Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
:: ไร่รอตะวัน (9)::  

ไฟห้องทำงานใหญ่ปิดมืดสนิทไร้วี่แววของคนที่เคยอยู่ทำงานจนดึกดื่น ทำเอาบิลลี่ที่เดินตรวจเวรยาม อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าคนบ้างานที่สุดในไร่นั้นหายไปไหน แค่สามทุ่มครึ่งเท่านั้นไม่มีทางที่เจ้านายของเขาจะเข้านอนและเมื่อหันหลังกลับไปก็เจอคำตอบแสงไฟสว่างจ้าลอดอกมาจากใต้ประตูห้องทำงานเล็กที่อยู่เยื้องออกไป เขาเคาะประตูเบาๆก่อนที่จะเปิดประตู คนในหันมาชายตามองเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะปล่อยสายตามองออกไปข้างนอกใช้ความคิดอยู่กับตัวเอง

“เจ้านาย คิดอะไรอยู่หรือครับ”

“ทำไมพักนี้นายถึงอยากรู้อยากเห็นเรื่องของฉันนัก” ถามเขาออกมาเบาๆใส่คนสนิทอย่างไม่ได้จริงจังเพราะเข้าใจดีว่าบิลลี่ก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เขาเองนี่แหละที่มองทุกอย่างที่คนสนิททำลงไปเป็น ขวางหูขวางตาไปหมด

“ก็ผมเป็นห่วงนายนี่ครับ” ลูกน้องอมยิ้มตอบไม่เคยโกรธเจ้านาย

“ฉันนึกว่านายมีคนอื่นให้ห่วงแล้วเสียอีก”

“ก็ถ้าเขายอมให้ผมห่วง มันก็คงจะดีกว่านี้นะครับ แต่นี่คนอะไร....ใจแข็งชะมัด” ลูกน้องตอบเหลือบมองเจ้านาย ปีเตอร์ถอนใจออกมาเบาๆใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าบิลลี่หมายความว่าอย่างไร ก่อนที่เขาจะไปสัมมนาที่เมืองไทยโลกของเขาและลัลนาเรียกได้ว่าเป็นสีชมพูสวยงามสดใสเพราะต่างก็แน่ใจว่ารักในกันและกัน แต่พอเขาได้เจอกับธัญญาและได้รับฟังเรื่องราวต่างๆที่ดูเหมือนจะมีหลักฐานบอกได้แน่ชัดว่าลัลนาเป็นคนประเภทที่เขาไม่อยากที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย ก็เลยทำให้เขาต้องถามใจตัวเองว่าควรจะทำอย่างไรในเมื่อตัวเองไปรักคนที่ทั้งชีวิตคิดจะอยู่ห่างให้ไกล

“ผมไม่เชื่อว่าคุณนาจะเป็นคนแบบนั้นหรอกครับ” บิลลี่ออกความเห็นหลังจากฟังที่เจ้านายเล่าเรื่องทั้งหมดที่เขารู้มาเกี่ยวกับลัลนาให้ฟัง แว่บหนึ่งที่ปีเตอร์อดจะเขม่นลูกน้องไม่ได้ที่ออกรับแทนลัลนา

“พึ่งรู้จักกันไม่เท่าไหร่ ทำไมนายถึงแน่ใจนักว่าเขาจะเป็นคนดี”

“แล้วทำไมนายถึงคิดว่าคุณธัญญาเป็นคนดี เชื่อถือได้ล่ะครับพึ่งรู้จักกันไม่นานเหมือนกัน”

“นี่นายกล้าย้อนฉันขนาดนี้เลยหรอ อย่าคิดว่าเป็นคนสนิทแล้วจะลามปามคู่หมั้นฉันได้นะ” พูดออกมาด้วยความโมโหที่โดนย้อน บิลลี่มองเจ้านายอย่างเอือมในความใจแข็ง ปากแข็ง แต่สมองนิ่มโดนปั่นจนไม่เป็นตัวเอง

“ผมไม่เคยคิดที่จะลามปามนายหรือว่า..ใครก็ตาม” เขาเลือกที่จะเรียกธัญญาแบบนี้แทนการเรียกอย่างที่นายพยายามยัดให้คนในไร่เข้าใจสถานะของธัญญา

“แค่อยากจะขอร้องให้เจ้านายคิดให้ดีเพราะมันมีอะไรหลายๆอย่างที่น่าสงสัย ถ้าผมเป็นคุณธัญญาผมจะไม่มีวันยอมให้อภัยคุณลัลนาแน่ ทำลายงานหมั้นทำลายชีวิตนะครับ ใครเจอแบบนี้คงไม่อยากกลับมาญาติดีด้วยแล้วล่ะครับ แล้วนายไม่เห็นจริงๆหรือว่าแทนที่จะโกรธคุณธัญญากลับลงทุนอ้อนวอนขนาดไหนเพื่อให้คนที่ทำร้าย ตัวเองกลับมาคืนดีด้วย ผมว่ามันไม่ถูกแล้วล่ะ ทำไมนายไม่ถามคุณลัลนาดูว่าเรื่องทั้งหมดเป็นอย่างไร...เผื่อว่า...”

“นายคิดว่าเขาจะพูดความจริงหรอ สิ่งที่เขาทำมันเลวร้ายจะเกินกว่าที่จะให้อภัย”

“แล้วถ้าความจริงมันไม่ใช่อย่างที่นายเข้าใจล่ะครับ นายไม่คิดบ้างหรือว่าตลอดหลายอาทิตย์ผ่านมานายทำร้ายจิตใจคุณนาไปอย่างไรบ้าง เธอคงเสียใจน่าดูที่มีคนมาเข้าใจผิดแบบนี้แถมไม่ให้โอกาสเธอแก้ต่างอะไรเลย” คนเป็นนายเงียบไปเมื่อได้ยิน เขากำลังคิดเรื่องนี้อยู่ก่อนที่บิลลี่จะเดินเข้ามา เขาอยากจะถามลัลนาออกไปให้รู้เรื่องรู้ราวแต่ก็ทำไม่ได้เพราะคงไม่มีใครยอมพูดเรื่องเลวร้ายของตัวเองให้คนอื่นฟัง

“ถามคุณนาเถอะครับ อย่างน้อยเมื่อเอาเรื่องจากทั้งสองฝ่ายมาประมวลเข้ากันเราก็น่าจะรู้เรื่องอะไรๆมากขึ้น ดีกว่ามานั่งคิดว่าเขาเป็นคนไม่ดีโดยอาศัยคำพูดของคนแค่คนเดียว”

“นี่นายมีหน้าที่มาสั่งสอนฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันรู้ดีว่าต้องทำยังไง” เจ้านายตัดบทเสียงดัง บิลลี่จึงยิ้มออกมาได้เพราะอย่างน้อยก็รู้ว่าเจ้านายก็เริ่มเอียงกลับมาอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางมากขึ้นคือไม่ได้เอียงไปข้างธัญญามากจนเกินไป

“ผมไม่ได้สอนนะครับแค่ออกความเห็น แต่ถ้านายไม่สนใจงั้นเดี๋ยวผมไปถามคุณนาเองก็ได้” ลูกน้องเสียงทะเล้น ทำทีจะออกจากห้องไปถามลัลนาซะเดี๋ยวนั้น เลยโดนนายดุเข้าอีก

“ไม่ต้อง!!..เรื่องนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง ส่วนนายฉันมีงานให้นายทำและต้องจัดการให้เร็วที่สุด”

“ว่ามาเลยครับนาย..” ลูกน้องขยับเข้ามาฟังคำสั่งนายอย่างตั้งใจ

          ธัญญาใส่เสื้อคลุมขาวทับชุดนอนสวยซีทรูค่อยๆเดินออกมาจากห้องนอนทางปีกซ้ายเป้าหมายคือห้องนายใหญ่ของไร่ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของตึก หญิงสาวเดินนวยนาดผ่านห้องเล็ก ห้องน้อยตามทางอดที่จะเปิดเข้าไปสำรวจไม่ได้ ตึกใหญ่ของไร่รอตะวันตั้งเด่นเหมือนเป็นจุดศูนย์กลางของไร่ เมื่อมองออกมาจากห้องนอนของเธอที่บ้านสีขาวจะได้มุมที่สวยงามมาก เธอจำได้ดีว่าพยายามชวนลัลนาไม่รู้ต่อกี่ครั้งให้มาเที่ยวในไร่นี้เพื่อที่จะหาโอกาสขอเข้ามาดูบ้าน แต่ลัลนาก็ปฎิเสธเสมอเพราะรู้ว่าที่เธอสนใจเป็นสิ่งที่เจ้าของไร่ไม่สามารถจะสนองให้ได้ ธัญญาเดินเข้าห้องนั้นออกห้องนี้ชื่นชมความงามในการจัดตกแต่งห้องอย่างเพลิดเพลิน คิดไปว่าถ้าเธอได้มาเป็นเจ้าของจะใช้ห้องไหนทำอะไรบ้าง เดินไปเกือบสุดทางก่อนถึงห้องนอนปีเตอร์ ความสนใจของเธอก็ถูกเบี่ยงไปที่ประตูใหญ่สีขาวแกะสลักลายสวยงามของห้องที่อยู่ข้างๆกัน ลวดลายของประตูที่เหมือนจะถูกเลือกให้พิเศษกว่าห้องอื่นๆทำให้เธออดที่จะเปิดเข้าไปดูไม่ได้เพราะมั่นใจว่าข้างในนั้นต้องสวยกว่าห้องอื่นๆเป็นแน่ ภายในถูกออกแบบอย่างดี เพดานยกสูงทำให้ห้องขนาดกลางๆดูกว้างและโอ่โถง การจัดแต่งวางข้าวของเครื่องใช้ด้วยความเรียบร้อย เตียงใหญ่ฟูกหนาถูกจัดวางไว้กลางห้องที่ปลายเตียงชิดผนังมีโต๊ะทำงานตัวใหญ่ตั้งอยู่พร้อมอุปกรณ์การทำงานที่เหมือนจะจัดโชว์ไว้มากกว่าที่จะมีคนมาใช้จริงๆ ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ตั้งเรียงกันทางผนังด้านซ้ายก่อนจะไปถึงห้องน้ำ ชุดรับแขกเล็กๆตั้งอยู่เยื้องกับประตูที่จะออกไปเดินระเบียง เมื่อเดินกลับเข้ามาก็จะเจอประตูสีขาวอีกบานที่ตรงข้างๆเตียง ธัญญาเอื้อมมือคว้าลูกบิดเตรียมเปิดดู

“ดึกดื่นป่านนี้คุณออกมาจากห้องทำไมคะ” เสียงเข้มดุดังขึ้นจากด้านหลังทำเอาเธอสะดุ้ง

“ทำไมมาเงียบๆ” เธอเสียงดังใส่

“มาเสียงดัง เกิดเป็นขโมยมันก็รู้ตัวก่อนสิคะ” ซาร่าเสียงแข็งตอบไม่มีความเคารพในว่าที่นายหญิงแม้แต่น้อย

“ไฟก็เปิดสว่างโล่งขนาดนี้ เห็นว่าเป็นฉันก็น่าจะเข้ามาแบบให้ซุ่มให้เสียงหน่อย”

“ว่าแต่คุณมาทำอะไรที่ปีกขวาคะ” แม่บ้านถามอย่างจับผิด

“ฉันก็มาเดินดูบ้านที่อีกหน่อยมันก็จะเป็นของฉันน่ะสิ ไม่ได้หรือไง” ธัญญาพูดขึ้นตั้งใจยั่วอารมณ์ของอีกฝ่ายเพราะเธอสังเกตซาร่าเวลามองปีเตอร์หลายครั้งรู้ดีว่าแม่บ้านสาวคิดอย่างไรกับเจ้านาย เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูด แบบนั้นก็ทำเอาแม่บ้านจี๊ดขึ้นมาทันที ถึงแม้เธอจะเกลียดลัลนามากแต่ก็คงไม่ถึงเสี้ยวของความเกลียดที่เธอมีให้ธัญญา ตลอดเวลาหลายอาทิตย์ที่ผ่านมาธัญญาย้ำโดยแสดงให้คนงานทั้งไร่ โดยเฉพาะคนงานหญิงได้เห็นว่าเธอคือคนรักของปีเตอร์ ใครหน้าไหนอย่าได้มาเข้าใกล้เขา แต่ซาร่าก็ยังมีความมั่นใจอยู่บ้างว่านายคงยังไม่แน่ใจในตัวผู้หญิงคนนี้ร้อยเปอร์เซ็นนัก ไม่อย่างนั้นคงไม่จัดให้พักอีกฝั่งหนึ่งที่ไกลออกไป

“งั้นก็ตามสบายเถอะค่ะ ดิฉันก็แค่เป็นห่วงเห็นว่าดึกมากแล้ว แล้วห้องคุณก็อยู่ในโซนห้องรับรองแขกทั่วไปซึ่งไกลจากตรงนี้ซึ่งเป็นส่วนห้องรับรองเฉพาะคนสนิทอยู่พอสมควร กว่าจะเดินมาเดินกลับคงเสียเวลานอนไปมาก
อยู่”

“ขอบคุณนะที่เป็นห่วง ฉันก็กำลังจะกลับเดี๋ยวนี้แล้วล่ะ” ธัญญากล่าวกระแทกอย่างหมดอารมณ์ เก็บอาการโกรธที่ถูกแม่บ้านกล่าวว่าเธอเป็นเพียงแค่แขกธรรมดา ซาร่าเดาใจถูกจึงใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์

“ห้องนี้สวยนะคะ เป็นห้องที่ดิฉันชอบที่สุดแต่ไม่ค่อยได้เข้ามา นอกจากนานๆจะมีแขกพิเศษจริงๆเท่านั้นล่ะ นายถึงจะสั่งให้มาจัดห้องนี้ไว้รับรอง ตอนแรกฉันก็นึกว่านายจะจัดให้คุณพักห้องนี้แต่ผิดคาดไปนิดหน่อย แต่ก็อย่างว่าอะไรๆก็ไม่แน่นอน อย่างตอนคุณลัลนาฉันคิดว่าเธอจะได้พักที่ห้องปีกซ้ายแต่เธอกลับได้ห้องนี้ไป”

“ลัลนาเคยพักห้องนี้หรือ!” หันมาถามเสียงแข็ง ความเจ็บใจและอิจฉาพุ่งขึ้นมาทันที

“ค่ะ นายเป็นคนสั่งให้จัดห้องนี้ไว้รับรอง แต่คุณธัญญาไม่ต้องน้อยใจไปหรอกนะคะที่เป็นคนรัก...แต่กลับไม่ได้พักอยู่ใกล้กัน ตอนนั้นคุณลัลนาเธอก็เหมือนเป็นนายใหญ่คุมอำนาจของไร่เกือบทั้งหมดก็ควรจะได้ห้องที่ดีที่สุดไป แต่คิดไปคิดมาถ้าเกิดสองคนนั้นได้รู้จักกันก่อนหน้านานกว่านี้อีกซักหน่อย นายอาจจะให้คุณลัลนาเธอพักห้องนายซึ่งเป็นห้องที่สะดวกสบายที่สุดเลยก็ได้ เพราะใครๆก็รู้ว่าสองคนนั้นเขารักกัน” แม่บ้านลอยหน้าลอยตาพูด

“ตาต่ำกันทั้งไร่” เธอสบถภาษาไทยออกมาชัดเจน แต่หญิงสาวก็ยังคงวางฟอร์มว่ามั่นใจไว้ได้ โดยเดินมายิ้มเหยียดที่มุมปากแล้วพูดใส่หน้าคุณแม่บ้าน

“งั้นฉันฝากไปบอกใครๆของเธอด้วยนะว่าตอนนี้ปีเตอร์เขารักฉันไม่งั้นคงไม่ขอร้องให้ฉันกลับมาด้วย ให้พวกนั้นมันเลิกสงสัยหรือเลิก....ฝันกลางวันได้แล้ว ส่วนเธอเตรียมตัวจัดห้องนี้ไว้เลยนะเพราะฉันจะย้ายเข้ามาอยู่ในเร็วๆนี้” สั่งเสร็จแล้วก็เดินกระแทกเท้าออกไป ทิ้งให้ซาร่ายืนเจ็บใจอยู่ข้างหลัง ตอนนี้สองสาวก็เปรียบเหมือนไก่กับงูที่เห็นเข้าไปในความคิดของแต่ละฝ่าย เกิดความริษยาและอยากได้ในสิ่งเดียวกัน สิ่งที่ไม่ใช่ของตน ธัญญาเดินกลับมาถึงห้อง ทิ้งตัวลงบนเตียงคิดเกลียดไปถึงความใสซื่อ น่ารักของลัลนาที่สามารถทำให้ปีเตอร์รักมากขนาดยกห้องนอนที่ดีที่สุดหรือกระทั่งยกไร่ทั้งไร่ให้ดูแลในเวลาไม่นาน เธอไม่ปฎิเสธหรอกว่าครั้งแรกที่เจอกับลัลนาสิ่งที่โดนใจเธอที่สุดก็คือนิสัยที่น่ารัก จริงใจ และพอได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นความโดดเด่นในตัวของลัลนาก็เผยออกมาอีกทีละน้อยๆ ทั้งความเด็ดเดี่ยว ความเด็ดขาด การมองคนทะลุไปถึงความคิด และอีกมากมายที่เธอทำได้แค่มองและเทียบไม่ติด ความอิจฉาในตัวเพื่อนที่เริ่มสะสมมาทีละเล็กละน้อยโดยที่เธอก็ไม่รู้ตัว และในขณะที่เรื่องเลวร้ายต่างๆเกิดขึ้นกับเธอแต่ฝ่ายลัลนากลับดีวันดีคืนไม่ทุกข์ร้อนอะไรยิ่งทำให้เธอโมโหในโชคชะตาที่ไม่ยุติธรรม

“เกมส์นี้ฉันต้องชนะ” หญิงสาวกล่าวอย่างอาฆาตพร้อมที่จะกำจัดทุกคนที่เข้ามาขวางแผนการ


          วันงานเลี้ยงใกล้เข้ามาทุกทีคนมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบก็วิ่งวุ่นกันใหญ่ ถึงจะบอกว่าเป็นแค่งานเลี้ยงเล็กๆเฉพาะคนในไร่และเพื่อนสนิทแต่ทุกอย่างก็ดูวุ่นวายไปหมด ธัญญาตามติดปีเตอร์ไปทุกที่ ในขณะที่ลัลนาก็ออกหางานทุกวันจนแทบไม่ได้เจอใคร พระอาทิตย์คล้อยต่ำลงไปท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงช้าๆ ลัลนาเดินลัดเลาะตามทางเข้ามาจนเข้าสู่บริเวณบ้าน เสียงกร็อบแกรบเวลาเหยียบย่างลงไปบนใบไม้ทำเอาคนที่เดินคนเดียวอดจะเหลียวไปมองข้างหลังเป็นระยะๆไม่ได้  แกรบ~ก๊อบ~ เสียงกิ่งไม้หักและมีการเคลื่อนไหวมาจากด้านมืดของสวน

“ใครน่ะ!” ลัลนาทำเสียงดังเข้าข่มหันไปกวาดสายตามอง เมื่อไม่มีเสียงตอบรับออกมาแต่รู้สึกหมือนว่าจะมีสายตาลึกลับกำลังจ้องมองเธออยู่ หญิงสาวหมุนตัวกลับไปทำทีไขกุญแจต่อ แต่มือควานลงไปในกระเป๋าหยิบเอากระปุกครีมแก้วสี่เหลี่ยมเล็กๆขึ้นมากำไว้ให้มั่น หูก็คอยฟังการเคลื่อนไหวที่ตัวต้นเหตุดูเหมือนจะรู้ว่าหญิงสาวรู้ตัวแล้วจึงค่อยๆขยับไปที่ทางออกเตรียมจะแฝงตัวออกไปกับความมืด

จากคุณ : รีโหมดไม่มีถ่าน
เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 52 16:59:58




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com