Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
หนทางสู่รัก (บทที่ 7) โดย มานัส  

เรื่อง : หนทางสู่รัก
นามปากกา : มานัส
บทที่ : 7
****************************



เสียงเครื่องพิมพ์ที่กำลังพิมพ์ยอดการซื้อขายหลักทรัพย์ประจำวันนั้นบ่งบอกว่าใกล้เสร็จแล้ว ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งจึงเตรียมลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานที่มีเอกสารวางเกลื่อนอยู่เต็ม

“วันนี้ยอดเท่าไหร่วะ” เพื่อนร่วมงานที่นั่งใกล้เขาถาม

“แค่ห้าล้านกว่าๆ ครับ” ชานนท์ตอบด้วยรอยยิ้มเก้อๆ เขาไม่รู้จะปิดเรื่องยอดซื้อขายนี้ไปทำไมไปทำไม

“ก็ยังดี”

“แต่แกน่ะห้าหกล้านกว่าหลายวัน พอจะพรวดก็พุ่งขึ้นเป็นสามสิบสี่สิบล้าน” อีกคนเสริมเพราะรู้ถึงข้อมูลดี

เรื่องยอดการซื้อขายของแต่ละคนที่ทำได้นั้นควรจะปิดเป็นความลับ แต่ก็ไม่ลับสำหรับคนที่อยู่ในระแวกใกล้เคียง โดยเฉพาะในกลุ่มโดยเฉพาะในฝ่ายตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์ของสถาบันและลูกค้ารายใหญ่แล้วด้วย มีกันอยู่แค่ห้าคน ความลับย่อมไม่มีในกลุ่ม

“ลูกค้าเจ้าประจำล่ะซิ”

“ครับ” คนถูกถามพยักหน้าตอบสั้นๆ

“แกอยู่ได้เพราะลูกค้าสองสามเจ้า” ชายร่างท้วมใส่แว่นกรอบดำบอก “อ้อ…แล้วก็จูดี้ เฉิน และนายหลุยส์อะไรนั่นด้วย”

เมื่อมีดาราดังมาเปิดบัญชีก็ไม่มีความลับเช่นกัน

‘สองคนนั่นเจาะจงให้ชานนท์ดูแลบัญชี’ คำบอกที่มีในอาทิตย์แรกของการเข้าทำงานของเขานั่นต่อด้วยคำถามทันที ‘รู้จักได้ไงวะ’

ทว่าคำตอบของคนถูกถามคงเป็นเพียง ‘ไม่ทราบครับ’



“ถือว่าโชคดีนะ ดูแลลูกค้าไม่กี่รายก็ทำยอดทะลุได้ทุกเดือน” อีกคนเสริมโดยพยายามเก็บความอิจฉาไว้ในใจ เพียงแต่ว่าคนที่ได้ยินเลือกที่จะไม่ใส่ใจ

คนในฝ่ายย่อมรู้ว่าการเข้ามาทำงานของเขาเมื่อเจ็ดเดือนที่แล้ว นั้นมาพร้อมกับรายชื่อลูกค้ารายใหญ่ที่มีที่ตั้งจริงในประเทศที่สามารถหลบหลีกภาษีได้ แถมคนที่โชคดียังมีดาราชื่อดังของเอเซียถึงสองคนเข้ามาเป็นลูกค้า

ชานนท์สบายกว่าคนอื่นเพราะดูแลลูกค้าไม่กี่ราย คนอื่นๆ มีลูกค้ามากกว่าสิบรายขึ้นไปซึ่งปริมาณการซื้อขายก็แตกต่างกันไป บางเดือนโชคดีรายได้ก็ดีบางเดือนไม่ดีรายได้ก็ลดตาม คนที่จะไม่กระทบก็มีแต่ที่เลือกรับเงินเดือนเป็นจำนวนที่กำหนดไม่เอาค่าคอมฯ

“เดือนนี้แกจะถึงสองร้อยล้านมั๊ยวะ” ชายหนุ่มร่างท้วมคนเดิมถาม

“มีเดือนไหนที่มันไม่ถึงบ้าง” อีกคนเสริมทันที “ต้องถามว่าจะเกินสี่ร้อยล้านอีกมั๊ย”

หากคนที่เป็นประเด็นสนทนากลับนิ่งเงียบ เขาเดินไปหยิบแผ่นรายงานแล้วกลับมานั่งที่เดิม มือใหญ่แลดูเรียวปิดหน้าจอรายงานการซื้อขายแล้วกดเรียกหน้าอินเตอร์เน็ตแทน

ดวงตาที่เสมือนจะมีประกายรอยยิ้มอยู่เป็นนิจ เหลือบมองนาฬิกา…มีเวลาอ่านข่าวและหาข้อมูลอีกชั่วโมงกว่าๆ

วันนี้กิตต์ได้รับบรรจุงานที่ใหม่…งานแรกของน้องหลังจากที่เพิ่งจบการศึกษาระดับปริญญาตรี

คนเป็นพี่ย่อมอยากจะพาน้องชายไปเลี้ยงอาหารอร่อยๆ สักมื้อ พร้อมกับของขวัญที่เขาซื้อให้กิตต์เพื่อเป็นกำลังใจ

ชานนท์ย่อมรู้ว่าน้องของเขาย่อมถาม ‘พี่เจิ้งเอาเงินมาจากไหน’

เพราะเขาจะบอกน้องเสมอเรื่องความสำคัญของการประหยัดและรู้จักใช้รู้จักเก็บออม

‘ฉันก็เจียดเงินอาหารกลางวันซื้อให้แก’ คำตอบในน้ำเสียงง่ายๆ ของเขามักเป็นเช่นนี้แม้จะรู้ว่าไม่จริง



ทว่าเสียงฮือฮาจากด้านนอกนั้นดังเข้ามาก่อนทำให้คนที่เตรียมตัวจะลุกขึ้นกลับต้องชะงักไปในทันที

“เฮ้ย…จูดี้ เฉิน…จูดี้มาว่ะ”

“จูดี้จริงๆ”

“ต๊าย…โคตรสวยเลย”

“โห หุ่นดีว่ะ”

“จูดี้!”

หลายเสียงของคนที่ยังอยู่ด้านนอกดังเข้ามาอย่างตื่นเต้น

ถือว่ายังโชคดีที่บุคลากรส่วนใหญ่ของบริษัทหลักทรัพย์นั้นกลับไปเกือบหมดแล้ว แต่จากความดังของเสียงนั้นพอจะบอกได้ว่ายังมีคนอยู่ด้านนอกอีกเยอะพอสมควร

ชานนท์นั่งพิงเก้าอี้ทำงาน ดวงหน้าขาวสะอาดเกลี้ยงเกลานั้นเฉยนิ่งดั่งแววตาที่เนประกายวาววับคล้ายคนที่พยายามสะกดอารมณ์และความรู้สึกทั้งปวงไว้ เขารู้สึกว่าการกระทำของจูดี้นั้นเริ่มเกินขอบเขตแล้ว

เพื่อนร่วมฝ่ายของเขากรูกันออกไปจากห้อง

“พี่จ่าง!” ชานนท์ตัดสินใจกดโทรศัพท์เรียกข้ามทวีปหาพี่ชายคนเดียวของเขา

“ไอ้บ้า…นี่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นทางฝั่งฉัน อีกหลายชั่วโมงกว่าจะขึ้น จะโทรฯ มาทำไม” ปพณกรอกเสียงใส่ “ถ้าแกเหงาก็โทรฯ ไปหาแม่โน่น แม่อยากคุยกับแก”

“พี่จ่างบอกนายด้วยนะว่าผมอาจจะทำงานให้เขาได้ไม่นาน”

“อะไรวะ!”

“ผมกลัวเรื่องจะวุ่น”

“แกโทรฯ บอกนายแกเองก็แล้วกัน” ผู้เป็นพี่บอกปัดพร้อมอาการหาวยาว

“เขาอยู่บ้านเดียวกับพี่ นี่ผมรู้ว่าเขาตื่นแล้ว ฝากพี่จ่างรายงานด้วย”

“แกเป็นอะไร้” เสียงนั้นแหลมดังไม่พยายามสะกดให้ค่อยอีกต่อไป

“จูดี้…ตอนนี้จูดี้อยู่ข้างนอกห้องเทรดของผม”

“หะ!” คราวนี้ปพณตกใจจริงๆ

และเหมือนว่าเขาจะหันไปคุยอะไรกับคนที่อยู่ข้างๆ

“คราวก่อนเมื่อตอนไปฮ่องกงก็มีรูปลงหนังสือ ยังดีที่ไม่ชัด เพราะขนาดยัยหนิงยังจำผมไม่ได้…ก็เลยไม่น่าห่วง” ชานนท์ถอนหายใจยาว “แต่นี่…”

เขาย่อมรู้ดีพอๆ กับปพณและ ‘นาย’ ว่าคนที่ตกเป็นข่าวกับจูดี้เฉินคงต้องโดนนักข่าวสืบประวัติเป็นแน่…งานที่กำลังทำ แม้ไม่ผิดกฏหมายแต่ก็เสี่ยงต่อการเพ่งเล็ง และชื่อเสียง

“แกแก้ไขสถาณการณ์ตรงหน้าไปก่อนนะ ฉันรู้ว่าแกทำได้”

“พี่จ่างคุยกับนายด้วย ด่วน! ถ้าทั้งชื่อและทั้งรูปของผมเผยออกไป…”

“ฉันรู้ ฉันรู้ จะจัดการให้เดี๋ยวนี้”

และพอวางสายจากผู้เป็นพี่แล้วชานนท์ก็ไม่รีรอที่จะกดเรียกอีกหมายเลข

“ที่รัก…” คนที่อยู่ปลายสายตอบเป็นภาษาอังกฤษ “ฉันอยู่ที่ออฟฟิศของคุณ เขาบอกว่าคุณยังไม่กลับ”

“ผมรู้ แต่ผมไม่อยากจะตกเป็นข่าว คุณกำลังทำให้ผมลำบากใจมากๆ”

“ก็คุณไม่รับสายฉัน” คำบอกมีเคล้าเง้างอนเอาแต่ใจ

“และถ้าคุณทำท่าสนิทสนมกับผมมากกว่าในฐานะที่ผมเป็นผู้ดูแลบัญชีของคุณ ผมก็จะไม่รับสายของคุณอีกเลยตลอดชีวิต” เสียงนั้นจริงจังบ่งบอกว่าเขาสามารถทำเช่นนั้นจริงๆ “ผมจะเดินออกไปเดี่ยวนี้เพื่อต้อนรับเท่านั้น มีอะไรค่อยไว้คุยกันทีหลัง”

ชานนท์วางสายทันที ลักษณะการสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หลายครั้งเหมือนคนที่กำลังจะจัดการกับความคิดและอารมณ์ของตัวเอง

เขาไม่ใช่ดาราเหมือนจูดี้ แต่คนธรรมดาเช่นเขาก็คงสามารถระงับความโกรธไว้ได้ในระดับหนึ่ง

เมื่อเป็นเช่นนั้นร่างสูงที่เดินออกไปด้านนอกจึงมีรอยยิ้มเพียงมุมปากเหมือนว่าเขากำลังพบลูกค้าคนสำคัญ

“สวัสดีครับคุณจูดี้” เขายื่นมือไปสัมผัสจับมือกับหญิงสาวตามมารยาท ท่วงท่าทุกอย่างเป็นทางการเว้นแต่สายตาจูดี้มองเขาอย่างลึกซึ้งเท่านั้น

“จริงๆ คุณไม่น่ามาเองเลย ผมจะนำรายงานไปให้คุณพรุ่งนี้” สำเนียงภาษาอังกฤษนั้นไม่มีผิดเพี้ยน

“ชานนท์…” เสียงเรียกชื่อเขาคล้ายพยายามให้ชัดที่สุด “ขอบคุณ แต่ฉันอยากแวะมาเยี่ยมบริษัทให้เห็นว่าที่ๆ ฉันฝากเงินไว้ พนักงานทุกคนน่ารักอย่างที่คุณบอกจริงๆ วันนี้ฉันมาโดยไม่มีอะไรติดมือ เพราะของมันเยอะแยะ เลยมาแต่ตัวก่อน พรุ่งนี้จะส่งของฝากมาให้เพื่อขอบคุณ”

คำบอก ‘ขอบคุณ’ นั้นเป็นภาษาไทย ทำให้บรรดาคนที่คลั่งดาราทั้งหลายต้องปรบมือกันเสียงดังลั่น

“เดี๋ยวผมขออนุญาตเดินลงไปส่งคุณข้างล่างนะครับ” ชานนท์ต้องขัดขึ้นเพื่อที่จะปิดฉากตรงนี้ให้ได้

“คุณเอารายงานที่ว่านั้นมาด้วยเลยนะ” ท่วงท่าของเธอนั้นสมเป็นดาราชื่อดัง “พรุ่งนี้ฉันไม่ว่างทั้งวัน วันนี้เดี๋ยวฉันมีนัด ระหว่างที่นั่งรถไปคุณก็ช่วยสรุปให้ฉันเลยก็แล้วกัน”

คนที่ถูกมัดมือชกได้แต่พยายามเก็บความรู้สึกทุกอย่างให้ดี

“เดี๋ยวฉันไปกับแกด้วยนะ” คนที่เป็นหัวหน้าฝ่ายเสนอตัวเองอย่างไม่ลังเล

“นายของผมจะไปด้วย” เขารายงานกับลูกค้าคนสำคัญ…พอที่จะคาดเดาปฎิกริยาได้

“ไม่!” จูดี้รีบปฏิเสธด้วยท่าทีดั่งดาราใหญ่เอาแต่ใจ “ฉันต้องการคุยกับคนที่ดูแลเงินของฉัน เพราะเขารู้ดีว่าฉันเป็นคนที่ชอบการลงทุนแบบไหน เอาคนอื่นเข้ามามันจะทำให้เสียเวลา แค่คนติดตามของฉันก็เยอะพอแล้ว อย่าเพิ่มให้ฉันรำคาญอีกคนเลย”

“งั้น…งั้น” คนที่เสนอตัวเริ่มเงอะงะ “ชานนท์รีบไปเอารายงานแล้วจะได้รีบไป เดี๋ยวคุณจูดี้เธอจะเสียเวลา”

“ครับ” ร่างสูงรับคำแล้วเดินหายเข้าในห้องเทรดของกลุ่ม

รายงานที่ไม่เคยมีตัวตนจึงถูกเนรมิตขึ้นทันทีจากการรวบรวมกระดาษสี่ห้าแผ่น

“ผมจะไม่ยกโทษให้คุณเลย…จูดี้” เสียงที่รอดมาจากไรฟันนั้นบ่งบอกถึงความรู้สึกของเขา “ถ้างานผมเสีย…ผมจะไม่ให้อภัยคุณอีกแล้ว”






(ต่อ)

จากคุณ : Sentimentally Smooth
เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 52 01:28:53




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com