ตราบรัก เคียงใจ บทที่ 11
|
|
บทที่ 11 มาพบใครคะ
ช่อม่วงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นคนๆ นี้เดินผ่านฝ่ายธุรการซึ่งตั้งติดกับประตูหน้าเข้ามาได้โดยไม่ถูกห้าม แม้มีบัตร Visitor ติดไว้ตรงชายเสื้อสีสดจนแสบตาก็เถอะ แต่ตามปกติ ทุกคนต้องนั่งรออยู่ด้านหน้าจนกว่าคนที่ต้องการพบจะไปรับเข้ามาในแผนก หากคนถูกทักทำเพียงปรายหางตามองเธออย่างเหยียดหยามก่อนชะเง้อเข้าไปในห้องทำงานของเมเนเจอร์ ท่าทางนั้นก่อความหมั่นไส้และอาการคันมือคันเท้ายิบๆ ให้เกิดขึ้นกับหญิงสาวทันที... ใช่ว่าจะรังเกียจพวกประเภทสองหรอกนะ แต่ขืนมองกันแบบนั้นอีกครั้งเป็นได้เจอดีแน่
ยุคันต์ไม่อยู่เหรอ
อยู่ฝ่ายโฆษณาค่ะ รอด้านหน้าสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันจะตามให้
ไม่ ฉันจะรอในห้อง บอกเขาว่ากฤษณามาหาก็พอ จบ
จากนั้นคนที่ชื่อกฤษณาก็ตั้งท่าจะเปิดประตูห้องยุคันต์เข้าไปนั่งรอตามอ้าง ซึ่งเจ้าหล่อนคงทำได้สำเร็จถ้าประตูจะไม่ถูกล็อกไว้ สีหน้าเหวอนั่นทำให้ช่อม่วงเกือบหัวเราะออกมาแล้ว หากรีบเปลี่ยนมันเป็นรอยยิ้มสุภาพได้ทันขณะกล่าวเชิญ
รอด้านนอกก่อนดีกว่าค่ะ ดิฉันจะรีบตามให้ จากนั้นก็บริการพาไปส่งถึงจุดรอ แถมยังฝากฝังให้สาวน้อยธุรการคนหนึ่งช่วยดูแลจัดหาน้ำท่ามาต้อนรับ (เพื่อกันไม่ให้คุณเธอเดินเพ่นพ่านอีก) ก่อนจะขอตัวไปตามยุคันต์ ซึ่งพบได้ไม่ยากนักเพราะเขากำลังเตรียมตัวพรีเซ้นต์งานอยู่กับเจษฎา
คุณยุคันต์คะ คุณกฤษณามารอพบค่ะ
ครับ เอ่อ เขามาคนเดียวเหรอ
ค่ะ ไม่เห็นมีคนอื่นอีก
เขาทำท่าประหลาดใจแต่ก็พยักหน้าแล้วเดินตามช่อม่วงไปยังจุดที่กฤษณานั่งรออยู่ เมื่อเห็นเป้าหมายนั่งกรีดนิ้วยกแก้วดื่มน้ำ เขาก็ร้องทัก
สวัสดีครับคุณกฤษณา คุณโทมัสไม่มาด้วยหรือ
เดี๋ยวตามมา พอดีฉันอยากทักเพื่อนเก่าก็เลยขึ้นมาก่อน หนึ่งเป็นยังไงบ้าง
ก็ดีขึ้น เข้าไปรอในห้องผมก่อนสิ จากนั้นเขาหันไปพูดกับธุรการสาว เดี๋ยวยกน้ำ กาแฟกับของว่างเข้าไปในห้องผมด้วยนะ กั้ง นายอยากกินอะไรเพิ่มอีกไหม
บอกกี่ทีแล้วว่าอย่าเรียกฉันว่ากั้ง มันแสลงหู เรียกกิ๊บซี่สิยะ อ้อ ขนมนมเนยตามแต่ศรัทธาย่ะ ฉันไดเอ็ท
ความจริงคุณ กิ๊บซี่ ก็หน้าตาใช้ได้ถ้าวัดกันด้วยมาตรฐานชาวประเภทสองที่ยังไม่แปลงร่าง แม้หุ่นอวบอยู่สักหน่อย เตี้ยไปสักนิด แต่โดยรวมถือว่าผ่าน หากแวบหนึ่ง ช่อม่วงเห็นสายตาของยุคันต์บอกว่า ฝันไปเถอะ ไอ้กั้ง ซ่อนอยู่ในรอยยิ้มนักธุรกิจ ก่อนที่เขาจะผายมือออกอย่างสุภาพเพื่อเชื้อเชิญให้กฤษณาเดินตามโดยมีเธอรั้งท้าย ระหว่างทาง อาคันตุกะถามถึงท่านกรรมการใหญ่ของบริษัทอีกครั้ง
ขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้มางานศพนายนั่น พอดีฮันนีมูนอยู่ปราก แต่ก็ได้ยินว่าหนึ่งเฮิร์ทไปเป็นเดือนเลยใช่ไหม
เรื่องมันผ่านไปแล้ว อย่าพูดถึงอีกเลย
เห็นได้ชัดว่ายุคันต์ไม่อยากพูดถึงจริงๆ ด้วยสีหน้าและแววตาของเขาดูนิ่งเฉยแบบที่ช่อม่วงยังรู้สึกหวาดผวา ทว่าคนไร้การสังเกตกลับจ้อต่ออย่างสนุกปาก แม้แต่ละคำที่เจ้าหล่อนพ่นนั้นฟังเหมือนหวังดีเสียเต็มประดา แต่ความประสงค์ร้ายมันแสดงออกผ่านทางน้ำเสียงเยาะชนิดแจ่มแจ้ง จนกระทั่งถึงหน้าห้องทำงานของชายหนุ่ม เขาไขกุญแจและทำท่าเชื้อเชิญผู้มาเยือนเข้าไปก่อนโดยยืนพิงบานประตูไว้ พอร่างอวบเตี้ยข้ามวงกบเหล็กได้ก้าวเดียว คนตัวสูงกว่าก็พลันถลาไปทางสวิตช์เปิดเครื่องปรับอากาศ ส่งผลให้ประตูซึ่งถูกติดตั้งไว้แบบดีดปิดอัตโนมัติกระแทกใบหน้าของกฤษณาเสียงดังลั่น
คุณกิ๊บซี่ เป็นยังไงบ้างครับ!
หากเป็นคนอื่นมองคงยากบอกได้ว่านั่นคือการกลั่นแกล้งกันหรือเปล่า เพราะเจ้าของขายาวที่ก้าวพรวดเดียวถึงตัวคนซึ่งล้มลงไปนอนแอ้งแม้งกุมหน้าผากร้องโอดโอยนั่นมีแววตาและสีหน้าที่ดูเป็นห่วงเป็นใยอย่างจริงจัง แต่สำหรับช่อม่วง เธอฟันธงแล้วว่านายแย้คนนี้เจตนาทำร้ายอีกฝ่ายชัวร์ ถึงความอ่อนโยนที่เขาแสดงออกมาจะทำได้เนียนสนิทขนาดว่าพระเอกละครไทยหลังข่าวยังอายก็ตาม
ขอโทษนะ ผมเห็นว่าแอร์ยังไม่ได้เปิดเลยรีบไปหน่อยเพราะกลัวคุณจะอึดอัด เจ็บมากหรือเปล่าครับ ให้ผมตามหมอดีไหม
ไม่ต้องย่ะ ฉันแค่มึนเท่านั้นเอง พยุงไปนั่งที่เก้าอี้ก็พอแล้ว
ชายหนุ่มพยักหน้าและกำลังจะช่วยประคองกฤษณาให้ลุกขึ้น แต่สุดท้ายแล้วหน้าที่นั้นก็ไม่ได้เป็นของเขา เมื่อชาวต่างชาติคนหนึ่งร้องถามด้วยสำเนียงไทยชัดหูพลางก้าวผ่านช่อม่วงพรวดเดียวถึงตัวคนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่นั่น
ฮันนี่ เป็นอะไรไปจ๊ะ ยูเป็นลมเหรอ ถึงจะไม่เคยนึกรังเกียจเรื่องพลพรรคชายรักชาย แต่พอเห็นเหตุการณ์ปลอบโยนคู่รักแบบสวีทไม่เกรงสายตาใครในระยะประชิดอย่างนี้ ช่อม่วงก็อดรู้สึกกระอักกระอ่วนในอกไม่ได้ ทว่าแนวร่วมอีกคนกลับตีสีหน้าเนียนเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับภาพเหล่านั้น เพราะนอกจากยืนมองเฉยแล้วยังอมยิ้มน้อยๆ อย่างสุภาพเสียอีก ให้เวลาคู่วายออดอ้อนกันพักใหญ่ทีเดียว กว่าเจ้าของห้องจะเตือนอาคันตุกะทั้งสองถึงจุดประสงค์แท้จริงของการมาอยู่ในห้องนี้ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ถ้าคุณกฤษณาไม่ไหวจริงๆ เลื่อนการพรีเซ้นต์ไปก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวผมแจ้งทางฝ่ายโฆษณาให้เอง
เท่านั้น คนติดกันหนึบก็ได้ฤกษ์ผละออก ฝรั่งที่ชื่อโทมัสลุกขึ้นโดยพยุงแฟนของตนให้ยืนตามด้วยก่อนบอก
ไม่เป็นไร กิ๊บซี่แค่คิดถึงเพื่อนเก่าเลยตามไอมาด้วยเท่านั้น เดี๋ยวยูหาคนมาดูแลเธอสักคนก็พอ ช่อม่วงคิดว่าเป็นคราวซวยของเธอจริงๆ ที่ยืนเอ๋ออยู่ตรงนั้นพอดีเมื่อเจอสายตาของนายฝรั่งซึ่งจ้องมาอย่างมีความหมาย แต่ถึงกลับไปนั่งที่ตัวเองก็ใช่จะมีสิ่งใดรับประกันว่ารอดแน่เพราะห้องเกิดเหตุดันติดกับโต๊ะทำงานเสียอีก พอปฏิเสธไม่ได้ หญิงสาวจึงซ่อนอาการเซ็งจิตไว้ใต้ใบหน้ายิ้มแย้มเหมือนเต็มใจอย่างยิ่งที่จะเทคแคร์คุณกิ๊บซี่ ขณะลอบชำเลืองไปทางยุคันต์ด้วยหวังว่าเขาอาจมอบหมายหน้าที่นี้ให้คนอื่นทำ ซึ่งชายหนุ่มก็ยิ้มหวานตอบรับความนัยของเธอก่อนพูด
งั้นฝากดูแลคุณกฤษณาด้วยนะครับ คุณช่อม่วง
แหงะ... ไหงทำกันแบบนี้ล่ะยะ ตาแย้บ้า! เพียงห้านาทีหลังจากลับร่างเจ้าของห้อง คุณกฤษณาซึ่งหายเจ็บสนิทดีแล้วก็ออกลายอีกรอบด้วยการพร่ำหาถึงนครินทร์ ใช่จะออดอ้อน บังคับหรือโวยวายแกมข่มขู่กับช่อม่วงเพื่อให้เธอพาไปพบเขาหรอก แต่คำพูดแทบทุกประโยคของเจ้าหล่อนมักวนไปสู่ท่านประธานบริษัท หากคนฟังก็เลือกเพียงยิ้มรับและบอกว่าตนเป็นพนักงานใหม่ที่เพิ่งเริ่มงานได้เพียงสัปดาห์เดียว อีกทั้งยังทำงานคนละส่วน คนละตึกกันจึงไม่ทราบเรื่องราวส่วนตัวของเจ้านายใหญ่ เพียงเท่านี้ หญิงสาวในร่างชายหนุ่มซึ่งย้ำนักย้ำหนาว่าตนเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนสมัยมัธยมของนครินทร์ก็เกทับกลับทันควัน โดยบอกว่าตนเคยเห็นกล้ามเนื้อทรงพลังราวเทพบุตรกรีกของเขามาแล้วด้วยน้ำเสียงอวดโอ่ประหนึ่งว่าเขาถอดให้เธอดูแค่คนเดียวอย่างไรอย่างนั้น
สุดยอดเลยล่ะหล่อนเอ้ยยย กล้ามอกกล้ามแขนงี้เป็นมัดๆ ไขมันศูนย์เปอร์เซ็นต์อีกต่างหาก ยิ่งตอนเหงื่อท่วมนะ เซ็กซี่อย่าให้เซด ฝูงชะนีกรี๊ดลั่นจนสนามแทบแตก อุ๊ย เอิ่ม... ตอนนั้นเขาท้าแข่งกับนักเรียนชายทั้งห้องน่ะ สามต่อสามแบบสตรีทบาส หล่อนรู้จักใช่ป่ะ นั่นแหละๆ ฉันยังสงสัยอยู่ว่าทำไมตาหนึ่งไม่ไปเป็นดารานายแบบเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่อย่างว่า กิจการครอบครัวเขาเยอะแยะแถมเป็นลูกชายคนเดียวด้วย รวยจนใช้เงินถมที่แทนดินยังได้แล้วจะไปเป็นดาราทำไมให้โง่เนอะ
ดูถูกทั้งผู้หญิง ทั้งคนที่ตัวเองชอบ ไหนจะพวกดาราที่ประกอบอาชีพสุจริตอีก ยัยนี่มันน่าเปิดสมองผ่าอกออกมาดูว่าเครื่องในมันทำจากอะไรกันแน่ ทำไมถึงคิดแต่เรื่องหมิ่นแคลนคนอื่นจนไม่มองตัวเองเลย...
หากหญิงสาวที่ในใจกำลังเดือดปุดๆ จนดวงตาโชนแสงแห่งความกราดเกรี้ยวกลับเลือกจะใช้รอยยิ้มโต้ตอบไปเช่นเคย จนคนมองเข้าใจผิดคิดว่าเธอคงตั้งใจฟังเรื่องที่ตนเล่าอย่างตื่นเต้น แถมยังแปลแววโมโหในจักษุคมเฉี่ยวว่าคู่สนทนาคงกำลังคิดการณ์ไกลอยากเป็นสะใภ้ตระกูลมหาเศรษฐีเหมือนผู้หญิงรายอื่นๆ กฤษณาจึงเริ่มดักทางด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม
อ๊ะๆ อย่าเพิ่งฝันหวานสิจ๊ะหล่อน ฉันจะบอกเรื่องดีๆ ให้รู้เอาบุญก็แล้วกันว่าผู้หญิงธรรมดาน่ะไม่มีทางได้แอ้มนายนครินทร์หรอกย่ะ มันต้องอย่างฉันนี่ ถึงใช่สเป็คเขา
ชิ! คราวนี้มาทฤษฎีคนหล่อมักเป็นเกย์เลยหรือไง ยัยกั้งขึ้นอืดนี่ชักจะหลงตัวเองเกินไปหน่อยแล้ว... หากหญิงสาวยังไม่ทันย้อนคำพูด คนมีไม้เด็ดก็ชิงฮุกตอบมาก่อน
อย่าคิดว่าฉันเพ้อเจ้อเลยย่ะ รู้นะว่าหล่อนได้ยินตอนที่ฉันพูดเรื่องงานศพกับยุคันต์ บอกให้ก็ได้ว่าคนที่ตายไปนั่นน่ะชื่อเต้ เป็นคนรักของตานครินทร์ อ้อ ต้องให้ฉันขยายความไหมว่านายเต้น่ะเป็นผู้ชาย... หือ?
ท้ายประโยคนั่นจงใจดักคอคนที่ทำตาโพลงเล็กน้อยกับคำบอกเล่าของตนขณะกรีดนิ้วหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มด้วยสีหน้าสะใจ ทว่าพริบตาเดียว ผู้หญิงที่เหมือนช็อคตาตั้งกลับยิ้มหวานก่อนขยับเสื้อคลุมของตัวเอง กฤษณาเหลือบมองด้วยหางตาแล้วพูด
หนาวเลยล่ะสิ ก็สมควรหรอก
ถึงเป็นประโยคตีความได้สองแง่ แต่ช่อม่วงก็เลือกจะเข้าใจว่าคู่สนทนาพูดถึงอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศ เธอจึงซุกมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อคลุมอย่างต้องการความอบอุ่นพลางถาม
แล้วคุณกิ๊บซี่ทราบเรื่องนั้นได้อย่างไรคะ
เคยได้ยินสุภาษิตไก่เห็นตีนงูไหมล่ะ เมื่อเห็นสีหน้าไม่เข้าใจของฝ่ายตรงข้าม เธอจึงขยายประโยคต่อ ก็หมายถึงฉันรู้ไส้พวกเดียวกันไง โง่จริง! ถึงฉันจะย้ายเข้าไปเรียนตอนมอต้นแต่เห็นแล้วรู้เลยว่าตานครินทร์ชอบนายเต้มากแค่ไหน แม้ตอนนั้นเขาจะกลบเกลื่อนด้วยการกลั่นแกล้งนายเต้ต่างๆ นาๆ แต่สายตาที่มองหมอนั่นตอนเผลอน่ะ... อุ๊ย พูดแล้วสยิว
รู้ไส้พวกเดียวกันหรือคะ ถ้าอย่างนั้นแบบคุณก็ไม่ตรงสเป็คด้วยสิ ในเมื่อเหมือนกัน...
ใครบอกล่ะยะ สวยเผ็ดแถมเป็นงานอย่างฉันนี่แหละพวกเกย์ชอบนัก ว่าแล้วก็เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยด้วยท่าทางภาคภูมิใจ ฉันเคยจูบท่านประธานของพวกหล่อนมาแล้วด้วยย่ะ ขอบอก
อาการตาโพลงกลับมาอีกครั้ง เรียกเสียงหัวเราะของกฤษณาให้กังวานขึ้นอีกหลายระดับก่อนพูดต่อ
ตอนนั้นเต้มันยังอยู่หรอกนะฉันถึงแย่งเขามาไม่ได้ แต่ตอนนี้เป็นโอกาสดีแล้วฉันถึงได้มาที่นี่ไง ทีนี้จะบอกได้หรือยังว่านครินทร์อยู่ไหน รับรองนะว่าถ้าฉันได้แฮปปี้เอนดิ้งกับเขาจริงๆ ฉันจะตอบแทนหล่อนอย่างงามเลย ดวงตาชั้นเดียวที่ลดระดับลงมาอยู่ในขั้นปกติแล้วมีแววระยิบระยับขณะกระซิบถาม แล้วคุณฝรั่งคนนั้นล่ะคะ
ตาโทมัสน่ะเหรอ ฉันก็ทิ้งน่ะสิยะ ถามได้ ว่าจบก็กรีดเสียงหัวเราะดังลั่นชนิดพนักงานด้านนอกยังต้องเหลียวมอง แต่คนลำพองกลับโบกมือเหมือนไม่แยแสและพูด ว่าไงล่ะหล่อน รู้ไหมว่านครินทร์ทำงานที่ไหน
ช่อม่วงยิ้มเจ้าเล่ห์พลางขยับตัวเอนเข้าหากฤษณาแล้วกระซิบ ความจริงเพื่อนดิฉันทำงานเป็นเลขาของคุณนครินทร์อยู่ล่ะค่ะ แต่ตอนนี้ทั้งคู่ออกไปข้างนอก คิดว่าก่อนเลิกงานคงกลับมาแล้ว เดี๋ยวดิฉันโทรบอกเพื่อนให้ช่วยนัดท่านประธานมาพบคุณ ดีไหมคะ
| จากคุณ |
:
g_maru
|
| เขียนเมื่อ |
:
24 พ.ย. 52 20:36:06
|
|
|
|