Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ความพลัดพราก..!  

ความพลัดพราก..

ราสส์ กิโลหก

เสียงพระสวดอภิธรรมประสานเสียงดังเป็นจังหวะ สูงบ้างต่ำบ้าง กลิ่นธูปลอยมาแตะจมูกจนฉุน  ภายในศาลา  มองเห็นโลงศพ  ตั้งเด่นอยู่บนตั่งสูงจากพื้นศาลา บริเวณด้านข้างมีรูปของคนตายตั้งอยู่  ดอกไม้จัดอย่างสวยงามที่หน้าโลง  พวงหรีดหลายพวงแขวนอยู่โดยรอบ   แต่ละพวงแสดงชื่อ เจ้าของพวงหรีดติดอยู่ที่ตรงกลาง  เป็นการ แสดงถึงความอาลัยต่อผู้จากไป ซึ่งบัดนี้นอนนิ่งอยู่ในโลงศพ

หลังจากเสียงพระสวดหยุดลงเพราะจบบทสวด    พระบางรูปหยิบกระโถนมาถ่มน้ำลายใส่พร้อมส่งเสียงกระแอมเบาๆเพราะคันคอ บางรูปก็เอามือขยับจีวรตรงไหล่ให้เข้าที่ เสียงจอแจเริ่มดังขึ้น เสียงลากเก้าอี้ เสียงคุยกัน หลังจากที่นั่งนิ่งเหมือนถูกสะกดให้อยู่ในความเงียบมาพักใหญ่ๆ.

                                                ********************************

เด็กหญิงและชายหลายคน อยู่ในชุดเสื้อขาว ในมือถือถาดใส่แก้วน้ำ  เดินกันไปมา ปากก็ร้องถามหาผู้ต้องการดื่มน้ำ  นพ เรียกเด็กหญิงที่เดินอยู่ใกล้ๆให้มาหา พร้อม เอื้อมมือหยิบแก้วน้ำเย็นจากถาดในมือของเด็ก  ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ  มองดูผู้คนที่มาร่วมงาน   ส่วนใหญ่คุ้นๆหน้าเพราะอยู่อาศัยในซอยเดียวกัน  แขกไม่ค่อยมากนัก เพราะสวดเป็นวันแรก  ..

ลมหนาว พัดผ่านต้นโพธิ์ใหญ่ หลาย ต้นซึ่งขึ้นอยู่ข้างๆศาลา  ดังซ่าๆ บรรยากาศรอบๆศาลามืดสนิท  นาฬิกาที่แขวนอยู่ผนังข้างศาลาบ่งบอกเวลา สองทุ่มเศษๆ ตามพิธีกรรมพระท่านจะต้องสวดอีก 1 จบจึงจะเสร็จสิ้นพิธีในวันนี้  ผู้คนไม่กี่คนตามเก้าอี้นั่งคุยกันเบาๆ    ญาติพี่น้องของคนตายนั่งรวมกันเป็นกลุ่มหน้าโลงศพ  บางคนตาบวมแดงเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ลูกหลานตัวเล็กๆพากันวิ่งเล่นเพราะความไร้เดียงสา..

นพ  วางแก้วเปล่าไว้ที่ข้างเก้าอี้ ลุกเดินออกมาจากศาลา เสียงสะบัดของใบไม้เมื่อโดนลมพัด ดังซ่าเป็นพักๆ   อากาศเย็นจนความหนาวสอดแทรกเข้าไปถึงตัวจนต้องเอามือกอดอก  วัดแห่งนี้เขามาบ่อยทั้งงานบวช งานศพ หรือทำบุญในวันพระใหญ่  ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้   เมื่อมีงานพิธีทางศาสนามักจะมาทำพิธีที่วัดนี้ เนื่องใกล้บ้านและสะดวกในการเดินทาง   ก้าวขาเดินเอื่อยๆไม่รีบร้อน  จนห่างออกมาไกลพอสมควร  บรรยากาศดูมืดครึ้มและเงียบสงัด หมาวัด หลายตัว ซึ่งนอนขดตัวด้วยความหนาวอยู่ตามลานวัด พากันตกใจเพราะมีคนเดินผ่าน  พวกมันลุกขึ้นอย่างรวดเร็วตะเบ็งเห่าหอนเสียงขรมดังก้องในความมืด  บางตัวโก่งคอหอนเสียงยาวชวนให้ขนลุก   นพ ไม่สนใจเดินไปนั่งที่เก้าอี้หินอ่อนตัวหนึ่งใต้ต้นโพธิ์ใหญ่..

หูแว่วได้ยินเสียงพระสวดดังอีกครั้ง คงเป็นการสวดครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะจบพิธีในวันนี้  เขาหันหน้าไปที่ศาลายกมือขึ้นไหว้ตามความเคยชิน พลางคิดว่าจะนั่งอยู่ที่นี่ ..

ความเงียบกลับมาเยือนหลังจากเจ้าหมาปากเปาะพากันกลับไปหาที่ซุกหัวนอน ..เขาครุ่นคิดถึงเหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อน

                    ***************************

“นายนพเชิญด้านใน ค่ะ” พยาบาลอายุรุ่นลูกหันหน้ามาทางคนไข้ที่นั่งกันเป็นแถวยาว

ชายร่างเล็กลุกขึ้นยืนแทบจะทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเอง เพราะเขานั่งอยู่ที่ตรงนี้เกือบ ชั่วโมง เดินใจลอยไปตามเสียงเรียก ในใจของเขามันสับสนจนบอกไม่ถูก..เพราะวันนี้เขาจะได้รับข่าวที่สำคัญที่สุดในชีวิต !  

คุณหมอนั่งรออยู่ที่โต๊ะ ด้านหลังมองเห็นผ้าม่านและเตียงสำหรับตรวจคนไข้ นพเคยมาที่นี่หลายครั้ง แต่ครั้งนี้ดูจะมีความตื่นเต้นจนได้ยินเสียงหัวใจเต้นดัง ตุ๊บๆอยู่ในอก เขายกมือไหว้ทำความเคารพหมอเหมือนทุกครั้ง คุณหมอรับไหว้โดยไม่ได้มองคนไหว้ เพราะกำลังยุ่งกับเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ

“เชิญนั่ง ครับ”  เสียงเบาๆของหมอ

“ขอบคุณครับ”พร้อมนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะ

“คุณน้ามาคนเดียว หรือครับ ! มีญาติมาด้วยหรือเปล่า ?” หมอเงยหน้าขึ้นมอง   ท่าทางและแววตาช่างแหบแห้งสิ้นดี  ลักษณะและท่าทางแบบนี้  คนไข้อย่างนพรู้สึกเดาอะไรบางอย่างได้ เขาเริ่มทำใจพร้อมที่จะรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในไม่กี่อึดใจข้างหน้า

“ผมมาคนเดียว  คุณหมอบอกมาตรงๆเลยครับ ผมยอมรับได้”

และก็เป็นตามที่ นพ กังวลเอาไว้..มันเป็นเหมือนเสียงยมทูตที่เรียกร้องอยู่ข้างหู.

“คุณน้า เป็น มะเร็งตับ อยู่ในขั้นสุดท้าย”

                              *******************

นั่งนับนิ้วคำนวณอายุตัวเอง  ปีนี้อายุของเขาร่วม 45 ปีถือว่าเกินครึ่งของชีวิต ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก ผ่านทั้งทุกข์ทั้งสุข  ความคิดหวนไปถึงความตาย  เราเกิดมาแล้วต้องตายไม่มีใครหลีกหนีความตายได้พ้นไม่ว่าจะใหญ่โตคับฟ้ามาจากไหน   ทุกวันนี้ทุกคนต่างอยู่ไม่ไกลจากความตาย เพราะเมื่อก้าวเท้าออกจากบ้านไปในที่ต่างๆไม่มีใครรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเอง รถจะชนตาย จะมีคนร้ายเข้ามาปล้นฆ่า จะถูกลากไปข่มขืนแล้วฆ่า หรือแม้แต่เดินอยู่ดีๆอาจมีเศษหินหล่นจากอาคารสูงลงบนหัวก็ได้ ไม่มีอะไรแน่นอน    แต่ไม่มีใครคิดกลัวเพราะไม่รู้ล่วงหน้าว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตัว          

คนเราเกิดมาแล้วต้องตาย แต่มันไม่มีบัญชีบอกว่าใครจะตายวันนั้นวันนี้หรือวันไหนๆ   ยกเว้นนักโทษประหารซึ่งถูกกำหนดวันประหารไว้แล้ว นักโทษพวกนี้ต่อให้เป็นเสือร้ายฆ่าคนมามากมาย จิตใจกล้าแข็งหรือโหดเหี้ยมอำมหิต แค่ไหน  เมื่อต้องเดินทางไปสู่ความตาย แข้งขาจะอ่อนปวกเปียกถึงกับเดินเข้าหลักประหารด้วยตัวเองไม่ไหวต้องประคองปีกเข้าไป

นพ มองไปรอบๆวัด ความคิดของเขาล่องลอย  คนเราก่อนจะตายจะเป็นยังไงบ้าง หนอ ? จะเจ็บปวดรวดร้าวขนาดไหนจนกว่าจะขาดใจตาย  หลังจากตายแล้วเราจะรู้ตัวหรือเปล่า ? หรือหลับดับสูญไปเลย

                               
                       ************************

             
ลมหนาวเริ่มพัดแรงมากขึ้น มีเสียงอู้ๆๆสลับกับเสียงใบไม้ที่สั่นเพราะแรงลม  เขานึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา มะเร็งตับขั้นสุดท้าย คงอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน  ยังนึกขำๆว่ารู้อย่างงี้ไม่ไปตรวจดีกว่า  ถ้าไม่รู้น่าจะสุขใจกว่า แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้เพราะอาการของเขามาฟ้องให้เห็นหลายอย่าง กินอะไรเข้าไปก็ไม่ย่อยเพราะตับไม่ทำงาน น้ำย่อยไม่มี ในกระเพาะเหมือนมีลมอยู่ตลอดเวลา ลมจะดันมาจุกที่หน้าอกทำให้อึดอัดหายใจไม่ค่อยออก เขาเคยเห็นอาหารที่วางลืมเอาไว้ 2-3 วันในถ้วยชามต่างๆ สภาพที่เห็นคือเหม็นเปรี้ยวและมีฟองเกิดขึ้นมากมาย คงไม่ต่างจากอาหารที่ใส่ไปในกระเพาะแล้วไม่ย่อย คงไปเน่าเสียอยู่ในกระเพาะแล้วเกิดเป็นแก็สขึ้นมา ทำให้อึดอัดไม่สบายตัว..

นพ เป็นหลักสำคัญในครอบครัวเหมือนหัวหน้าครอบครัวทั่วๆไป  ถึงแม้ลูกๆ 3 คนจะได้ทำงานกันบ้างแล้วแต่ก็ยังคงอาศัยอยู่กับพ่อ คิดว่าหากขาดเขาสักคน ครอบครัวคงลำบากไม่น้อยที่เดียว เขายังห่วงตามสัญชาติญาณของผู้นำครอบครัว

สมัยหนุ่มๆร่ำร้องอยากจะมีเมีย  พ่อ-แม่ ร้องเตือนอยู่บ่อยๆว่า

“นพ เอ๊ย ! เอ็งจะรีบมีไปทำไม  หาห่วงมาผูกคอเปล่าๆ ?”

แต่ก็แค่ คำเตือนที่เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา สำหรับวัยที่กำลังคึกคะนองของคนหนุ่มคนหนึ่ง ธรรมชาติทำหน้าที่ให้กับทุกคน..

บัดนี้ ในวัย 45 ปี  เขามีห่วงคล้องอยู่เต็มคอ ธรรมชาติได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์  ต้องทำหน้าที่ทั้ง ผัว พ่อ และ ทั้ง ปู่ และตา  จากลูกชาย และลูกสาว มันเป็นวงจรชีวิตของมนุษย์เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมา   เขาเริ่มเครียดเมื่อ นึกถึง เมียคู่ยาก  ลูก  และหลานตัวเล็กที่กำลังน่ารัก ช่างพูดช่างประจบ ในอีกไม่นานเขาต้องลาจากสิ่งเหล่านี้ไป น้ำตาซึมออกมาจนต้องใช้หลังมือปาดทิ้งไป เขาผิดหรือเปล่า ? ที่ไปสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ และอยู่ตัวคนเดียว ความตายคงเป็นเรื่องเล็กน้อย

มองไปทางศาลาสวดศพ บัดนี้เงียบเห็นแต่ดวงไฟบางดวงที่เปิดอยู่  มองเห็นโลงศพอยู่ไกลๆ ถ้าตายไปก็ต้องไปนอนในโลง ญาติพี่น้องลูกเมียก็จะมาทำพิธีกัน พระมาสวด แล้วก็ถึงวันเผา ..

โอย !..นี่มันเรื่องจริงหรือฝันไป เขาเอามือหยิกแขนตัวเอง  แต่ทุกอย่างก็เหมือนเดิม
                       
                       **************************

อากาศเย็นสบาย นพ กลับมาที่วัดนี้อีกครั้ง  เขานั่งอยู่ที่โคนต้นโพธิ์ที่เคยมานั่งเมื่อหลายเดือนก่อน  ร่างกายตอนนี้สบายตัวขึ้นมาก แข็งแรงขึ้นจนน่าแปลกใจ เสียงพระสวดดังมาจากศาลาตั้งศพ อากาศมืดเพราะพระอาฑิตย์ลับฟ้าไปแล้ว เขาลุกขึ้นเดินจากใต้ต้นโพธิ์จนมาใกล้ศาลา แขกมากันไม่มากนัก  มองเห็น ภรรยาคู่ยากเดินออกมาต้อนรับคนที่มาร่วมงาน ดวงตาแดงก่ำเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก มีหลานสาวตัวเล็กๆอายุ 3 ขวบเศษๆในชุดสีขาววิ่งตามออกมา

เด็กน้อยวิ่งมายืนข้างๆย่า ด้วยความไร้เดียงสา.

นพ มองดูหลานสาวด้วยความเอ็นดู ปนกับความเศร้า.

เด็กน้อยยืนเล่นอยู่ข้างหญิงสูงอายุผู้เป็น ย่า  พอหันหน้ามาทางที่ นพ ยินอยู่ เธอชี้มือตะโกนด้วยเสียงดัง  “คุณปู่ๆๆๆๆๆๆๆๆ”  

ลมพัดผ่านกิ่งใบของต้นโพธิ์ดัง ซู่ๆๆๆๆ แข่งกับเสียงร้องไห้ของหญิงสูงอายุที่กรีดร้องด้วยความตกใจ  จนดังลั่น....

แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 23:40:54

แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 06:07:55

แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 52 15:57:54

แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 52 15:44:24

 
 

จากคุณ : สวนดอก
เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 10:57:18




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com