ความคิดเห็นที่ 1 แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาทางรอยต่อของผ้าม่าน เสมือนนาฬิกาปลุกธรรมชาติเตือนว่าถึงเวลาของวันใหม่แล้ว ผมลุกไปเปิดผ้าม่านเพื่อต้อนรับวันสดใสอีกหนึ่งวันในแผ่นดินลูกพระอาทิตย์ วันนี้ท้องฟ้าเมือง Hachinohe ช่างสวยเหลือเกิน สีฟ้าใส ไร้เมฆหมอก ทำให้ผมต้องรีบอาบน้ำลงมากินข้าวเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรมเพื่อเตรียมเดินทางไปทะเลสาบ Towada หนึ่งในทะเลสาบอันสวยงามของญี่ปุ่นในเขตจังหวัด  Aomori เวลา 8.30 น. ผมเดินทางจากโรงแรมไปยังสถานีรถไฟ Hachinohe แล้วออกไปทางออก west exit เพื่อขึ้นรถบัส JR Bus Tohoku ไปยังทะเลสาบ Towada ซึ่งใช้เวลาสองชั่วโมง และจะผ่านโตรกธาร Oirase ที่ได้ไปมาแล้ว ... จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:04:27

ความคิดเห็นที่ 2 พอถึงเวลา 8.50 น. รถบัสเดินทางออกจากสถานี Hachinohe อย่างตรงเวลา และเช่นเดิมบนรถมีนักท่องเที่ยวอยู่ประปรายเนื่องจากเป็นวันธรรมดา  ผมนั่งชมวิวตลอดสองข้างทางสลับการดูรูปจากโบรชัวร์ภาษาญี่ปุ่นที่หยิบมาจากศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวที่สถานีรถไฟ และมีโบรชัวร์อยู่แผ่นหนึ่งที่ทำให้ผมสนใจเป็นพิเศษก็คือโบรชัวร์ขายอาหารกล่องหลากหลายรูปแบบซึ่งมีสีสันและการจัดแต่งที่ชวนน่ากินเหลือเกิน เมื่อพูดถึงอาหารกล่องหรือ Bento แล้ว เป็นสิ่งที่ผมต้องปรับตัวอย่างมากมายในเรื่องเกี่ยวกับปกตินิสัยในการกินอาหาร จากอาหารไทยเป็นอาหารญี่ปุ่น เนื่องจากตัวผมเองเป็นคนที่ชอบอาหารรสจัดและชอบกินอาหารร้อน มาเป็นกินอาหารกล่องในแบบรสชาติแบบญี่ปุ่นคือจืดๆหวานๆ  และในอุณหภูมิปกติหรือบางครั้งเย็นเลยทีเดียว  เพื่อนๆ อาจจะมีคำถามกลับมาว่าทำไมไม่กินราเมงหรือ โซบะ หรือ อูด้งล่ะ ก็ขอตอบตรงนี้เลยว่าเป็นคนที่ติดข้าวครับ ไม่ชอบกินเส้นก๋วยเตี๋ยว อีกทั้งอาหารกล่องนี้หาซื้อได้สะดวกมีวางขายอยู่ทั่วไปไม่ว่าจะเป็นตามร้านสะดวกซื้อ สถานีรถบัส สถานีรถไฟ  ซุปเปอร์มาเก็ต ฯ ออกแบบมีแพคเก็จสวยงาม แถมราคาประหยัด และ นำไปกินได้ทุกที่  แต่เมื่อเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม จากที่การกินอาหารไทยเป็นหลักก็เริ่มปรับตัวกินอาหารญี่ปุ่นได้ ...และจากที่ไม่ค่อยถูกลิ้นเท่าไหร่ พอกินไปกินมาก็เริ่มรับรู้ถึงความอร่อยขึ้นมาบ้างแล้วครับ ว่าแล้วเรามารู้จักอาหารกล่อง หรือ Bento กันดีกว่า จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:05:01

ความคิดเห็นที่ 3 ประวัติของ Bento หรือข้าวกล่องญี่ปุ่นนั้น เราสามารถย้อนกลับไปได้ไกลจนถึงยุคคามะคุระ (Kamakura ปี 1185-1333) ตอนปลาย หรือประมาณ 600 กว่าปีมาแล้ว ซึ่งเป็นยุคที่เริ่มมีการพัฒนาอาหารแห้งที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า Hoshi-ii และในสมัย อาซูชิ-โมโมยามา (Azuchi-Momoyama ปี 1568-1600) ได้มีการผลิตกล่องไม้เบนโตะเหมือนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ และเบนโตะก็มักจะ รับประทานคู่กันในระหว่างพิธีชงชานับแต่นั้นมา Bento ได้รับความนิยมสุด ๆ ในช่วงยุคทศวรรษ 80 โดยเริ่มการใช้วัสดุราคาถูกมาผลิตเป็นกล่องเบนโตะ อาทิ โฟม ไม้ กระดาษ ฯ  ที่ใช้ครั้งเดียวก็ทิ้งแทนการใช้กล่องไม้เคลือบแลกเกอร์ราคาแพงหรือโลหะที่นิยมใช้กันในช่วงยุคแรก ๆ ปัจจุบันวัฒนธรรมการกิน Bento นี้ยังคงถือปฏิบัติกันเป็นธรรมดาของชาวญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเราจะเห็นได้จากแทบทุกสถานที่ไม่ว่าจะเป็นบริเวณสวนสาธารณะ สนามบิน สถานีรถไฟ บนรถไฟ หรือตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะคนทำงานใส่สูท แม่บ้าน วัยรุ่น หรือ นักท่องเที่ยวแบบผมต่างก็เปิดกล่องอาหารแล้วนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย   ที่ผมนิยมกินบ่อยครั้งสุดก็คงเป็น " Ekiben" ที่หมายถึงข้าวกล่องที่ขายที่สถานีรถไฟ ที่เป็นธุรกิจอาหารขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่ละร้านก็งัดกลยุทธมาเพิ่มยอดขายไม่ว่าจะเป็นเมนู หรือการตกแต่งอย่างสวยงามสร้างแรงกระตุ้นในการอยากลิ้มรสได้เป็นอย่างดี เพื่อนๆ ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นก็ลองหาประสบการณ์สนุกสนานในการกินอาหารกล่องจากสถานีรถไฟนะครับ จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:05:49

ความคิดเห็นที่ 4 ผมละสายตาจากโบรชัวร์อาหารหลังจากกลืนน้ำลายไปหลายอึก เนื่องจากเกิดอาการหิวขึ้นมา ทั้งที่เมื่อเช้าก็กินมาพอสมควร เหลือบดูนาฬิกาก็เริ่มใกล้เที่ยงแล้วซึ่งพอดีกับรถบัสกำลังจะเริ่มจอดเนื่องจากพาผมมาส่งถึงทะเลสาบ Towada แล้ว ผมก็เลยวางแผนว่าลงไปเดินเล่นรอบทะเลสาบก่อนแล้วค่อยหา Bento กินหลังจากเดินถ่ายภาพเสร็จเรียบร้อย จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:06:32

ความคิดเห็นที่ 5 ทะเลสาบ Towada เป็นทะเลสาบที่มีความลึกถึง 327 เมตร ยิ่งในเวลาเที่ยงแบบนี้ผิวน้ำสะท้อนแสงอาทิตย์แวววาวช่างเป็นภาพที่สวยงามเป็นยิ่งนัก ผมเดินชมวิวบริเวณทางเดินริมทะเลสาบด้วยความสบายใจไม่ต้องกลัวฝนเหมือนวันก่อน จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:07:21

ความคิดเห็นที่ 6 วันนี้นักท่องเที่ยวมากพอสมควรซึ่งส่วนใหญ่กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวจะนิยมก็คือล่องเรือสำราญชมวิว ชิมอาหารและขนมท้องถิ่น จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:09:27

ความคิดเห็นที่ 7 บ้างถ่ายภาพกับใบไม้เปลี่ยนสีทั่วทั้งบริเวณทะเลสาบ จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:10:53

ความคิดเห็นที่ 8 ซึ่งต่างก็พร้อมใจกันเปลี่ยนสีต้อนรับผู้มาเยือนอย่างละลานตา จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:11:30

ความคิดเห็นที่ 9 ผมเดินตรงไปเรื่อยๆ จนสุดทางเดินของทะเลสาบก็จะพบรูปปั้นหญิงสาวคู่หนึ่งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทะเลสาบนี้ จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:12:13

ความคิดเห็นที่ 10 รูปปั้น  Otome no Zo นี้เป็นรูปปั้นเด็กสาวสองคนยืนในท่าแตะมือหันหน้าเข้าหากัน ซึ่งเป็นผลงานของกวีและสถาปนิกชื่อก้องนาม Takamura Kotaro (1883-1956 ) ตัวผมเองก็ยังอดไม่ได้ที่ยืนชมรูปปั้นที่ต้องใช่จินตนาการที่ถ่ายทอดออกมาจากความนึกคิดของปฏิมากรที่ต้องการสื่อสารอะไรกับผู้ชมอย่างเราบ้าง จากนั้นผมก็เก็บภาพรูปปั้นสองสาวในหลายๆ มุม แต่ก็น่าเสียดายที่ใบไม้สีสวยๆ ตรงฉากหลังรูปปั้นเริ่มร่วงเสียแล้ว จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:14:28

ความคิดเห็นที่ 11 ข้าวเที่ยงของผมวันนี้ไม่ใช่เป็น Bento ตามที่ตั้งใจไว้ แต่กลายเป็นแซนด์วิทหนึ่งชิ้น และชาเขียวหนึ่งขวด เนื่องจากเดินเที่ยวเพลินจนเกือบถึงเวลาที่จองรถบัสไปขึ้นกระเช้ายังภูเขา Hakkoda ทางกลับไป Aomori จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:15:10

ความคิดเห็นที่ 12 รอบๆ ทะเลสาบ Towada  นั้นบรรยากาศจะคล้ายๆ บริเวณทะเลสาบ Achi ที่วนอุทยาน Hakone นอกจากจะมีกิจกรรมต่างๆ ที่ทะเลสาบให้นักท่องเที่ยวได้ใช้บริการแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกเช่นศาลเจ้า Towada Shrine อีกทั้งจุดชมวิวอีกหลายจุดรอบทะเลสาบ จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:15:44

ความคิดเห็นที่ 13 แต่ผมเลือกที่จะเดินทัศนาใบไม้หลากหลายพันธุ์ที่กำลังแข่งกันในการเปลี่ยนสีราวกับช่างสีได้ร่วมใจกันทาสีใบไม้เหล่านี้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ไม่ว่าจะเป็น สีแดง สีเหลือง หรือ สีส้ม ต่างก็โชว์โฉมรายรอบทะเลสาบเหมือนอยากจะบอกว่าไม่มีสิ่งใดจะงดงามไปกว่าตนอีกแล้ว จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:16:17

ความคิดเห็นที่ 14 การเดินฃมใบไม้ที่อวดสีสันตัดกับฟ้าสีครามในยามแสงแดดสาดส่องสะท้อนผิวน้ำของทะเลสาบ พลางก็ให้ผมนึกถึงเนื้อเพลงของ Louise Armstrong ที่ว่า   “ .. And I think to myself, what a wonderful world ” ผมเดินกลับมายังท่ารถบัสผ่านสายลมปะทะใบหน้าอย่างอ่อนโยนพร้อมกับสูดลมเย็นๆ ที่พัดมาจากทะเลสาบเข้าเต็มปอดอย่างมีความสุข แล้วผมก็มาหยุดอยู่ที่ต้นไม้ต้นหนึ่งที่ใบไม้เริ่มร่วงลงสู่พื้นเกือบหมดต้นแล้ว  ทำให้ผมได้มุมมองเปรียบเทียบกับชีวิตมนุษย์ซึ่งคงไม่ต่างจากใบไม้เมื่อก้าวไปสู่จุดสูงสุด งดงามที่สุดแล้ว ไม่เร็วก็ช้าทุกคนคงต้องร่วงหล่นสู่จุดเริ่มต้นตามบุญกรรมที่ได้ทำกันมา .......   การเดินทางไปยังทะเลสาบ Towada  : จากสถานี  JR  Hachinohe Station หรือ JR  Aomori Station ให้นั่งรถบัส JR Bus for Towada-ko แล้วลงป้ายสุดท้าย หมายเหตุ : ถ้ามีบัตร JR Rail Pass (Nationwide) สามารถใช้ขึ้นรถบัสนี้ได้ฟรี พบกันใหม่ตอนหน้ากับเพลงเพราะๆ ที่บรรเลงพร้อมภาพที่ Mt. Hakkoda ครับ จากคุณ : CEOTHAI42 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:17:14

ความคิดเห็นที่ 15 ภาพสวยมากเลยค่ะ อาหารก็น่ากินอะนะ จากคุณ : หม่าม๊าขาหมู (หม่าม๊าขาหมู) เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 14:42:49

ความคิดเห็นที่ 16 เลื่อนซ้ายขวาอ่านแล้วมันปวดหัวน่ะค่า จากคุณ : scottie เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 19:51:26

ความคิดเห็นที่ 17 ถ่ายภาพสวยมากเลยค่ะ สงสัยจะมือโปรแน่ๆเลย อาหารกล่องน่าหม่ำมากค่ะ จากคุณ : Pim~Dow เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 20:36:58

ความคิดเห็นที่ 18 รูปสวยสุดๆ อีกแล้วค่ะ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 23:28:06

ความคิดเห็นที่ 19 รูปสวยเหมือนเดิมค่ะ คราวนี้ดีหน่อยใช้ notebook เครื่องที่ใช้ที่บ้าน จอกว้างดี ก็เลยเห็นภาพชัดดีไม่ต้องเลื่อนไปมาเหมือนคอมพิวเตอร์ที่ทำงานค่ะ รูปอาหารที่ ๒ เห็นขวดชา ตอนแรกคิดว่าน้ำปลาเสียอีก ที่เป็นไข่นั่นคล้ายๆ ไข่ลูกเขยนะคะ (สนใจอาหารเป็นพิเศษ โปรดสังเกต) จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 01:29:37