Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
The Sun Seeker - บทที่ 4 - แผนการ (2/3)  

บทที่ 1
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8362557/W8362557.html
บทที่ 2 (ครึ่งแรก)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8377260/W8377260.html
บทที่ 2 (ครึ่งหลัง)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8388926/W8388926.html
บทที่ 3 (1/3)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8440081/W8440081.html
บทที่ 3 (2/3)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8465703/W8465703.html
บทที่ 3 (3/3)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8490666/W8490666.html
บทที่ 4 (1/3)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8568964/W8568964.html

* * * * *

คุณแมวเหมียวพุงป่อง - เรื่องนี้ผมวางตัวละครกับโครงเรื่องตั้งต้นก่อนได้อ่านผู้เสกทราย แต่เมื่อได้อ่าน ก็ทำให้ได้เห็นมุมมองเพิ่มเติมขึ้น ได้ความรู้สึกที่ส่งผ่านมาถึงเรื่องนี้ด้วย ยอมรับว่าเป็นอิทธิพลสำคัญในการเขียนเรื่องหนึ่งครับ

ทุกคนล้วนมีความต้องการพื้นฐาน เช่นความรักและการเป็นที่ยอมรับ แต่ในเมื่อไม่ได้รับ ซ้ำถูกกดขี่ข่มเหง จึงได้ผลักดันให้เกิดความต้องการเปลี่ยนแปลง และบางครั้งก็ก้าวล้ำไปสู่การใช้ความรุนแรง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้าครับ

เรื่องนี้จะเป็นแฟนตาซีโลกอนาคต มีเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ผสมกับความสามารถที่คล้ายอำนาจของเทพเจ้าหรือเวทมนตร์ครับ

คุณ Mnemosyne - ขอบคุณครับ ^^

คุณ scottie - คาซีดึงพลังของคนอื่นออกมาสลาย (เป็นหยดน้ำสีดำคืนสู่ดิน) แต่นิกซ์จะดูดกลืนเอาไว้ และทำอย่างอื่นได้ครับ ในตอนต่อๆ ไปจะพัฒนาความสามารถตัวเองเพิ่มขึ้น

* * * * *

4 – การประชุม


“นิกซ์! นิกซ์!” ซีเรนาเขย่าร่างเด็กชายที่นั่งคุดคู้บนที่นั่งข้างคนขับ อีกฝ่ายซึ่งพึมพำงัวเงียไม่ได้ศัพท์เป็นระยะสะดุ้ง แล้วก็ลืมนัยน์ตาปรือขุ่นมัวขึ้น

“ตัวเย็นจัง หนาวหรือ” หญิงสาวพูดอย่างกังวล ก่อนจะนึกได้ว่าอีกฝ่ายย่อมไม่รู้อุณหภูมิของตนเอง “ไม่สบายหรือเปล่า”

เด็กชายกะพริบตาถี่ๆ สองสามครั้ง ก่อนจะพูดช้าๆ

“ค...คงไม่ฮะ แค่...แค่อุ่นไม่พอ”

“เอาเถอะ ไปนั่งกินอาหารร้อนๆ ข้างหลังรถคงอุ่นขึ้น” ซีเรนาถอดเสื้อโค้ทคลุมให้เขา แล้วก็จูงมือไปยังหลังรถ ซึ่งราดา เวซาโน กับทาลอสกำลังล้อมหน้าหม้อไฟฟ้า อุ่นอาหารสังเคราะห์สำเร็จรูปส่งควันฉุย มีเด็กหญิงตระกูลลูเชียสนอนหลับอยู่อีกมุมหนึ่ง

“ข...เขาไม่ตื่นมากินกับเราเหรอฮะ”

“ไม่ตื่นหรอก” หญิงสาวตอบตามตรง “ฉัน ‘ให้ยา’ ให้หลับต่อ เดี๋ยวพวกเราต้อง ‘ประชุม’ กัน เด็กนั่นจะได้ไม่รบกวน”

และถ้าเป็นไปได้ เธอก็อยากวางยาต่อไปเรื่อยๆ จนเด็กหญิงไม่ตื่นมาส่งเสียงรบกวนอีกเลย...อย่างน้อยก็จนกว่ากลับถึงฐาน ยิ่งเมื่อมันพยายามล่อลวงนิกซ์อย่างเห็นได้ชัด

เด็กหญิงยังไม่รู้หรอกว่าซีเรนารู้แล้ว และไม่ได้รู้จากราดาหรือเสียงเขาพูดคุยกับเด็กชายเมื่อคืน ถึงประสาทหูที่ถูกฝึกมาอย่างสายลับของเธอจะจับเสียงพูดคุยของทั้งสองได้คร่าวๆ มูลเหตุที่เธอรู้คือเครื่องดักฟังที่ติดในเสื้อผ้าของเด็กหญิงต่างหาก

ราดาไม่ได้สั่ง แต่หญิงสาวคิดว่าจำเป็น และดีใจที่เธอติดตั้งเผื่อไว้ก่อน ตอนเปิดฟัง ซีเรนาคิดว่าจำเป็นต้องบอกชายหนุ่มแน่แล้ว จึงวางยานอนหลับเด็กหญิงไว้ ทว่าเขากลับเรียกประชุมก่อน และเธอก็มีช่องทางเปิดบันทึกเสียงให้ทุกคนฟังโดยไม่ต้องอธิบายมากมายนัก

“โยนเด็กนี่ทิ้งไว้ข้างทาง หรือในเก็ตโตข้างหน้าเถอะ” หญิงสาวเสนอ “ขืนให้มันไปด้วยได้มีปัญหายิ่งกว่านี้แน่”

ชายหนุ่มกลับเงียบเฉย ขอให้เธอเปิดบันทึกเสียงอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็บอกให้หยุดเป็นระยะๆ ถึงตอนที่เด็กหญิงพูดว่าตนมีพลังของสุริยเทพ และพูดถึงพลังของเด็กชาย...

“เด็กนั่นรู้” ราดาพูดเสียงเครียด “พลังของนิกซ์”

เมื่อนั่นซีเรนาจึงได้ฟังเรื่องน่าประหลาดใจบ้าง ชายหนุ่มซึ่งเป็นคนเดียวที่มองเห็น ‘กระแสพลัง’ ของทุกคนในกลุ่ม อธิบายให้ฟังเรื่องที่เขาปิดไว้

“ฉันว่าจะบอกเมื่อถึงฐาน แต่เป็นอย่างนี้คงไม่พูดไม่ได้”

“หมายความว่ายังไง เจ้านิกซ์ทำอะไรได้” เวซาโนซึ่งมีสีหน้าเบื่อหน่ายเต็มทนโพล่งขึ้น

“ตอนที่นิกซ์มองนาย นายจะพ่นไฟไม่ได้” ราดาอธิบายเป็นภาษาของชายบ้าไฟ “เหมือนเย็นเมื่อวาน เมื่อนิกซ์มองใครในหมู่พวกเรา คนคนนั้นจะใช้พลังไม่ได้เลย”

เวซาโนเบิกตา แล้วก็สบถโขมงโฉงเฉง ซีเรนาอดไม่ได้ที่จะหันไปมองนิกซ์ซึ่งก้มหน้าเจื่อนๆ นัยน์ตาของเด็กชายมีแววกลัวจนเธอนึกสงสาร...และยิ่งโกรธคำเกลี้ยกล่อมของเด็กหญิงมากขึ้นอีก

ทีแรกเธอคิดว่านั่นเป็นเพียงเรื่องโกหกพกลม ทั้งเรื่องที่มันมีพลังของสุริยเทพ แสดงพลังนั้นให้นิกซ์ดู และพูดถึงพลังของนิกซ์ แต่เมื่อรู้ว่าเป็นความจริง...ก็ยิ่งขุ่นเคือง เด็กหญิงนั้นเจ้าเล่ห์เกินไป ร้ายกาจเกินไป

“แต่เราจะไม่ทิ้งนิกซ์ด้วยเรื่องนี้แน่นอน” เธอลั่นวาจาแทนคนทั้งกลุ่ม “นิกซ์เป็นพวกของเรา เราไม่ได้เอาเขามาใช้ประโยชน์นี่”

ราดาพยักหน้ารับทันที เวซาโนเองก็ไม่ได้มีสีหน้าคัดค้าน เขาเพียงยักไหล่ พูดง่ายๆ

“บ๊ะ พ่นไฟไม่ได้ ก็ทำระเบิดให้ข้าแทนแล้วกัน”

หญิงสาวหวังว่าเด็กชายจะร่าเริงขึ้น ทว่าเขาก็เพียงเหลือบมองเธอแวบเดียว สายตากังวล คำว่าขอบคุณแผ่วเบาแทบไม่ลอดริมฝีปาก

“นายไม่ต้องห่วงหรอก” ราดาพูดต่อ “ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็จะไม่ทิ้งนาย เราเชื่อใจว่านายจะไม่ทิ้งเรา ขอแค่นายเชื่อใจพวกเราบ้าง...เท่านั้นเอง นายเป็นเนฟิลิม พวกเราก็เป็นเนฟิลิม จำที่ฉันพูดเมื่อคืนได้ไหม”

ซีเรนาประหลาดใจ...แต่ก็เล็กน้อย หากนับตามมาตรฐานสมาชิกกลุ่มสองคนที่ผ่านมา กว่าชายหนุ่มจะพูดเรื่องคำเรียกตนเองว่า ‘เนฟิลิม’ ก็เมื่อทำงานร่วมกันมาได้พักหนึ่งแล้ว คงเพราะเขาเคยเป็น...ไม่ก็เกือบเป็นนักบวช จึงไม่บอกเปล่าๆ แต่มีการทำพิธีเล็กๆ น้อยๆ ...ประพรมน้ำบนศีรษะ และขานชื่อใหม่ ประกาศต้อนรับเนฟิลิมคนใหม่ ไม่มีอะไรมากมาย แต่คงเพราะเสียงไหลเรื่อยแทบเป็นทำนองของราดา ราวกับเอ่ยมนตราขรึมขลังในภาษาที่ไม่รู้จัก หญิงสาวจึงได้รู้สึกเหมือนตนถือกำเนิดใหม่ในฐานะซีเรนาจริงๆ

แต่กับนิกซ์เป็นกรณีพิเศษ และคงต้องเป็นเช่นนั้น เพราะเด็กชายยังเด็กมาก เด็กอาจเชื่อง่าย โอนอ่อนผ่อนตามง่าย แต่ก็เกิดความระแวงและรอยเปราะร้าวในใจได้ง่ายตามกัน ราดากับพวกเธอจึงต้องสร้างความเชื่อใจและมั่นใจให้เด็กชาย ว่าเขาเป็นหนึ่งในพวกพ้องจริงๆ

“ฮ...ฮะ” นิกซ์รับตะกุกตะกัก

“ส่วนที่เด็กเซรานั่นพูด” ราดาเอ่ยอย่างครุ่นคิด “ที่จริงก็น่าสนใจ เด็กนั่นมองเห็นกระแสพลังเหมือนฉัน แต่มีพลังอีกอย่าง ยายนั่นสร้างวงแสงให้นายดูจริงๆ หรือ”

นิกซ์พยักหน้า ทว่าชายหนุ่มไม่มอง ไม่แตะต้องอาหาร จมในห้วงความคิดตน

“...และถ้ามีผลึกสุริยะขนาดใหญ่ช่วย ก็อาจสร้างให้สว่างได้มากขึ้น...อย่างนั้นหรือ เป็นพลังที่แปลก...เหมือนเวทมนตร์ของพวกนักบวชโบราณ...น่าจะสาบสูญไปนานแล้ว แต่ทำไมเด็กนี่กลับมีขึ้นมาได้ พวกโซลาริส...ไม่สิ...ตระกูลลูเชียสต้องวางแผนอะไรอยู่แน่ นึกดูฉันก็ว่ามันประหลาดแต่แรก ตอนฉันยังอยู่บ้านนั้น พวกเขาไม่ยอมให้ออกมาเดินถนนข้างนอกเด็ดขาด เด็กนั่นยิ่งเป็นเด็กผู้หญิง ต่อให้มีพวกครูเซเดอร์ตามมาด้วย ก็ไม่น่าจะปล่อยให้คุ้มกันหละหลวมขนาดนั้น”

“ฉันถึงว่าปล่อยมันทิ้งไว้ดีกว่า” ซีเรนาแทรก “อย่ายุ่งกับมันอีกเลย ราดา เด็กนี่อาจอันตรายกว่าที่คิดก็ได้ เราได้รับคำสั่งให้เอาไปแค่เพทรา อย่าหาเรื่องใส่ตัวมากกว่านี้เลย”

“แต่เด็กนี่ก็มีพลังของเพทรา” ชายหนุ่มพูดหนักแน่น “ฉันอยากรู้...และทางนั้นคงอยากรู้เหมือนกันว่าทำได้อย่างไร ข้อมูลนั่นอาจมีค่ากว่าที่คิดไว้มาก”

“ถึงอย่างนั้น...” หญิงสาวไม่ทันแย้ง คนขัดขึ้นกลับเป็นคนที่ใครๆ คาดไม่ถึงที่สุด

“แต่...คุณราดาก็...ได้เพทราไปแล้ว...จะ...จะจับท่านหญิง...ไว้อีกเหรอฮะ” นิกซ์พูดกล้าๆ กลัวๆ “ท...ท่านหญิงก็ยังเด็ก... หายมานานแบบนี้... พ่อแม่ไม่เป็นห่วงแย่แล้วเหรอฮะ ถึงคุณราดาบอกว่า...เพทราไม่ได้เป็น...ของโซลาริส แต่...แต่เด็กคนนี้ก็...ไม่ใช่ของของคุณราดา...หรือพวกอัสลานเหมือนกัน”

ชายหนุ่มมองเด็กชายเงียบอยู่ สายตาเรียบเฉยจนยากบอกความคิดหรืออารมณ์

“ก็จริงของนาย” เขาพยักหน้า “แต่ยายนั่นขอตามมาเองนี่ จะไล่กลับไปยังไง”

“ก...ก็บอก...ความจริง...ให้เขารู้...สิฮะ” นิกซ์เสนอ “ถ้า...เขาบอกว่าตามมาเพราะ...อยากรู้ความจริง ได้รู้แล้วก็...หมดข้ออ้างแล้วไม่ใช่เหรอ...ค...คุณราดาก็...แค่ไม่อยากบอก...ว่าคุณราดาเป็นญาติเขา...แต่เมื่อคืน...คุณราดาบอกผมว่า...แค่ไม่อยากให้รู้...แสดงว่า...บอกไปก็...ไม่เป็นอันตราย...ไม่ใช่เหรอฮะ”

...ไม่เป็นอันตรายได้อย่างไร... ซีเรนาคิด ...ยิ่งให้รู้ต่างหากจะยิ่งเป็นอันตราย เพราะผู้นำทั้งสองคนของโซลาริสล้วนเป็นญาติใกล้ชิดของราดา เด็กหญิงนั่นจะได้วิ่งโร่ไปฟ้องพ่อกับพี่ชาย ให้มาเก็บราดาเหมือนเมื่อครั้งนั้นปะไร... เธออยากแย้ง แต่ไม่ทันหัวหน้ากลุ่มพูดขึ้น

“อือม์...นั่นสินะ ก็จริงของนาย” ราดาพยักหน้าอีกครั้ง “แต่...ถ้ายายนั่นมาเพราะอยากหาเรื่องเอาเพทรากลับไปด้วยล่ะ”

“ถ...ถ้ามีตัวคนเดียว...ก...ก็ทำไม่ได้อยู่แล้วนี่ฮะ” เด็กชายแย้ง “เพทราลูกใหญ่ หนักก็หนัก เขาคนเดียว...ขนไม่ได้หรอก”

“ยายนั่นอาจคิดทางอื่นไว้ก็ได้” ชายหนุ่มตอบ “นายอยากรู้ไหมล่ะ”

“...ฮะ?” นิกซ์ถามอย่างงุนงง

“ลองถามยายนั่นดูสิ ฉันเองก็อยากรู้ว่าเจ้าหล่อนกำลังคิดจะทำอะไรอยู่พอดี” สีหน้าของราดาเริ่มมีเลศนัยขึ้น...อย่างที่ซีเรนาคิดว่าฝ่ายตรงข้ามต้องระวังให้จงหนัก “ถ้า ‘เซรา’ เปิดใจให้นาย นายจะลองพูดให้เขาอยากกลับบ้านไปก็ได้นะ”

คนถูกเสนอกะพริบตาปริบๆ

“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีไม่ใช่เหรอ ถึงอย่างไรเราก็ไม่เอาเพทราไปไม่ได้ ถ้าเซราคิดจะตามมาเพื่อเพทราอย่างเดียว ไม่ช้าก็ต้องผิดหวัง พูดให้เขายอมกลับไปแต่โดยดี ก็ดีกว่าถูกวางยา จับมัดทิ้งไว้ในเก็ตโตโดยไม่มีเครื่องติดตามตัว ไม่รู้ว่าพวกครูเซเดอร์จะมาเจอเมื่อไร ใช่ไหมล่ะ ถ้านายอยากให้เขากลับไป นายลองพูดเถอะ เขาน่าจะฟังมากกว่าพวกเราพูด เขาบอกว่าเห็นนายเป็นเพื่อนไม่ใช่เหรอ”

นิกซ์มีสีหน้างุนงงเป็นที่สุด

“ไม่ต้องห่วงหรอก นิกซ์ ฉันจะสอนนายเองว่าพูดยังไง นายก็อยากให้เด็กคนนั้นได้กลับไปหาพ่อแม่อย่างปลอดภัย...ไม่ใช่เหรอ”

หญิงสาวเริ่มไม่แน่ใจว่านั่นเป็นความคิดที่ดี แต่เด็กชายก็ผงกศีรษะรับปากอย่างเห็นจริงจังด้วยไปเรียบร้อยแล้ว

* * * * *

แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 52 23:19:36

แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 52 23:19:10

แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 52 00:16:49

จากคุณ : Anithin
เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 52 00:16:20




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com