๐๐ ............... พ่อของผม ............... ๐๐
|
|
. ... พ่อของผม ...
. ... ดาเรน ...
พรุ่งนี้มีกิจกรรมวันพ่อที่โรงเรียนอย่างเคยเช่นทุกปี ส่วนมากจะจัดก่อนหน้าวันที่ 5 ธันวาคม หนึ่งวัน บางทีก็สองวัน ถึงจะจัดวันไหนพ่อผมก็ไปร่วมกิจกรรมไม่เคยขาด
ดูเหมือนพ่อผมสมควรได้รับตำแหน่งพ่อดีเด่นประจำครอบครัว แต่ไม่เป็นเช่นนั้น...
ตั้งแต่ผมจำความได้ผมไม่เคยเห็นหน้าพ่อ ไม่เคยอยู่ร่วมกับพ่อหรือคลุกคลีกันอย่างพ่อลูกอื่นๆ เลย ปีหนึ่งพ่อจะมาหาผมหนึ่งครั้งในวันพ่อ ที่เหลืออีกสามร้อยหกสิบสี่หรือสามร้อยหกสิบห้าวันผมอยู่กับแม่ตามลำพัง
แม่ผมเข้มแข็งอดทนทำงานเลี้ยงชีวิตเราสองคนแม่ลูกอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ให้ชีวิตความเป็นอยู่และการศึกษาแก่ผมไม่น้อยหน้าเด็กคนอื่นที่มีพ่อแม่อยู่พร้อมหน้า แม่เป็นคนเก่งคนหนึ่งผมภูมิใจในตัวแม่มาก
ปีนี้ผมอายุ 12 ปี อยู่ชั้นม. 1 ไม่ใช่เด็กประถมอย่างเคย รู้สึกเป็นผู้ใหญ่ขึ้น...มีบางสิ่งเกี่ยวกับพ่อที่ผมเริ่มข้องใจ
พ่อใส่เสื้อผ้าชุดเดิมทุกครั้งที่มาหา มันเป็นสูทเก่าๆ ยับยู่ยี่สีดำพร้อมกลิ่นสาบ คงจะประหยัดหรือมีอยู่เพียงชุดเดียวซึ่งไม่น่าจะใช่ ที่สำคัญพ่อใส่หมวกทรงหรุบหรู่แทบจะบังใบหน้ามิด..แรกๆ ผมคิดว่าพ่อผมเท่ แต่เดี๋ยวนี้ผมกลับรู้สึกว่าการใส่หมวกดูไม่เรียบร้อยสำหรับพิธีการอันเกี่ยวเนื่องกับพระเจ้าอยู่หัว
สองสามวันก่อนผมเปรยกับแม่เรื่องการแต่งตัวของพ่อ แม่ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะแม่ไม่ได้พบพ่อเลยตั้งแต่ผมอายุขวบกว่าๆ แม่บอกให้ผมพูดกับพ่อตรงๆ ในวันพรุ่งนี้...ผมคงไม่ทำอย่างแม่ว่า จริงๆ แล้วผมโชคดีกว่าเพื่อนบางคนที่พ่อไม่มาร่วมงานวันพ่อเหมือนผม
โชคดีอีกอย่าง..วันแม่ผมก็ไม่เคยขาดแม่ไปร่วมงานที่โรงเรียนเช่นกัน แม่ผมเป็นคนสวยคนหนึ่ง ผมดำยาวสลวย แม่ชอบแต่งตัวสวยงามแต่งหน้าทาปากเป็นประจำ ไม่เคยมีวันไหนที่แม่ไม่สวยถึงแม้จะรูปร่างใหญ่สักหน่อยก็ตาม
สรุปแล้วนับว่าผมเป็นเด็กโชคดีที่พ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูก ไม่ทำให้ลูกมีปมด้อย ส่วนเรื่องระหว่างทั้งสองคนเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เด็กๆ ลูกๆ ไม่สมควรเข้าไปเกี่ยวข้องให้ลำบากใจ
ถึงจะอายุ 12 ปี แต่ผมก็เข้าใจ และเป็นเด็กดีของพ่อแม่
เรื่องของพ่อยังไม่จบครับ...
วันที่ 4 ธันวาคม...ผมตื่นเช้ากว่าทุกวันเพราะตื่นเต้นที่จะได้พบพ่อแต่ยังสายกว่าแม่ที่ออกจากบ้านแต่มืด แม่เขียนบอกว่ามีงานเร่งต้องรีบไป แม่ไม่ลืมเตรียมเสื้อผ้าและอาหารเช้าให้ผมเช่นทุกวัน อีกอย่างเพราะผมโตพอจะไปโรงเรียนเองได้และไม่ลืมปิดห้องให้เรียบร้อยก่อนจะออกไป
ผมมาถึงโรงเรียนช้ากว่าเคย มัวแต่พะวงว่าจะบอกกับพ่อดีไหมเรื่องที่พ่อไม่ถอดหมวกเวลาร่วมพิธี
เช้านี้มีแต่สีเหลืองสดใส ทั้งทิวธงที่ประดับและดอกไม้ที่นักเรียนถือมา ของผมก็มีดอกพุทธรักษาสีเหลืองสด..ไม่รู้แม่ไปเก็บมาจากไหน
โรงเรียนแคบไปถนัดเพราะมีคนเพิ่มอีกเกือบเท่าตัว ผู้ปกครองขวักไขว่สีหน้ายิ้มแย้ม บรรยากาศทั่วไปอวลด้วยความอบอุ่น...แล้วพ่อก็โผล่มา ผมแปลกใจมากเกือบจำพ่อไม่ได้ถ้าไม่ใช่เพราะสูทสีดำกลิ่นอับตัวนั้น
พ่อไม่ได้ใส่หมวก และไม่ได้หัวล้านอย่างที่ผมสงสัย ผมพ่อดกดำสั้นเหมือนเพิ่งตัดมาใหม่ๆ เสียแต่ว่าไม่ใช่ทรงผมอย่างที่เคยเห็นตามร้านตัดผมชาย..เหมือนผมซอยทรงวัยรุ่นมากกว่า พ่อดูเรียบร้อยกว่าทุกปี ผมแอบชำเลืองดูบ่อยๆ ด้วยความภูมิใจ ความจริงผมมีใบหน้าเหมือนพ่อทั้งที่เคยคิดว่าเหมือนแม่ เราสามคนหน้าคล้ายกัน..ก็พ่อแม่ลูกนี่นะ
ตั้งแต่ไหนแต่ไรพ่อไม่ค่อยมองหน้าและสบตา ผมชินเสียแล้ว แต่วันนี้ดูพ่อจงใจเป็นพิเศษที่จะทำอย่างนั้น ช่างเถอะ อย่างที่บอกผมชินเสียแล้ว..เดี๋ยวพอร้องเพลงสดุดีมหาราชาเสร็จพ่อก็จะจากไปเหมือนเช่นทุกปี ส่วนผมและนักเรียนคนอื่นเรียนต่อตามปกติจนเย็น กลับบ้าน และรออีกปีที่จะได้พบพ่อ
เลิกเรียนผมรีบกลับบ้าน นึกเร่งให้แม่เลิกงานไวๆ จะได้เล่าเรื่องการเปลี่ยนแปลงของพ่อ..บางทีแม่อาจอยากฟัง..เอ..หรือแม่จะรู้แล้วเพราะเป็นคนไปบอกพ่อให้ตัดผม..เมื่อเช้า..ที่ออกจากบ้านแต่เช้ามืดนั่นไง
แม่กลับบ้านช้ากว่าปกติเล่นเอาผมหงุดหงิดกับหลายหัวข้อที่ผมอยากจะคุยด้วย แต่แล้วผมกลับลืมเรื่องที่จะคุยเสียสนิทเมื่อเห็นแม่..แม่สวยกว่าทุกวันด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ผมไม่เคยเห็น ใส่น้ำหอม แต่งหน้าเข้มเหมือนแม่จะไปงาน..หรือแม่ไปพบพ่ออีกหลังเลิกงาน
แม่บอกว่าไม่ได้เป็นสักอย่างที่ผมคิด อาจจะแต่งหน้าเข้มไปหน่อยเพราะเมื่อเช้ายังมืดมากและรีบไปทำงาน เมื่อแม่ถอดหมวกใบสวยซึ่งไม่เคยใส่ผมจึงเห็นผมตัดสั้นของแม่..ผมยาวดำสลวยที่ผมเคยชอบหายไป..ที่แท้แม่ขายผมสวยนั้นเพื่อซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่
ค่ำมากแล้ว ผมนอนไม่หลับอยากจะคุยกับแม่เรื่องพ่อ ว่าจะไม่พูดแต่อดไม่ได้จึงเข้าไปที่ส่วนนอนของแม่ อีกด้านหนึ่งของห้อง..แม่ตกใจเมื่อผมปลุก มองผมเหมือนกลัวอะไรสักอย่าง ผมเองก็แปลกใจกับสภาพงัวเงียของแม่ หน้าตาอิดโรยไม่มีเครื่องสำอางผมสั้นกระเซิง..ผมเคยเห็นแม่แบบนี้มาก่อนนี่นา..ที่ไหนนะ?
แม่รีบคว้ากระเป๋าผลุนผันเข้าห้องน้ำ ครู่ใหญ่ๆ จึงกลับออกมา..คุณแม่คนสวยของผมคนเดิม
ผมบอกตั้งแต่แรกแล้วว่า ถึงแม้จะอายุ 12 ปี แต่ผมก็ฉลาดเกินอายุ เป็นเด็กช่างคิดช่างสังเกตและเข้าใจชีวิตได้พอประมาณโดยเฉพาะชีวิตของครอบครัวที่แตกแยก เพราะผมอยู่กับชีวิตอย่างนี้ตลอดมา
แม่ถามว่าผมอยากจะคุยอะไรเกี่ยวกับพ่อ ผมกลับไม่อยากพูดขึ้นมาเฉยๆ ไม่ใช่ไม่กล้า เกรงใจ หรือกลัวแม่สะเทือนใจ
ผมสร้างความประหลาดใจด้วยการเข้าสวมกอดหอมแก้มและบอกแม่ว่าผมไม่ต้องการพบพ่ออีกแล้วไม่ว่าปีหน้าหรือปีไหนๆ ผมโตพอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ผมรู้จักและเข้าใจพ่อดี แค่ความรักความอบอุ่นจากแม่เพียงคนเดียวก็มากพอสำหรับผม เพราะแม่รักผมมากและผมก็รักแม่มากเช่นกัน
ผมไม่ได้ฉลาดเฉลียวหรือแก่แดดรู้ชีวิตมากมายอะไรขนาดนั้น แต่มันมีสาเหตุ..ที่แม่ตกใจรีบคว้ากระเป๋าเข้าห้องน้ำ..มีบางอย่างร่วงออกมา..มันคือบัตรประชาชนของแม่
แล้วไง?
รูปที่บัตรเป็นรูปแม่กับผมทรงสั้นไม่ได้แต่งหน้าอย่างเมื่อกี้..ที่สำคัญคำหน้านามคือ..นาย...
.
แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 52 11:36:39
จากคุณ |
:
ดาเรน
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ธ.ค. 52 11:35:29
|
|
|
|