Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
--- บทที่ 1 ยังคิดชื่อเรื่องไม่ออก --- โดย ดาราสมุทร  

เรื่องนี้ผู้เขียนยังคิดชื่อเรื่องไม่ออก

ถ้าคิดออกจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ^^

..............................

บท 1

ร่างเพรียวระหงค่อยๆ ย่างฝีเท้าเข้ามาในห้องอย่างเบากริบ เนื่องจากเกรงเสียงจะปลุกผู้ที่นอนบนเตียงให้ตื่น หญิงสาวเดินอ้อมเตียงไปรวบม่านที่หน้าต่างเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อแสงยามเช้าจะได้ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามา ช่วยให้ภายในห้องสดชื่น สว่างขึ้น หลังจากนั้นก็จัดการเก็บโน่น หยิบนี่ให้เรียบร้อย เข้าที่ และระหว่างที่เธอจัดของบนโต๊ะข้างเตียงอยู่นั้นเอง สายตาก็พลันเหลือบไปเห็นบางสิ่งที่ซุกอยู่ใต้หมอนของผู้เป็นมารดา มันโผล่ออกมาให้เห็นเพียงเล็กน้อยแต่ก็มากพอที่จะทำให้หัวใจเธอหยุดเต้นลงได้ในทันที

ดอกไม้!

หญิงสาวรีบเขย่าตัวผู้ที่นอนหนุนอยู่บนหมอนใบนั้นพร้อมกับเรียกด้วยความตื่นตระหนก ในใจภาวนาขออย่าให้เป็นเช่นที่คิดไว้

“คุณแม่คะ คุณแม่คะ คุณแม่ แม่นวลจันทร์”

ร่างบนเตียงลืมตาขึ้นช้าๆ ก่อนผินหน้ามองผู้ที่ปลุกเรียกด้วยประหลาดใจ ซึ่งขณะนี้คนเรียกสีหน้าขาวซีดยิ่งกว่ากระดาษ แม่ยิ้มทักทายก่อนถาม

“มีอะไรหรือดาว ปลุกแม่ซะแรงเชียว”

ดาวพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอกที่แม่ของตนไม่เป็นอะไร ยังสามารถพูดจาได้โดยปกติ

“แม่เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”

เสียงเธอยังไม่หายสั่นจากอาการตกใจ

“แม่ก็เป็นคนไข้ขี้โรคนั่นแหละ ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านี้”

แม่พยายามพูดให้เป็นเรื่องขบขัน ทว่าตอนนี้เธอหัวเราะไม่ออกเสียแล้ว ละอองดาวดึงดอกไม้ที่อยู่ใต้หมอนแล้ว ขว้างลงถังขยะมุมห้องอย่างไม่ใยดี  

“หนูเจอดอกไม้อยู่ใต้หมอน”

คราวนี้แม่เป็นผู้ที่หน้าถอดสี นางฝืนกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นก่อนถามเพื่อความแน่ใจว่าตนได้ยินไม่ผิด

“ดอกไม้เหรอ ในห้องแม่?”

“ค่ะ ดอกไม้”

“มาอยู่ในห้องแม่ได้ยังไง”

“ใช่ค่ะมันมาอยู่ในห้องคุณแม่ได้ยังไง” เธอทบทวน ครุ่นคิด

“ในเมื่อทุกคนในบ้านรู้ดีว่าแม่แพ้ดอกไม้มาก หนูก็สั่งห้ามแล้วว่าอย่าเอาดอกไม้เข้ามา สวนบ้านเราก็ไม่ปลูกดอกไม้สักดอก ฉะนั้นดอกไม้ดอกนี้ต้องมีคนจงใจนำมันเข้ามา...ไม่ประสงค์ดีซะด้วย”

คุณนวลนวลจันทร์ ป่วยเป็นโรคหอบหืด และโรคหัวใจมาตั้งแต่เด็กๆ อีกทั้งยังมีโรคแทรกซ้อนอยู่เป็นระยะ ทำให้แม่ของเธอไม่สามารถใช้ชีวิตเหมือนเด็กปกติทั่วไปในวัยเดียวกัน ไม่มีสังคม เพื่อน ไม่ได้ไปโรงเรียนเพราะโรคที่เป็นอยู่ซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น คุณตาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกสาวสุดที่รักเพียงคนเดียวหายจากความทรมาน ทั้งพาไปหาหมอที่ขึ้นชื่อ โรงพยาบาลไหนที่เขาว่าดีก็พาไป แต่ก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทำได้แค่เพียงประคองอาการไม่ให้แย่ลงไปกว่านี้

ครั้งหนึ่ง คุณตา ได้พาแม่ไปพักผ่อนยังบ้านพักตากอากาศ หวังว่าการเปลี่ยนบรรยากาศจะช่วยอาการของแม่ดีขึ้นบ้าง หากยิ่งทำให้แย่ลงกว่าเก่า เหตุมาจากระหว่างที่คุณตากำลังพักผ่อนอยู่ในบ้าน แม่นวลจันทร์ซึ่งตอนนั้นอยู่ในวัยกำลังซุกซน แอบไปเที่ยวเล่นข้างนอกบ้านตามลำพัง ซึ่งก็ไม่น่าใช่ปัญหาใหญ่หากแม่ไม่เข้าหลงไปในสวนดอกไม้

เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้แม่เกือบจบชีวิตลง คุณตารู้สึกผิดเป็นอย่างมาก และลงความเห็นว่าไม่ควรพาแม่ไปไหนเกินกว่ารั้วบ้าน อีกทั้งยังสั่งถอนไม้ดอกทุกต้นที่ปลูกในสวนออกทั้งหมด และยังสั่งห้ามนำดอกไม้เข้ามาในบ้านเด็ดขาด

แม่เติบโตมาท่ามกลางการเลี้ยงดูประหนึ่งไข่ในหิน คุณตาสรรหาทุกอย่างมาให้แม่พร้อมสรรพโดยไม่ต้องออกนอกเขตบ้าน อยากได้สิ่งใดก็ได้ไม่ขาดตกบกพร่อง อีกทั้งคุณตายังจ้างครูมาสอนถึงบ้าน โดยทุกๆ วิชาแม่เรียนรู้ได้เร็วทัดเทียมกับเด็กทั่วไปที่เรียนตามโรงเรียนปกติ

การเลี้ยงดูที่เปรียบเสมือนเจ้าหญิงในพระราชวังปิดตายหล่อหลอมให้แม่มีอุปนิสัยเงียบขรึม ไม่ค่อยพูดจา มักเก็บความรู้สึกไว้ภายใน ไม่แสดงอาการให้ใครรู้ว่าคิดอะไร เมื่อไม่สบายใจมักเก็บตัวในห้องเพียงคนเดียว ร้ายที่สุดคือ แม่เคยพยายามฆ่าตัวตายเพราะไม่อยากทนกับสภาพชีวิตที่ประสบ

คุณตาเริ่มมาตระหนักถึงความโดดเดี่ยว อ้างว้างที่อยู่ภายในใจของแม่ ท่านจึงได้ขอพ่อ ลูกชายคนเดียววัย 16 ปีของเพื่อนสนิท เป็นนายทหารระดับนายพลซึ่งท่านได้เสียชีวิตลงอย่างกะทันหันทำให้ครอบครัวของพ่อมีปัญหาทางด้านการเงินอย่างหนัก คุณตาจึงอาสารับพ่อมาเลี้ยงโดยให้เหตุผลกับคุณย่าว่าสงสาร อยากให้พ่อมีอนาคตที่ดี ทว่าความจริงแล้วคุณตาต้องการให้พ่อมาเป็นเพื่อนแก้เหงาให้กับแม่ และมีหน้าที่ดูแลแม่ที่ร่างกายไม่สู้แข็งแรงนัก เมื่อยามใดคุณตาจากโลกนี้ไปอย่างน้อยแม่จะไม่ถูกทอดทิ้ง

ทั้งคู่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นสัมพันธ์รักระหว่างคนสองคน แม่บอกเธอเสมอว่าพ่อเป็นคนดี ดูแลแม่ทุกอย่าง คอยปลอบประโลมยามท้อแท้  เปรียบดังหลักให้พิงยามเหนื่อยล้า เป็นเพียงกำลังใจเดียวที่แม่มีเมื่อครั้งเสียคุณตาไป แม่จึงมั่นใจ ไม่ลังเลที่จะตอบตกลงแต่งงานกับพ่อตามคำขอสุดท้ายของคุณตา เพราะแม่รักพ่อสุดหัวใจ สุดท้ายความรักนั้นยังตกทอดต่อมา เกิดเป็นเธอ และน้องชายอีกคน

“คุณแม่นอนต่อเถอะค่ะ ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว”

“แม่นอนพอแล้วจ๊ะ ดาวมีอะไรก็ไปทำเถอะ”
คุณนวลจันทร์มีสีหน้าสดชื่นกว่าทุกวัน ช่วยให้เธอคลายกังวลลงบ้าง

“งั้น อีกสิบนาทีเดี๋ยวหนูยกสำรับขึ้นมานะคะ”

“แม่ลงเป็นกินข้างล่างเองก็ได้ แค่นี้เอง” ผู้เป็นมารดาแย้ง

“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณแม่ยังป่วย ไม่แข็งแรง”

“แม่ก็ป่วยอย่างนี้ตลอดนั่นแหละ”

“รอแป๊บเดียวนะคะ เดี๋ยวหนูมา”

หญิงสาวรีบตัดบทก่อนที่แม่จะแย้งขึ้นมาอีก แล้วรุดไปตรวจตรารอบๆ ห้องอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีดอกไม้แม้แต่กลีบเดียวหลงเหลืออยู่ จนกระทั้งมั่นใจจึงออกจากห้องไปพร้อมกับถังขยะที่มีดอกไม้ไม่ได้รับเชิญอยู่ภายใน

จากคุณ : เจ้าสมุทร
เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 17:12:24




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com