 |
ความคิดเห็นที่ 1 |
เรื่อง : หนทางสู่รัก นามปากกา : มานัส บทที่ : 7 (ต่อ 1) ****************************
เลิกโมโหได้แล้วนะที่รัก เสียงหัวเราะของจูดี้นั้นสดใส
หญิงสาวอิงซบไหล่กว้างของคนที่นั่งเคียงคู่กับเธอภายในรถตู้คันงาม
ทำไมไม่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่เสียที เสียงของเขาห้วนริมฝีปากหยักที่เคยได้รูปสวยบัดนี้เม้มตรง
ตอนนี้ก็เป็นแล้ว ฉันตัดสินใจด้วยตัวเองว่าจะกลับมาหาคุณ
คุณตัดสินใจแล้วเคยนึกถึงผมมั๊ย
ฉันคิดถึงคุณเสมอ หญิงสาวสารภาพพลางแทรกนิ้วมือของเธอเข้าไปหว่างนิ้วของเขา มีผู้ชายหลายคนเข้ามาจีบฉัน แต่ฉันก็รักคุณ ฉันไม่เคยหยุดรักคุณได้เลย ในหัวใจ
แต่ในใจของผมมันมีคนอื่นมาแทนที่คุณแล้ว ชานนท์สวนขึ้นทันทีรู้ดีว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร เรื่องของเรามันจบ
จบ! เมื่อไหร่คุณจะเข้าใจเสียที
ใคร? คุณมีใคร?
เท่าที่เธอสืบดูเขาไม่มีใคร ชานนท์มีเพื่อนผู้หญิงที่สนิทหากคนเหล่านั้นก็คือเพื่อน ในชีวิตที่เรียบง่ายของเขา มีแต่เพื่อนกับครอบครัว ในหัวใจของผู้ชายคนนี้ยังมีเธออยู่เสมอ
คุณไม่จำเป็นต้องรู้
ภายในความมืดของรถยนต์ดาราสาวคนดังไม่สามารถเห็นแววตาแสนเศร้าของเขา ร่างสูงยังคงนั่งนิ่งตรง
I believe in you, You know the door to my bearest soul Youre the light in my deepest darkest hour Youre my savior when I fall
And you may not think that I care for you When you know down inside That I really do
And its me you need to show
["How Deep Is Your Love" คำร้องโดย Barry Gibbs]
อาเจิ้ง
เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เธอเรียกชื่อเล่นของเขา อย่าทำอย่างนี้กับฉัน
ได้โปรด
มันเป็นเรื่องปรกติ เวลาที่เปลี่ยน ความรู้สึกที่เปลี่ยน
อาเจิ้ง
หญิงสาวเรียกชื่อเขาอีกที ตอนนี้ฉันไม่กลัวที่จะต้องฟังคุณลุงแล้ว ฉันตัดสินใจที่จะรักและยืนหยัดเช่นนั้น ต่อให้ฉันต้องออกจากวงการ
อย่า
อย่าทำอะไรเพื่อผม อย่าเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณเพื่อผม เขากลืนก้อนแข็งๆ ให้ลงคอ เพราะผม
ผมไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงทางชีวิตของตัวเองเพื่อคุณ เพราะผมไม่ได้รักคุณมากพอที่จะทำเช่นนั้น ผมไม่ได้รักคุณมากพอที่จะเกลียดคุณ แต่ก็ไม่ได้รักคุณมากพอที่อยากจะปกป้องคุณ ไม่ได้รักคุณมากพอที่จะใช้ชีวิตกับคุณ
คุณยังโกรธ
ผมไม่โกรธคุณแล้ว ที่จริงผมไม่เคยโกรธคุณเลย เพราะผมรู้ว่าตอนนั้นที่คุณทำเพราะความจำเป็น ผมกลับเป็นห่วงคุณด้วยซ้ำว่า เมื่อคุณจากไปแล้วจะมีใครดูแลปกป้องคุณหรือเปล่า มีใครที่สามารถรักคุณเท่าที่ผมเคยรักไหม ความตืบตันในลำคอนั้นถูกกลืนหายเช่นกัน แม้แต่บัดนี้ผมก็ยังเป็นห่วงคุณ
อาเจิ้ง
เสียงของเธอถูกตัดขาดไปพร้อมกับริมฝีปากของหญิงสาวที่แนบชิดปากหยักสวยของเขา
อารมณ์ของหญิงสาวนั้นรุนแรงพอๆ กับความต้องการที่จะได้เขากลับมา หากแล้วก็เป็นชานนท์ที่ค่อยๆ ดันร่างบางนั้นออกพร้อมๆ กับที่เขาถอยห่างออกมาจนชิดขอบประตู
เชื่อฉันซิ
เชื่อนะ น้ำเสียงเว้าวอนนั้นรอเพียงให้เขาใจอ่อน
เมื่อก่อน อาเจิ้ง มักจะใจอ่อนเสมอยามที่เธอออดอ้อน ฉันจะไม่เป็นแล้วดาราดัง ฉันจะอยู่กับคุณนะ เราจะเดินทาง cross-country ข้ามอเมริกาด้วยกัน
ตามแผนที่เราเคยวางไว้
ผมไปกับคุณไม่ได้ ต่อให้ผมต้องไปเพียงลำพังคนเดียว
ผมก็จะไม่ไปกับคุณ เสียงของเขาแผ่วเบาด้วยความรู้สึก ดวงตาคมกริบมองอีกฝ่ายอย่างจริงจัง ราวเน้นย้ำทุกถ้อยคำ ถ้าคุณรักผมจริงก็ควรเคารพการตัดสินใจของผม ปล่อยผมไปเหมือนเช่นที่ผมเคยปล่อยคุณไป
คราวนี้จูดี้เฉินไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป เธอร้องไห้ด้วยความรู้สึกทั้งหมด เหมือนตอนที่เธอเคยร้องไห้ราวขาดใจเมื่อคราวตัดสินใจที่จะ ไป จากเขา
การลาจากทั้งที่มีลมหายใจ
ทั้งที่ยังรักสุดหัวใจ มันช่างทรมานแสนสาหัส
แต่ทางเดินนั้นเธอเลิกเอง เธอเลิกที่จะเจ็บปวดเพื่อชีวิตที่ดีพร้อม และเธอเลือกที่จะทำให้เขาต้องเจ็บปวดเพราะเธอ
ผมขอบคุณสำหรับทุกอย่าง สำหรับความรักและความหวังดีของคุณ แต่ผม
ขอโทษ
พลันเขาเอื้อมมือไปเปิดประตูรถตู้ที่จอดติดสัญญาณไฟ ร่างสูงก้าวลงทันทีอย่างไม่ลังเล
อาเจิ้ง
เสียงเรียกของหญิงสาวไม่สามารถดึงเขากลับมาได้เลย จูดี้เฉินทำได้เพียงแค่ร้องไห้ที่มิใช่ถูกกำกับด้วยบทแสดงใดๆ หากเป็นการเสียงใจเพราะหัวใจที่เจ็บช้ำ
คนที่อยู่ปลายสายย่อมรู้ว่าเสียงคนที่รับนั้นไม่ใช่เป็นน้องชายของเขา ดัวนั้นเขาจึงเงียบไปมิได้ขานตอบ
ฮัลโหล
เมื่อไม่ได้ยินคำตอบกลับคนที่รับสายเลยต้องย้ำซ้ำอีกที
เจิ้ง
อยู่ไหน ปพณค่อยๆ พูดออกมา
พี่จ่างเหรอครับ หากคนที่รับสายกลับไม่รู้สึกตะกุตะขัดแต่อย่างใด
คำที่เรียก พี่ นั้นสนิทใจเหมือนดั่งเช่นที่ขานเรียก พี่ชายคนรอง
พี่เจิ้งยังไม่ตื่นเลยฮะ เมื่อคืนดื่มไปเยอะ กิตต์รายงานทันที พี่เจิ้งพาผมไปเลี้ยงฉลองที่ผมได้งาน
แต่ดูพี่เจิ้งหน้าตาไม่ค่อยดีเลย ไม่เคยเห็นพี่เจิ้งเป็นแบบนี้มาก่อน
ปลุก
ได้มั๊ย
ผมพยายามเรียกแล้ว
ลองอีกทีบอกว่าฉันโทรฯ มา ถึงจะเป็นคำสั่งแต่น้ำเสียงก็ไม่ได้ห้วนนักอย่างที่คิดว่าจะเป็น
พี่จ่างรอเดี๋ยวนะฮะ กิตต์บอกคนที่อยู่ปลายสาย
เสียงเรียกพี่ชายคนรองนั้นดังและรัว ราวกับว่าจะไม่หยุดหากเจ้าของห้องไม่ขานรับ ความอดทนของกิตต์นั้นมากกว่าของพี่ชายคนรองจนปพณยังต้องบอกกับตนเอง
ไอ้นี่มันแน่เว้ย
เพราะในที่สุดชานนท์ก็จำต้องยอมลุกขึ้นเปิดประตูให้จนได้ แล้วจึงบ่นใส่คนเรียกยกหนึ่งก่อนจะเอื้อมมือรับโทรศัพท์ที่มีผู้เป็นพี่ชายรออยู่อีกปลายสาย
ผมคุยกับจูดี้แล้ว
คำว่า จูดี้ ทำให้น้องชายคนเล็กหูผึ่ง เรื่องของดาราใครๆ ก็อยากรู้
ผมพยายามตัดแล้ว ผมบอกเขาไปอย่างชัดเจน แต่
พี่จ่าง
คนเล่าพยายามระงับอารมณ์หลายอย่าง ผมรู้ว่าจูดี้เขายัง
รักผมอยู่
แต่แกไม่ได้รักเขา
ผมก็แค่เคยรัก การตัดใจมันเคยยาก แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป
เวลาช่วยได้ แต่มันก็ต้องใช้เวลา
การสนทนาทางโทรศัพท์ของสองคนพี่น้องทำให้กิตต์ต้องถอนหายใจ แม้จะอยากรู้เรื่องของดาราแต่นี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับพี่ชายของเขา
พี่เจิ้งต้องเสียใจ
มันไม่สนุกสำหรับคนที่เป็นน้องเลย
ผมคิดว่าน่าจะรู้เรื่องแล้ว เพราะคราวนี้บอกกับเขาตรงๆ
ถ้าคิดว่าทำต่อไปแล้วจะมีปัญหาก็ออกมาซะ นายแกบอกว่าไม่จำเป็นแล้ว เรื่องเทรดหุ้นยังมีเจ้าอื่นๆ ที่ทำให้ไม่ใช่หรือ
แต่ผมยังเหลือเวลาอีกสี่เดือนนะพี่
ตามที่ตกลงกับนาย ยังเหลืออีกบริษัทที่จะต้องเข้าไป
เรื่องนั้นคนอื่นจัดการแทนได้ ปพณบอกอย่างใจเย็น จริงๆ แล้วที่เมืองไทยก็ไม่มีอะไรน่าห่วง เรื่องเข้าเทคหุ้น เรื่องซื้อที่ดินและอาคารร้างพวกนั้นก็เสร็จแล้วไม่ใช่หรือ มูลค่าก็ไม่ได้มากมาย
แต่
ถ้าแกยังห่วงน้องชายแก ก็ไม่เป็นไร แต่เรื่องงานพอแล้ว แกทำธุระต่างๆ ของแกให้จบ พอเสร็จแล้วจะได้มาช่วยงานกันเสียที
ผมไม่เป็นหมอผ่าตัดแบบพี่นะ ความเป็นชานนท์คนเดิมเริ่มกลับมาอีกครั้ง
ช่วยงานนายแกต่างหาก
ปพณได้ยินเสียงถอนหายใจดังของคนที่อยู่ปลายสาย ผู้เป็นพี่ย่อมรู้ว่า
ศักดิ์ศรีที่น้องชายแบกไว้มันช่างหนักเกิน
เรื่องจูดี้ ผู้เป็นพี่วกเข้าประเด็นเจ้าปัญหา ถ้าไม่ไหวจริงๆ เดี๋ยวนายแกจะช่วยจัดการอีกที
พี่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบผสมเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงาน คำบอกนั้นหนักแน่นดังเช่นความตั้งใจที่แน่วแน่
เรื่องของเราสองคน เมื่อเราเริ่มก็ต้องจบด้วยมือของเราเองแม้นอาจต้องใช้เวลา แต่บทสุดท้ายแล้ว ทุกอย่างก็ต้องสำเร็จ
ความเบื่อหน่ายในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาในเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ทำให้คนที่ดูอารมณ์ดีอยู่เป็นนิจอย่างชานนท์รู้สึกหงุดหงิด คงเหมือนเช่นวันหยุดสุดสัปดาห์วันนี้ ที่เขาออกตะเวนไปทั่วแถบพระนครจนกระทั่งมาเดินเตร่อยู่แถวสุขุมวิทในเวลาบ่ายแก่
แคท
นานทีปีหนที่เขาจะเป็นฝ่ายโทรฯ หาเพื่อนสาวก่อน เว้นแต่ว่าแคทลียาจะอยู่ในอารมณ์ที่น่าวิตกจริงๆ ถ้าเป็นเช่นนั้นทั้งเขาและจิรนาก็คงผลัดกันกระหน่ำโทรฯ หาด้วยความเป็นห่วง
ทว่าตั้งแต่กลับมาจากทริปยุโรปที่กินเวลานานหลายเดือนนั้นหญิงสาวก็แทบไม่มีเวลาเมาอารมณ์หรือเศร้าสร้อยกับชีวิตที่เดียวดายเลย
สงสัยได้หนุ่มคนใหม่ จิรนายังพอเดาได้
ว่าไง เสียงจากปลายสายดังเข้ามาอย่างร่าเริง
ไม่มีอะไร แค่โทรฯ มาหาเฉยๆ เห็นแคทเงียบหายไป
ฉันก็มีความสุขล่ะซิ
เราก็คิดว่าอย่างนั้น ชานนท์หัวเราะเบาๆ
เธออยู่ไหนเนี่ย
แถวๆ อโศก
แหมดีเลย
เสียงแหลมนั้นลากยาว ฉันอยู่ที่ร้านชา
แคทลียาบอกชื่อร้านของหวานชื่อดังที่มีชุดชายามบ่ายราคาแพง
เธอมาซิ การชักชวนให้มานั้นถือเป็นเรื่องปรกติ ฉันไม่ได้เจอเธอตั้งนาน
แคทอยู่กับใคร
หนุ่มซิยะ มาเถอะ
คราวนี้ไม่มีการจับคู่เกิดขึ้นเด็ดขาดหน่า
คำบอกของเพื่อนสาวทำให้ชานนท์ต้องไตร่ตรอง เขาไม่แน่ใจในหนุ่มคนใหม่ของแคทลียานัก การปรากฏตัวของเขาอาจทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดก็เป็นได้ ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนของเขาและแคทลียาไม่มีการเกินเลยไปกว่านั้น หากก็มีหลายคนที่มิได้คิดเพียงแค่นั้น
หากแคทลียายังคงคะยั้นคะยอจนกระทั่งชานนท์ตกปากรับคำอย่างอ่อนใจ ก็ได้
(ต่อ)
| จากคุณ |
:
Sentimentally Smooth
|
| เขียนเมื่อ |
:
27 พ.ย. 52 01:30:48
|
|
|
|
 |