หนทางแห่งอิสรภาพ .........หมาว้าเหว่
|
|
หมู่บ้านที่ผมอยู่เป็นหมู่บ้านชานเมืองที่เพิ่งสร้างใหม่ ผู้คนที่อาศัยในซอยส่วนมากชอบเลี้ยงหมา นัยว่าหมามีประโยชน์ช่วยเฝ้าบ้านได้ ผมก็เป็นหนึ่งในหมาพวกนั้น โลกของผมมีพื้นที่เพียงแค่สามคูณหกเมตรเท่านั้น ความจริงแล้วต้องแบ่งอีกครึ่งนึงเพราะเจ้านายผมแบ่งครึ่งหนึ่งไว้เป็นที่ปลูกต้นไม้เล็กๆและเอาไม้ไผ่กั้นไว้เพื่อไม่ให้ผมเข้าไปคุ้ยต้นไม้
ผมอยากรู้ว่าโลกภายนอกรั้วแคบๆนี้มีอะไรบ้าง แต่ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ผมจะมีโอกาสได้รู้และเห็น ทุกครั้งผมได้แต่แอบอิจฉาหมาตัวอื่นที่มีเจ้าของพาเดินผ่านหน้ารั้วบ้าน พวกมันช่างมีอิสระเสรีแม้อิสระเสรีที่ว่าจะถูกโยงด้วยสายจูงซึ่งเจ้าของจับปลายไว้อีกด้านนึง แต่ก็ยังดีกว่าผมซึ่งไม่เคยย่างเท้าแม้เพียงก้าวเดียวออกนอกรั้วบ้าน
ที่นอนของผมก็คือใต้เก้าอี้เก่าๆที่นายเอามาจากบ้านหลังเดิม มันเป็นที่คุ้มแดดคุ้มฝนให้ผม วันไหนแดดร้อนผมก็จะมุดหัวไปหลบแดดใต้เก้าอี้เพื่อให้เงาของเก้าอี้กันความร้อนบนส่วนหัวของผม หากวันไหนฝนตกผมต้องกระโดดไปนั่งบนเก้าอี้ไม่ให้ตัวแฉะชื้นไปด้วยฝน แต่ยังไงฝนก็สาดโดนผมอยู่ดีเพราะชายคาที่ผมอยู่มันไม่ได้ยื่นออกมามากพอจนกันฝนได้
ผมต้องทนทุกข์อยู่กับความร้อนของแดดและความหนาวเย็นของสายฝน หากสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเศร้าใจเท่ากับความรักจากนายและอิสระภาพเล็กๆน้อยๆที่ผมโหยหา
ว้าเหว่ มานี่มา
เสียงของคนแปลกหน้าที่ผมคุ้นเคยดังขึ้น ผมรีบเดินไปริมรั้วมือนุ่มๆของเธอยื่นมาลูบหัวลูบตัวผม ผมพยามเอาตัวไปชิดรั้วให้มากที่สุด ผมอยากให้เธอโอบกอดผม
เหงาเหรอว้าเหว่ วันนี้ร้อนเนอะพี่เอาไอติมมาฝาก
เธอยื่นไอติมให้ผมกิน มันเย็นมากและอร่อยดีด้วยผมรีบกินเพื่อคลายร้อน
เมื่อไหร่เจ้าของเราเค้าจะทำหลังคาให้เรานะเนี่ย สงสารจังร้อนแย่เลยเนอะ
ผมเงยหน้ามองเธออีกรอบนึง เอาหัวถูมือเธออยากให้เธอลูบหัวผมนานๆ
ตัวเองว่าเราไปฟ้องปวีณาดีมั้ย
บ้าเหรอ ปวีณาเค้าช่วยเฉพาะผู้หญิงกับเด็ก"
ก็สงสารว้าเหว่น่ะ เจ้าของเค้าจะรู้มั้ยว่าหมาตัวเองน่ะร้อนจะแย่อยู่แล้ว ไม่รู้ว่าเคยเห็นเวลาว้าเหว่เอาหัวไปมุดเก้าอี้หลบแดดรึเปล่า น่าสงสารจะตายหลบได้แค่หัว แต่ตัวยังร้อนอยู่ดี
วันก่อนน่าสงสารกว่านี้อีก เค้าขับรถผ่านฝนตกหนักมาก ว้าเหว่ขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้เพราะน้ำท่วมถึงด้านในเลย ตัวสั่นหงึก หงึก หงึกเลย ถ้าแก้วเห็นนะต้องร้องไห้แน่
แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ สงสารว้าเหว่น่ะ
ไม่รู้สิ
เธอมองหน้าผมลูบหัวผมซักพักแล้วเดินจากไป ผมจำเสียงฝีเท้าของเธอได้ดี ทุกครั้งที่เธอเดินผ่านผมจะรีบมายืนรอหน้ารั้วหวังเพียงแค่มืออุ่นๆของเธอลูบลงบนหัวของผม
ผมอยากให้เจ้านายลูบหัวและคุยกับผมเหมือนเธอคนนี้บ้าง ผมเหงาและโดดเดี่ยวมาก ผมคิดว่าเจ้านายผมคงจะยุ่งมากเพราะออกไปทำงานแต่เช้าทุกวันกว่าจะกลับเข้ามาก็ค่ำมืด เจ้านายคงเหนื่อยจนกระทั่งลืมทักผม หรือบางทีอาจลืมไปเลยก็ได้ว่ายังมีผมอยู่บ้านนี้อีกตัวหนึ่ง บางทีวันที่นายหยุดผมอดคาดหวังเล็กๆไม่ได้ว่านายอาจมีเวลาให้ผมซักหน่อยพาผมออกไปเดินเล่น หรือมาเล่นกับผมหน้าบ้านก็ยังดี แต่สำหรับเจ้านายผมคงเป็นแค่หมาตัวนึงไม่ได้มีความสำคัญอะไรไปมากกว่าหมาเฝ้าบ้าน เจ้านายไม่เคยเล่นกับผม ไม่เคยพาผมออกไปเดินนอกบ้านเลย
ว้าเหว่มานี่มา
เธอคนเดิมเดินมาหาผม ผมรีบออกไปหาเธอที่หน้ารั้วบ้าน ผมดีใจกับการถูกสัมผัสด้วยมือของเธอ
เป็นไงเราเหงาล่ะสิ อยากพาว้าเหว่ออกไปเดินเล่นจัง
เจ้าของเค้าก็ว่าเอาน่ะสิไปยุ่งกะหมาเค้า
ก็ดูเจ้าของซิ สนใจหมาตัวเองซะที่ไหนปล่อยให้หมาตัวเองหงอยซะอย่างนี้ ดูก็รู้ว่าขาดความรักจะตายไป ไม่มีคนคอยเล่นด้วยหมาก็มีหัวใจเหมือนกันนะ
อย่าเสียงดังเดี๋ยวใครได้ยินไปบอกเจ้าของเดี๋ยวเราจะซวย
ก็มันจริงนี่ เลี้ยงหมาแต่ไม่ได้สนใจแค่ให้อาหารทางกาย แต่อาหารใจไม่เคยให้หมาเลย ว้าเหว่มันก็มีหัวใจเหมือนกันนะ
เอาเถอะหมาเค้า แก้วจะทำอะไรได้ล่ะ
เราเขียนจดหมายบอกเจ้าของหมาดีมั้ยว่าให้เค้ารักว้าเหว่มากกว่านี้หน่อย
อย่าเลยถ้าเค้าไม่เข้าใจเดี๋ยวจะมีปัญหาทีหลังนะ
งั้นเราก็เขียนจดหมายไม่ลงชื่อสิ
แหมคนเค้ารู้กันทั้งบางว่าแก้วน่ะชอบมาเล่นหมาบ้านนี้เค้าก็ตามตัวไม่ยากหรอก
โอ๊ย ขัดใจจริงช่วยอะไรว้าเหว่ไม่ได้เลย ว้าเหว่พี่ไปก่อนนะ อย่าเหงานะ
ผมชะเง้อมองจนเธอเดินลับสายตาไปในใจผมติดตามเธอไปด้วย
ช่วงนี้ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ผมนอนตัวเปียกทุกวันตัวผมหนาวสั่นเพราะหยาดฝนที่ตกลงมาผมว่าอากาศร้อนยังดีกว่าฝนตกเพราะอย่างน้อยผมยังพอนอนเอาหัวซุกใต้เก้าอี้ได้ อีกอย่างฝนตกเธอก็มาหาผมไม่ได้ ผมคิดถึงเธอมาก
คืนนั้นฝนตกหนักมากผมจำต้องนอกตากฝนจนตัวเปียกอยู่อย่างนั้นทั้งคืนจนรุ่งเช้า ผมได้ยินเสียงนายผมปิดประตูรั้วและออกไปทำงาน ผมรู้สึกเมื่อยไปทั้งตัว พยามลุกขึ้นแต่ลุกไม่ไหว ผมจึงนอนต่อไป นานแค่ไหนไม่รู้แต่แดดส่องเข้ามาโดนตัวผม ผมค่อยๆเอาหัวหลบไปใต้เก้าอี้ ผมรู้สึกเหนื่อยล้ากว่าปกติ วันนี้แดดออกผมรอคอยให้เธอมาหาผม ผมรอจนค่ำแต่เธอก็ไม่ได้มาสงสัยเธอคงยุ่ง เจ้านายผมก็ไม่ได้กลับมา ผมค่อยๆหลับตาลงอีกครั้งด้วยความเหนื่อยอ่อน ลมหายใจร้อนๆของผมเป่าออกมาทางจมูกที่แห้ง ผมรู้สึกทรมานมาก ผมพยามลืมตามองออกไปนอกรั้วหวังจะได้เห็นเธอเดินเข้ามาทักผม ผมเฝ้ามองอยู่อย่างนั้น จนกระทั่ง
รุ่งเช้าผมตื่นขึ้นมาเห็นประตูรั้วเปิดอยู่ผมสงสัยว่าเจ้านายกลับมาตอนไหนทำไมผมไม่ได้ยินเสียง รถเจ้านายก็ไม่มีแต่ผมไม่ได้สนใจอะไรมากนักช่วงจังหวะนั้นผมสนใจประตูแห่งอิสระภาพที่อยู่ตรงหน้าผมมากกว่า ผมรีบเดินออกไปหน้ารั้วบ้าน ก้าวเท้าแรกออกนอกรั้วด้วยความกล้าๆกลัวๆจากนั้นก็ออกก้าวที่สอง ที่สามจนกระทั่งผมยืนอยู่บนถนนหน้าบ้านของผม ผมดีใจกับอิสระภาพที่ผมได้รับ ผมมองรอบตัวด้วยความตื่นตาตื่นใจและออกเดินไปเรื่อยๆ อิสระภาพมันเป็นอย่างนี้นี่เอง ผมเดินไปโดยไม่คิดจะย้อนกลับไปบ้านหลังเดิมอีกแล้ว ถนนข้างหน้าทอดยาวไม่รู้จบ ผมพบอิสระภาพแล้ว
ว้าเหว่หายไปไหนน่ะตัวเอง
อยู่ในบ้านมั้ง วันนี้เจ้าของเค้าอยู่บ้านนี่
เป็นไปได้ไงเจ้าของเอาว้าเหว่เข้าบ้าน ปกติว้าเหว่อยู่นอกบ้านตลอดเลยนะ ลองถามดูมั้ยว่าว้าเหว่อยู่ไหน
จะดีเหรอเดี๋ยวเค้าหาว่าเรายุ่งเรื่องเค้านะ
ไม่เป็นไรหรอกก็แค่ถาม
ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง
มีผู้ชายโผล่ออกมาตรงประตูด้านใน
สวัสดีค่ะ คือพอดีจะมาเล่นกะหมาคุณน่ะค่ะ แต่ไม่เห็นไม่ทราบว่าไปอยู่ไหนแล้วคะ
อ๋อไอ้โกโก้เหรอครับ มันตายไปแล้วล่ะ
หาว้าเหว่ตายแล้ว เป็นอะไรตายคะ
หมอว่ามันเป็นปอดบวมตาย นี่ว่าจะหาตัวใหม่มาเฝ้าบ้านแทนมันอยู่เนี่ย อ้าวคุณไปไหนล่ะ อะไรมาถามแค่นี้เองเหรอ
ไอ้คนใจร้าย ไอ้คนใจดำ หมาตายมันยังไม่รู้สึกอะไรอีก มีหน้ามาบอกว่าจะเอาตัวใหม่มาเลี้ยงมันกะจะฆ่าหมาเพิ่มอีกตัวรึไง
เออ แย่มากเลยเลี้ยงหมาทิ้งๆขว้างๆ หมาตายยังไม่สำนึกอีก
สงสารว้าเหว่จัง ไม่น่ามาเจอเจ้าของเฮงซวยอย่างนี้เลย
"แต่แก้วลองคิดในแง่ดีว้าเหว่คงหมดกรรมไปแล้วล่ะ"
"ใช่ก็หวังว่าอย่างนั้น แต่แก้วไม่เข้าใจทำไมคนเราถึงใจร้ายได้ขนาดนี้ หมาก็มีชีวิต มีหัวใจเหมือนเรานะ ทำไม"
นั่นสิ ทำไม..........
ปล เข้ามาแก้คำผิดค้าบ แง๊วววว
แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 52 14:44:05
จากคุณ |
:
ข้าวโพดแมวติสต์แตก
|
เขียนเมื่อ |
:
7 ธ.ค. 52 12:13:58
|
|
|
|