Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรื่องสั้น - "โอเปร่าสบู่" โดย หมีบางกอก  

อยากจะกรี๊ดดดด....

ใน Sheet ที่อาจารย์แจกมาก็ไม่มี..เพิ่งรู้ว่าคำตอบอยู่ในสมุดเล็กเช่อร์ที่(ขโมย)ซีร็อกซ์มานั่นเอง

ดันไปวงหัวข้อ..”โอเปร่าที่ใช้ฟองสบู่ประกอบการแสดง” ...อยากตายค่ะ...ป่านนี้อาจารย์จับได้แล้วว่าอีชั้นไม่ได้เข้าห้องเรียน

เฮ้อ..ใครจะไปรู้ล่ะว่า Soap Opera ก็คือ ละครน้ำเน่ายอดนิยมที่ดูกันทั่วบ้านทั่วเมือง นั่นเอง....

นี่ไง เพิ่งเจอ...ความหมายนี้ได้มาจากละครวิทยุสมัยก่อนที่แม่บ้านชอบฟังกันตอนกลางวัน ซึ่งมักจะมีโฆษณาขายผงซักฟอก แชมพู สบู่ จากค่ายดังๆ อย่างพีแอนด์จี ลีเวอร์ บราเธอร์ หรือคอลเกต ปาล์มโอลีฟ เป็นผู้อุปภัมภ์หลัก จนมาถึงยุคทีวีเฟื่อง ละครดราม่าแนวจิกตบๆ นี้ก็ยังเป็นที่นิยมของบรรดาแม่บ้านอย่างเหนียวแน่น โซฟ อ๊อปปร้า หรือบางทีฝรั่งก็เรียกว่า Soap เฉยๆ นี้ ก็คือนิยามของละครน้ำเน่า(แบบไทยๆ) เราดีๆ นั่นเอง

เธอยัดซีร็อกซ์เล็กเช่อร์ลงกระเป๋าด้วยอาการพร้อมจะปรี๊ดแตก ปากยังไม่ทันส่งคำสบถตามมา ก็ต้องกระโดดโหยงเพราะเจ้าตัวเล็กวัยประมาณ 5-6 ขวบสองคนวิ่งไล่ตัดหน้าไปอย่างเฉียดฉิว วิ่งพลางส่งเสียงกรี๊ดๆ ไปพลาง

“อย่านะคาวี..นายทำกะชั้นอย่างนี้ไม่ได้นะ...”

เจ้าตัวอ้วนคว้าตัวได้ขึ้นคร่อมแม่หนูตัวน้อย
“จะหนีไปพ้น ยัยนาริน ..นังตัวดี...มาให้ชั้นข่มขืนซะดีๆ”

เธอยืนตะลึงพรึงเพริดกับบทบาทนอกจอของพ่อหนูแม่หนูเยาวชนตัวน้อยของชาติ

แม่หนูน้อยทำท่าดิ้นรนขัดขืนได้แนบเนียนชนิดต้องแจกรางวัลเมขลารุ่นเยาว์
“คาวี นายก็ได้แต่ตัวชั้นไปแหละ อย่าหวังเลยว่าจะได้ใจชั้น...”

ยังไม่ทันจะได้ดูเลิฟซีนตอนสำคัญ อาม้ากะอาซิ้มต่างพากันวิ่งออกมาลากตัวดาราคู่ขวัญทั้งคู่ถูลู่ถูกังไปซะก่อน เสียงโล้งเล้งตามมาด้วยเสียงร้องไห้กระจองอแง...
“ไม่เอา..หนูไม่กิน..หนูจะเล่นสวรรค์เบี่ยงต่อ...”

เธอรีบควักกุญแจมือไม้สั่น อุ๊ย..อีโอเปร่าสบู่นี่ยังตามมาหลอกหลอนชั้นไม่เลิกหรือเนี่ย เธอแง้มประตูเหล็กพับหน้าตึกแถว รีบแทรกตัวเข้าไปในบ้าน ถอดรองเท้าออก..ถอนหายใจโล่งอก...

สะดุ้งสุดตัวอีกครั้งกับเสียงแปร๋น...
“นี่หล่อน..อย่านึกว่าเป็นคนโปรดของคุณน้าหญิงแล้วจะกลับบ้านกี่โมงก็ได้นะยะ”
สาวใหญ่เบื้องหน้าในชุดลำลองอยู่กับบ้านกำลังยืนท้าวสะเอวหน้าบอกบุญไม่รับ

ตายแล้ว นี่ชั้นทำกรรมไว้แต่ปางใด...
“อะไรกันคะ คุณพี่.. นี่มันเพิ่งทุ่มนึงเองนะคะ”
ชั้นไม่ใช่อีเย็นนะยะ...

เสียงแปร๋นยังคงตามมาต่อเนื่อง ด้วยเดซิเบลชนิดที่ต้องสวม Ear Plug
“ชั้นหมายถึงเมื่อคืน..ไม่ต้องมาไขสือ...ชั้นตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนตีสามนะยะ.. อย่านึกว่าไม่รู้”

เธอขมวดคิ้ว
“คุณพี่ขา..คนที่มากดออดให้หนูไปเปิดประตูตอนตีสามน่ะ สามีคุณพี่เองนะคะ”
คราวนี้ตาโตเกือบเท่าไข่ห่าน
“หา..อะไรกัน.. แอบนัดมาทำอะไรกันตอนตีสามเรอะ นังตัวดี”

ยังไม่ทันจะอ้าปากเถียง เสียงห้าวๆ ก็ดังมาจากด้านหลัง
“นี่คุณ..อย่าเที่ยวไปกล่าวหาคนอื่นเขาส่งเดช”

แม่สาวใหญ่ในบทนางร้ายหันขวับไป
“อ้อ นี่มาช่วยกันแก้ต่างให้อีก..หมายความว่าไงกันยะ..”

หนุ่มใหญ่ไว้หนวดหน้าตาโอเคส่ายศีรษะอย่างระอา
“น้องเขามาช่วยเปิดประตูให้ ยังไปว่าเขาอีก”
“เอ๊ะ แล้วคุณไปทำอะไรมาถึงกลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ”

หนุ่มใหญ่เกาหัว
“คุณจะรู้ไปทำไม...”
“ทำไมชั้นจะรู้ไม่ได้..บอกมานะ..บอกมาเดี๋ยวนี้”
ตรงเข้าไปยื้อยุดฉุดกระชาก ฝ่ายชายปัดป้องวุ่นวายไปหมด เธอยืนอ้าปากค้างดูละครนอกจอ

หนุ่มใหญ่ผลักนางร้ายลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้า..
“อยากรู้นักเรอะ บอกให้ก็ได้...เพราะผมเบื่อคุณนะซีโว้ยย...”
คำตอบนี้..เชื่อได้ว่าต้องตามมาด้วยเสียง...กรี๊ดดดดดดด

เธอรีบยกมืออุดหู วิ่งจู๊ดขึ้นบันได ทิ้งเสียงโวยวายพร้อมซาวนด์เอ็ฟเฟ็คตุ้บตั้บตามมา

ปิดประตูห้อง ยืนพิงหอบแฮ่กๆ ...อะไรกันนี่ หรือชีวิตจริงมันยิ่งกว่าละครอย่างที่เขาว่า...เธอเดินมาทรุดนั่งลงบนเตียงอย่างหมดแรง ตาชำเลืองไปที่นาฬิกาคิตตี้ตรงหัวเตียง อุ๊ย..เกือบจะได้เวลาแล้วนี่

ออกจากห้องน้ำในชุดผ้าขนหนู หยดน้ำเกาะพราว...เห็นเงาสะท้อนตัวเองในกระจก..ฮึ..หุ่นเราก็ไม่เบาเหมือนกันนี่หว่า เธอยกแขนโพสต์ท่าเหมือนนางแบบนิตยสาร FHM หรี่ตาทำหน้าเซ็กซ์ตามสูตร ..อั้มก็อั้มเหอะ....ว้ายย...ผ้าขนหนูลงไปกองกับพื้นเมื่อไรง่ะ...

เหลือบตาไปที่นาฬิกาแขวนเหนือประตู ตายละ ใกล้เวลาแล้ว...วิ่งไปที่ราวแขวนเสื้อ...ค้นๆๆ ..นั่นชุดเจ้าทางเหนือ เอ..ไม่น่าใช่ อุ๊ย นี่ชุดทาร์ซาน..ธิดาวานร เลยเวลาไปแล้วนี่...นี่ๆๆ เจอแล้ว...

เธอหยิบชุดคล้ายๆ นางระบำแขกออกมา ผ้าชีฟองสีฟ้าสลับชมพูฟูฟ่อง...เอามาทาบกับตัว ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับตัวเองในกระจก ...

“ว้าย..”
เธออุทานเมื่อได้ยินเสียงจากโทรทัศน์ที่เปิดค้างไว้เริ่มดนตรีเพลงที่ฟังคล้ายๆ สไตล์อาหรับ
ไตเติลปรากฏขึ้นมาบนจอ.. “ฟ้าจรดทราย”....

“ต๊ายย..ไม่ทันแล้ว...หน้าก็ยังไม่ได้แต่ง...อ๊ายยส.. ชารีฟขา รอมิเชลล์ก่อน”

เชื่อแล้วละ..ว่าชีวิตจริง..ยิ่งกว่าละคร...

..............................................................................

(ติดตามเรื่องสั้นอื่นๆ และนวนิยาย "มันตรา"ได้ที่บล็อกครับ)

http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=thaibear&date=22-11-2009&group=15&gblog=28

แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 52 22:10:31

แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 12:39:34

จากคุณ : Bkkbear
เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 52 16:39:20




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com