บ้านนิทาน อ่านแล้วเพลิน ตอน... ถนนจ๋า (เธอเหงาบ้างไหม)
|
|
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...
กลางหุบเขาลึกลับ และคดคู้อยู่ท่ามกลางหมู่เมฆ
ยังมีถนนสายเล็กๆสายหนึ่งทอดผ่านตามตีนเขา สูงขึ้นไปถึงยอดเขาเห็นเป็นวงกลมวนรอบภูเขาอยู่
มันเป็นถนนเพียงสายเดียวที่ทอดยาวไปท่ามกลางหมู่มวลไม้ สัตว์ป่า เมฆฝน และลมพายุ
... ไม่มีใครสนใจมันเลยแม้แต่น้อย ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าถนนสายนี้มันพูดได้ ... เพราะไม่มีใครเปิดใจที่จะฟัง
ถนนสีส้มน้อยๆต้องนอนนิ่งอยู่ตามแนวเขาเพียงลำพัง เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆ
มันมองดูกระรอกคู่หนึ่งเทลาะกันมาตามทางเรื่องหาอยู่ใหม่ในฤดูหนาว
มองดูดอกไม้สองดอกคุยกันเรื่องผีเสื้อแสนสวยที่เข้ามาจีบพวกหล่อน
มองดูเมฆฝนกับลมพายุคุยกันเรื่องลาพักร้อน หลบไปนอนอาบแดดที่ทะเล
มองดูทุกสิ่งที่เกิดมาคู่กัน แต่มันกลับทำได้แค่มอง... อยู่คนเดียว
*******************************************************************
สายลมหนาวทำหน้าที่โบกพัดพาเอาความแห้งแล้งมาสู่ภูเขา
พวกสัตว์ทั้งหลายต่างหลบลมหนาวอยู่ตามที่ต่างๆ นกสองผัวเมียคู่หนึ่งทำรังอยู่บนต้นไม้ริมถนน
ถนนสีส้มได้ยินและเห็นความเป็นไปของนกสองผัวเมียอยู่ตลอด ไม่ว่ากลางวัน หรือกลางคืน
บางครั้งถนนสีส้มก็นึกในใจเหมือนกันว่า เหตุใดทุกสิ่งทุกอย่างในหุบเขาจะต้องมีสิ่งที่เกิดมาคู่กัน แต่มันเกิดมาเพียงสิ่งเดียวในหุบเขางั้นหรือ...
... วันหนึ่ง ถนนสีแดงเอ่ยทักนกตัวผู้อย่างเขินๆ เพราะมันไม่เคยคุยกับสัตว์ในหุบเขานี้มาก่อน
"สวัสดี" ถนนสีส้มพูดแผ่วๆเหมือนไม่มั่นใจ "..." เงียบ เจ้านกตัวผู้มัวแต่เห่อรังใหม่ของมันจนไม่ได้ยินเสียงถนนเอ่ยทักทาย มันโอบกอดนกตัวเมียเอาไว้ด้วยความรัก อีกไม่นาน พยานรักของมันสองตัวก็จะโบยบินสู่ท้องฟ้าอย่างสดใส (... นกตัวเมียอึใส่ถนน) แล้วมันก็หันไปยิ้มให้กับนกตัวผู้ เอียงคอ ซบไหล่ อย่างมีความสุข
***************************************************************
"ถนนจ๋า เธอเหงาบ้างไหม" เสียงน่ารักสดใสเอ่ยทักทายถนนสีส้มในวันหนึ่ง
"เหงาสิ ... ฉันเหงาทุกวันแหละ" ถนนสีส้มตอบขณะมองดูเมฆบนท้องฟ้า
"ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอ ต่อไปนี้เธอจะไม่เหงาอีกแล้ว"
"แล้วเธอคือใคร" ถนนสีส้มสงสัย
"ฉันก็คือดอกไม้ที่อาศัยอยู่บนตัวเธอนี่อย่างไรล่ะ เธอลองก้มลมมองที่เท้าของเธอสิ"
ถนนสีส้มค่อยๆก้มลงมองด้วยความตื่นเต้น...
.....................................................
"อ๊ากกกกกกก เท้าของฉันอยู่ไหน ฉันไม่เห็นเท้าของฉันเลย" ถนนสีแดงโวยวายเมื่อก้มลงแล้วไม่เห็นเท้าของตัวเอง
"จะบ้าเหรอ เธอหันหลังให้เท้าตัวเองทำไม หันกลับมาทางนี้สิ"
ถนนสีส้มค่อยๆหันกลับไป... หลากหลายอารมณ์พุ่งเข้าชนหัวใจของมัน ...อายที่ปล่อยไก่ออกไปตัวเบ้อเร่อ ...ดีใจที่จะได้เพื่อนใหม่ ...ตื่นเต้นที่จะได้คุยกับสิ่งมีชีวิตอื่น
และมันก็เห็นดอกไม้ต้นเล็กๆ ยิ้มร่าอยู่กลางเท้าของมัน
"สวัสดี" สถนนสีส้มเอ่ยทักด้วยการเขินๆ "สวัสดี" เจ้าดอกดาวเรืองสีเหลืองยิ้มให้ถนนอย่างอ่อนโยน
***************************************************************************
"ถนนจ๋า... เธอเหงาบ้างไหม" ดอกดาวเรืองมักถามคำถามนี้กับถนนเสมอๆ
"ไม่หรอก... เพราะฉันมีเธอเป็นเพื่อน" ถนนตอบ ทุกครั้งที่ดอกดาวเรืองถาม มันจะสรรหาคำตอบที่ไม่ซ้ำกันกับทุกวันมาตอบ เพราะดอกดาวเรืองคือเพื่อนคนเดียวของมัน
"ถนนจ๋า... เธอเหงาบ้างไหม" "ไม่เหงาหรอก... เพราะเธอคือเพื่อนคนเดียวของฉัน"
"ถนนจ๋า... เธอเหงาบ้างไหม" "ไม่เหงาหรอก... เพราะทุกวันฉันคุยกับเธอ"
"ถนนจ๋า... เธอเหงาบ้างไหม" "ไม่เหงาหรอก... เพราะฉันมีเธออยู่ข้างๆ
"ถนนจ๋า... เธอเหงาบ้างไหม" "ไม่เหงาหรอก... เพราะเธอไม่เคยทำให้ฉันเหงา"
"ถนนจ๋า... เธอเหงาบ้างไหม" "ไม่เหงาหรอก... เพราะมันความรู้สึกนี้ไม่มีอยู่ในตัวเธอ"
..............................................................
จากคืนเป็นวัน จากวันเป็นหลายวัน จากหลายวันเป็นสัปดาห์ จากหลายสัปดาห์เป็นเดือน...
ดอกดาวเรืองต้นน้อยหมั่นพูดคุยกับถนนเสมอ เธอแนะนำเหล่าดอกไม้ต่างๆให้รู้จักถนน เมื่อดอกไม้ทุกชนิดในหุบเขาเป็นเพื่อนกับถนน สัตว์ต่างๆในหุบเขาก็เริ่มอยากเป็นเพื่อนกับถนน ก้อนเมฆกับลมพายุก็อยากเป็นเพื่อนกับถนน
ในที่สุดถนนสีส้มก็กลายเป็นเพื่อนกับทุกสิ่งบนหุบเขา
"ถนนจ๋า... เธอเหงาบ้างไหม" ดอกดาวเรืองยังคงถามคำถามเดิมทุกเช้า
"..." คราวนี้ไม่มีเสียงตอบมาจากถนนสีส้ม เพราะมันมัวแต่คุยอยู่กับเพื่อนใหม่จนลืมดอกดาวเรืองต้นน้อยไปเสียแล้ว
"ถนนจ๋า... เธอเหงาบ้างไหม" ดอกดาวเรืองเฝ้าถามถนนอย่างนี้อยู่ทุกวัน ถึงแม้จะไม่มีเสียงตอบกลับจากถนนก็ตาม
****************************************************************************
ดอกดาวเรืองร่วงโรยไปตามกาลเวลา ลมหนาวพัดเอาเกสรแห้งๆของมันกระจายไปทั่วหุบเขา
... ดอกดาวเรืองต้นน้อยบอกลาถนนสีส้มด้วยเสียงอันอ่อนแรง ...
ถนนสีส้มหลงอยู่กับเพื่อนใหม่จนลืมดอกดาวเรืองสนิท เพื่อนใหม่ของถนนต่างกรูกันเข้ามาเหยียบตัวถนนอย่างสนุกสนาน
ใหม่ๆ ถนนสีส้มก็มีความสุขดีที่มีเพื่อนๆหลายคนมาเหยียบมัน ... แต่พอนานๆเข้ามันชักไม่สนุก
เนื้อตัวของถนนสีส้มเริ่มเป็นหลุมเป็นบ่อ ลูกแกะตัวหนึ่งวิ่งเล่นอยู่บนถนน แล้วมันก็สะดุดก้อนหิน ตกหลุมขาพลิก มันร้องไห้กลับบ้านไปฟ้องแม่ แล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย
ไม่นาน พวกเพื่อนๆของถนนก็ค่อยๆหายไปทีละตัว สองตัว สามตัว... จนเดี๋ยวนี้ไม่เหลือซักตัว
ถนนสีส้มขรุขระตอนนี้เหงามาก... ไม่มีใครคุยกับมัน เพราะมันคือถนนอัปลักษณ์!
ถนนสีส้มนึกถึงดอกดาวเรืองขึ้นมาได้ มันก้มลงไปมองที่เท้าของตัวเอง
......... และมันก็พบว่า ดอกดาวเรืองไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว ................
**************************************************************************
"ดอกไม้... ฉันเหงาจังเลย" ถนนเฝ้าบอกดอกดาวเรืองอยู่ทุกเช้า ทั้งๆที่เหลือเพียงรอยหลุมเล็กๆ
"ดอกไม้... ฉันเหงาจังเลย" ถนนพูดอย่างนี้ทุกเช้า
"ดอกไม้... ฉันเหงาจังเลย" เป็นอีกวันหนึ่งที่มันพร่ำบอก
"ดอกไม้... ฉันเหงาจังเลย" ถนนพูดอย่างสำนึกผิด
"ดอกไม้... ฉันเหงาจังเลย"
"ดอกไม้... ฉันเหงาจังเลย"
......................................................
จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี ถนนสีส้มขรุขระได้แต่ก้มมองดูเท้าของตัวเอง มันไม่คุยกับใคร ไม่สนใจอะไร นอกจากจ้องมองเท้าของตัวเอง
******************************************************************
"ถนนจ๋า... เธอเหงาบ้างไหม" เสียงน่ารักสดใสเอ่ยทักทายถนนสีส้มในวันหนึ่ง
"เหงาสิ... ฉันเหงาทุกวันแหละ" ถนนตอบ ขณะก้มมองดูเท้าของตัวเองด้วยความเสียใจ
"ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอ ต่อไปนี้เธอจะไม่เหงาอีกแล้ว"
"แล้วเธอคือใคร" ถนนสีส้มสงสัย
"ฉันก็คือดอกไม้ที่อาศัยอยู่บนตัวเธอนี่อย่างไรล่ะ เธอลองเงยหน้าขึ้นมาดูหน้าผากของเธอสิ"
ถนนสีส้มค่อยๆแหงนมองด้วยความตื่นเต้น...
.....................................................
"อ๊ากกกกกกก หน้าผากของฉันอยู่ไหน ฉันไม่เห็นหน้าผากของฉันเลย" ถนนสีแดงโวยวายเมื่อแหงนมองขึ้นไปแล้วเห็นแต่ก้อนเมฆและท้องฟ้า
"จะบ้าเหรอ เธอจะเห็นหน้าผากของตัวเองได้อย่างไร"
ถนนสีส้มค่อยๆเหลือบตาขึ้นไปดูด้วยความดีใจ...
และมันก็เห็นดอกไม้ต้นเล็กๆ ยิ้มร่าอยู่กลางหน้าผากของมัน
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...
เพื่อนแท้... หาง่าย แต่คนเรามักไม่รู้จักรักษา รักแท้... หายาก แต่การรักษาความรักให้แท้อยู่เสมอ (ยากที่สุด)
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 52 21:57:50
จากคุณ |
:
อศิธารา
|
เขียนเมื่อ |
:
20 พ.ย. 52 21:54:00
|
|
|
|