เรื่องเล่าสยองของข้าพเจ้า ตอน ผีที่ฮ่องกง
|
|
สามารถติดตามอ่านเรื่องเล่าสยองของข้าพเจ้า และนิยายเรื่องอื่นๆได้ที่ blog ของมูนนี่ค่ะ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moonyforever
ตอน เจ้าที่หัวดื้อ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8595226/W8595226.html ตอน จะสั่นทำไม http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8621519/W8621519.html
เรื่องที่ 46
หัวผีที่ฮ่องกง
การได้ไปท่องเที่ยวที่ต่างประเทศ ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น เพราะเราจะได้เห็นสิ่งแปลกหูแปลกตา บางอย่างไม่มีทางได้พบเห็นในเมืองไทยอย่างเช่นหิมะหรือน้ำตกสูงเท่ากับตึกสามสิบชั้นที่ปล่อยสายน้ำให้พรั่งพรูลงไปในท้องทะเล ความเป็นความประทับใจที่ยากจะลืมเลือนเหมือนกับสิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าจะไปในผืนแผ่นดินไหน บนเขาสูงเสียดฟ้าหรือเกาะกลางทะเล เราก็มักจะพบเห็นอยู่เสมอแม้ว่าไม่ค่อยอยากจะเจอเท่าไหร่นัก
วิญญาณ หรือ ผี นั่นเอง
เรื่องเล่าคราวนี้มาแบบสดๆร้อนๆก็ว่าได้ เพราะเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสองสามวันที่ผ่านมานี่เอง โดยประสบการณ์ของน้องนกเจ้าเดิม
ในวันหยุดที่ผ่านมา น้องนกและน้องจีได้ขอติดตามแม่ของพี่ไปท่องเที่ยวที่ประเทศฮ่องกง ทั้งสามคนออกเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนอันเนื่องมาจากวันหยุดยาว หลังจากผ่านขั้นตอนการตรวจตามกระบวนการแล้ว แม่ก็ปล่อยให้สองคนเมามันกับการบันทึกภาพศิลปกรรมงามๆที่ประดับประดาภายในห้องผู้โดยสารขาออก จากนั้นก็ขึ้นเครื่อง โชคดีเป็นอย่างมากที่วันนั้นผู้โดยสารเต็มประกอบกับแม่เป็นลูก้าระดับวีไอพีเลยได้อัพเกรดขึ้นไปนั่งในชั้นธุรกิจ เจ้านกกับเจ้าจีเลยได้อาศัยบารมีขึ้นตามไปด้วย หลังจากโทรศัพท์กลับมาคุยกับพี่ด้วยความตื่นเต้นดีใจแล้ว ทั้งสามก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ฮ่องกง
การไปในครั้งนี้ไม่ได้เน้นการจับจ่ายซื้อของอะไรมากนัก เพราะจุดมุ่งหมายของนกกับจีอยู่ที่การล่องเรือเฟอรี่ไปยังเกาะลันตาเพื่อสักการะพระใหญ่และกลับมาไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่เกาะฮ่องกง ด้วยบรรยากาศที่เริ่มเข้าสู่หน้าหนาวทำให้อากาศที่นั่นเริ่มเย็น ทิวทัศน์จึงสวยงามไม่ว่าจะเป็นทะเลที่มีแม้จะมีคลื่นลมแต่ก็เย็นสดชื่นหรือท้องฟ้าที่แจ่มใสไร้ก้อนเมฆ
บรรยายซะคนฟังคิดว่าพี่ไปกับเขาด้วย เปล่าหรอกค่ะ อาศัยดูรูปที่สองคนนั่นถ่ายมา
น้องนกกับน้องจีประทับใจเจ้าแม่กวนอิมมาก เขาบอกว่ารู้สึกโปร่งสบายเหลือเกิน โดยเฉพาะนักเขียนนิยายอย่างเจ้าจี รายนั้นบอกว่าคิดพล็อตได้เป็นฉากๆเลยล่ะพี่
ส่วนนกกลับได้ความรู้สึกแตกต่างไปจากนั้น น้องบอกว่ามันรู้สึกเหมือนเขาเคยมาที่นี่ เคยมาเดินตรงนี้ ข้ามสะพานโค้งแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง สิ่งแบบนี้พี่เองก็เคยเป็นตอนได้ไปเนปาลและเข้าพุทธนาถครั้งแรก จำได้ว่าตอนนั้นยืนนิ่ง หัวใจมันอิ่มเอมเหมือนได้กลับมาเยี่ยมบ้านเกิด ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้นแต่แม่บอกว่ามันเป็นสายสัญญา ภาษาสมัยนี้เขาเรียก เดจาวู
หลังจากเที่ยวกันอย่างมีความสุข ทั้งหมดก็กลับสู่เมืองไทยอย่างสวัสดิภาพและนอนค้างบ้านพี่หนึ่งคืน ตอนเช้าก็รื้อข้าวของที่ซื้อมาอย่างเมามัน ระหว่างนั้นน้องนกก็เล่าประสบการณ์น่าขนหัวลุกให้ฟัง
เขาบอกว่าวันแรกที่เข้าพักในเกสต์เฮ้าส์(เพราะหากพักโรงแรมราคาจะสูงมาก อีกอย่างแม่รู้จักคนไทยที่อาศัยอยู่ในฮ่องกงหลายคน บางคนก็ดัดแปลงที่อยู่ของตัวเองให้เป็นที่พัก ซึ่งมีความสะดวกสบายเชียวล่ะ)
กลับมาที่น้องนกอีกครั้ง นกบอกว่าก้าวแรกที่เข้าไปในตึกรู้สึกอึดอัด หนักตัวไปหมดแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากจากนั้นก็ออกเดินเที่ยวรอบบริเวณเพราะวันแรกยังไปไหนไม่ได้ไกล หลังจากเดินกินบรรยากาศและจัดการอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้งสามจึงกลับที่พัก
นกเล่าว่าพออาบน้ำอาบท่าจัดเตรียมชุดสำหรับการเดินทางในวันรุ่งขึ้นเรียบร้อยแล้วก็ดับไฟนอน โดยจีนอนเตียงบน นกนอนเตียงล่าง แม่นอนเตียงข้างๆกัน พอตกดึกน้องนกก็ฝันว่ามีหัวผู้หญิงคนหนึ่งลอยเข้ามาหาและสภาพของห้องก็เปลี่ยนไปจากตึกสูงทันสมัยกลายเป็นเรือนอิฐชั้นเดียวเก่าๆแถมมีหลุมอยู่ตรงกลางด้วย หัวผีจีนส่งเสียงล้งเล้งโวยวายดังลั่น นกก็ตะโกนเถียงแบบไม่ยอมแพ้ หลังจากแลกเปลี่ยนภาษากันได้พักใหญ่หัวผีผู้หญิงคนนั้นก็พุ่งเข้ามาจะทำร้ายแต่นกคว้าผมมันเอาไว้และเหวี่ยงทิ้ง พอเข้ามาอีกทีก็เจอฝ่ามือพิฆาตอัดกระเด็น (ขนาดผีเนี่ยนะ)แล้วทุกอย่างก็หายไป ตื่นตอนเช้าน้องนกบอกปวดไหล่มากแต่ไม่ได้เล่าอะไรให้แม่ฟัง มาหายก็ตอนขึ้นไปบนยอดเขาพระใหญ่ ซึ่งนกบอกว่ามันเหมือนกับหลุดผลัวะออกจากตัว
ขากลับต้องนั่งรถไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม ระหว่างทางรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเพราะต้องผ่านสุสานขนาดใหญ่ จากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกเลย
แม่เองมารู้เรื่องก็เมื่อถึงเมืองไทยแล้ว แต่ท่านก็ไม่ได้พูดอะไรมากนอกจากบอกว่าน้องนกเป็นพวกเนื้อหอม พวกวิญญาณหรือสัมภเวสีมักจะชอบเลยมาหลอกหลอนเหมือนขอส่วนบุญ นกบอกว่าถ้าขอกันดีๆก็จะให้ แต่ถ้ามาแบบรายหัวผีฮ่องกงนี้รับแต่ฝ่ามือพิฆาตมารไปก็แล้วกัน
*/*/*/*/*/* วันนี้มาแต่เช้าเลยเพราะเพิ่งฟังมาจากน้องนกแบบสดๆร้อนๆ การเล่าในคราวนี้เลยค่อนข้างได้อรรถรสกว่าทุกครั้งค่ะ พิมพ์ม้วนเดียวจบเลยล่ะ
มาคุยกันนะคะ
น่ากลัว... แต่ยังดีที่พูดกันรู้เรื่องนะครับ ท่าทางคงมาทักทายเฉยๆ จากคุณ : Psycho man -ทักแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันค่ะ ><
ฮ่าๆ ผียังไม่กล้า จากคุณ : scottie -นั่นสิคะ แต่ที่ฮ่องกงนี่เจอตบกระเด็น น้องนกโหด = =
เป็นเราคงขวัญกระเจิงไปแล้วค่ะ ^^" แต่เคยได้ยินเค้าบอกว่าผีจะไม่กล้ายุ่งกับคนที่โมโห ( คงกลัวว่าจะโดนแช่งมั้งคะ ) แสดงว่าจริงๆแล้วคนน่ากลัวกว่าผีอีกนะเนี่ย จากคุณ : มอนจะ -เพราะคนโมโหมันลืมกลัวไปแล้วมั้งคะ ขืนหลอกอาจโดนอัด
ผีเค้าคงไม่เคยเห็นเครื่องคอมฯ และอยากรู้ว่าทำอะไรอยู่ล่ะมั้ง เหอๆ แต่ถ้าเป็นผม คงบรื๋ออออ แล้วล่ะ อาจจะทั้งด่าและแช่งคุณผีไปเลยก็ได้ แล้วก็อาจจะเปิดแน่บเลย 555 รออ่านตอนต่อไปน๊าครับ^^ จากคุณ : ZoXigEn_TonG_x_Zhi -ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ ยังดีแค่ชะโงกไม่โผล่มาถาม ="=
เป็นผีที่มารยาทใช้ได้เลยนะคะเนี่ย ขอให้นิ้วหายดีเร็วๆ นะคะ จะได้มาลงเรื่องสยองขวัญได้ทุกอาทิตย์ อิอิ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) -ตอนนี้ใช้น้ำร้อนประคบค่ะ แค่ประทังอาการหมอบอกว่าต้องหยุดทำงานไปเลย ทำได้ไงอ่ะหมอ....T.T
ซารุบบบบบบบบบบบบ คนน่ากลัวกว่าผี 55555555 จากคุณ : beautystone -ถูกต้องแล้วคร้าบบบ^0^
เข้าใจได้ค่ะ บางทีก็มีผีขี้แกล้งแบบนี้แหละค่ะแต่จริงๆคุยรู้เรื่อง (คุยไม่รู้เรื่องก็จะน่ารำคาญมาก) เวลารีบๆทำงานอยู่ชอบแกล้งให้หาของไม่เจอก็ต้องดุไปเหมือนกัน เดี๋ยวก็หาเจอเอง จากคุณ : peiNing -อันนี้ออกแนวก่อกวน น่าโมโห =*=
ท่านนกนี่แน่จริงๆๆ ท่าน เป็นเราก็คงอีหล็อบเดียวกัน คนจะทำงาน แต่ขอโกยก่อนนะท่าน จากเรื่องเจ้าที่ท่าน มีดีแต่ดื้อนี่พอกันเลยท่าน แต่ของเราจะเป็นแบบ ไม่ค่อยมีใครมายุ่ง แต่เจ้าที่ที่ไม่ดี ปล่อยให้คนมาทำร้ายเราก็บ่อยนะท่าน ส่วนใหญ่จะที่หอใน ม. นอกนั้น คิดว่าต่างคนต่างอยู่ แต่เราไม่ไปทำร้ายเขานะ ถ้าเขาไม่มายุ่งกับเราจริงๆ เพราะเขาคงบาปมากทีเดียวที่มายุ่งกับเรา ส่วนใหญ่จะ ต่างคนต่างอยู่นะคร้าบ แต่ถ้าเขาไม่ฟัง.... จะเริ่มกลายเป็น มาคุยกันเลยม่ะ! จะเอายังไงว่ามา แต่ก็ไม่เคยเห็นใครกล้าเข้าฝันเราสักคน คนที่ฝันถึงส่วนใหญ่ ก็จะเป็นคนที่ อีกไม่เกิน 2 อาทิตย์เขาก็เสียนะพี่ เจอมา 4 รายแล้ว ตอนฝันก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แค่เห็นใจ + เศร้า แล้วมารู้ข่าวอีกที อยู่วัดแล้วพี่ อยู่มาหลังฝันประมาณ 3-4 วัน ส่วนใหญ่จะอยู่ราวๆๆ นี้ เขาคงขอให้มาอวยพรให้ ก็แผ่เมตตาให้น่ะท่าน..... (เพิ่ม) มั่วแต่คุยเรื่องผี ลืมอ่านประโยคล่างโทษทีเน้อพี่ หายไวไวนะพี่ เหนื่อยนักก็พักบ้าง ^O^ จากคุณ : เหมันต์ใบไม้ผลิ -พี่ก็คิดแบบนั้นแหละ มัวแต่งกจนไม่ได้ไปเกิด เฮ้อ น้องเหมันต์ก็เป็นพวกมีสัมผัสพิเศษเหมือนกันสินะ แต่เป็นแบบรู้ล่วงหน้าบางอย่างเท่านั้น เวลาพี่ป่วยห้ามไปเยี่ยมเลย = ="
งือ ขอคารวะท่านนกค่ะ ถ้าเป็นอิน อินเผ่นตั้งแต่โดนหายใจรดต้นคอแล้ว พี่มูนนี่หายเจ็บนิ้วเร็วๆ นะคะ ^^ v จากคุณ : หนูอิน (อินทรายุธ) -ขอบคุณค่า ตอนนี้ทุเลาลงบ้างแล้ว
มีสมัยหนึ่งทำงานตอนกลางวันคนเดียวในวันหยุด ในที่ทำงาน มักจะได้ยินเสียงกรอกแกรก ๆ คล้ายมีคนเปิดปิดประตูหรือเอาอะไรครูดฝาผนัง ตั้งสติอยู่นาน จนรู้ว่า ฝาผนังอลูมีเนียมสีชา กับวงกบหน้าต่างกระจก มันหดตัวกับขยายตัวในช่วงกลางวัน เลยตั้งสติแล้วค่อย ๆ เดินกลับบ้าน ไม่จำเป็นจะไม่ไปทำงานคนเดียวอีก เว้นแต่มีเพื่อนร่วมงานมาร่วมทำงานเป็นเพื่อน ไม่กลัว แต่ไม่ค่อยชอบ เสียงแปลก ๆ ทำให้ขวัญหายหรือหลุดได้ ถ้าขาดสติ จากคุณ : ravio -นั่งทำงานเพลินๆเจอเสียงประหลาดต้องผวาทุกคนแหละค่ะ มูนนี่เคยเจอแต่ไม้ลั่นตอนอยู่บ้านดอนเมือง ตอนนั้ยังเด็กนั่งเล่นคนเดียวไม้มันลั่นเอี๊ยด ก็ได้แต่มองไม่ได้กลัวอะไร คงเด็กเกินไปหรือมั่นใจว่าพระเต็มบ้านก็ไม่รู้ แต่จริงอย่างที่คุณ ravio พูด ทุกอย่างต้องมีสติ
ที่officeก็มีมาให้เห็นเรื่อยๆค่ะ เป็นเจ้าที่คนจีนแต่งชุดขาวแบบหนังจีนกำลังภายใน ชอบมาแอบมองจากห้องประชุม เหอ เหอ ปล รูปหลอนจังค่ะ จากคุณ : หริชา (หริชา) -โห ออกแนวน่ากลัวนะคะ นึกภาพกำลังประชุมเงยหน้าเจอท่านเจ้าสำนักกำลังยืนส่งยิ้มให้ จ๊ากกกกก
รูปตัดมาจากภาพประกอบเรื่องนักล่าฯค่ะ เห็นเข้ากันเลยเอามาลง อิ อิ
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านนะคะที่ติดตามผลงานของมูนนี่ วันนี้ขอตัวไปปั่นต้นฉบับยมทูตก่อนนะคะ
เจอกันศุกร์หน้าค่า
^______^
จากคุณ |
:
Moony_Lupin
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ธ.ค. 52 08:33:48
|
|
|
|