ความคิดเห็นที่ 2 |
ลองไปแถวสยามดูครับ.... . . . ๐ สบแล้วก็เมินหลบ..แล้วสบอีก จะเลื่อนหลีกเลี่ยงไปก็ใจหาย จะพ้นผ่านไปเสีย...ก็เสียดาย- กับชม้ายชายตอบ..คอยลอบมอง
๐ งามรูปหน้า..ผมสลวย-แววขวยเขิน- คล้ายรอเพ่งพิศเพลิน..จนเกินป้อง เนียนแก้มหน้า..ตาระยับแววจับจอง- เมื่อผ่านพ้อง..ครั้นจะพราก-ย่อมยากนัก
๐ ดูเถิด-รูปเอวองค์ที่ตรงหน้า คล้ายรอให้สายตาลองฝ่า-หัก เจ้าเอยชม้ายสู่...เหมือนรู้ชัก- ชวนมาตักตวงงาม..ผูกล่ามใจ
๐ และทุกครั้งเมื่อยิ้ม..แก้มอิ่มนั่น- ก็บีบคั้นเอ็นดู..จนรู้ได้- ด้วยจุมพิตหอมหวานส่งผ่านไป ฝากลำลมอ่อนไหวโลมไล้แทน
๐ แก้มอิ่มนวลเนื้อสาว..ก็ราวว่า- สัมผัสค่าอ่อนหวานที่ผ่านแล่น จากหัวใจ..แววตา..ล่องฝ่าแดน- เข้าหอม..แหนเนียนเนื้อ-แก้มเรื่อนั้น
๐ กาแฟหอมกรุ่นกลิ่น..ครั้นสิ้นรส- ก็เมื่อบทบาทใหม่เริ่มไหวสั่น เป็นบทบาทอ่อนหวาน..แปลก-ปานกัน- กับหอมปันแปลกรสให้ทดลอง
๐ สืบความหมายผ่านล่วง..ของช่วงห่าง- ในแห่งที่หนทาง...ระหว่างสอง เฝ้าตอบแทนคืนกลับ..คอยรับรอง เพื่อตรึกตรองแปลความ..เอาตามใจ
๐ ดูเถิด..แก้มฝาดเรื่อ..เนียนเนื้อนิ่ม- คล้ายผ่านความเอิบอิ่ม..ลอบยิ้มให้ จะยินหรือโผนผกห้วงอกใคร- ที่โยกไหวเอนอยู่...เกินกู้คืน
๐ ดู-ยั่วยิ้ม..เมียงชม้าย..เหลือบชายตา ก็ราวว่าจะคอยฉุด-ให้สุดขืน- ต่อต้านเลศ..แฝงซ่อนที่ย้อนคืน- นัยระยิบระยับรื่น..แสนครื้นเครง
๐ ยั่วเย้ยแล่นระลอกราวบอกว่า- จะอยู่ล้อทรมา..ต่อตา-เพ่ง- เลือดบนแก้มเรื่ออยู่...ควรรู้เอง- มัวแกลนเกรงอยู่ไย...นะใจชาย
๐ อันมณีน้ำวาม...เนื้องามแสน ฤๅอาจแทนด้วยแก้ว..แม้นแววฉาย- จากเหลี่ยมมุมแสงต่ำ..ตก..รำบาย จะแค่คล้ายน้ำปลั่ง..ชั่วครั้งคราว
๐ จึงมณีน้ำปลั่ง..ที่ตั้งอยู่- แค่เพียงดู..คิดคืบ หรือสืบสาว ? เอาแต่งเรือนแหวนประดับ...ให้วับวาว เถอะน่า...ก้าวเข้าไป...อย่าได้ช้า !
จากคุณ |
:
สดายุ...
|
เขียนเมื่อ |
:
วันรัฐธรรมนูญ 52 00:12:39
|
|
|
|