Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ปู่ชุ่ม ปี่พาทย์เจ้าสำราญ ในตำนาน ผู้มีตัวตนจริง  

หากใครที่ได้เคยชมภาพยนต์เรื่องยิ่งใหญ่ แห่งประวัติศาสตร์ของวงการดนตรีไทย
เมื่อปี พุทธศักราช ๒๕๔๗
เรื่อง  "โหมโรง"
ก็คงจะจำบางฉากในตอนต้นต้นของเรื่องได้

ฉากนั้น
เปนฉากที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น
ในบ้านของ พ่อครูสิน
ครูดนตรีไทยฝีมือเยี่ยม
แห่งบ้านอัมพวาแขวงเมืองแม่กลอง (จ. สมุทรสงครามในปัจจุบัน)
ผู้ซึ่งเปนบิดาของนายศร
นักระนาดหนุ่มเลือดใหม่อายุเพียงแค่ สิบแปดปี  

( ซึ่งในกาลต่อมา
 ก็คือ
 ท่านครู หลวงประดิษฐ์ไพเราะ – ศร ศิลปะบรรเลง   นั้นเอง)

และกำลังห้าวอย่างสุดสุด
กับเชื่อในฝีมือของตนเองเปนอันมาก
จนกระทั่งบังอาจขัดคำสั่งของบิดา
ที่กำลังกำกับควบคุมให้ซ้อมปี่พาทย์อยู่อย่างเคร่งครัด
เพื่อเตรียมตัวที่จะประชัน
กับวงในสังกัดของ ท่านสมุหเทศาภิบาลเมืองราชบุรี
อันมีชื่อเสียงเลื่องลือ
ว่ามีระนาดมือดีที่ชื่อ พ่อหยก

ครั้นนายศรเลิกเล่นสนุกในวงพนันหลับตาตีระนาด
กับสหายคู่หูที่มีนามว่า เจ้าทิว
ก็กลับมาพบกับพ่อครูสินที่บ้าน
พ่อครูสิน ท่านก็โกรธมาก
ที่เห็นนายศรละเลยในการฝึกซ้อม
และปล่อยให้คณะพรรคทั้งวงต้องคอย

พ่อครูจึงสั่งลงโทษนายศร
ด้วยการเปลี่ยนตัวระนาดเอก
ซึ่งเปนตำแหน่งของนักดนตรีเด่นของวงปี่พาทย์
จากนายศร มาเปนคนฆ้องลูกวงคนหนึ่ง

ที่ชื่อ ตาชุ่ม . . .

. . . . . . . . .

. . . . . ในบทภาพยนต์ของคุณ อิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์
ได้เขียนถึงความรู้สึกของปู่ชุ่ม
เมื่อพ่อครูสินได้ให้โอกาสนั้นกับท่าน

ประมาณว่า
ปู่ชุ่มเองก็รู้สึกดีใจมากมาก
ที่ได้มีโอกาสมาเปนคนระนาด
โดยนั่งแทนนายศร
นายวงตัวลือ

แต่ปู่ท่านก็ปลื้มเสียจนลืมตัว
คือลืมแม้แต่กระทั่งว่า
มือระนาดเอก
ของท่านสมุหเทศาภิบาลมณฑลราชบุรีนั้น
ฝีมือก็มิได้เปนรองใคร ในสมัยนั้น เช่นกัน

ครั้นเมื่อถึงวันประชัน
วงราชบุรีได้บรรเลงก่อน
และก็ได้แสดงฝีมือที่เหนือชั้น
เสียจน ปู่ชุ่ม ที่นั่งฟังรอประชันอยู่
ถึงกับเหงื่อแตกและใจฝ่อเลยแหละ

จนกระทั่งต้องออกปากให้นายศร
(คุณครู หลวงประดิษฐ์ไพเราะ)
ซึ่งพ่อครูสินกำลังดัดนิสัย
ด้วยการให้ตีฆ้องวงแทนตนอยู่นั้น
เปลี่ยนตำแหน่งกัน
โดยให้นายศรมาตีระนาดเอกตามเดิม

แต่ในเมื่อยังไม่มีคำอนุญาตจากพ่อครูสิน
พอเมื่อถึงเวลาประชันจริง
ปู่ชุ่มก็จึงจำต้องแกว่งไม้ระนาดไปตามเพลง

แต่ด้วยฝีมือที่มิได้ชำนาญในระนาดเอกนัก
ประกอบกับความเกรงกันมาตั้งแต่ในมุ้ง
คือเกรงในฝีมือของฝ่ายโน้น
ที่เข่นระนาด ข่ม  ปู่ชุ่ม อยู่อย่างเต็มเต็มดอกนั้น

จึงสามารถที่จะทำให้ ปู่ชุ่ม ตกประหม่า
จนตีระนาดแทบไม่เปนเพลง
กระทั่งท่าน สมุหเทศาภิบาล
ถึงกับต้องลุกขึ้นมาตวาดพ่อครูสิน ว่า

ดูถูกวงของท่านฤๅไร
จึงได้บังอาจไปเก็บเอามือระนาดชั้นพื้นพื้นพลพล
มาแข่งขันประชันเพลง
กับระนาดมือดีของท่านเยี่ยงนี้

จนกระทั่งพ่อครูสิน
ต้องพยักหน้าอนุญาต
ให้นายศรเข้ามาตีระนาดเอก
โดยเปลี่ยนให้ปู่ชุ่ม
กลับไปตีฆ้องวง ตามเดิม

แลจากนั้น
เมื่อนายศรถูกตามตัวให้เข้าไปเล่นดนตรีในบางกอก
ปู่ชุ่ม ก็จึงหายไป
จากภาพยนต์เรื่องโหมโรง
ตั้งแต่บัดนั้น.

. . . . . . . .

ในประวัติ ที่ ได้เล่าขานกันมา แต่ในสมัยนั้น

ท่านได้กล่าวไว้ว่า
ปู่ชุ่ม เปนคนอายุประมาณ สี่สิบห้าถึงห้าสิบปี
รูปร่างเล็ก ไว้หนวด ผมหงอกและตัดมหาดไทย
ตามความนิยมของผู้ชายในสมัยนั้น

และที่สำคัญยิ่งก็คือ
ปู่ชุ่ม ได้รับการมอบหมายจาก ท่านจางวางศร
(คุณครูหลวงประดิษฐ์ไพเราะ)
ให้เปนผู้ดูแล
บุตรสาวคนที่สี่ ของท่านครูเอง
คือ คุณครู บรรเลง (ศิลปบรรเลง) สาคริก
ซึ่งท่านผู้นี้ในเวลาต่อมา ก็คือ
นางมหาเทพกษัตรสมุห์
ภริยาของท่าน ขุนตำรวจเอก
พระมหาเทพกษัตรสมุห์ (เนื่อง สาคริก)

ซึ่งเมื่อ คุณครู บรรแลงอายุ ได้ แปดสิบสามปีเศษ
ท่าน ก็ได้รับการประกาศเกียรติคุณ
จากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ
เปน ผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม
สาขา ศิลปะ การช่างศิลปะ และการฝีมือ
เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๔

. . . . . . . . .

ในหนังสือที่รฦกงานพระราชทานเพลิงศพ
ของคุณครู บรรเลง (ศิลปบรรเลง) สาคริก
ได้ปรากฎบทความไว้อาลัย
ของ ท่านอาจารย์ อานันท์ นาคคง

ในหัวข้อเรื่อง

" บทเพลงที่บรรเลงไม่รู้จบ "
ลงวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๔๕

ซึ่งได้กล่าวถึง ปู่ชุ่ม ไว้ตอนหนึ่ง ดังนี้


. . . . . . .

ที่นอนหลังวงปี่พาทย์ละคร " ปราโมทัย "

เมื่อแรกเกิด
เด็กหญิงบรรเลงต้องกินนมจากแม่นม
เรียกกันว่า " แม่รุณ " มาจากเวียงจันทน์
เพระพี่สาวยังไม่ยอมหย่านม
กินนมตั้งแต่มารดาคลอดและยังอยู่บนกระดานไฟ
จึงถูกเลี้ยงดูจากพี่เลี้ยง แม่นม ญาติ ๆ
และศิษย์นักดนตรีของจางวางศร
มากกว่าที่จะได้มีโอกาสใกล้ชิดบิดามารดา
ตั้งแต่แรกเกิด จนโตรู้ความ

ผู้ที่ช่วยดูแล เด็กหญิงบรรเลง เปนพิเศษ ก็คือ
ปู่ชุ่ม น้องของย่าช้อย ซึ่งเปนเมียครูสิน
ปู่ชุ่ม มีศักดิ์เปนน้าของจางวางศร
ติดตามมาจากอัมพวา มาอยู่บางกอกด้วย
มีหน้าที่คุมวงดนตรีไปบรรเลงตามงานต่าง ๆ
จึงเปนผู้เลี้ยงดูแต่ยังเล็ก
มือหนึ่งถือถุงไม้ระนาด
อีกมืออุ้มหลาน
ขี่คอไปกินนอนอยู่ในวงปี่พาทย์
ของทางบ้านจางวางศร
ที่รับงานละคร " ปราโมทัย " ตั้งแต่แรกเริ่ม.

. . . . . . .

แลยังในหนังสือที่รฦก ในงานพระราชทานเพลิงศพ
คุณครู นิคม สาคริก
บุตรชายคนโตของ คุณครูบรรเลง
ก็ได้มีการกล่าวถึง ปู่ชุ่ม อีกครั้ง
ในบทความไว้อาลัย
ซึ่งขอยกมาจากหนังสือ ศิลปวัฒนธรรม
ลงวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๔๕
เปนปีที่ ๒๔ ฉบับ เดือนธันวาคม ๒๕๔๕
หน้า ๓๘ - ๓๙ ดังนี้

ครูบรรเลง เปนบุตรคนที่ ๔
ของจางวางศร
หลวงประดิษฐ์ไพเราะ ( ศร ศิลปบรรเลง)
และ นางโชติ (หุราพันธุ์)
เดิมที มิใช่ลูกรักเท่าใด
เพราะบิดาหวังใจไว้ว่า
จะได้ลูกชายไว้สืบวิชาดนตรีปี่พาทย์
ด้วยบุตรสามคนแรก ล้วนเปนหญิง
(สองคนแรก ถึงแก่กรรมตั้งแต่ยังเล็ก
คนที่สามคือ คุณหญิง ชิ้น ศิลปบรรเลง)
ท่านถึงกับพนันขันต่อกับเพื่อนพ้องไว้...

หากแต่มิเปนเช่นที่หวัง
ปู่ชุ่ม ผู้มีศักดิ์เปนน้าของจางวางศร
และมีหน้าที่คุมวงดนตรีไปบรรเลงในงานต่าง ๆ
จึงเปนผู้เลี้ยงดูแต่ยังเล็ก
มือหนึ่งถือถุงไม้ระนาด
อีกมืออุ้มหลานขี่คอ
ไปกินนอนอยู่ในวงปี่พาทย์
ที่โรงละครปราโมทัย ตั้งแต่แรกเริ่ม
ทำให้เด็กน้อยจดจำเพลงละครมากมายโดยมิรู้ตัว
เมื่อโตขึ้นรู้ความ
จึงเริ่มหัดดนตรีกับปู่ชุ่มจนคล่องแคล่ว
ทั้งในกระบวนปี่พาทย์แลเครื่องสาย
จนสร้างความแปลกใจให้กับบิดา
ครั้งกลับจากตามเสด็จ ฯ จากสงขลา เปนที่ยิ่ง...

แล ณ บัดนี้
กระผมผู้รวบรวมเกร็ดประวัติในส่วนเล็ก เล็ก
ของ ปู่ชุ่ม
ปี่พาทย์เจ้าสำราญ ในตำนาน
ผู้มีตัวตนจริง นี้ . . . . .

ขอกราบคารวะ ดวงวิญญาณของ ปู่ชุ่ม
ผู้ซึ่งเปนเพียงนักปี่พาทย์ธรรมดา
ในตำแหน่ง ผู้จัดการวง ของ ท่านครูจางวางศร
แลเปนน้องของ คุณย่าช้อย
ภริยาอีกคนหนึ่งของ พ่อครูสิน
บิดาของ คุณครู หลวงประดิษฐ์ไพเราะ
(ศร ศิลปบรรเลง)
มหาดุริยกวีแห่งลุ่มน้ำอุษาคเณย์ ผู้เกรียงไกร
ด้วยความเคารพยิ่ง ขอรับ.

แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 52 03:32:24

จากคุณ : พจนารถ๓๒๒
เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 52 17:36:11




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com