Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ดาวลูกไก่ ในตำนาน กับความทรงจำเล็กของเด็ก 9 ขวบ ที่อยากเป็นนักเล่านิทานสักครั้ง  

กาลครั้งหนึ่งนานแสนนาน มาแล้ว นานจนฉันจำเรื่องราวแทบไม่ได้
หลานสาวตัวน้อยวัย 3 ขวบ กำลังนั่งมองท้องฟ้าบนตักที่อบอุ่นของคุณปู่ที่ใจดีที่สุดในโลกเท่าที่เด็กน้อยได้รู้จัก คลุ้มด้วยผ้าห่มลายน้องหมีสีชมพู ในคืนที่พระจันทร์หลับ ดวงดาวออกมาแข่งกันส่งแสงเต็มท้องฟ้า อืมวันนี้ดาวเต็มฟ้าไปหมดเลยสังสัยเค้าคงยินดีกับวันเกิดหลานปู่แน่เลย แล้วปู่ก็ชี้ให้ดูกลุ่มดาวเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่งแล้วว่า นั่นไงดาวลูกไก่ เค้ามีตำนานนะลูก ไหนคะคุงปู่ มีดาวเต็มเลยแล้วจะรู้ได้ไงค่ะว่าดวงไหนดาวลูกไก่ มองดีๆสิหลาน เห็นไหม ดาวดวงเล็กๆที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม มีด้วยกันทั้งหมด 7 ดวง มองตามปลายนิ้วปู่ขึ้นไปนะ แล้วเด็กน้อยก็เอาหน้าเล็กๆแนบกับแขนของคุณปู่มองตามปลายนิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ เห็นแล้วค่ะคุงปู่ ไม่เห็นเหมือนลูกไก่เลยค่ะ แล้วทำไมถึงเรียกดาวลูกไก่ล่ะคะ ในสมองน้อยเริ่มสังสัยอะไรบางอย่าง แล้วหันกลับมามองหน้าปู่ด้วยงงๆ คำถามเริ่มเดินตามกันออกมาจากริมฝีปากเล็กๆ ทำไมเรียกดาวลูกไก่ แม่ไก่ไปไหน ทำไมแม่ไก่ไม่อยู่กับลูก แม่ไกใจร้ายเหรอคะคุงปู่ เออเอากับเค้าสิ ซักใหญ่เลยแล้วจะให้ปู่ตอบอันไหนก่อนดีล่ะ ทำไมลูกไก่ไปเป็นดาวอยู่บนฟ้าได้ละคะ แล้วปู่ก้อเริ่มเล่านิทานเรื่องดาวลูกไก่ให้เด็กหยิงตัวน้อยที่นั่งบนตักมองตาแป๋วไปที่ริมฝีปาก และดวงตาที่เต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆมากมายของคุณปู่ โดยมีเสียงใสๆ ของเด็กน้อยแซกมาเป็นระยะ
ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ที่ชายป่าแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากเชิงเขา มีกระท่อมตากับยายที่อาศัยอยู่กันลำพัง ตากับยายเลี้ยงไก่ไว้ตัวหนึ่ง ต่อมาแม่ไก่ออกไข่และฟักออกมาเป็นลูกไก่ตัวเล็กๆ น่ารักเจ็ดตัว แล้วพ่อไก่ไปไหนละคะคุณปู่ ลูกไก่มีพ่อไหม มีสิแต่พ่อไก่ตากับยายไม่ได้เลี้ยงไว้ แล้วพี่ไก่มาจากไหนคะ คงเป็นไก่ป่าน่ะจ๊ะ เพราะกระท่อมตายายอยู่ใก้ลป่า แล้วทำไมพ่อไก่ไม่มาอยู่กับแม่ไก่ที่บ้านตายายล่ะคะ พ่อไก่เค้าคงกลัวตากับยายเอาเค้าไปเป็นอาหารน่ะลูก ฟังต่อน่ะ ทุกเช้าแม่ไก่จะร้องกุ๊กๆ เรียกลูกออกไปหากิน สอนให้คุ้ยเขี่ยอาหารและแมลงเล็กๆ ตามพื้นดิน บางวันยายก็จะโปรยข้าวสุกที่เหลือจากก้นหม้อให้กิน แม่ไก่กับลูกๆทั้งเจ็ดมีความสุขมาก และรู้สึกกตัญญูต่อตายายที่เลี้ยงดูพวกตนอย่างเมตตา ส่วนตากับยายนั้นก็เฝ้าดูแม่ไก่และลูกด้วยความเอ็นดู แล้วทำไมยายไม่ให้ข้าวแม่ไก่กินทุกวันคะคุงปู่
หนุเห็นย่าเอาข้าวเปลือกให้ไก่เรากินตอนเช้ากับตอนเย็นทุกวันเลย ข้าวตากับยายมีน้อย ตากับยายแก่แล้วทำนาไม่ค่อยไหว แล้วลูกตากับยายไปไหนค่ะทำไมไม่มาปลูกข้าวให้ตายาย ตายายจะได้มีข้าวเยอะๆ มีข้าวเปลือกให้แม่ไก่กินด้วย ตายายไม่มีลูกจ๊ะ ทำไมละคะ ปู่กับย่ายังมีลูตั้ง 5 คน แล้วทำไมตากับยายไม่มีลูก ตากับยายคงเป็นหมัน เป็นไงคะ คือมีลูกไม่ได้ เดี๋ยวให้ปู่เล่านิทานต่อก่อนนะเดี๋ยวจะไม่จบ ดึกแล้วลูก ค่ะเด็กน้อยรับคำสั้น
ยายตั้งชื่อลูกเจี๊ยบตัวเล็กที่สุดว่า เจ้า "จิ๋ว"
"ดูเจ้าจิ๋วสิตา ท่าทางมันขี้อ้อนแม่มันน่าดู" ยายพูด จิ๋วเปล่วว่าตัวเล็กเหรอค่ะปู่ จ๊า ปู่รับคำสั้น แล้วก็เริ่มเล่านิทานต่อวันหนึ่งขณะที่แม่ไก่พาลูกๆ คุ้ยเขี่ยหากินอยู่ที่ลานดินหน้ากระท่อม แม่ไก่รู้สึกมีเงาดำทะมึนแผ่กว้างอยู่บนฟ้า แม่ไก่ตกใจรีบส่งเสียงเรียกลูกมาใกล้ๆ แต่ลูกๆ ไม่ได้ยิน แม่ไก่แหงนมองท้องฟ้าก็เห็นเหยี่ยวตัวใหญ่กำลังร่อนลงมาจะโฉบเจ้าจิ๋ว แย่แล้ว...กุ๊กๆๆ จิ๋ววิ่งเร็วลูก ลูกๆ วิ่งเร็วๆ" แล้วก็มีเสียงเด็กแซกขึ้นมาอีกว่า แม่จ๊าช่วยจิ๋วด้วยแม่จ๋า แม่จ๋าช่วยจิ๋วด้วย ปู่บอกว่าตอนนั้นเหมือนเด็กน้อยเป็นลูกไก่ชะเอง แม่ไก่รีบวิ่งไปหาลูก แล้วกางปีกป้องกันลูก เรียกลูกมาซุกใต้ปีกของตัวแล้วพาวิ่งไปหมอบใต้กอไผ่อย่างรวดเร็ว หัวใจเด็กน้อยยังเต้นเร็วซุกตัวกอดปู่ไว้แน่น ปู่ต้องกอดปลอบแล้วเล่าต่อว่า ตากับยายได้ยินเสียงลูกไก่ร้องจึงรีบวิ่งออกดู แล้วไล่เหยี่ยวไป แม่ไก่และลูกๆ จึงปลอดภัยและยิ่งรักตากับยายมากขึ้น เด็กน้อยค่อยๆแหงนมองหน้าปู่อีกครั้ง แล้วถามว่า เหยี่ยวเป็นตัวอะไรค่ะคุงปู่ ทำไมต้องมาจับลูกไก่ด้วย เหยี่ยวเป็นนกที่มีตัวใหญ่กว่านกอื่นๆ เค้ากินเนื้อสัตว์ที่เล็กกว่าเป็นอาหารน่ะลูก ทำไมเค้าไม่กินผลละไม้แล้วก็แมลงละค่ะ เค้าคงกินแล้วมันไม่อร่อยเหมือนกินเนื้อเค้าเลยไม่กิน ก็เหมือนหนูที่ไม่ชอบกินผักไงลูก งั้นหนูกินผักก็ได้ ให้เหี่ยวเค้ากินผลไม้นะคะ
อืม ยังนิทานต่อนะ ไม่ม่เสียงใดหลุดออกมาอีก ปู่จึงเริ่มเล่าต่อ เย็นวันหนึ่งมีพระธุดงค์มาปักกลดอยู่ริมเชิงเขา ตากับยายจึงเข้าไปนมัสการ และตั้งใจว่าจะทำอาหารไปถวายพรุ่งนี้ แต่ไม่มีอะไรที่จะทำอาหารเลย ตากับยายสงสารพระกลัวจะอดอาหาร เพราะแถวนั้นมีบ้านตายายหลังเดียว จึงคุยกันว่า ต้องฆ่าแม่ไก่แล้วทำอาหารถวายพระ ทั้งตาและยายเศร้ามาก เพราะรักและสงสารแม่ไก่กับลูกๆ ลูกไก่ต้องเป็นกำพร้า บังเอิญแม่ไก่แอบได้ยินตากับยายคุยกัน จึงตัดสินใจยอมสละชีวิตเพื่อตอบแทนบุญคุณของตากับยาย แม่ไก่เรียกลูกๆ มาสั่งสอนให้รักกันอย่าทะเลาะกัน อย่างอแง
"จำไว้นะลูกๆ ต้องรักกัน สามัคคีกัน อย่าทำให้ตากับยายร้อนใจ "ฮือๆ ลูกไก่ร้องไห้อย่างน่าสงสาร ทุกตัวกอดซุกอยู่กับอกแม่เป็นครั้งสุดท้าย พอตอนเช้าตากับยายก่อไฟทำอาหารเพื่อไปถวายพระ แล้วตากับยายก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นลูกไก่ทั้งเจ็ดตัววิ่งตามกันกระโดดเข้ากองไฟตายตามแมไก่ไป เทวดานางฟ้าผู้พิทักษ์ความดี ต่างก็ซาบซึ้งในความกตัญญูของแม่ไก่และลูกไก่ จึงรับเอาลูกไก่ทั้งเจ็ดไปอยู่บนฟ้ามีแสงระยิบระยับ เกิดเป็นดาวลูกไก่ ที่หนูเห็น

เด็กน้อยแหงนหน้าที่มีน้ำตาไหลเป็นทาง ถามปู่ว่า ทำไม่ตากับยายไม่เอาผัก ไปให้พระแทนคะปู่ ไม่เป็นต้องฆ่าแม่ไก่เลย ตากับยาย ปู่เอาไปให้สิค่ะ เอาขนมหนูไปด้วยก็ได้ ตากับยายอาจขายผักไปหมดแล้วก็ได้ แล้วอีกอย่างปู่ไม่ได้อยู่แถวนั้น ปู่กับหนูยังไม่เกิดเลยนะลูก มันเป็นนิทานคนรุ่นก่อนๆ เค้าเล่าต่อๆมา แล้วปู่ก้อเอามาเล่าให้หนูฝังต่อ เด็กน้อยร้องไห้ไม่ยอมหยุด ปู่จึงต้องหยุดเล่านิทาน นั่งปลอบกันอยู่พักใหญ่ เสียงร้องเหงียบหายไปพร้อมกลับร่างเล็กๆของเด็กน้อยที่หลับไหลอยู่ในออมกอดของปู่พร้อมกับความเศร้าและน้ำตาที่เปื้อนเต็มดวงหน้าเล็กๆ และฝันร้ายเกือบตลอดคืนที่คอยปลุกแม่ให้ตื่นด้วยเสียงสะอื้นเบาๆของเจ้าหญิงตัวน้อยที่มีปีกนางฟ้าโปร่งแสงไม่สามารถมองเห็นด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยหัวใจ และเรื่องราวของดาวลูกไก่ ก็ทำให้เด็กน้อยชอบที่นั่งบนตักและข้างกายคุณปู่นักเล่าตำนานของดวงดาว และแหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าในคืนที่พระจันทร์หลับไหล ทุกครั้งที่มาหาปู่กับย่า

ขอบคุณส่วนหนึ่งของความทรงจำและเรื่องราวดี จากคุณแม่ ปรางใส เพราะเด็ก 3 ขอบคงจำเรื่องราวไม่ได้เยอะขนาดนี้ และเด็ก 9 ขวบอย่างหนูคงไม่สามารถพิมพ์ให้เป็นเรื่องราว ให้คนอ่านเข้าใจได้ง่ายแน่ แต่....หนูอยากเป็นคนแต่งและเขียนนิทานที่ดีค่ะ

จากคุณ : 9922
เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 10:26:13 A:222.123.231.199 X: TicketID:152747




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com