Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ผมจะจับมือคุณตลอดไป....ใช่ไหม  

ที่นี่....เมืองเล็กๆเหงาๆ ศูนย์รวมนักศึกษานานาชาติ มีนักศึกษาเอเซียคู่นึง ชื่ออะไรไม่ทราบได้ เพราะไม่เคยถาม

ชื่อ ท้าวความไปเมื่อวันแรกที่ผมได้เจอเขาทั้งสองคน วันนั้นเป็นวันแรกที่ผมมาถึงที่นี่ ที่สถานีรถไฟ ผมรอรถของ

ทางโรงเรียนมารับ และผมก็ได้เจอสองคนนี้ เป็นชายคนนึง หญิงคนนึง ลักษณะไม่เหมือนคนจีนทั่วไป (เราสามารถสังเกตุคนจีนที่มาจากแผ่นดินใหญ่ และคนจีนใต้หวัน ฮ่องกง หรือสิงคโปร์พอได้) กล่าวคือ มีการแต่งตัวที่ไม่ใช่แพ

ทเทิร์นเหมาเจ๋อตุง ถ้าคนที่เคยมีประสปการณ์ไปจีน หรือว่ามีเพื่อนชาวจีนจะพบว่า ส่วนมาก ถ้าเป็นผู้หญิง จะชอบใส่กางเกงยีนส์ตัวใหญ่ๆ สีซีด บางคนใส่ขาบาน พร้อมกับ รองเท้าพละ....เรียกว่ารองเท้าวิ่งจะดีกว่า และรองเท้าวิ่ง

ไม่ได้นำสมัยอะไร เหมือนรองเท้าวิ่ง ส่วนผู้ชาย ก็จะมีลักษณะคล้ายๆกัน แต่จะผอมๆหน่อย



พูดซะยาว สรุปว่า พอรถมาผมก็ขึ้นไปพร้อมกับสองคนนี้... ทั้งสองเป็นนักเรียนเหมือนผมนั่นเอง ระหว่างอยู่บนรถ ถึงแม้ผมจะถือคติว่า do not speak unless you can improve the silence ผมก็ขอแหกกฎหน่อยละกัน เลยเริ่มบท

สนทนา คุยกันไปคุยกันมาก็พบว่าสองคนนี้ไม่ใช่คนจีนแผ่นดินใหญ่อย่าง ที่ผมคาดจริงๆ พวกเขามาจากฮ่องกงครับ ดินแดนแห่งหว่องกาไว ผู้กำกับสุดเหงาของผม... ระหว่างบทสนทนา ผมสังเกตุเห็นว่า ผู้หญิงนั่งนิ่งไม่ได้พูด

อะไร แต่มีแววตาอยากรู้อยากเห็น ในขณะที่ผู้ชายก็พูดคุยกับผมธรรมดาๆ ผมจำไม่ได้ว่าคุยเรื่องอะไร แต่ก็ไม่ได้มีสาระอะไรมาก ระหว่างนั้นผมคิดว่า อืม สองคนนี้เป็นอะไรกันนะ...

ระหว่างรอเปิดภาคเรียน ปรากฎว่าผมมีโอกาสได้เจอสองคนนี้บ่อยมาก ทั้งๆที่เราไม่ได้พักอยู่ที่เดียวกัน หรือว่าพักใกล้กัน เผอิญว่าผมพักอยู่ในเมือง และพวกเขาพักอยู่นอกเมือง คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมได้เจอสองคนนี้บ่อยๆ ไม่

ว่าจะริมทะเลสาบ ตรงชอบปิ้งเซนเตอร์ หรือว่า ร้านซุปเปอร์มาร์เกท ....เอาเป็นว่า อาทิตย์นึงผมเจอสองคนนี้โดยบัญเอิญ ห้าวัน และในห้าวัน เป็นสามวันติดต่อกัน โดยมิได้นัดหมาย ความน่าจะเป็นเท่าไหร่ผมไม่ทราบ แต่แค่นี้ก็

ทำให้ผมทึกทักไปได้เองว่า "มันช่างบัญเอิญ(ได้บ่อยๆ)จริงๆ" ทุกครั้ง ผมจะเห็นได้ว่า "ผู้ชายและผู้หญิง กุมมือกันตลอดเวลา"ทั้งเวลาหยุดอยู่กับที่และเวลาเดิน และทุกครั้งที่ผมทักทายเขาทั้งสอง ผมจะได้คุยกับผู้ชายเท่านั้น

ทั้งๆที่บางครั้งผมทักผู้หญิง(ด้วยสายตา และคำพูด) เพราะผมอยากจะทดลอง และก็จะเป็นผู้ชายนั่นแหล่ะที่คุยกับผม โดยที่ผู้หญิงจะมีแววตาอยากรู้อยากเห็นเสมอๆ(ตอนนี้ผมเริ่มสงสัยว่า ผู้หญิงเป็นใบ้เหมือนในหนังเกาหลีหรือ

เปล่า หรือว่ามันเป็นพี่น้องกันวะ แต่ว่าผมกับพี่ก็ไม่เคยเดินจูงมือกันตลอดเวลานะ ..ผมตัดสินด้วยข้อมูลที่มีว่า เขาเป็นแฟนกัน) แล้วผมกับทั้งสองคนก็ไม่ได้เจอกันบ่อยๆเหมือนช่วงแรกๆ จนกระทั่งวันนี้ ผมเห็นสองคนไกลๆเดิน

นำหน้าผมหลังจากผมกลับจากออกกำลังกาย.....ใช่ครับ ทั้งสองเดินจูงมือกันเหมือนเดิม เลยทำให้ผมคิดอะไรบางอย่าง........

ผมคิดว่าทั้งสองคนนั้นจะคิดอะไร....

ผมจะจับมือคุณตลอดไป....ได้ไหม
คุณจะจับมือฉันตลอดไป....ใช่ไหม
เราจะจับมือกันตลอดไป....ใช่ไหม

แล้วผมก็ลองมองย้อนมาที่ตัวเอง ถ้าผมเป็นผู้ชายคนนั้น และผู้หญิงคนนั้นที่คนที่ผมรักมากๆๆ

ผมลองคิดสักครู่ ก็ได้คำตอบสำหรับตัวผมก็คือ ผมไม่ได้คิดตำหนิ หรือตลกทั้งสองคนที่ต้องคอยจับไม้จับมือกันตลอดเวลา ผมกลับเอามันมานั่งคิดสำหรับตัวผมเองว่าผมเป็นแบบไหน นั่งคิดไปคิดมาว่าถ้าผมมีแฟน การแสดง

ความสัมพันธ์แบบไหนที่ผมชอบที่สุด... ก็คงจบลงที่การคล้องแขนมั้ง ตั้งนานแล้ว ผมเป็นคนไม่ชอบเดินจับมือเสียเลย อาจจะจับได้บ้าง แต่ว่าสุดท้ายแล้วก็ต้องจบลงด้วยการคล้องแขนทุกที ที่จริงผมสงสัยมานานแล้วว่าทำไม

ผมไม่ค่อยชอบจับมือถือแขน เพิ่งมาคิดออกว่ามัน(น่าจะ)เป็นแบบนี้

ถ้าเปรียบเสมือนการจับมือคือการผูกเงื่อนไว้ที่มือของทั้งสองคน การคล้องแขนก็คงเหมือนกับโซ่ที่ร้อยกันดึง

แรงๆก็หลุดออกจากกัน แต่ว่ายังพอซ่อมจับมันบิดกลับมาให้อยู่ด้วยกันได้เหมือนเดิม แถมยังมีที่ว่างให้เหล็กทั้งสองซี่ขยับไปมา ใกล้กันบ้าง ไกลกันบ้าง แต่สุดท้ายแล้วก็ยังคล้องกันอยู่ดี ส่วนการผูกเชือกนั้น ยิ่งดึงก็ยิ่งรัดแน่น

พอดึงแรงๆมันก็ขาด ไม่สามารถเอามาต่อกันได้อีก ถ้าเปรียบความสัมพันธ์ของการคล้องแขนกับโซ่แล้ว ผมคงชอบความสัมพันธ์แบบที่เหมือนกับโซ่ร้อยกันมากกว่า ไม่ยึดติด ไม่เหนี่ยวรั้ง ถึงแม้จะห่างกันบ้าง แต่สุดท้ายก็ยังอยู่คู่กัน

อยู่ดี กับผู้หญิงผู้ที่ผมรักมากที่สุด ก็คือคุณแม่นั้น ผมก็ไม่เคยจับไม้จับมือเดินกัน แต่ว่าจะคล้องแขนเสียเป็นส่วนมาก (แน่นอน ผมไปเป้นลูกแหง่ขอคล้องแขนคุณแม่) มันทำให้ผมรู้สึกว่า ถึงแม้ผมจะเตลิดไปไหน แต่สุดท้ายความยืดหยุ่นของโซ่ ก็ค่อยๆดึงผมกลับแน่ๆ แต่ถ้าเป็นเชือก ผมคงโดนกระตุกกลับมากกว่า

มองย้อนถึงความรักที่เรามีให้แก่กัน ที่เราคิดว่าเพราะรักถึงทำแบบนั้น เพราะรักถึงทำแบบนี้ สรุปแล้วมันใช่หรือเปล่า หรือเพียงเพราะว่า เรามีความรักในมุมของเรา สำหรับผมแล้ว ผมมองว่าความรักมีหลายความหมาย ไม่ใช่แค่

ว่ารักคือความห่วงใย รักคือการไม่ครอบครอง สำหรับคนบางคนแล้ว เพราะรัก จึงต้องครอบครองก็ได้ ดังนั้น ผมไม่มีสิทธิ์ไปว่าทั้งสองคนนั้นด้วยมุมมองของผม ความหมายของความรักของทั้งสองคนอาจหมายถึงการจูงมือกัน

ตลอดไป(แน่นอน ผมเห็นว่ามันไร้สาระมากที่ต้องคอยเดินจูงมือกันตลอด) ในขณะเดียวกันผมคงไม่อาจคาดหวังได้ว่าจะไม่ให้มีใครมาวิจารณ์ความรักในความหมายของผม เพราะว่าหลายคนคิดว่าความรักมีความหมายเดียว

ขออโหสิกรรมแก่ความรักที่ผมพลาดในความหมาย มา ณ.ที่นี้ ด้วยครับ

จากคุณ : galadinner
เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 09:14:29




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com