนะนำตัวซะยาวเหยียด โอย อะไรกันเนี่ย คำตอบเธอดักความฝันผมซะเจ็บปวด ถ้าเธอมีลูกมีผัวแล้วจริง แสดงว่าแม่คุณช่างสำคัญตัวผิดที่บังอาจอ้างความจริงเรื่องนี้มาคุยกับคนแปลกหน้าเอาดื้อๆ ยังกับรู้ว่าผมจะหว่านสเน่ห์ใส่ แต่ถ้าเธอยังเป็นสาวเป็นแส้แล้วอุตส่าห์โกหกกันแบบนี้ได้ลงแสดงว่าผมนั้นท่าทางไว้ใจไม่ได้และไร้เซ็กส์แอพเพียลเอามากๆ  ทั้งนี้ทั้งนั้นผมมั่นใจว่าเธอโกหก “จะลงทุนโกหกไปทำม้าย ผมไม่ได้คิดหลอกใครไปขายสักหน่อย เฮ่อ กลับแล้วก็ได้” วันนั้นผมเลยทำถอย แต่รู้น่า... สาวน้อยมองตามหลังผมมา เหอๆ ตอนจ่ายเงิน ผมยังแอบเห็นเธอจ้องอยู่ไกลๆ มีหวังแฮะ... จากคุณ : zuzazu เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 01:13:51

ความคิดเห็นที่ 3 หลังจากนั้นอีกสองสามวันผมกลับไปห้างนั้นอีก ไม่ได้ซื้อผ้าอนามัยหรอก แต่เบียร์มันหมดน่ะ ปรี่ไปแผนกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนตามเคย แล้วจึงสอดส่ายสายตาหาเป้าหมายเดิม แน่นอน... ผมต้องไปที่แผนกผ้าอนามัย ทำแบบนั้นสี่ห้าครั้ง เราก็... กลายเป็นเพื่อนกัน เอ หรือว่า...มากกว่าเพื่อน ไม่รู้เหมือนกัน เธอชื่อ นุ่น เราไปดูหนังด้วยกัน 3 ครั้ง  นั่งแช่ในร้านกาแฟด้วยกัน 4-5 หน เดินแบบไม่เกี่ยวก้อยริมสนามกีฬาฝุ่นบางๆ 1 ครั้ง เธอพูดน้อย เรื่องส่วนตัวของเธอคือ เธออยู่หอพักสำหรับนักศึกษา ไม่ชอบชอบปิ้ง แทะเล็บเป็นบางโอกาส ไม่ค่อยพูดถึงครอบครัวซึ่งอยู่ต่างจังหวัด เธอยังอายุน้อยกว่าผมมาก ตลอดคบกัน 3 เดือน เดือนที่ 4 ผมพาเธอมาที่คลีนิค วันนั้นนั่นเองที่เธอรู้ว่าผมเป็นสัตวแพทย์ “อยากเลี้ยงลูกหมาสักตัว” “อยากได้แบบตัวไหน เดี๋ยวหาให้” งานกระจอกมากๆ สำหรับผม คือ หาน้องหมาให้เด็กที่กำลังจีบ แต่เธอสั่นหน้าอายๆ “ไม่เอาค่ะ นุ่นอยู่หอพักเล็กๆ โดนแม่บ้านด่าตายแน่ๆ” “ก็... เอามาเลี้ยงซะที่นี่แล้วกัน” ผมเลยได้โอกาสหม้อหน้าตาเฉย “งั้นเอาตัวนี้ แบบนี้ค่ะ” เธอชี้ลูกซเนาเซอร์ตัวน้อยๆ ของเด็กคนหนึ่งในกรง “ได้ครับ” ผมสัญญา “ได้มาเมื่อไหร่ ต้องมาให้น้ำให้อาหารมันเองนะ ฮ่าฮ่า เผื่อผมด้วยก็ยิ่งดี หิวเป็นเหมือนกัน” เราสนิทกันมากขึ้น เธอฉลาดน่ารักเอาการเหมือนกัน รู้ทันผมอยู่เรื่อย ผมนึกว่าเราน่าจะไปต่อกันได้ดี แต่พอเธอผ่านช่วงทดลองงาน เธอกลับโดนย้ายไปอยู่สาขาอื่นแถบจังหวัดใกล้เคียง เธอมายืนกระซิกๆ ที่ข้างกรงหมาในคลีนิค จนผมนึกว่าเธอท้องเพราะจ้องตากับผมโดยไม่ได้ใช้ถุงยาง??? อืม... แค่นั้นจริงๆ คบห้าเดือน เดือนหลัง จับมือกัน 10 ครั้ง 8 ครั้งที่เธอแกะนิ้วผมออกสำเร็จ แต่เวลาผมเล่าคนอื่น ก็... แฮะๆ วันนั้นเธอร้องไห้เอาน่าดู แต่ไม่ยักซบไหล่ผมแบบในละครทีวี แต่ก็ยิ้มออกทันทีเมื่อผมบอกว่าเอาลูกหมาไปเลี้ยงด้วยก็ได้ แล้วผมจะไปเยี่ยมบ่อยๆ เธอกอด “เจ้าหนิม” ไว้ในอ้อมอกจนน่าอิจฉา “มีเจ้าหนิมไปด้วย คุณหมอไม่ต้องไปเยี่ยมก็ได้ค่ะ” เอ๊ะ เธอพูดแปลกๆ แต่ผมก็ทำเฉย เรื่องอะไรให้เธอยืนยันอีกครั้งว่าเธอต้องการหมาแต่ไม่ต้องการหมอหมา ผมขับรถไปส่งเธอถึงอพาร์ตเมนท์ในสัปดาห์ต่อมา มันกินเวลาแค่ 3 ชั่วโมง ผมถึงกับจัดเวลาเพื่อจะได้ไปหาเธอบ่อยๆ แต่เชื่อมั้ยฮะ ทุกอย่างกลับจอดสนิท เธอโทรศัพท์มาบอกลา ว่าเธอไม่ได้รักผมหรือชอบแบบที่มากกว่าการเป็นเพื่อนกัน เธอว่าเราไม่น่าจะไปกันได้ ผมเดือดอยู่พักนึง แต่เธอพูดย้ำอายๆ ว่าเธอคิดอย่างนั้นจริงๆ เธอไม่รักผมแบบอื่น ครับ มันสิ้นสุดแค่นั้น ผมเคยขับรถไปแอบดูเธอเดินจากอพาร์ทเมนท์ไปที่ทำงาน  เจ้าหนิมอยู่กับแม่บ้านของอพาร์ทเมนท์ตอนกลางวัน แบบฟอร์มเธอบอกตำแหน่งที่สูงกว่าเดิม ท่าทางเธอเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่ผมไม่ได้เข้าข้างตัวเอง ดูเธอยังไม่มีใครด้วยซ้ำ ผมเข้าไปทักเธอครั้งหนึ่ง ถามเธอตรงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น หรือเธอจะเข้าใจอะไรผมผิด หรือ... ผมทำสิ่งใดผิดพลาดไป “ไม่ค่ะ คุณหมอไม่เคยทำอะไรผิดพลาด ไม่มีอะไรจริงๆ” หน้าตาเธอไม่ยิ้ม ไม่บึ้ง “เราควรจากกันแค่นั้น” เอาล่ะ ผมก็ยอมรับ ใครอยากจบก็ให้จบ ผมไม่เจ็บมากมายอะไร แต่ก็ทำเอายืนจ้องหน้าตัวเองในกระจกได้นานๆ ไปหลายวัน และก็ร้องเพลงพี่ปั่นสะใจขึ้น “ส่องกระจก ดูเงา เงาของตัวเอง แต่จะดูอย่างไร ไม่เคยเข้าใจ ว่าเรามีอะไร ไม่เหมือนใคร เขาถึงทิ้งไปอย่างนั้น... ” ครับ จบแล้ว ...อ้าว ...ก็ไม่มีอะไรน่ะซี บอกแล้วว่ามันรักแท้แต่เรื่อยๆ ใครไม่เข้าใจก็ช่างมันเถิด ผมก็ไม่เข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น ปล. แล้วนี่ผมเขียนดีมั้ย วิจารณ์ด้วย ซีไรท์อยู่ไกลไปหรือเปล่า พูลลิตเชอร์ล่ะ จากคุณ : zuzazu เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 01:16:56

ความคิดเห็นที่ 4 “มีเจ้าหนิมไปด้วย คุณหมอไม่ต้องไปเยี่ยมก็ได้ค่ะ” กร๊าก ประโยคนี้โดนมากๆ เลยครับ บางทีคนที่ใช่ก็คือใช่ ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ เหตุผลมันไม่ได้มากมายไปกว่าความรู้สึกมั้งครับ ป.ล. เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เอง ว่าเขาจีบหญิงกันแบบนี้ จากคุณ : คุณพีทคุง (พิธันดร) เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 06:58:24

ความคิดเห็นที่ 5   โถ.... นี่ถ้าไม่ส่งเจ้านิมไปให้ อาจมีหวังกว่านี้นะนี่ รักแท้ แพ้(สัตว์)ใกล้ชิดแท้ๆ เขียนเฮฮาได้น่ารักเชียวค่ะ หนมจีนรออ่านตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : หนมจีน เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 07:40:30 A:125.27.229.48 X: TicketID:063710

ความคิดเห็นที่ 6 เขียนได้น่ารัก ขำดีแบบเรื่อยๆ ครับ สไตล์อ่านไปอมยิ้มไป บางทีมันก็เป็นเรื่องของหัวใจครับ อย่างที่คุณพีทคุงว่า ใช่ก็คือใช่ ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ สักวัน เมื่อเจอคนที่ใช่ หัวใจจะบอกเอง ปล. ลองเขียนและอ่านไปเรื่อยๆ ครับ หาแนวทางที่ตัวเองชอบ ถ้าเขียนแล้วทำให้ตัวเองชอบและมีความสุข เผื่อแผ่ความสุขนั้นให้คนอ่านได้ ก็ถือเป็นความสำเร็จของคนเขียนแล้วครับ :) จากคุณ : Anithin (Anithin) เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 09:18:56

ความคิดเห็นที่ 7 โอ คุณหมอ(หมา)เขียนกัดตัวเองนะเนี่ย อิอิ จากคุณ : scottie เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 09:45:51

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องน่ารักดีค่ะ  แบบนี้เรียกรักหลอกเอาหมาหรือเปล่าเนี่ย แหะๆ ได้น้องหมามาเลี้ยง สาสมใจแล้วก็ทิ้งกันไป๊~ จากคุณ : Draconia เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 11:32:25

ความคิดเห็นที่ 9 อ๊ะ ชเนาเซอร์ ได้หมาน่ารักแบบนี้ เราก็ไม่เอาหมอ (หมา) เหมือนกันแหละ ฮ่าๆ จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:39:07

ความคิดเห็นที่ 10 ชอบคุ่ะ ขำมากก็ตรงซื้อผ้าอนามัยนี่แหละ ถ้าให้เลือกระหว่างหมาที่ถูกใจกะหมอหมาที่ไม่ได้รู้สึกอะไร เป็นเราเราก็เลือกหมานะ อิอิ คนไม่ใช่ยังไม่ก็ไม่ใช่เนอะ จากคุณ : cHiHo เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 21:20:00

ความคิดเห็นที่ 11 “มีเจ้าหนิมไปด้วย คุณหมอไม่ต้องไปเยี่ยมก็ได้ค่ะ” เคยพูดคล้ายๆกันแบบนี้  กะคนที่ซื้อกระต่ายให้เจ้า จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 14:40:22

ความคิดเห็นที่ 12   น่ารัก....ก....ก จังเลยค่ะ น่ารักมากๆ เอ่อ..อย่าเพิ่งคิดเข้าข้างตัวเองนะคะ คุณหมอขา อินหมายถึงเรื่องราวที่คุณหมอเล่ามา คุณนุ่น และก็เจ้าตัวน้อยน้องหนิมต่างหาก   แต่ก็..^__^ รออ่านตอนต่อไปนะคะ คุณหมอขา ปล. แต่อายุขนาดคุณหมอเนี่ย สเปคอินเลยน้า (แต่ไม่เอาคุณหมอนะคะ แป่ว..ว...ว) แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 52 15:49:36 แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 52 15:48:43 จากคุณ : หนูอิน (อินทรายุธ) เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 15:48:20

ความคิดเห็นที่ 13 กร๊ากกก คุณหมอขา  ทำเราขำกร๊ากกก หลายครั้ง ตอนตีห้าอะ ไม่ยอมๆ จากคุณ : cinta เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 05:06:52

ความคิดเห็นที่ 14 ฮาค่ะ แต่แอบเครียส....- -".... เอาใจช่วยลุ้นรักแท้ต่อค่ะ ^____^ จากคุณ : lonely_moon เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 01:09:41