หมอเถื่อน ณ บ้านไพร ตอนที่ 12
|
|
แสงไฟนีออนส่องสว่างนวล มาจากประตูเต็นท์ของหมอกฤษณ์ เสียงเพลงสไตล์แจ๊สอันทุ่มนุ่มคลอออกมาเบาๆด้วยบทเพลง What a wonderful world ของหลุยส์ อาร์มสตรอง อันทำให้บรรยากาศคืนนี้ช่างงดงามเป็นใจ แค้มป์แห่งนี้ใช้แผงโซล่าเซลล์รับพลังงานแสงอาทิตย์ให้แปรเปลี่ยนเป็นพลังไฟฟ้าเพื่อใช้ในทุกกิจกรรมในภาคกลางวัน แต่จะสงวนพลังงานในกลางคืนดังนั้นทุกคนจึงต้องเข้านอนกันเร็ว แต่เฉพาะในคืนพิเศษอันเป็นคืนค่ำสุดท้ายก่อนการเดินทาง ทุกหลอดดวงจึงถูกเปิดจนสว่างไสวเพื่องานเลี้ยงก่อนการเดินทาง
เกตุแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตกางเกงขายาวเพราะคิดว่าเข้าท่าที่สุดแล้ว หมุนวนอยู่หน้ากระจกเงาอันได้อภินันทนาการจากพี่หมอ ฉีดน้ำหอมซะฟุ้งยี่ห้อแบนด์ดังซึ่งสปอนเซอร์ทีมมอบให้ ชโลมโลชันให้ดูสดชื่นเพียงเท่านั่น เสื้อผ้ารองเท้าเท่าที่มีทั้งหมดเป็นแบบทะมัดทะแมงแม้จะดูแข็งๆไปบ้างแต่ได้ใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตาอันส่อประกายซุกซนเมื่อยามเด็กสาวนึกถึงเขาคนนั้น พี่หมอเอากระจกมาให้พร้อมกระซิบที่ข้างหูว่า
"เป็นเด็กสาวควรรักสวยรักงามเข้าไว้นะจ๊ะ ผู้ชายขนตางอนแถมผิวสวยออกอย่างนั้นมาบอกทั้งที เขา ทำให้เรื่องหนักๆในหัวของเธอเรื่องตามหาน้องผ่อนคลายลงไปได้บ้าง
เตรียมเฉพาะชุดลุยๆมา ไม่คิดว่าจะมาเจอเอาดินเนอร์ทานอาหารค่ำกันกลางป่าเขาแบบนี้ เกตุแต่งตัวโดยเฉลี่ยอันเร็วกว่าผู้หญิงทั่วไปอยู่เล็กน้อย ฮำเสียงเพลงเบาๆไปด้วยก่อนหมุนตัวหน้ากระจกตรวจสอบความสวยอีกรอบ เสร็จแล้วพอเดินออกไปอีกฝังก็เจอพวกนายคงยืนรออยู่
พวกเราจะกินบะหมี่ต้มกันที่นี้กะน้าเล่าอูแล้วก็น้าทองปา บอกตรงๆ เบื่อ จะกินอาหารโรงพยาบาลของคุณหมอแล้วพี่...คำตอบสั้นๆ แกมอมยิ้ม มองสำรวจทั่วเรือนกายลูกพี่คนสวยคนนี้อย่างพอใจ น้าทองปาคนนอกออกจะมองอย่างฉงนกับสาวสวยคนนี้ เธอเป็นมานพน้อยอันกล้าหาญเมื่อกลางวันแต่มาเป็นหญิงสาวอันดูบริสุทธิ์ในตอนกลางคืน บุคลิกท่าทางเหมือนเด็กสาวทั่วไป
ตามใจ! เขาอุตสาห์เชิญแล้วนะปลายหางตาคมอย่างเคืองๆ
เกตุทำเชอะเมินเดินสะบัดหน้าจากไป ปล่อยกลิ่นน้ำหอมไล่หลังจนบางคนต้องนิ้วขยี้จมูกตนเองอย่างไม่เชื่อ พวกนายคงแอบยิ้มแฉ่งยืนมองส่งอยู่หน้าเต็นท์ ไม่มีใครบอกหล่อนก่อนหรอกว่างานเลี้ยงจะมีบุคคลสำคัญของการเดินทาง คู่ปรับ ตัวแสบของเธอจะมาร่วมด้วยเลย
คงยืนเอามือลูบคาง ยิ้มกริ่ม จ้องมองตาม สะโพกงอนงามนั้นอันกำลังพลิ้วเป็นใบไม้ไหวตามจังหวะการเดินมุ่งไปยังเต็นท์ของหมอกฤษณ์
สงสัยพี่เกตุจะปิ๊งพี่หมอเจ้าสำอางเข้าให้แล้ว ถึงขนาดลงทุนแต่งหน้าทาปาก ทั้งปีทั้งชาติคลุกอยู่กับพวกเราตลอด ไม่เห็นแต่งหน้าแต่งตาสวยๆอย่างนี้เลย
ผั๊ว!
นี่แน่ะ ห้ามมองพี่เกตุด้วยสายตาอย่างนั้น เจ้าทะลึ่ง
อูย...มาตบหัวกันทำไมว่ะเจ้าองครักษ์โย่ง กันมองอย่างศิลป์นะ
โย่งเป็นคนเคารพและเชื่อฟังเกตุที่สุด
มองก็ไม่ได้ ห้ามคิดอะไรเลยเถิดด้วย ไอ้ทะลึ่ง! ไอ้โรคจิต!ฉันรู้นะ ว่าพวกแกแอบขโมยชุดชั้นในพี่เกตุไปทำมิดีมิร้าย ช่วยตัวเองอยู่บ่อยๆ พี่เกตุรู้นะ ไม่เตะพวกแกตายดีแค่ไหนแล้วโย่งกราดนิ้วชี้ขู่
เจอเพื่อนล่อเอาซะหน้าชา น้าทองปากะน้าเล่าอูหัวร่อคิๆชี้นิ้วไปที่คนหน้าไม่อายทั้งสอง
ว๊าก! ทนไม่ไหวแล้ว!คงกะเดชประเคนหมัดตีนเข้าให้บ้าง
น้าเล่าอู! ช่วยกันจับแก้ผ้าไอ้นี้เร็ว ในตัวมันมีรูปแอบถ่ายพี่เกตุอยู่เป็นปึก ไอ้โย่งมันแอบรักพี่เกตุ!เจ้าข้า!! เอย
แล้วสองคนก็รุมทึ่งจับแก้ผ้าเพื่อนโย่งเอาคืนเรื่องมาฉีกหน้ากัน ส่งเสียงเฮฮาลั่น พวกนี้เล่นกันแรงเสมอแต่ก็ไม่เคยโกรธกันจริง
มาแล้วค่า...โอโห้!
ภายในเต็นท์ทันทีเมื่อก้าวขามาถึงก็ได้สูดกลิ่นหอมละมุนของอาหาร แสงสว่างนวลใยภายในที่ทำให้เห็นทุกคนซึ่งเฝ้ารอเกตุอยู่พร้อมหน้า เหมือนกำลังรอคอยเจ้าหญิงตัวเอกของงาน โต๊ะอาหารอันถูกจัดตกแต่งด้วยผ้าปูสีสวย ภาชนะเครื่องทานอาหารสวยหรูที่ถูกจัดวางอย่างมีศิลปะระดับโรงแรมห้าดาว โดยเฉพาะคนซึ่งนั่งอยู่หัวโต๊ะเจ้าของงานเลี้ยง ผู้ชายผู้มีใบหน้าอันงามสะอาดหมดจด หมอกฤษณ์ลุกขึ้นกล่าวทักทายต้อนรับเธอทันที พี่หาญศึก ลุงจ่า หมู่แม็กนั่งอยู่พร้อมหน้าถัดไป อีกฝังของโต๊ะมี คุณอภิรักษ์คนมาดนิ่ม เนลอญเจ้าหนุ่มชาวมอญในชุดประจำเผ่า เต๊อะ หนุ่มสะองกะเหรี่ยงโปว์ลูกบ้านสเนพ่อง ทุกคนเหมือนกำลังสนทนาค้างกันอยู่พลันหยุดหันมามองเธอด้วยสีหน้าอันยิ้มแย้ม
หะทีแรกเธอคือเด็กสาวอันห้าวๆแลดูซุกซนเหมือนเด็กสาววัยรุ่น แต่พอทุกคนเพ่งพิศ หญิงสาวร่างสูงโปร่ง ผมสั้นดำคลับ จมูกเชิดรั้น ตาคมวาวแต่แฝงแววร่าเริง ริมฝีปากอันเจือด้วยลิบสติกมันดูจิ้มลิ้มสดใส ผิวคล่ำเล็กน้อยแต่นวลเนียนเปล่งปรั่ง สัดส่วนเนินอกส่วนเว้าส่วนโค้งมีครบเช่นสาวสะพรั่ง หาญศึกรีบชี้นิ้วเรียกเกตุให้มานั่งข้างๆตัวเขา
ขอโทษนะค่ะที่ให้รอนาน คืนนี้พี่หมอหล่อมากนะคะ เอะเออ จะไงดีละพวกเราจะเริ่มลงมือทานได้แล้วใช้ไหมคะ
จ๊ะ คืนนี้น้องเกตุก็สวย น่ารักมากๆเลยนะหมอกฤษณ์ยิ่งเอ็นดูในความเปิ่นเขินอายของเธอ
อย่าทำเป็นเปิ่นต่อหน้าพี่หมออีกนะยัยตัวดีหาญศึกโอบเอาตัวเกตุเขย่า บีบจมูกเธอหยอกเย่าเล่น แต่ในสายตาคนอื่น นี้ เป็นการแสดงตนเป็นเจ้าเข้าเจ้าของมากกว่า
หมอส่งยิ้มหวานมาที่นายทหารหนุ่ม อะอืม ขออนุญาตนะครับคุณหาญศึก น้องเกตุเข้ามาอยู่ข้างๆพี่ได้มั้ยจ๊ะหมอสำอางกรีดนิ้วเรียก
ได้คะพีหมอเกตุยิ้มตอบรีบผละออกไปจากอ้อมแขนของหาญศึก ย้ายเก้าอี้ไปนั่งข้างๆหมอกฤษณ์อย่างเร็วไว
นี่ น้องเกตุเราน่ะ ยังแต่งอายแชโดว์ไม่เป็นนะหมอกฤษณ์ใช้นิ้วเกลี่ยขอบตาอันมีสีฝุ่นติดอยู่มากของหล่อน
อายไลน์เนอร์กับที่เขียนขอบตาพี่ให้เราไปเอาติดตัวมาด้วยรึเปล่า?
น้องไม่ได้เอามาคะ
แย่จริง น้องเป็นผู้หญิงต้องหัดพกของพวกนี้ติดตัวด้วย เสน่ห์ของผู้หญิงอยู่ที่ความสวยนะ มา พี่จะเอาทิสชูเช็ดขอบตาให้ เราแต่งสะเลอะเลย ตาของน้องกลมโตสวยอยู่แล้วไม่ต้องเน้นจุดนี้มากก็ได้
ท่าทีการพูดอันจีบปากจีบคอของหมอกฤษณ์ กับการดูแลความสวยความงามให้ผู้หญิง คนๆนี้ดูสำอางมากก็จริงแต่นึกไม่ถึงว่าจะขนาดนี้ เนลอญกับเต๊อะก็มองแล้วยิ้ม หาญศึกแอบลอบส่งสายตากับจ่าแจ๋วแล้วพยักหน้าให้กัน
หมอคนนี้ไม่ธรรมดาซะแล้ว
ก่อนแต่งต้องลงครีมก่อนนะ แล้วตามด้วยฝุ่น ส่วนบลัชก็ทาแบบครีมก่อนทาแป้งแล้วปัดทับด้วยฝุ่นอีกที อย่างเช่น ใช้มัลติเพิลออกัสซั่ม ทับด้วยบลัชออกัสซั่ม
เกตุทำตาบ๊องแบ้วมองหมอกฤษณ์ตาปริบๆพอมาอยู่ใกล้กันขนาดนี้หัวใจของเธอแทบเต้นไม่เป็นส่ำ พี่หมอมีดวงตาสีฟ้าและขนตางอนสวยมาก
เสร็จแล้ว ทุกคนดูนี่
หมอกฤษณ์จัดการแต่งหน้าเกตุซะใหม่ก่อนอวดโสมให้ทุกคนเห็น มีเสียงชื่นชมของแต่ละคนตามมาทันที เกตุนะสวยอยู่แล้วแต่ที่พวกหาญศึกอึ่งและมองอยู่น่ะคือตัวหมอผู้เป็นช่างเสริมสวยได้อีกตะหาก
รบกวนพี่หมอออก งานเลี้ยงเลยยังไม่ได้เริ่มเลยเกตุพูดแต่แสดงอาการหิวอย่างเดียงสา
หมอขนตางอนยิ้มละไมพยักหน้าให้เกตุกลับไปนั่งที่ได้
ไม่เป็นไร น้องเกตุเพราะเรายังเหลือแขกคนสำคัญของงานอีกคนหนึ่งที่ยังไม่ได้นั่งประจำที่
ผู้กองเหลือบตาเข้มๆมองคนข้างหลังของเกตุผู้ที่เข้ามาในงานอย่างเงียบเชียบ หมอกฤษณ์พูดยังไม่ทันจบก็ต้องมีเสียงร้อง กรี๊ด! สะดุ้งตกใจของผู้หญิงคนเดียวในงานอันจู่ๆมีคนมายืนชิดอยู่ข้างหลังอย่างไม่รู้สึกตัว หล่อนดีดแข้งออกไปตามสัญชาติญาณนักเทควันโด นายสัณฑ์เคราดำหลบได้และแอบกิ๊กตาให้หล่อนก่อนก้าวเดินไปนั่งเก้าอี้ว่างตัวสุดท้าย
นายเคราดำ!
เกตุถึงกับจ้องเขม็งตาไม่กระพริบ ริมฝีปากสั่นระริก กับเจ้าคนโรคจิตเมื่อเช้าลืมไปเลยว่าจะต้องมาพบเจอที่นี้อีก
เมื่อทุกท่านมาพร้อมหน้ากันแล้วก่อนอื่นขอแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับคุณสัณฑ์ผู้นำในการเดินทางคนสำคัญครั้งนี่ด้วยครับ!
สัณฑ์ลุกขึ้นมาโค้งคำนับเจ้าภาพและทุกคนในงาน เสียงตบมือกราวเริ่มจากฝังหมอกฤษณ์ คนที่เหลือเลยต้องเออออตบมือตามไปด้วย เจ้าภาพงานเริ่มสร้างบรรยากาศงานเลี้ยงให้กลายเป็นงานต้อนรับซึ่งมีนายสัณฑ์เป็นตัวเอก
เจ้าเครางามคนลึกลับคู่ปรับตัวฉกาจของเกตุเวลานี้ได้รวบผมเผ้ารุงรังมัดจุกห้อยหลังทำให้เห็นใบหน้าสว่างชัดเจนขึ้น คิ้วหนา ตาคมในกรอบลึกและจมูกโด่ง หนวดเคราอันชโลมด้วยน้ำมันจนขึ้นเงา สวมเชิ้ตขาวแขนยาวแบบเดียวกับหมอกฤษณ์ ใครบางคนถึงกับสะบัดหน้ายืนกอดอกไปทางอื่นเสีย แต่ เหล่หางตาคมๆหลายครั้งไปยังเจ้าศัตรูคู่แค้น
เหมือนมาเฟียคุมวินมอเตอร์ไซด์ซะมากกว่าใครคนหนึ่งพูดแว่วขึ้น
แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 52 19:08:55
| จากคุณ |
:
doctorwar
|
| เขียนเมื่อ |
:
13 พ.ย. 52 00:06:44
|
|
|
|