Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
+ + + + + ดุจสวรรค์สรรค์สาน บทที่ ๘ + + + + +  

สวัสดีค่ะ ^__^

ได้ฤกษ์ทยอยนำนิยายมาลงให้อ่านกันแล้วค่ะ ต้องขอโทษเพื่อนๆ อีกครั้งที่หายไปนาน ชีวิตคนเรามันไม่แน่นอนเนาะ มีเรื่อง มีความเปลี่ยนแปลงเข้ามาให้เราต้องแก้ไข ต้องโน่นนี่นั่นอยู่ตลอด (จะบ่นทำไมเนี่ย 55555)

มาลุ้นกับชะตาชีวิตคนเจ้าชู้ต่อนะคะ ^__^

ลิงก์เก่า


http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8377761/W8377761.html




เช้าวันต่อมา พอณสรวงก้าวออกจากห้องนอนในชุดที่เตรียมพร้อมออกไปสัมภาษณ์งาน ประตูห้องก็เปิดออกพอดี แล้วอาของเธอในชุดเมื่อวานกับท่าทีอ่อนระโหยโรยแรงคล้ายคนทำงานหนักและไม่ได้นอนมาทั้งคืนก็เดินเข้ามา ตามหลังด้วยเด็กชายน้ำหวานที่มีท่าทีไม่ต่างกันนัก

“โอ๋ย เหนื่อยชะมัด” สันติครางก่อนจะทรุดกายแบบทิ้งทั้งตัวลงบนโซฟาตัวยาวที่สุด

“แทบจะยกขาไม่ไหวแล้ว...แต่อย่างน้อยก็พอจะหายตัวได้ซักเดือน” เด็กชายว่า พลางยึดเก้าอี้ตัวตรงข้ามและยกขาขึ้นพาดบนโต๊ะ สองมือก็เหยียดออกด้านข้างเต็มความยาว

“ฮื่อ...” หนุ่มใหญ่ทำเสียงในลำคอแล้วก็ทำท่าจะหลับกันไปตรงนั้นจริงๆ ถ้าหากว่าณสรวงจะไม่เรียกไว้ก่อน

“อาติคะ”

เท่านั้นเองสองหนุ่มก็สะดุ้งโหยง ลืมตาตื่นและหันมาทางเธอเป็นตาเดียว

“อ้อ น้ำทิพย์ว่าไง” สันติฝืนความเหนื่อยล้าพยุงกายลุกขึ้นเดินไปหา “จะออกไปสัมภาษณ์งานเหรอจ๊ะ”  

“ค่ะ” หญิงสาวตอบยิ้มๆ “เมื่อวานตอนที่อาติออกไปแล้ว เขาก็เรียกน้ำทิพย์มาพอดีน่ะค่ะ”

“โชคดีนะจ๊ะ หลานรัก คราวนี้เป็นงานอะไรเอ่ย”

“บริษัทออร์กาไนเซอร์น่ะค่ะ อา...อ้อ น้ำทิพย์เตรียมอาหารเช้าไว้ให้อาแล้วนะคะ แต่ไม่คิดว่า น้ำหวานจะมาด้วย เลยไม่ได้ทำเผื่อ” พลางเธอก็มองไปทางเด็กชายที่นอนตาปรือตาจะหลับมิหลับแหล่

“โอ๊ย ไม่ต้องห่วงจ้ะ ตอนนี้ถึงหิวก็กินอะไรไม่ลงหรอก อยากนอนพักกันมากกว่า”

“นี่ทำงานกันทั้งคืนเลยเหรอคะ” เธอยังคงมองที่เด็กชายด้วยความเป็นห่วง “ตอนแรก น้ำทิพย์นึกว่า อาออกไปทำงานกับคุณเสือซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้ำหวานเหรอคะ”

“เอ่อ จ้ะ กับเสือก็ทำจ้ะ แต่แยกย้ายกันไปแล้ว น้ำหวานมาพักกับอาที่นี่”

“เป็นห่วงผมเหรอ” ปีขาลไม่ยอมทิ้งลายเสือเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม โดยไม่สนใจดวงตาเบิกพองอย่างไม่ชอบใจของผู้จัดการส่วนตัวที่หันขวับมาจ้อง

“สงสารเด็กต่างหากล่ะ” เพราะอยากเริ่มต้นวันด้วยอารมณ์อันผ่องใสและไม่อยากให้มีเรื่องอะไรเข้ามากระทบให้จิตใจขุ่นมัวก่อนไปสัมภาษณ์งาน จึงทำให้ณสรวงอารมณ์ดีพอที่จะพูดดีๆ กับเด็กที่เคยก้าวร้าวใส่ตนและมองแววตากรุ้มกริ่มนั้นด้วยความรู้สึกขำได้มากขึ้น “ดูสิ ตัวแค่นี้ก็ต้องมาอดตาหลับขับตานอนซะแล้ว”

“โอ๊ะ น้ำทิพย์ใจดี น่ารัก” ไม่พูดเปล่า เด็กชายน้ำหวานลุกขึ้นและเดินมาหยุดใกล้เธอด้วย

“นั่นแน่ะ ไม่ต้องปากหวานเลย เมื่อวานด่าเค้าว่าน้ำเน่าอยู่เลย จำได้ไม่ลืมนะ” หล่อนชี้หน้าคาดโทษแบบไม่จริงจังนัก

“อะไรที่แย่ ก็ลืมๆ มันไปบ้างก็ได้นะ เลือกจำแต่สิ่งที่ดีๆ ดีกว่า”

ณสรวงหัวเราะคิกก่อนจะก้มหน้าลงมาใกล้ให้เขาได้เห็นเนื้อผิวเนียนใสอีกครั้ง  

“เจ้าคารมซะด้วย คารมดีแบบนี้ โตขึ้นสาวติดตรึมแน่ๆ เลย...เออ ในตู้เย็นมีนมกล่องใหญ่ หวานกินได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจเค้า”

คราวนี้รอยยิ้มของปีขาลถูกฉีกให้กว้างขึ้น พร้อมกับเอื้อมมือไปหามือเรียว

“ขอบใจ เอ๊ย ขอบคุณมากฮะ”

“แฮ่ม แฮ่ม” สันติส่งเสียงกระแอมลั่น ยังผลให้ปีขาลสะดุ้งน้อยๆ ก่อนจะรีบปล่อยมือ แต่ณสรวงผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร กลับหันมาบอกคนเป็นอาว่า

“ไม่เป็นไรค่ะ อา เด็กกำลังโต ยังไงก็ไม่ควรอดข้าวเช้านะคะ ถึงจะง่วงแค่ไหน ก็ควรให้มีอะไรตกถึงท้องบ้าง...น้ำทิพย์ไปล่ะคะ ไปนะจ๊ะ น้ำหวาน” ตอนท้ายเธอหันมาแตะแก้มเขาเบาๆ อย่างเอ็นดู แล้วจึงหมุนตัวเดินจากไป นาทีนั้น ปีขาลรู้สึกว่า ยายน้ำเน่าเหมือนนกตัวเล็กๆ แสนร่าเริงที่บินมาทักทายที่ข้างหน้าต่างในยามเช้า ส่งให้เช้าที่เหนื่อยล้าและน่าเบื่อหน่ายดูมีสีสันและมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันใด

“อะแฮ่ม อะแฮ่ม” คราวนี้สันติใส่เสียงดั้งเดิมแห่งเพศตนเข้าไปเต็มที่ ตายังจ้องที่ดาวร้ายหนุ่มตาไม่กะพริบ

“โธ่ พี่ติ๊ล่ะก็ คิดมาก ผมก็แค่อยากขอบใจที่เขามีน้ำใจกับผมก็เท่านั้นเอ๊ง” ปีขาลยังคงมีรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม

“แล้วทำไมต้องตาหวานเยิ้ม ต้องจับมือด้วยวะ” หนุ่มใหญ่ไม่ยอมแพ้ “อย่านะ แกสัญญากับฉันแล้วนะ เสือ ว่าจะไม่ยุ่งกับหลานสาวฉัน”  

“บางทีน้ำทิพย์อาจจะเป็นเนื้อคู่ผมก็ได้นะ พี่ติ๊ ทำความคุ้นเคยกับคู่แท้ของตนไว้ก็ไม่เสียหายนี่นา” เขาจงใจยั่วอีกฝ่ายมากกว่าจะนึกจริงตามอย่างที่พูด และครั้นเห็นวงค้อนปะหลับปะเหลือกกลับมา ชายหนุ่มก็หัวเราะขำ

“จะเป็นไปได้ยังไง้ ยายคนแบนๆ ดาดๆ เนี่ยนะเหรอ เนื้อคู่แก ไม่หรอกมั้ง” ได้ทีสันติก็ยกเอาคำพูดของชายหนุ่มขึ้นมาอ้าง ยังผลให้ปีขาลเพิ่มเสียงหัวเราะดังขึ้นอีกหน่อย

“แหม ความจำดีทั้งอาทั้งหลานเลยนะ” พูดพลางเขาก็ขยับตัว “ผมไปนอนดีกว่า เหนื่อย เมื่อยเพลีย เหมือนแขนขาจะแยกจากกันแล้ว อ๊ะ แต่ก่อนนอนก็ต้องกินนมก่อน” ชายหนุ่มหันมาทำท่ายั่วล้อให้อีก

“ไอ้เสือ!”

ปีขาลหัวเราะเบาๆ ยักไหล่น้อยๆ อย่างเห็นขัน

“รีบไปนอนเลยแก ไป จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน อ้อ แล้วก็อาบน้ำด้วยนะยะ ชุดนี้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เหม็นสาบแย่ ชุดนอนน่ะ เอาชุดนอนเก่าๆ ของฉันไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวตอนบ่ายค่อยออกไปซื้อเสื้อผ้าใหม่กัน”

“ชุดนอนของพี่? โอ๊ย ไม่เอาอ่ะ ให้ผมใส่พวกชุดนอนกระโปรงผ้าลื่นๆ แบบนั้น ผมยอมนอนแก้ผ้าดีกว่า” ปีขาลหันมาทำท่าขนลุกขนพอง จนสันติอดค้อนให้ไม่ได้

“ไอ้นี่นี่ จำไม่ได้เหรอวะ ฉันไม่ได้เป็นกะเทยมาตั้งแต่เด็กนะเว้ย”

“อ้อ จำได้แล้ว พออกหักจากผู้หญิงเลยพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เปลี่ยนสิ่งที่แอบเร้นมานานแล้วใช่มั้ย”

“ไอ้เสือ” หนุ่มใหญ่คำรามเสียงแมนอีกครั้ง และปีขาลก็หัวเราะอีกหนก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป ทิ้งให้สันติมองตามด้วยสายตาที่ยังเต็มไปด้วยความกังวลอย่างที่สุด...เพราะคิดไม่ออกเหมือนกันว่า เมื่อหมดเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่แจ้งกับนักข่าวว่า ปีขาลขอตัวพักผ่อนด้วยอาการเจ็บป่วยแล้ว หลังจากนั้นจะทำยังไงต่อไป จะหาข้ออ้างอื่นใดได้อีก

แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 52 15:24:04

จากคุณ : บราวนี่รสเสน่หา
เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 52 13:52:22




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com