** เรื่องเล่าฯ ขำๆ ยามว่าง ** ปฏิบัติการฯเริ่มแล้ว! **
|
|
* ปฏิบัติการจิตอาสา....เริ่มแล้ว!
เช้าวันนี้มาปากเกร็ดอย่างเป็นตัวของตัวเอง (สลัดคราบความอยากเป็นนางงาม เพราะพยายามแล้วก็ไม่ประสบความสำเร็จ ...เหนื่อย!) เสื้อยืดตัวเก่ง กางเกงยีนตัวเดิม (นานๆ ซักที เพราะ Save the world ประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ ... เออ... อ่ะ... บอกความจริงก็ได้ ...ขี้เกียจซัก!)
วันนี้ตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ เพราะจะได้เจอเด็ก เด็กจริง ๆ ตัวเป็น ๆ เด็กทารกวัยละอ่อนและ...คงต้องเป็นเด็กคนพิเศษที่มีแววลัคนา ...ราหูอมชะตา ... ด้วยต้องมาร่วมสังฆกรรมกะเราเจ้าของฉายา...อุ้งมือพิฆาต! ...อาทิตย์ละวัน โชคดีของเอ็งจริงๆ ที่เจอแค่อาทิตย์ละวัน (จริง ๆ แค่ครึ่งวัน และให้จริงกว่านั้น แค่ประมาณ 2 ชั่วโมง ต่ออาทิตย์ แค่นั้นแหละ! ก็เลยเป็นอย่างที่บอก จากความรู้สึกว่าเรากำลังเสียสละอย่างยิ่งใหญ่ คล้ายแกนกลางของโลก เอวัง! ...กลายเป็นแกนสัปปะรดภูแล....ด้วยประการฉะนี้เอง!)
ในห้องทำการของมูลนิธิฯ เหล่าอาสาสมัครดูกระตือรือร้นเป็นพิเศษเช่นกัน ...พอได้เวลาเก้านาฬิกา พวกเราก็พร้อมพรึบ! หยุดเม้าท์ หยุดเคี้ยว หยุดแคะ หยุดแกะ หยุดเกา และรวมตัวกันโดยพร้อมเพรียงหน้ากระดานเรียงปึก ออกเดินไปตามทางสู่ตึกเด็กอ่อน นำทางโดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ซึ่งเข้ามาทำกิจกรรมร่วมกันเป็นประจำอยู่กับสถานสงเคราะห์ฯ จนมีห้องทำการเป็นของตัวเอง!
เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ บอกกล่าวเล่าสิบให้เรารู้ด้วยว่า เจ้าหน้าที่ของสถานสงเคราะห์ฯ ทุกคน ถูกใช้สรรพนามแทนตัวว่า แม่ กับเด็ก ๆที่นี่ ส่วนเหล่าอาสาสมัครจะถูกเรียกด้วยสรรพนามโดยรวมจากมูลนิธิฯ ว่า พี่ ฟังดูดีจัง อิ อิ อายุประมาณนี้ยังได้เป็นพี่เด็กแบเบาะ เหอ เหอ เหอ แต่เอาเข้าจริงอาสาสมัครหลายคนใช้ สรรพนามแทนตัวกับเด็ก ๆ แตกต่างกันไป ตั้งแต่ พี่ ป้า น้า อา ตา ยาย ...........แต่อย่าหวังเลย ว่าเราจะใช้คำอื่นที่นอกเหนือจาก.......... พี่ ... 5 5 5 ...มันฟังดูดีจะตาย (แม้จะค้านกะวัยแบบหัวชนฝาก็เหอะ ... เช๊อะ! อย่าได้แคร์!)
เป็นที่น่าสังเกตคือ..(สำนวนเริ่มคล้ายสารคดี)...เด็ก ๆ ในสถานสงเคราะห์ที่เราเจอส่วนใหญ่....ไม่กลัวคนแปลกหน้า แถมบางทีเดินเข้าหา เพราะอยากให้อุ้มหรือโอบกอด แต่มีคำเตือนว่า ถ้าเด็ก ๆ อยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่แล้วล่ะก็ อย่าได้เผลออุ้มใครเป็นพิเศษเชียว นอกจากคุณจะเป็นนักกล้าม....ยกเด็กเป็นสิบพร้อม ๆกันได้!
ระหว่างทางเดิน เรามองเหล่ออกไปที่สนามหญ้า ด้วยถูกเร่งเร้าจากเสียงแปลก ๆ แถวนั้น แลพลันสายตาก็ปะทะเข้ากับกลุ่มเด็กเล็กอีกกลุ่มที่ขะมักขะเม้นยืนเข้าแถวหน้ากระเดิด! (ก็อ้ายตัวเล็กยืนตรงซะที่ไหนล่ะ? จาก...หน้ากระดาน...มันก็เลยกระเดิดออกมาหยั่งงั้น!.....) ทั้งตัวเล็กตัวน้อยกะลังตั้งอกตั้งใจ.........ตะเบ็งเสียง..... ขอยืนยัน ......... ตะเบ็งเสียง! (แกคงอยากยืนยันความรักชาติ) ร้องเพลงชาติ เสียง สูง ๆ ต่ำ ๆ พร้อมกันมั่ง ไม่พร้อมกันมั่ง ต่างคน ต่างร้อง ไปคนละชาติ สองชาติ สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ (เยาะ...จากเรา) พอมึนมึน
กะลังสร่างมึนจากเพลงหลายชาติ (กระแหนะกระแหน กระทั้งเด็ก ตูละอดสูจริง ๆ) ก็มาถึง......ข้างหน้าเรา.......ห้องเด็กอ่อน!..... อ้า! (ไม่รู้จะอ้าทำไมบ่อยๆ เนอะ) นาทีชีวิต (ของใครบางคน) ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เหอ เหอ เหอ .........ความรู้สึกยะเยือกเย็นแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณู อาณาบริเวณ .....เงาดำทะมึนทอดทับแผ่ผ่านคืบคลานทีละน้อย ทีละน้อย เข้าครอบ ......งำ! ( เชื่อว่าอ้ายหนูผู้มีลัคนาราหูอมชะตาคงมีอาการประมาณนี้..!)
ตึกเล็กๆตรงหน้าเราคือที่ตั้งของห้องเด็กอ่อน เด็ก ๆ อยู่ที่ห้องชั้นล่าง สามารถมองลอดมุ้งลวดผ่านหน้าต่างเข้าไปเห็นได้ ( แต่ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าห้อง เพื่อความปลอดภัยของเด็ก) ในแว่บแรกที่ได้เห็น..........เราสัมผัสได้ถึงความรู้สึกสลดใจของตัวเอง เพราะสิ่งที่เราได้เห็นตรงหน้า คือเด็กทารกอายุไม่เกิน 3 เดือน นอนเรียงรายสลอนอยู่เป็นสิบ เป็นสิบ ๆ! เด็กแบเบาะ..... แบเบาะ จริง ๆ! แบ อยู่คา เบาะ ร้องไห้บ้าง ดูดปากบ้าง หลับบ้าง (วัยนี้...ถ้าจะว่าไปก็นับว่าเลี้ยงง่าย เพราะยังตอบโต้ ตอแย ใด ๆ มิได้ จะมียากอยู่อย่างเดียวคือต้องแปลภาษาร้องของพี่แกให้ออก เพราะ.....ไม่ว่าจะหิว ....จะเปียก ....จะปวด .....จะอึ .............ร้องไห้ลูกเดียว!)
ไอ้ที่ร้องก็ตะเบ็งร้องอย่างจริงจังเต็มกำลังความสามารถของเด็กวัยไม่เต็ม 3 เดือน ไอ้คำว่าหน้าแดงหน้าดำที่เคยได้ยิน ก็ได้เห็นกันชัด ๆ ตอนนี้แหละ แต่ไม่ว่าจะแสดงอิทธิฤทธิ์ส่งเสียงร้องดังซักกี่เดซิเบล ก็ไม่ได้ช่วยให้ลัดคิวของแม่ ๆ ได้หรอกนะ โห! ก็พวกเอ็ง....เป็นสิบ ๆ ...ส่วนแม่ ๆ มีอยู่ไม่กี่คน
ถือบัตรคิวคอยไปก่อนเถอะ ก็ไอ้บัตรคิวเบอร์ต้นๆยังไม่ย่อท้อ ตั้งหน้าตั้งตาร้องประสานเสียงกันระงม อุปมาดั่งวงออเครสตร้าวงใหญ่! ที่สำแดงกันไปขณะรอวาทยากรเข้าห้องน้ำ! ... แล้วใคร?....จะไปดูทัน! (ต้องหัดเรียนรู้ชีวิตตั้งแต่แบเบาะนะอ้ายหนูนะ....อย่าคิดมาก ...กรรมมุนา วัตตะตี โลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม...ท่องไว้!)
คราวนี้คงพอเข้าใจมากขึ้นแล้วใช่ป่ะ! ว่าทำไม่เราถึงบอกว่า เด็ก ๆ ไม่ได้ต้องการนักนวดมือโปร แต่เด็กๆ แค่ต้องการใครสักคนมาเอาใจใส่ อยู่ใกล้ๆ ลูบไล้ ปลอบโยน โอบอุ้ม พอคลายความหว้าเหว่
และเติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหาย (โห! จบวรรคได้ซึ้งงะ)
แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 52 10:48:28
แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 52 10:47:01
จากคุณ |
:
แม่ปลื้ม
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ธ.ค. 52 10:02:26
|
|
|
|