Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ผู้ชายของฉัน ไม่ใช่คนที่ฝันเอาไว้ บทที่ 14  

บทนำ+บทที่ 1
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8433345/W8433345.html

บทที่ 2
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8437368/W8437368.html

บทที่ 3
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8444375/W8444375.html

บทที่ 4
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8451542/W8451542.html

บทที่ 5
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8459788/W8459788.html

บทที่ 6
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8467394/W8467394.html

บทที่ 7
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8473825/W8473825.html

บทที่ 8
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8485830/W8485830.html

บทที่ 9
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8495135/W8495135.html

บทที่ 10
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8503691/W8503691.html

บทที่ 11
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8518059/W8518059.html

บทที่ 12
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8529990/W8529990.html

บทที่ 13
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8542740/W8542740.html

=============================================

บทที่ 14

ภายในออฟฟิศช่วงเช้าที่มีเสียงพูดโทรศัพท์ หรือเสียงเครื่องปริ้นท์ที่ดังเป็นระยะๆไม่ได้ทำให้ใจที่จดจ่อของเพชรน้ำหนึ่งวอกแวกแต่อย่างใด ทว่าเสียงโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้นทำให้เพชรน้ำหนึ่งชะงักงัน พอเห็นว่าใครโทรมาเธอก็เม้มปากหลบเพื่อนร่วมงานไปด้านนอกสำนักงานเพื่อความเป็นส่วนตัวแล้วกดรับโทรศัพท์

“มีอะไรคะ”

“วันนี้คุณหญิงว่างไหม” น้ำเสียงถามแบบเอาแต่ใจดังมาตามสายจนทำให้เพชรน้ำหนึ่งอารมณ์ขุ่นขึ้นมานิดๆ

“ถ้าชวนไปกินเหล้าฉันไม่ไปด้วยนะ”

ผลที่ได้คือเสียงหัวเราะเบาๆ “ผมยังไม่ทันพูดอะไรเลย ใจคอจะให้ผมดื่มแต่เหล้าหรือยังไง”

“ใครจะไปรู้คุณล่ะคะ เจอตอนเย็นทีไรมีแต่เรื่องให้ต้องไปดื่มด้วยกันทุกทีเลยนี่”

“ใครว่า...พูดอย่างกับผมดึงไปอยู่ฝ่ายเดียว เวลาคุณมาลากผมไปข้างนอกทีไรก็เห็นมีแต่ของพะรุงพะรังให้ผมหิ้วไม่ใช่หรือ...เอาล่ะ...งั้นวันนี้งดเหล้างดช้อปตกลงไหม” อีกฝ่ายเอ่ยอย่างอารมณ์ดี

“ถ้างั้นคุณโทรมาทำไม วันนี้ฉันงานเยอะสุดๆ เราเจอกันวันหลังละกัน” เพชรน้ำหนึ่งยืนพิงกำแพงภายในห้องน้ำส่วนโซนออฟฟิศของโรงแรมเพื่อหลบหูกางๆของเพื่อนร่วมงานทั้งหลาย

“ก็ทำตัวให้ว่างหน่อยสิ....” เสียงอีตาหมอเริ่มเอาแต่ใจอีกแล้ว

“โธ่...ทำได้เสียที่ไหนกัน เดี๋ยวฉันก็ต้องเข้าห้องประชุมแล้ว กว่าจะเลิกประชุมกว่าจะนั่งเคลียร์งานที่ค้างอีก”

ปลายสายเงียบเสียงไปจนเพชรน้ำหนึ่งชักเริ่มไม่แน่ใจ ลงถ้าเงียบแบบนี้หัวสมองของอีตาหมอนั่นกำลังปั่นหาวิธีการเจ้าเล่ห์เพทุบายใส่เธออีกเป็นแน่เลย ใครที่เคยเห็นหน้าอีตานี่แล้วอย่าได้เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็นเด็ดขาด นายนี่เป็นจอมเอาแต่ใจร้ายกาจอันดับหนึ่งขนาดที่เธอยังทาบไม่ติดเลย

“คุณจะประชุมเสร็จประมาณกี่โมง” หลังจากเงียบสักพัก เป็นหนึ่งก็ยอมถามออกมา

“ยังไม่รู้เลย” หญิงสาวถอนใจพลางบ่น “เดี๋ยวคงประชุมกันทั้งวัน แล้วเชื่อสิว่ายังไม่เห็นมีผลอะไรออกมาเป็นรูปธรรมสักนิด หรือถ้าพอได้ข้อสรุปแล้วก็เข้าอีหรอบเดิมอยู่ดี ไม่ได้ทำตามที่ประชุมกันไว้สักนิด แล้วจะมานั่งเสียเวลากันทำไมก็ไม่รู้”

คราวนี้ชายหนุ่มเงียบไปอีกครั้งก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อนลง “มันเป็นงาน...ก็ต้องทำไป กะเกณฑ์ให้มันเป็นอย่างใจไปก็เหนื่อยเปล่าๆ”

“แปลว่าเราค่อยเจอกันวันอื่นก็ได้ใช่ไหม”

“เปล่า...” ชายหนุ่มตอบชัดถ้อยชัดคำ “ผมว่าเรียนเสร็จแล้วสักสี่ทุ่มจะไปรอคุณที่โรงแรม ถ้าไม่เสร็จก็โทรมาบอกก็แล้วกัน ผมจะได้ไปรอตรงล็อบบี้”

“บ้าหรือเปล่า! จะมารอฉันทำไมกัน?” เพชรน้ำหนึ่งแทบเสียงหลง

“ก็ถ้าคุณไม่ว่างมาหาผมก็ไม่เป็นไร ผมไปหาคุณเองก็ได้ไง”

โอ๊ย...อีตาหมอนี่ เห็นไหมว่าอย่าให้หน้าขรึมๆ เงียบๆนั่นลวงตาเด็ดๆ อีตาผู้ชายนี่กวนประสาทที่สุดในโลก!

“ตามใจละกัน! อยากมานั่งแกร่วรอก็แล้วแต่คุณ”

หญิงสาวกดปุ่มตัดสายทันทีด้วยอารมณ์หงุดหงิด พลางล้างมือบ่นพึมพำกับอีตาคนโรคจิตหัวดื้อที่สุดในโลกนี่ เธอว่าตัวเธอเองก็งี่เง่าใช่ย่อยแล้วนะ มาเจอคนงี่เง่ากว่าแล้วชักเห็นใจคนที่โดนเธอจัดการขึ้นมาตะหงิดๆ

ร่างบางลอบมองนาฬิกาเป็นพักๆในระหว่างการประชุมว่าถึงเวลาที่อีตาหมอโรคจิตพ่วงจอมรั้นมาถึงหรือยัง หลังจากออกจากห้องประชุมเมื่อไม่นานมานี่ เธอก็พบว่างานที่คั่งค้างอยู่ไม่น้อย ถ้าวางทุกอย่างทิ้งไว้แล้วมาทำต่อพรุ่งนี้มีแต่ตายกับตายกันพอดี ช่วงเวลาทำงานที่แสนยุ่งเหยิงไม่ปล่อยให้เธอได้ทำเจ้างานที่กองไว้ได้เสร็จหรอก

แต่ทั้งที่รู้แบบนั้นสมาธิก็ไม่ได้จดจ่อกับงานเท่าที่ควรเพราะอีตาจอมดื้อนั่นแท้ๆ

สี่ทุ่มเป๊ะโทรศัพท์ของเธอก็สั่นทันที

“ฮัลโหล” เพชรน้ำหนึ่งพยายามจะไม่ออกเสียงหงุดหงิดใส่ (เรื่องน้ำเสียงไม่พึงปรารถนาที่ใช้คุยโทรศัพท์ในขณะที่มีคนนอกอยู่ด้วย เป็นกฎเหล็กที่เธอต้องระวัง)

“คุณเสร็จหรือยัง” เสียงเรียบของตาหมอโรคจิตดังมาตามสาย

“ยังเลย...เดี๋ยวนะ” หญิงสาวลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานเลี่ยงไปคุยโทรศัพท์ในมุมส่วนตัวพอสมควรในขณะที่เพื่อนร่วมงานที่ยังคงนั่งทำงานด้วยกันอยู่ไม่ได้ทำท่าสนใจแต่อย่างใด (แต่เชื่อเถอะ...ยายพวกนี้เงี่ยหูฟังกันทั้งนั้นแหละ)

พออยู่ในมุมที่คุยได้สะดวกแล้ว หญิงสาวก็ไม่ปิดน้ำเสียงห้วนทันที “คุณอยู่ที่ไหนน่ะ...ก็บอกแล้วไงว่าฉันยุ่งๆ ไม่ต้องมารอก็ไม่ยอมเชื่อ”

“ข้างล่าง...ที่ล็อบบี้” เป็นหนึ่งตอบเฉพาะข้อแรกและทำเฉยเสียกับคำบ่นที่ตามมาของเธอ

“งั้นก็รอต่อไปก่อนละกันค่ะ” เพชรน้ำหนึ่งทำหน้ายุ่งยากใจ “ฉันจะเคลียร์ให้เร็วเท่าที่จะทำได้”

“Take your time...ผมจะนั่งดื่มเหล้ารอ ถ้าไม่อยากคุยกับคนเมาก็อย่าลงมาช้าก็แล้วกัน” ชายหนุ่มยังคงน้ำเสียงราบเรียบเอาไว้ได้อยู่ เพชรน้ำหนึ่งเดาไม่ออกว่าอีกฝ่ายอยู่ในอารมณ์ไหนเลยถอนหายใจอย่างระอา

“งั้นฉันปล่อยให้คุณนั่งดื่มเหล้าจนตับแข็งตายไปนั่นแหละดี เป็นหมออะไรก็ไม่รู้ขู่ทำเรื่องพิลึก” หญิงสาวย่นจมูก

“นั่นสินะ...” แล้วปลายสายก็เงียบไปจนเพชรน้ำหนึ่งไม่แน่ใจว่าเขาวางไปแล้วหรือยังจึงลองเรียกดูสองสามครั้ง แต่ไร้คำตอบ มีเพียงเสียงเพลงเบาๆยังคงคลออยู่บ่งบอกว่าฝ่ายนั้นยังไม่ได้ตัดสายโทรศัพท์ แต่ยังคงวางมันคาไว้โดยไม่คิดสนทนาต่อ

“ประสาท!” หญิงสาวขมวดคิ้วบ่นแล้วเป็นฝ่ายตัดสายเสียเอง จากนั้นก็เดินกลับมายังโต๊ะทำงาน ตัวเลขและกราฟที่ปรากฏอยู่หน้าจอเชิญชวนให้เธอลงมือทำงานต่อไป แต่ทว่านายหมอทำตัวแปลกๆรบกวนจิตใจเธอเสียจนไม่อาจนิ่งดูดายได้

หรือเป็นเพราะใกล้วันแต่งงานของไพรวัลย์เข้ามาทุกทีๆจนทำให้อีตานั่นสติแตกกันนะ...

เพชรน้ำหนึ่งพึมพำอย่างหัวเสียกับความคิดตัวเอง ตั้งแต่เจออีตาหมอนี่มีแต่เรื่องทำให้เธอยุ่งยากใจตลอดเลย เพชรน้ำหนึ่งเก็บข้าวของกระแทกกระทั้นระบายอารมณ์เล็กน้อยจนคนข้างโต๊ะมองพลางทัก

“เป็นอะไรน่ะเพชร...ทำตัวเป็นพวกวัยทองไปได้”

“หงุดหงิดคนบ้าน่ะ อย่าใส่ใจ” เพชรน้ำหนึ่งพึมพำหงุดหงิด แต่มือยังคงกวาดสิ่งของที่อยู่บนโต๊ะเก็บเข้าที่เข้าทางอย่างเรียบร้อย

“เดี๋ยวนี้ยอมให้มีคนบ้าใหม่ๆมาให้หงุดหงิดแล้วเหรอ” เสียงหัวเราะเบาๆกับแหย่เล็กๆก็ตามมาพอหอมปากหอมคอ “คนเก่าไม่ทันไรเลย มีคนบ้าใหม่มาเสียแล้ว เราชักอยากเห็นคนบ้าคนนี้จังว่าฝ่าด่านอรหันต์มาได้ยังไง”

เพชรน้ำหนึ่งยิ้มหวานตอบกลับอย่างร่าเริง “ก็คนเดิมนั่นแหละ ยังไม่ได้เปลี่ยน ใครไม่ปากมาก ไม่ปากดีก็น่าสนใจทั้งนั้นแหละ คนนี้ก็เลยยังอยู่คงทนไง...เราไปก่อนนะ”

ว่าจบก็ไม่รอดูหน้าคนฟัง รีบออกมาจากออฟฟิศอย่างรวดเร็วเพื่อจะไปหา ‘คนบ้าๆ’ ที่รออยู่ตรงล็อบบี้ข้างล่าง ใช้เวลาไม่นานเธอก็กวาดตามองโซฟาและโต๊ะเล็กที่วางตั้งบนพรมทอสีเข้ม ร่างสูงที่นั่งอยู่หาได้ไม่ยาก อีตาหมออยู่ในเวอร์ชั่นปกติคือสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวนวลเรียบกริบ และกางเกงขายาว ตรงหน้าเขามีโทรศัพท์มือถืออย่างบาง และแก้วเหล้าวางสงบอยู่ ของเหลวที่อยู่ข้างในนั้นดูจะพร่องไปเกือบจะหมดอยู่แล้ว ไม่แน่ใจว่าเป็นแก้วที่เท่าไรในระหว่างที่เขารออยู่นี่

แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 22:08:51

จากคุณ : peiNing
เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 22:07:37




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com