ความคิดเห็นที่ 1 |
กรทิวาปีนขึ้นไปนอนข้างบน เธอชำเลืองเห็นสองสาวนั่นหัวเราะคิกคักครั้นมองไปทางม่านที่ถูกปิดของชายหนุ่ม เธอทำใจแล้วได้แต่หวังว่าคงไม่มีเสียงอะไรๆ มารบกวน ปลุกเธอยามหลับ
ที่นอนข้างบนนี้มีไฟส่องให้อ่านหนังสือได้ แต่เธอง่วงเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเพราะถูกหลอกให้ไปคอยที่สนามบินตั้งแต่ 6 โมงเช้า หรือเพราะเธอต้องรีดเค้นพลังงานอันมหาศาลขึ้นมาต่อปากต่อคำกับชณธรก็ตาม ดวงตาของเธอเริ่มจะหลุบคล้อย เธอคิดถึงแต่วันรุ่งขึ้นที่เชียงใหม่แล้วฉับพลันเธอก็ได้ยินเสียงตะกุกตะกักข้างล่าง มันเป็นเสียงหัวเราะดัง และเสียงหงุงหงิงของชายหนุ่ม มันปลุกเธอตื่นอย่างโกรธเกรี้ยว
เสียงหวานของหญิงสาวสองคนกับชายหนุ่มพากันหัวเราะร่วน พวกเขาต่อกระซิบด้วยภาษาญี่ปุ่นซึ่งเธอไม่เคยเรียน แต่ก็แน่ใจได้เลยว่าเสียงตึงตังเมื่อครู่คงเป็นเสียงของพวกเขากระทำอร่างฉ่างกันแน่ๆ
เมื่อคิดออกก็พลันปวดหัวจี๊ดขึ้นมา เธอคว้าหมอนมาทุบหัวสองสามครั้งอย่างฉุนเฉียว เสียงกุกกักนั้นยังคงดังอย่างต่อเนื่องให้เธอปลงตกว่าคืนนี้คงไม่ได้นอนแน่แท้ จำใจต้องคว้าไดอะรี่ของบุหลันขึ้นมาอ่านฆ่าเวลาไปจนกว่ากิจกรรมอันน่าพิศมัยของพวกเขาจะจบลง
...เสียงอึกทึกของโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้เขารู้สึกรำคาญ เจ้าชายหิมะของฉันเดินนำหน้าและเปิดทางให้ฉันไปอย่างมาดมั่น แผ่นหลังของเขาสูง สง่าและดูปลอดภัย มันทำให้ฉันอยากเข้าไปสวมกอดเขาจากทางด้านหลัง
นี่ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย? แค่เห็นเขาก็ใจสั่นๆ แถมยังไม่เป็นตัวของตัวเอง เมื่อถึงทางแยกเขาก็ถามฉันว่าจะไปทำแผลก่อนไหม ฉันบอกกับเขาว่าไม่ต้อง ไม่เป็นไรมากแค่ถลกนิดหน่อย ตาของฉันแทบไม่ยอมเงยสบกับเขา ความเขินอายทำดวงตาฉันเป็นโรคกลัวแสงไฟเข้าเสียแล้ว
งั้นฉันขอตัวก่อนนะ ต้องไปซ้อมดนตรีกับเพื่อน เขาว่าพลางยกกระเป๋าขึ้นบังศีรษะแล้วทำท่าจะเดินฝ่าไปกลางสายฝน แต่ก็ต้องสะดุดครั้นถูกมือของฉันคว้าเสื้อไว้
ฉันจำแทบไม่ได้ว่าทำอะไรลงไปและพูดอะไรกับเขาบ้าง มันเหมือนอยู่ในความฝันอันสวยงาม กว่าจะรู้ตัวอีกที ร่มของยัยกรที่ฉันยืมมาก็ไปอยู่ในมือเขาแล้ว
ฉันได้แต่หวังว่าตัวเองคงทำให้เขาประทับใจได้บ้าง เหมือนอย่างที่เขาทำให้ฉันอบอุ่นในหัวใจ
วันที่ 2 พฤษาภาคม...
ยัยกรดีขึ้นมากแล้ว เธอหายจากโรคไข้หวัดใหญ่แล้วแต่ยังกลับไปโรงเรียนไม่ได้เหมือนเดิม ยัยกรมักชอบบ่นว่าตัวเองเรียนไม่เก่งทั้งๆ ที่สอบได้คะแนนเฉลี่ย 4.00 เกือบทุกครั้ง
เธอมักตัดพ้อว่าชุดนักเรียนม.ต้น ที่ถูกยัดเหยียดให้รับต่อจากฉัน มันอึดอัดตรงหน้าอก แต่แทนที่เธอจะให้แม่แก้ให้ เธอกลับมาอ้อนวอนให้ฉันทำตัวให้อึ๋มๆ หน่อยเผื่อปีหน้าที่เธอต้องรับมรดกชุดอีก จะได้ใส่ได้สบาย ฉันทั้งเขินทั้งขำ แต่มันก็ทำให้ฉันไม่เบื่อเวลาต้องนอนเฝ้าไข้ และฉันก็ใช้เวลาในช่วงที่เธอผล่อยหลับไปแอบเขียนไดอะรี่ลับๆ เล่มนี้เพราะถ้าหากยัยกรรู้ เจ้าหล่อนคงต้องวิ่งโล่ทั้งน้ำตาอ้อนวอนมาขอดูแน่ๆ
รุ่งเช้าฉันไปถึงโรงเรียนสายกว่าเพื่อนๆ ฉันยิ้มให้เขา แต่เขาไม่ยิ้มตอบ ทั้งวันเขาทำราวกับว่าเมื่อวานไม่เคยอะไรเกิดขึ้น มันทำให้ใจของฉันหวั่นไหว แต่ฉันก็ชอบมองดูเขา เขาดูเคร่งขรึมเมื่อยามเรียน เขาเรียนเก่งและสอบได้ที่1 ตลอดตอน ม.ต้น เขาเล่นดนตรีเก่งและตั้งวงดนตรีของตัวเองอีกต่างหาก อ้อ! ลืมบอกไป เขาเคยเป็นนักกีฬาบาสให้ทีมโรงเรียนด้วย อาจารย์มาอ้อนวอนเขาถึงในห้อง แต่เขาก็ยังปฎิเสธด้วยเหตุผลที่ว่าเขาต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยตั้งแต่วันนี้ เขากล้าพูดดังๆ ออกมากลางห้องเลยว่า เขาจะต้องเป็นหมอให้ได้
ปฎิธานอันนั่นราวจะเป็นของฉันไปด้วย เพราะทุกครั้งที่เห็นเขาขยัน มันก็ทำให้อยากอ่านหนังสือตาม แต่ฉันมันหัวขี้เลื่อย จะให้เรียนเก่งเหมือนเขาหรือยัยกรก็คงเป็นไปไม่ได้ อยากให้เขามาติวให้จัง
พลันเท่าทันความคิด เขาก็ปรากฎกายอยู่ข้างบุหลันซึ่งนั่งรอรถเมลล์เพียงลำพัง เขาเดินเข้ามาชิดแล้วยื่นร่มคันสีส้มคืนให้เธอ
ฉันคืนให้ ขอบใจสำหรับเรื่องเมื่อวานนะ
บุหลันรับมันอย่างดีใจ และคราวนี้เธอมองหน้าเขา แต่เขากลับเบือนหน้าหนีเธอ
ไม่ต้องขอบใจหรอก หญิงสาวยิ้ม จริงๆ แล้วมันเป็นของน้องสาวฉันน่ะ ฉันก็แอบจิ๊กมาเหมือนกัน
งั้นเหรอ?
เขาขานรับแล้วนิ่ง ความอึดอัดที่เธออยากจะทำลายมันด้วยการชวนเขาคุย ฉัน
ฉัน
ทั้งเด็กหนุ่มและบุหลันนิ่งไปเมื่อทั้งคู่เอ่ยขึ้นพร้อมๆ กัน เธอก้มหน้านิ่งและรู้สึกร้อนผ่าวอีกครั้ง
เธอพูดก่อนสิ เขาบอกอย่างสุภาพ
นายมารอรถเมลล์เหมือนกันเหรอ ไม่เห็น... ไม่เห็นเคยเห็นนายเลย
ฉันมาบ้าง เป็นบางวันน่ะ แล้ววันนี้เธอจะไปที่โรงพยาบาลอีกไหม?
ไปสิ บุหลันบอกเร็ว เธอเผลอสบตากับเขาแล้วรีบก้มหน้าลง
งั้นไปด้วยกันไหมล่ะ? ฉันกำลังจะไปหาพ่ออยู่พอดี
พ่อของเธอทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลนั่นเหรอ? หญิงสาวถาม เมื่อเขาเริ่มโบกแท๊กซี่แล้วผายมือให้เธอก้าวขึ้นไปก่อน
ใช่ เขาตอบพลางหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ ประมาณนั้น
บุหลันยิ้มอยู่ในใจเงียบๆ ช่างเป็นชะตาลิขิตแท้ๆ ที่ทำให้น้องเธอป่วยอยู่ในโรงพยาบาลเดียวกันกับที่พ่อของเขาทำงานอยู่ และวันนี้ฝนไม่ตก เขาจึงไม่หันออกไปมองข้างนอกเหมือนวันก่อน ขอบใจนะ... ยัยกร
***************ต่อขอรับ***************
| จากคุณ |
:
เหมันต์ใบไม้ผลิ
|
| เขียนเมื่อ |
:
22 พ.ย. 52 13:00:21
|
|
|
|