Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ดารากลางหทัย บทที่ ๘ : ยาตราทัพ  

สวัสดีค่ะ วันนี้ก็ได้ฤกษ์ลงบทใหม่เสียที บทนี้ต้องขอออกตัวก่อนนะคะว่าสั้นนิดนึง คงไม่ว่ากันนะคะ ใครที่รอลุ้นโคแก่ให้กินหญ้าอ่อน ว้าย..ไม่ใช่ ลุ้นพระเอกนางเอกให้เจอกันเนี่ย บทหน้าค่ะบทหน้า เจอกันแน่ๆ


บทที่ ๘ :  ยาตราทัพ


สิบทิวาราตรีถัดจากทิวาที่เจ้าหลวงเมืองคำทรงได้รับพระราชสาสน์จากพระเชษฐา ทัพของเวียงภูแก้วที่มีเจ้ายอดศึกทรงเป็นแม่ทัพใหญ่ก็ยาตรามาถึงเวียงฟ้า ครั้นเจ้าหลวงเมืองคำทรงทราบความ ก็มีพระราชโองการให้เปิดประตูเมืองรับกองทัพทั้งหมดเข้ามาพักพลในเขตกำแพงล้อม เพื่อรอฤกษ์กรีธาทัพไปเวียงฝายในอีกเจ็ดทิวาข้างหน้า


วรกายสูงเสด็จมาถึงหน้าคุ้มมยุราแล้ว หากมิทรงขึ้นไปในทันที เนตรสีนิลเป็นประกายพราวระยับอย่างเจ้าเล่ห์ ริมพระโอษฐ์งามขยับแปรเป็นรอยแย้มพระโอษฐ์นั้น ช่วยขับให้พักตร์คมเข้มมิผิดอันใดกับพระราชบิดาทั้งสองพระองค์นั้นชวนมองมากขึ้น เจ้ายอดศึกทรงหันรีหันขวางอยู่หน้าคุ้มครู่หนึ่ง จนแน่พระทัยว่ามิมีผู้ใดรู้ถึงการมาของพระองค์แน่แล้ว ก็ทรงสืบพระบาทขึ้นไปบนคุ้มอย่างเงียบๆ

เพียงพระบาทก้าวแรกแตะพื้นคุ้มเท่านั้น วรกายสูงก็ถูกท่อนแขนหนั่นหนาตวัดเข้ารัดพระศอทันใด เจ้ายอดศึกทรงดิ้นรนด้วยยังมิทันตั้งพระองค์ หากเมื่อทรงควบคุมพระสติได้ ก็ทรงถองเข้าที่ท้องของคนผู้นั้น แลใช้พระกำลังทั้งหมดสลัดวรกายออกจากท่อนแขนแกร่งนั้นได้ ครั้นทรงหันมาหมายจักทอดพระเนตรหน้าคนร้ายให้ชัด หมัดลุ่นๆหมัดหนึ่งก็ชกสวนเข้ามาเกือบจักถูกพระพักตร์ ดีที่ทรงเอี้ยวหลบเสียทัน ก่อนจักทรงกำพระมุฐิหมายจักชกสวนไปบ้าง แต่แล้วก็ทรงเงื้อค้างอยู่เช่นนั้น เมื่อทอดพระเนตรใบหน้าผู้ที่ทรงเข้าพระทัยว่าเป็นคนร้ายได้ถนัด

“เจ้าพ่อ ทรงเล่นอันใดเจ้า”

เจ้ายอดศึกตรัสด้วยสุรเสียงทั้งตกพระทัยทั้งเคืองพระราชบิดาอยู่ใช่น้อย พระมุฐิที่เงื้อค้างแปรมาเป็นการไหว้สาแทบมิทัน ในขณะที่อีกฝ่ายทรงยืนกอดพระอุระสรวลอย่างขบขัน รับสั่งกลั้วสรวล

“เจ้าต่างหากยอดศึก เล่นอันใดของเจ้า โตเป็นบ่าวแล้วหนา หาใช่ละอ่อนน้อยเหมือนก่อน จักมาหาพ่อทั้งที มาดีๆเยี่ยงคนทั่วไปมิได้รึ ไยต้องย่องขึ้นคุ้มมาดั่งนี้ด้วย ริจักเป็นโจรหรืออย่างใด”      

“นี่หมายความว่าเจ้าพ่อทรงทราบมาแต่แรกแล้วว่าเป็นลูก”

“ใช่ พ่อเห็นเจ้าตั้งแต่มายืนเหลียววกเหลียววักอยู่หน้าคุ้มแล้ว ยิ่งเห็นยิ้มเจ้าพ่อยิ่งแน่ใจว่าเจ้าคงเล่นพิเรนทร์อีกเป็นแม่นมั่น เลยมาดักรอเจ้าอยู่นี่”

เจ้าราชบุตรทรงทอดถอนพระทัยยาว รอยแย้มพระโอษฐ์จางหายอย่างหมดสนุก วรกายสูงดำเนินหนีพระราชบิดาบุญธรรมเข้าไปด้านในคุ้มพลางบ่นอุบ

“เจ้าพ่อหนาเจ้าพ่อ เป็นเยี่ยงนี้ทุกที ลูกจักแกล้งเจ้าพ่อทีใด เป็นต้องทรงรู้พระองค์ก่อนทุกที”

เจ้าหลวงเมืองคำทรงร้อง ‘อ้าว!’ อย่างขำๆ ก่อนจักเสด็จตามไปโอบพระอังสากว้างของผู้อ่อนวัยกว่า พาดำเนินเลี้ยวเข้าไปในห้องทรงงานส่วนพระองค์ที่อยู่มิห่างนัก


เจ้ายอดศึกทรงรอจนพระราชบิดาประทับแล้ว จึงทรงทรุดองค์ลงประทับบ้าง เจ้าหลวงเมืองคำทรงเลื่อนน้ำต้นทองคำแลถ้วยพระสุธารสใบน้อยส่งให้อีกฝ่ายด้วยรอยแย้มพระโอษฐ์ละไม เมื่อทอดพระเนตรอีกฝ่ายยังทรงทำพักตร์มุ่ยอยู่ก็สรวลออกมา

“อันใดเล่ายอดศึก ยังเคืองพ่ออยู่อีกหรือไร ดูทำสีหน้าสีตาเข้า”

“ลูกเคืองตัวเองมากกว่าเจ้า กี่คราก็แกล้งเจ้าพ่อมิได้เสียที”

“เอาไว้ไปแกล้งเมียเจ้าเถิด อย่ามาแกล้งพ่อเลย”

เนตรสีนิลเป็นประกายพราวระยับขึ้นมาอีกคำรบ เมื่อสดับพระราชบิดารับสั่งถึงเรื่องนี้ ด้วยก่อนจักทรงนำทัพมาเวียงฟ้านั้น เจ้าหลวงเมืองแก้วแลเจ้านางหลวงทอรุ้งได้มีพระราชโองการลับให้พระองค์ทรงจับตาดูพระราชบิดาบุญธรรมอย่างใกล้ชิด


อันที่จริงเจ้านางหลวงทอรุ้งทรงหลงลืมไปแล้วเสียด้วยซ้ำว่าเมื่อหลายปีก่อนองค์เองทรงเคยท้าพนันอันใดเอาไว้กับพระราชสวามี เจ้าหลวงเมืองแก้วทรงเป็นฝ่ายรื้อฟื้นเรื่องพนันนี้ขึ้นมาก่อน ทันทีที่ทรงทราบว่าอาณาจักรจินแสงเปลี่ยนเส้นทางเดินทัพจากเวียงปางฟ้ามาเป็นเวียงฝาย แรกทีเดียวทรงหมายว่าจักทรงยกทัพมารับศึกทางอุดรนี้ด้วยพระองค์เอง แลให้เจ้ายอดศึกทรงคุมทัพร่วมไปกับแสนภูเพื่อรับศึกทางทักษิณ แต่เมื่อองค์จอมทัพใหญ่ทรงระลึกถึงเรื่องพนันได้ แลทรงเห็นว่าการจักเดินทางไปเวียงฝายได้นั้น จำเป็นจักต้องผ่านเข้าทางเวียงสบสองได้เพียงทางเดียว ก็ทรงนึกสนุก ใคร่ทรงทราบว่าสังหรณ์ของเจ้ามิ่งขวัญรอมแพงจักถูกต้องดั่งเคยหรือไม่ กอปรกับทรงทราบว่าอริราชคู่ปรับสำคัญคุมทัพมาทางทักษิณ จึงทรงเปลี่ยนความตั้งพระทัยแต่เดิม โดยให้พระราชโอรสองค์โตทรงคุมทัพมากับภูหลวงแทน


“พูดถึงเรื่องนี้ เมื่อใดเจ้าพ่อจึงจักทรงมีเจ้านางหลวงเจ้า”

เจ้าหลวงเมืองคำสดับคำถามนี้เข้า ถึงกับทรงสำลักพระสุธารสที่เพิ่งจักทรงยกขึ้นจิบ พักตร์เข้มหันขวับมาทอดพระเนตรผู้อ่อนวัยกว่าทันใด เนตรสีนิลจับอยู่ที่วงพักตร์เข้มนั้นอย่างทรงค้นหา สุรเสียงที่รับสั่งเข้มขึ้นโดยมิทรงรู้สึกพระองค์

“เหตุใดอยู่ๆ จึงถามเรื่องนี้ขึ้นมา”

“เอ่อ...”

ครานี้คนเริ่มเรื่องเป็นฝ่ายติดขัดบ้าง มิรู้จักเอ่ยวาจาต่อไปเยี่ยงใด ทั้งสายพระเนตรดุๆ ที่จ้องจับมาก็ทำให้เจ้าราชบุตรทรงร้อนๆ หนาวๆ พิกลอยู่ แต่คนเยี่ยงเจ้ายอดศึกนั้นมิใช่คนที่จักอับจนต่อสิ่งใดได้นาน เพียงครู่เดียวก็ทรงคิดหาเหตุผลเอาองค์รอดไปได้

“มิมีอันใดเจ้า ลูกเห็นเจ้าพ่อทรงอยู่องค์เดียวมาก็นานแล้ว มิเคยเห็นเจ้าพ่อทรงชายพระเนตรหานางใดเสียที เท่านั้นเองเจ้า เอ่อ..หากเจ้าพ่อมิทรงพอพระทัย ลูกก็ขอสุมาลาโทษด้วยเจ้า”

“พ่อมิได้เคืองเจ้าเลยสักน้อย ว่าแต่เจ้ามาหาพ่อถึงคุ้มนี่ คงมิได้มาเพื่อเที่ยวเล่นกระมัง มีการอันใดรึ”

เจ้าหลวงเมืองคำรับสั่งสุรเสียงอ่อนลง แลทรงเสเปลี่ยนเรื่องสนทนาเสีย ด้วยมิทรงมีพระราชประสงค์จักให้เจ้ายอดศึกทรงล่วงรู้ความในพระทัย คำ ‘มิเคยเห็นเจ้าพ่อทรงชายพระเนตรหานางใดเสียที’ นั้น ทำให้หทัยแกร่งอดหวามไหวมิได้ ใช่ว่าจักมิทรงเคยชายพระเนตรหานางใด หากนางนั้นต่างหากที่มิเคยเหลือบแลพระองค์เลยแม้เพียงปลายก้อย แต่นั่นก็หาทำให้พระองค์ทรงลบนางออกจากพระทัยได้ไม่ ดำริมาถึงตรงนี้แล้ว ดวงหน้างามหวานของนางในนิมิตนางนั้นก็พลันปรากฏขึ้นในความทรงจำ นางนั้นยังให้เจ้าหลวงเมืองคำก็ทรงหวนตั้งคำถามกับองค์เองมิได้ว่า แน่แล้วหรือที่พระองค์มิทรงเคยลืมเลือนเจ้านางหลวงทอรุ้ง แลมิพร้อมจักทรงรับนางใดมาแทนที่ในหทัยจริงๆ


*** มีต่อค่ะ

แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 52 16:21:20

แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 52 16:12:36

จากคุณ : อินทรายุธ
เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 52 16:12:18




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com