นิทานต๊อกต๋อย...ผลงานภาคเกี่ยวเนื่องกับ นิยายสุดอลังกาลเมื่อหลายอาทิตย์ที่แล้ว
|
|
พนักงานธนาคารคนหนึ่งเดินงุ่มง่ามตกท่อ เขาสลบไปนานข้ามกาลเวลา นานขนาดที่ว่าเปลี่ยนศักราชไปแล้วสองรอบ นานจนจำไม่ได้...
มีใครบางคนเรียกเขาให้ตื่น เขาลืมตาตื่น เขาขยี้ตาแต่มองอะไรไม่เห็นเลยเพราะความมืดสนิทที่มืดมิดกดทับลงบนดวงตา แต่เขารับรู้ถึงเสียงของมนุษย์ท่อคนนั้น เขาแกว่งมือไปมาเบื้องหน้าสะเปสะปะ เสียงของมนุษย์ท่อดังขึ้นอีกอย่างน่าตกใจ เป็นเสียงขอความช่วยเหลือที่ร้องโหยหวน เขาพยายามปรับสายตาให้ชินกับความมืดอย่างลุกลี้ลุกลน เพราะเสียงนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และมันจะเป็นอะไรก็ตาม ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่
เขาตะเกียดตะกายเอามือยันกำแพงลุกขึ้น เดินอย่างไร้จุดหมาย แต่แล้วเสียงนั้นก็ดังขึ้นเรื่อยๆแสดงถึงความหวาดกลัวสุดชีวิตของเจ้าของเสียง เขารีบวิ่งห้อไปในทิศทางตรงกันข้ามกับเสียงทันทีด้วยสันชาตญาณเอาตัวรอด เขาต้องไสมือไปกับกำแพงเพื่อจะได้ไม่ล้มจากการไปสะดุดอะไรเข้า เพราะมันมืดมาก เขาหยุดหายใจหอบเป็นระยะๆ และพักตัดสินใจอีกทีว่าเขาควรจะเข้าไปช่วยหรือวิ่งหนีไปดี แต่ไม่ว่ามนุษย์ท่อผู้นั้นจะตกอยู่ในอันตรายใด เขาก็ไม่คิดจะยอมแลกชีวิตเข้าไปช่วยอยู่ดี เขาคลำไปบนกำแพงและเจอบันได เขาจึงปีนขั้นไป
ขณะเดียวกันเสียงนั้นก็ใกล้เข้ามาทุกที เสียงคำรามของสัตว์ที่ปนมากับเสียงร้องโหยหวนขอความช่วยเหลือ ทำให้เขาขนลุกพรึ่บ เขาทั้งๆที่มองไม่เห็นทางเลยสักนิดตะเกียดตะกายปีนขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนเห็นแสงสอดผ่านซี่ลูกกรงมา เขาปีนขึ้นไปอีก แสงนั้นมาจากโคมไฟบนถนนที่ส่องลอดออกมาตามลูกกรงท่อระบายนํ้า แต่ทางออกมีฝาท่อเหล็กที่หนาและหนักปิดทับไว้อยู่ ด้วยแรงทั้งหมดก็ยังไม่สามารถทำให้ผาท่อที่อยู่เหนือหัวเปิดได้
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆเต็มที่แล้วจึงรวมพลังทั้งตัวกระแทกฝาท่อ มันขยับเขยื้อน เปิดเล็กน้อย เขารีบยัดแขนเข้าไปในช่องนั้นก่อนที่ฝาท่อจะกระแทกลงมาปิดอีก แล้วงัดฝาท่อขึ้น เขาปีนขึ้นมาอยู่บนถนน แต่ภาพที่เห็นเบื้องหน้าสร้างความพรั่นพรึงครั้งใหม่ให้กับเขา นึกย้อนไปตอนที่เขาเป็นนักเรียน เขาเป็นพวกปอดแหกตามธรรมชาติอยู่แล้ว เจออะไรเขามักจะวิ่งเป็นคนแรก และเขายังเป็นคนเดียวที่รอดจากเหตุการณ์ตายหมู่ครั้งที่ตึกถล่มเพราะถูกวางระเบิด
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าถนนทั้งสายได้ลุกเป็นไฟ รถที่จอดอยู่ใกล้ๆนั้นระเบิดต่อเนื่องกันเป็นแถวๆเหมือนโดมิโน ส่งชิ้นส่วนกระจายไปโดนกระจกร้านแถวๆนั้นแตกระเอียด อันที่จริงกระจกร้านเหล่านั้นดูเหมือนจะแตกมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ไม่เท่ากับภาพที่อาคารทุกหลังบนถนนสายนี้กำลังลุกเป็นไฟ ไฟโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง และส่งควันดำคลุ้ง และอะไรบางอย่างตกลงมาจากท้องฟ้า เขาเงยหน้าขึ้น และเห็นลูกไฟจำนวนมากกระหน่ำตกลงมาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ทำให้ไฟลุกไหม้ไปทั่วพื้นที่ จนถึงตอนนี้เขาเพิ่งสังเกตว่าถนนสายนี้ไม่มีใครอยู่เลย ไม่มีแม้แต่เงาสิ่งมีชีวิตซักตัว เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ยืนระทึกไปกับเหตุการณ์ตรงหน้า
และที่ยังไม่ทันได้หายใจให้เต็มปอดมนุษย์ท่อก็โผล่ตามขึ้นมา และแน่นอนที่สิ่งไล่ตามมนุษย์ท่อคนนั้นมา ...
และเขาไม่จำเป็นต้องหันไปมองให้เต็มตา เขารู้เพียงสิ่งเดียวตอนนี้คือ วิ่ง เขาวิ่งโดยคิดถึงแต่ชีวิตตัวเอง เบี่ยงหลบลูกไฟที่หล่นลงมาจากฟ้า เขาได้ยินเสียงมนุษย์ท่อคนนั้นไล่ตามหลังเขามา และเขาก็ไม่คิดจะหันกลับไปดูแม้แต่นิดเดียว สิ่งที่ต้องทำเพียงอย่างเดียวตอนนี้คือ วิ่งให้สุดชีวิต เพราะเวลาเกิดเหตุอะไรขึ้น คนที่มัวแต่หันไปดูมักจะต้องจบชีวิตตัวเองลงอย่างโง่เขลาเสมอ คิดได้ดังนั้นเขาก็เร่งฝีเท้าเต็มสปีด กระโดดหลีกพื้นถนนที่แยกออกเผยให้เห็นลาวาร้อนระอุข้างใต้ เขากระโดดข้ามตู้ไปรษณีย์ที่ล้ม และโกยอ้าวไปหลบอยู่หลังถังขยะ ปล่อยให้มนุษย์ท่อวิ่งผ่านเขาไป และคอยสังเกตการณ์จากมุมมืดข้างถังขยะ
มีเพียงแค่หมาตัวเดียวที่ไล่ตามมนุษย์ท่อคนนั้นมาและวิ่งผ่านเขาไป และติดตามมาอีกนั้นคือ หมาทั้งฝูงเลือดโชก เนื้อแหว่ง ส่งเสียงคำรามอย่างไม่หยุด ทำให้เส้นประสาทเขาชักกระตุกดึ๊บๆ แล้วฉับพลันที่หมาตัวหนึ่งสบตาเขา มันก็กระโจกเข้าใส่ แต่เขาไวกว่าโดยวิ่งทะยานไปข้างหน้าก่อนแล้ว แล้วหมาก็เปลี่ยนเป้าหมายหันมาไล่งับเขาแทน มนุษย์ท่อไม่ได้รับความสนจากหมาฝูงนี้อีกต่อไป จึงเป็นอิสระที่จะปีนขึ้นไปหลบซ่อนตัวบนอาคารหลังหนึ่งที่ผนังหายไปแล้วเหมือนบ้านตุ๊กตาที่เปิดฝาบ้านไว้
เขาวิ่งวนมาเป็นรอบที่สี่ โดยไม่มีทางออกไปจากถนนสายนี้ จึงต้องวนอยู่อย่างนั้นเองแล้วก็เป็นรอบที่สี่แล้วที่มนุษย์ท่อพยายามส่งสัญญาณอะไรบางอย่างให้เขาจากบนอาคารสูง รอบที่ห้าเขาตัดสินใจวิ่งตะกายผนังขึ้นไปบนอาคารเพื่อขึ้นไปถามมนุษย์ท่อว่าจะบอกอะไร
มนุษย์ท่ออ้าปากจะกล่าว แต่ฝูงหมาก็ตะกายกำแพงขึ้นมาเช่นกัน มันจึงกำลังจะมางับเขาอยู่ในไม่กี่วินาทีนี้ ทั้งเขาและมนุษย์ท่อต่างวิ่งหนีตายลงมาข้างล่าง แล้ววิ่งวนอีกสิบรอบโดยมีฝูงหมาล่าเนื้อไล่ตาม เขาตะโกนถามว่า จะบอกอะไรหรอ มนุษย์ที่วิ่งตามหอบแหกๆตอบกลับมาอย่างเหนื่อยขาดใจว่า กำลังจะบอกคุณว่า อย่าวิ่งขึ้นมาหาผมบนอาคาร พวกฝูงมามันไต่กำแพงได้นะคุณ เขาจึงตกลงเงียบๆระหว่างที่วิ่งกับมนุษย์ท่อว่า ถ้าเราหาทางออกจากถนนนี้ไม่เจอ ก็ต้องวิ่งวนไปเรื่อยๆ และคงต้องวิ่งสับกันเพราะเขาเหนื่อยเหลือเกิน
ทั้งสองส่งซิกให้กันแล้ว มนุษย์ท่อก็วิ่งไปอีกทางปีนขึ้นไปบนอาคารสูงนั่น ส่วนเขายังคงวิ่งหนีหมาน้ำลายยืดฝูงนั้นและพวกมันก็วิ่งไล่แบบไม่เหน็ดเหนื่อย เหมือนมีแบตเตอรี่สำรอง วิ่งวนได้อีกสิบรอบ มนุษย์ท่อก็ผลัดเปลี่ยนลงมาวิ่งต่อ ขณะที่เขาขึ้นไปนั่งพักหายใจหายคอบนอาคารสูงนั้นแทนที่มนุษย์ท่อ มนุษย์ท่อก็ยังคงวิ่งต่อไป
เขาตะโกนถามมนุษย์ท่อในท่านอนพักผ่อนสบายอารมณ์ว่า คุณชื่ออะไรน่ะ มนุษย์ท่อวิ่งผ่านมาเป็นรอบที่สามจึงตอบด้วยน้ำเสียงหอบแฮ่กๆว่า ผมชื่อ
แล้วเขาก็วิ่งผ่านไป และวนกลับมาอีกรอบหนึ่ง ทอม แล้วเขาก็วิ่งฝ่านไป มนุษย์ท่อวิ่งไปเป็นรอบที่สิบพอดี ก็เป็นเวลาที่เขาลงไปวิ่งผลัด ซึ่งเขาโดนคำถามเดียวกันจากมนุษย์ท่อเบื้องบนอาคารถามกลับมา เขาตอบได้ในการวิ่งวนรอบที่ห้าว่า คาลร์ แล้วก็เป็นอย่างนี้เรื่อยไปถึงสองวัน ระหว่างที่ได้พักก็กิน นอนและเข้าห้องน้าที่อยู่ในห้องด้านหลังของอาคาร โชคดีที่ไฟไหม้ดับลงแล้ว และตู้เย็นของแต่ระบ้านก็เต็มไปด้วยของกินที่ไม่ได้โดนไฟไหม้ไปด้วย ตอนนี้ฝนตกลงมาห่าใหญ่แต่ เป็นฝนกรด
เรื่องราวของคารล์และทอม นักวิ่งทรหดเป็นตำนานสืบต่อกันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และยังเป็นจุดเริ่มต้นของกีฬาการวิ่งมาราธอนโอลิมปิกอีกด้วย
จากคุณ |
:
NotEnter
|
เขียนเมื่อ |
:
14 พ.ย. 52 22:46:36
|
|
|
|