แบตเตอร์รี่บวม จะระเบิดรึเปล่า?
|
|
แบตเตอร์รี่บวม จะระเบิดรึเปล่า?
วันก่อนยกโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย เอ๋...!! ทำไมเอาออกจากซองไหมพรหมไม่ได้ ขนมันติด ก็เลยได้ฤกษ์แกะแบตออกมาดู ไอ้หยา! บวมฉึ่งเลย บวมจนจะปิดที่ใส่แบตไม่ได้แล้ว พี่ที่ทำงานบอกว่าให้ทดสอบวางบนกระจก ปรากฏว่าหมุนติ้ววววได้รอบทิศทาง ก็เลยหาบัตรรับประกันมาดู ในบัตรก็บอกว่า รับประกันแบตเตอร์รี่ 6 เดือน ตัวเครื่อง 1 ปี ดูใบเสร็จซื้อมาวันที่ 1-6-52 มันก็ใกล้หมดประกันแล้วดิ อีกไม่กี่วันเอง ทำไมผลิตมาแม่นจัง พอหมดประกัน ก็เจ๊งเลย
โทรไปถามที่ศูนย์ เขาก็บอกว่าเอาไปเปลี่ยนได้เลย แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรไว้เลย ตอนเย็นก็เลยไปแถวเดอะมอล เพราะเป็นศูนย์มันมีตั้งหลายร้าน พอไปถึง พนักงานก็บอกว่า ต้องไปเครมกับร้านที่ซื้อ เพราะร้านเขาไม่มีของ และไม่ได้ขายรุ่นที่เราซื้อมา ไปถาม 2 ร้าน ก็ตอบแบบนี้ เลยคอตกยอมรับความจริง ได้ข้อคิดว่า ต่อไปต้องถามให้รอบคอบ ถามให้ละเอียด ร้านเปิด-ปิดกี่โมง เครมได้เลยมั้ย เฮ้อ....
วันนี้รู้สึกกังวล เพราะเคยได้ข่าวว่า มือถือระเบิด แล้วมันระเบิดด้วยสาเหตุอะไรกันนะ มันจะบวมนานเท่าไหร่ก่อนจะระเบิดได้ หรือยังไง
หลังจากนั้นก็ไปค้นหาในเนตว่ามันมีศูนย์อยู่ที่ไหนบ้าง เบอร์โทรติดต่อเบอร์อะไร วันรุ่งขึ้นก็คือวันนี้โทรไปถาม โทรไปถามที่ศูนย์ไม่รู้ยังไงไม่มีคนรับสายเลย เป็นตั้งบริษัทมหาชน บริการลูกค้าได้แค่เนี้ยะ เลยโทรไปที่สาขาที่เราไปซื้อ มีอยู่ 2 เบอร์
เบอร์แรกบอกว่า ต้องเอาแบต(บวมฉึ่ง)ส่งศูนย์ก่อน ประมาณ 2 อาทิตย์ หรืออาจนานกว่านั้น ถ้าไม่มีของ พระเจ้า! แค่เปลี่ยนแบตแค่นี้นะ แล้วฉันจะเอาเครื่องที่ไหนใช้(ฟะ!) แล้วเกิดมันไม่มีของแบบไม่มีกำหนดล่ะ ทำไมบริการแย่สิ้นดี ไม่รู้ยี่ห้ออื่นบริการเหมือนกันแบบนี้หรือเปล่า เออ... ถ้าบอกว่าไม่ร้านไม่มีของก็ยังพอจะเข้าใจ นี่ก็มีไว้ขาย
ก็เลยเอาใหม่โทรไปอีกเบอร์ ด้วยความสงสัยว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงหรือ? (ไม่อยากจะเชื่อเลย) เบอร์ที่ 2 พูดคล้าย ๆ เบอร์แรก แต่อยู่ ๆ เขาก็ถามว่าซื้อที่ไหน พนักงานขายชื่ออะไร เราก็ควักใบเสร็จออกมาดู (จะเอาอะไร กล่องที่ใส่มาตอนซื้อก็มี ใบเสร็จก็มี ใบรับประกันก็มี โปรดบอกมา) บอกชื่อเขาไป เขาก็บอกว่า ถ้าซื้อที่ร้านให้เอามาเปลี่ยนได้เลย เราก็ถามอีกทีว่า มีของแน่นะ เขาก็บอกว่า มาได้เลย มีของ เพราะเราไม่อยากไปเก้ออีก
แต่พอไปถึงจริง ๆ เราก็ตรงไปร้านที่เราซื้อเลย ปรากฏว่า เขายืนยันเหมือนเบอร์แรก สงสัยจะร้านนี้แหละ เบอร์แรก เราก็ถามเขาว่า แล้วเราจะเอาเครื่องที่ไหนใช้ล่ะ ต้องรออีกตั้งนาน ก็เลยไม่ได้การล่ะ โทรไปหาเบอร์ที่ 2 อีกที บอกว่ามาถึงแล้ว ร้านเขาอยู่ไหน ก็อยู่ชั้นเดียวกัน ตรงข้ามเยื้องกันนิดเดียว ก็เล่าให้เขาฟังว่าร้านที่ 1 ไม่เปลี่ยนให้ ร้านที่ 2 บอกว่า งั้นเอาไปให้เขาดูก็ได้
ระหว่างนั้น พนักงานร้านที่ 1 ก็ถามว่า เราโทรหาใคร เราก็บอกว่า โทรหาอีกร้านหนึ่ง เขาบอกว่าเปลี่ยนได้เลย พนักงานร้านที่ 1 ก็ขอเบอร์ไปโทรหาร้านที่ 2 คุยได้ซักพัก พนักงานร้านที่ 1 ก็เดินมาเอาแบตมาเปลี่ยนให้ใหม่ พร้อมกับถ่ายใบเสร็จรับเงิน ถามพนักงานร้านที่ 1 ว่า ถ้าอันที่เปลี่ยนให้นี้มันเกิดบวมอีกภายใน 6 เดือน จะเครมได้อีกหรือเปล่า (เกิดเอาของไม่ดีมาให้) เขาก็บอกว่า ไม่ได้แล้ว
ก็เลยโทรไปหาร้านที่ 2 โทรไปขอบคุณเขาที่ช่วยพูดให้ ไม่งั้นคงต้องรออีกนาน หรืออาจจะรออย่างไม่มีกำหนด ถามเขาว่าแบตมันใช้ได้นานแค่ไหน เขาบอกว่าปีหนึ่งก็เริ่มเสื่อมแล้ว โอ้ว! แค่นั้นเองเหรอ
ฉันได้ข้อคิดคือ ประทับใจพนักงานรับโทรศัพท์ร้านที่ 2 ที่เขาช่วยพูดให้ และคิดว่า ต่อไปถ้าเราต้องทำหน้าที่บริการใคร เราจะใส่ใจช่วยเขาเท่าที่เราจะช่วยได้ เป็นบทเรียนเวลาซื้อของต้องถามรายละเอียดบริการหลังการขายให้ชัดเจนด้วย โทรไปถามรายละเอียดให้เรียบร้อยถ้าเครื่องมีปัญหา จะได้ไม่เสียเวลาต้องไปหลายรอบ
สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวถนนฯ นะคะ ไม่ได้เข้ามาลงงานเขียนอะไรเลยนานมาก ไม่รู้ถนนแถวนี้รถติดหรือเปล่าคะ อิอิ
จากคุณ |
:
ริเศรษฐ์
|
เขียนเมื่อ |
:
26 พ.ย. 52 23:17:49
|
|
|
|