ความคิดเห็นที่ 1 ตอนที่ 2 : มือถือสี่อรัก หลังจากที่ผมได้รู้จักว่าแท้จริงนุ่นคือใคร จากนั้นผมก็ได้รู้จักกับนุมากขึ้น เรื่อยๆ ทุกห้าโมงเย็นของทุกวันผมจะได้รับข้อความ SMS ที่นุส่งมา และก่อนนอนห้าทุ่มของทุกวันก็จะมี SMS ส่งมาด้วยเช่นกัน ที่เป็นเช่นนี้เพราะนั่นเป็นช่วงเวลาโปรโมชั่นที่สามารถส่ง SMS ได้ฟรี จึงทำให้ผมได้รับ SMS ที่ส่งมาเวลาเดิมของทุกๆวัน และผมก็เริ่มรู้สึกว่าจะชินกับเวลาดังกล่าวของทุกวันไปแล้วละสิ การโทรศัพท์เป็นวิธีเดียวที่ทำให้นุได้คุยกับผม เราทำได้เพียงเท่านี้ นุบอกกับผมว่าเค้าเป็นคนที่เชียงใหม่….. แค่ได้ยินคำว่าเชียงใหม่ หัวใจของผมก็พองโตขึ้นมาทันที เชียงใหม่คือที่ทีหลายคนใฝ่ฝันถึง มันคือสถานที่ที่ดูโรแมนติกและสวยงาม เป็นที่ในฝันของใครหลายๆคน ไม่เพียงแค่คนไทยเท่านั้นที่อยากไปจะไปที่นั่นซักครั้งนึงในชีวิต                 แม้แต่ผู้คนที่อยู่บนอีกซีกโลก หากมาถึงประเทศไทยแล้วก็ต่างต้องมีจุดหมายปลายทางเพื่อไปยังเชียงใหม่ด้วยเช่นกัน ผมเองก็ฝันมาตลอดว่าวันนึงผมจะไปที่นั่นสักครั้ง ที่เชียงใหม่อากาศคงจะเย็นสบาย คงแตกต่างจากกรุงเทพอย่างสิ้นเชิง เชียงใหม่ในความคิดของผม คงจะเต็มไปด้วยสิ่งสวยงาม หน้าหนาวอากาศคงจะหนาวเย็นมาก เราคงจะได้ใส่เสื้อกันหนาวที่ตัวหนาๆและมีผ้าพันคอสวยๆซักผืนเพื่อช่วยทำให้รู้สึกอบอุ่นจากบรรยากาศหนาวๆของที่นั่น ผมอดสงสัยไม่ได้ว่านุนั้นจะเป็นคนยังไง จะเหมือนกับที่ผมคิดไว้หรือปล่าว ผมเริ่มจินตนาการและอยากรุ้จักนุมากขึ้นว่าเค้าเป็นยังไง แล้วผมก็เริ่มค้นหาข้อมูลของนุ โดยผ่านการค้นหาของ Google ซึ่งผมใช้ชื่อและนามสกุลจริงของนุเป็นคีย์เวิร์ดในการช่วยค้นหา แล้วผมก็ไม่ผิดหวัง เพราะผมเจอหน้าโปร์ไฟล์ข้อมูลส่วนตัวของนุ ที่เว็บไชท์ของโรงเรียนของเค้าทำไว้ด้วย .. จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 16:29:39

ความคิดเห็นที่ 2 .. นุตอนนี้อายุเพียงแค่ 19 ปีห่างจากผม 5 ปี วันเดือนปีเกิดและที่อยู่ของนุก็ถูกแสดงขึ้นมาด้วย และนี่คือหน้าโปร์ไฟล์นักเรียนดีเด่นของโรงเรียน ......รางวัลรองชนะเลิศการแข่งขันภาษาฝรั่งเศส ของประเทศไทย ที่จัดการแข่งขันขึ้นที่ กรุงเทพ รวมถึงกิจกรรมและรางวัลดีเด่นอีกหลายสิบรางวัลที่นุได้รับมา ผมลองเอารางวัลต่างๆเหล่านั้นมาจัดเรียงในหน้ากระดาษ A4 ดู มัน เกือบจะสองหน้ากระดาษ A4 เลยก็ว่าได้ ทำให้ผมแอบชื่นชมในตัวนุขึ้นมาในใจ หากเมื่อเทียบกับตัวเองแล้ว ผมแทบจะไม่มีอะไรเลย ไม่มีเลยจริงๆ ไม่มีซักรางวัลที่เคยได้รับ ไม่มีแม้แต่กิจกรรมดีเด่นใดๆเลยซักอย่าง ให้ภาคภูมิใจ ด้วยเพราะผมเป็นคนค่อนข้างเก็บตัวอยู่หลังห้อง อีกทั้งเป็นคนที่ขี้อายมากจนเป็นคนไม่กล้าแสดงออก จากรูปของนุที่ผมดูผ่านเว็บไซท์นั้น ทำให้ผมรู้ว่านุเป็นคนที่หน้าตาค่อนข้างดี จนแทบจะพูดได้ว่าหน้าตาดีมาก ใบ หน้าที่ดูเรียวมน สายตาดูคมเข้ม จมูกที่ดูเป็นสัน และริมฝีปากที่เรียวเล็กดูเป็นหยัก ทำให้นุเป็นคนที่ดูดีและหล่อกว่าที่ผมคาดคิดเอาไว้มาก         โทรศัพท์รุ่นที่ผมใช้กับรุ่นของนุที่ใช้อยู่เป็นรุ่นเดียว โดยที่ผมเป็นคนแนะนำให้นุซื้อเอง ในช่วงแรกๆนุ่นจะโทรมาปรึกษาเรื่องมือถือซะส่วนใหญ่ แต่พอเวลานานขึ้น สิ่งที่เราคุยกันมันค่อยๆเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เริ่มมีเรื่องส่วนตัวมากขึ้น เราเริ่มคุยกันถึงสิ่งที่เราต่างคนชอบ เพลงโปรดที่เราชอบฟัง เราแลกเปลี่ยนและแชร์ความรู้สึกกันผ่านการคุยโทรศัพท์ ทำให้เราเริ่มเข้าใจกัน จากเป็นเพียงแค่คนที่ไม่มีความหมายอะไรในชีวิต ความสัมพันธ์ของเรามันเริ่มค่อยๆพัฒนาขึ้นมา จากระยะเวลาสัปดาห์ที่เราคุยกัน มันเริ่มนานขึ้นจนมาเป็นเดือนที่เราคุยกันมา แน่นอนเราเหมือนคนที่เข้าใจกันมากกว่าที่เคย         สำหรับผมแล้วมันก็เป็นความรู้สึกดี แต่ผมยังไม่ได้ชอบนุ ความจริงในตอนนี้ ผมกำลังอยู่ในช่วงที่หัวใจกำลังอ่อนแอสุดขีด เพราะผมเพิ่งจะเลิกกับแฟนคนก่อนมา ใจของผมมันยังมีบาดแผลอยู่ในตอนนี้ ผมเสียใจและผิดหวังกับการโกหกของคนที่ผมรัก มัน เลยทำให้ผมยังไม่พร้อมที่จะเปิดใจรับใครเข้ามา ผมยังจมอยู่กับความรักครั้งเก่า ตอนนี้ใจของผมมันยังปิดอยู่ ยังไม่พร้อมไม่คิดที่จะมองใครๆในตอนนี้ และตอนนี้ผมยังเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ ผมยังไม่พร้อมสำหรับความรักครั้งใหม่…… ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับนุมันเริ่มจะเปลี่ยนไปมากเกินกว่าคนที่คุยกันทั่วๆไป แต่ใจของผมยังไม่คงต้องการใคร………………ผมเลือกที่จะบอกความรู้สึกกับนุด้วยการส่ง SMS ไปบอกกับนุว่า “ปล่อยเราอยู่คนเดียวเถอะนะ ตอนนี้เรายังไม่อยากมีใคร ไม่อยากจะคุยกับใคร” หลังจากนั้นนุก็ได้เงียบหายไป และไม่ส่ง SMS มาหาผมอีก ผมเข้าใจว่านุเองก็คงจะรู้ว่าความหมายของ SMS ที่ผมส่งไปมันหมายถึงอะไร จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 16:33:21

ความคิดเห็นที่ 3 สองวันมาแล้วที่ผมไม่ได้รับ SMS เหมือนที่ผ่านมา เพราะนุเงียบหายไปแล้ว และก็ไม่ได้โทรมาหาผมอีกเลย ช่วงเวลาสองวันหลังจากนั้น ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ขาดหายไป SMS ที่ผมเคยได้รับเวลาเดิมๆของทุกวันก็ไม่มีแล้ว ห้าทุ่มก่อนนอนผมก็อดี่จะหยิบไม่ได้ทหยิบมือถือขึ้นมาเช็คดู แต่ก็สองวันแล้วที่ไม่มี SMS ส่งมา ผมรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก เหมือนกับบางสิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตของเรา เพียงแค่เวลาสองวันหลังจากที่นุหายไปมันรู้สึกเงียบเหงาลงไปอย่างบอกไม่ถูกผมตั้งคำถามและอยากรู้ว่า ตอนนี้นุเป็นอย่างไรบ้างในวันที่เราไม่ได้คุยกัน คำถามที่ผมตั้งขึ้นกับตัวเอง แต่ไม่สามารถหาคำตอบได้ ผมจึงต้องโทรไปหานุเอง สิ่งที่ผมได้รับรู้จากคำพูดของนุทำให้ผมรู้ว่า ที่ผมบอกกับนุไปในวันนั้นมันทำให้นุเสียใจมาก ผมไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่ามันจะมากขนาดนั้น นุสารภาพกับผมว่าหลังจากที่ได้รับ SMS ของผมแล้ว เค้าผิดหวังและเสียใจมาก และก็ทำให้นุต้องร้องให้ เหมือนกับคนที่กำลังอกหัก…… นุเสียใจและระบายกับเพื่อนว่าเค้ารู้สึกเหมือนคนอกหัก จนทำให้ร้องไห้กับสิ่งที่เกิดขึ้น สำหรับผมผมไม่รู้และไม่คิดเลยว่ามันจะไปถึงขั้นนั้น การที่นุเสียใจมากคงเป็นเพราะว่า นุ ได้ให้ใจกับผมทั้งหมดตั้งแต่วันแรกที่เริ่มคุยกับผมแล้ว สำหรับตัวนุมันเริ่มจากร้อย แต่ตัวตัวผมทุกอย่างยังอยู่เพียงแค่จุดศูนย์อยู่เลย หรืออาจเป็นเพราะว่าผมยังปิดใจตัวเองอยู่ จึงไม่ได้รับรู้และสนใจอะไรกับสิ่งที่ผ่านมาเลย บางที่ผมก็สงสัยว่าความผูกพันและความรู้สึกดีๆที่เราคุยกัน บางสิ่งมันอาจจะก่อตัวขึ้นอย่างเงียบในใจผม โดยที่ไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร และผมอาจจะยังไม่รู้ตัวเอง ผมรู้สึกเพียงแค่ว่ามีบางอย่างที่ขาดหาย และรู้สึกเหงาในวันที่นุหายไป จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 16:34:57

ความคิดเห็นที่ 4 #       สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ผมรู้ว่านุได้รู้สึกกับผมมากเกินกว่าเพื่อนไปแล้ว และผมทำให้เค้าต้องเสียใจ ผมอดสงสารเค้าไม่ได้ ผมจึงเลือกที่จะไม่ทำให้นุต้องเสียใจ ผมเป็นคนที่ใจอ่อนและขี้สงสาร ผมทนเห็นใครมีความทุกข์และเสียใจไม่ได้ ผมจึงเริ่มต้นคุยกับนุอีกครั้งและเปิดใจยอมรับในทุกอย่างที่เกิดขึ้น เพียงเพราะความสงสาร!!! นุ : หวัดดีครับพี่ ทอย : เป็นยังไงบ้างสบายดีมั้ย นุ : ไม่ค่อยสบายครับ เพราะเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทอย : อ้าวทำไมละ นุ : พี่รู้มั้ยครับว่าข้อความที่พี่ส่งมามันทำให้ผมเสียใจมาก ผมรู้ว่าพี่ต้องการจะปฏิเสษผม        ผมรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังอกหัก ทั้งๆที่ผมเพิ่งจะรู้จักพี่เอง        ผมเล่าทุกอย่างให้กับเพื่อนสนิทของผมฟังและผมก็ร้องไห้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม        หรืออาจจะเป็นเพราะว่าใจของผมมันชอบพี่ไปแล้ว ถ้าใจของผมมันมีค่าเต็มที่เรื่องความรัก        มันก็คงจะเต็มร้อยแล้วสำหรับความรู้สึกที่ผมมอบให้พี่ไป          ถ้อยคำจากปากของนุที่ระบายกับผม ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนที่ชอบผมได้มากขนาดนี้ กับการเพียงแค่คุยกันแค่ไม่นาน ทอย : ถ้างั้นก็ต้องอย่าคิดอะไรมากสิ ตอนนี้เรายังไม่ได้คิดอะไรเลย ไม่อยากจะให้ต้องเสียใจ         ถ้าเรายังไม่รู้สึกอะไรกับใคร รู้มั้ยว่าราก็จะไม่ฝืนแกล้งความร็สึกตัวเอง อย่าเพิ่งคิดอะไรไปมากเลย         เห็นแก่ตัวไว้มากๆสิ ทำเพื่อความสุขของตัวเองไว้ก่อน นุ  :  นี่แหละครับคือความเห็นแก่ตัวของผม การที่ผมได้ชอบพี่ มันคือการที่ผมเห็นแก่ตัว        ผมทำทุกอย่างเพื่อให้หัวใจของผมมีความสุข เพียงแค่ผมได้ ชอบพี่ต่อไป และนั่นทำให้ผมอดสงสารนุไม่ได้ ผมจึงลองเปิดใจตัวเองให้นุเค้าทำในสิ่งที่ใจของเค้าเรียกร้องต้องการ .... จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 16:45:33

ความคิดเห็นที่ 5 ....     บนท้องถนนที่เต็มไปด้วยรถมากมายและอากาศแสนจะอบอ้าวของกรุงเทพ ผมยืนแออัดยัดเยียดกับผู้โดยสารคนอื่นๆบนรถเมลล์เพื่อที่จะไปต่อรถไฟฟ้าไปยังสยาม วันนี้ผมกำลังจะออกไปสยาม ซึ่งเป็นธรรมดาปกติในวันหยุดสุดสัปดาห์ของผมที่ไม่ค่อยจะไม่มีอะไร นอกจากการไปเดินเล่นหรือดูหนัง เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น ผมใช้อีกมื้อคว้าหาโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋า ในขณะที่อีกมือกำลังโหนราวรถเมล์อยู่ นุ : ฮาโหลหวัดดีครับ ทอย : ดีครับ นอนเพิ่งตื่นหรอเนี่ย ฟังดูเสียงยังงัวเวียอยู่นะเรา นุ : ครับผม ก็นอนดึกอะ เล่นเกมส์ดึกกว่าจะทำภารกิจในเกมส์เสร็จก็เที่ยงคืนกว่าๆแล้ว แล้วพี่ทำอะไรอยู่ครับ เสียงดังจัง ทอย : อยู่บนรถเมล์ครับ กำลังจะไปสยาม อากาศร้อนมากๆเลยที่นี่ นุ : ก็มาเที่ยวที่เชียงใหม่สิ ที่นี่อากาศดีนะ ถึงจะร้อนก็คงจะไม้ร้อนเหมือนกรุงเทพหรอก ทอย : ความจริงก็อยากไป อยากไปนานแล้ว แต่ไม่เคยมีโอกาสเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่อีกนานแค่ไหนถึงจะได้ไป เที่ยวที่นั่น แล้วอีกอย่างก็ไม่มีตังค์ด้วย ถ้าจะไปเที่ยวก็คงจะต้องเก็บตังค์ก่อน นุ : มาเลยครับ มาเที่ยวที่นี่ใช้ตังค์ไม่เยอะอย่างที่คิดหรอก 2 พัน 3 พันก็มาได้แล้ว ที่นี่ไม่เหมือนกรุงเทพค่าครองชีพ     ค่าใช้จ่ายไม่แพงเหมือนกับกรุงเทพหรอกครับ มีตังค์ไม่กี่บาทก็กินข้าวอิ่มแล้ว ทอย : เอาไว้พร้อมก่อนละกันนะครับ แต่ไม่รู้ว่าจะอีกนานแค่ไหน บางที่อาจจะอายุ 40 แล้วมั้งถึงจะได้ไปที่นู่น นุ : แล้วพี่ส่งข้อความมาบ่อยๆนี่เบื่อบ้างมั้ยครับ ทอย : ไม่เบื่อเลย มันมาจากความรู้สึก คิดถึงก็ส่งไป ก็แต่คนรับสิจะเบื่อซะก่อน นุ : ไม่เบื่อหรอกครับ จะดีใจมากกว่าถ้าจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป กลัวว่านานๆเข้ามันจะค่อยหายไปมากกว่า ทอย : ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ทุกอย่างที่เคยเป็นในวันนี้มันก็จะเหมือนเดิม ไม่มีทางเปลี่ยนไปหรอก รอดูสิ นุเริ่มแนะนำเชียงใหม่ให้ผมรู้จักและเริ่มชวนผมเพื่อชวนไปเที่ยวที่เชียงใหม่ แต่สำหรับผมแล้ว มันยังดูเป็นเรื่องที่ไกลเกินตัวอยู่ดี       เราคุยกันมาได้สามเดือนแล้ว ความรู้สึกของผมเปลี่ยนจากความสงสารไปแล้วในตอนนี้ ความรู้สึกระหว่างเราตอนนี้ดูเหมือนเราเป็นคนพิเศษซึ่งกันและกันไปแล้ว มันพัฒนาจนมากกว่าคำว่าเพื่อนคุยไปแล้ว สำหรับผมแล้วการที่ผมจะรักใครซักคนมันไม่ได้ใช้เวลาเพียงแค่สั้นๆวันสองวันเท่านั้น การที่ผมจะรักใครซักคนมันต้องมาจากความผูกพัน ความ รู้สึกดีๆ ที่มาจากหัวใจ มันอาจจะต้องใช้เวลาบ่มเพาะจนแน่ใจว่า ผมรักใครซักคนและเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาจากหัวใจของผมเท่านั้น การที่ผมบอกรักใครซักคนออกไป นั่นคือใจของผมรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ            ผมเลือกที่จะปล่อยหัวใจตัวเองไปกับสิง่ที่เกิดขึ้น มันค่อยๆเติบโตช้าๆจนพัฒนามาเป็นความรู้สึกที่เรียกว่า “รัก” ผมมั่นใจแล้วว่านี่คงจะเป็นความรักครั้งใหม่ที่เกิดขึ้นของผม วันที่ 30 กันยายน 5 ปีที่แล้ว ผมจำวันนี้ได้ดี เป็นวันที่นักชกชาวไทยจะไปขึ้นชกเพื่อรักษาเข็มขัดแชมป์โลก ผมยึดวันนั้นเป็นวันสำคัญและนับถอยหลังไปกับนักชกคนนั้น ก่อนวันที่กำหนดจะมาถึง ทุกๆเย็นหลังเลิกงาน ผม จะเห็นโฆษณาทางทีวี ถึงการมุ่งมั่น ฝึกซ้อม เพื่อเตรียมพร้อมของนักชกคนดังกล่าว มันไม่ใช่แค่วันที่นักชกไทยจะไปรักษาเข็มขัดแชมป์โลก แต่ 30 กันยายน คือวันเดียวกันที่ผมจะเดินทางไปเชียงใหม่ ผมเองก็รอคอยการมาถึงของวันนั้นเช่นกัน ........ จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 16:50:22

ความคิดเห็นที่ 6 .. ด้วยความที่ผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะเปิดเผยในสิ่งที่ผมพูด ผมเป็นคนชอบพูดคุยกับคนอื่นๆ จึงมีคนเข้ามาคุยกับผมอยู่บ่อยๆ พี่แมนก็เป็นคนที่ผมพูดคุยด้วยอยู่บ่อยๆ ผ่านทาง MSN 1 เดือนก่อนวันเดินทางไปเชียงใหม่จะมาถึง พี่แมนชวนผมไปทานข้าวและนัดเจอกับผมครั้งแรกจากที่เคยคุยกันผ่าน MSN มานาน ซึ่งผมก็ตอบตกลง และไปตามที่พี่แมนนัดผม ในขณะที่เรากำลังนั่งทานในร้านอาหารอยู่ พี่แมนบอกกับผมว่า มีความรู้สึกดีๆให้กับผม และชอบรู้สึกชอบผม แต่ผมคงจะรับมันไว้ไม่ได้ เพราะผมไม่ได้คิดเช่นนั้น เมื่อผมได้เลือกใครอีกคนไปแล้ว ผมไม่อยากจะให้ความหวังใครอีก และไม่อยากทำร้ายให้ใครต้องเจ็บด้วยการให้ความหวังของผม มันอาจจะเป็นการทำร้ายจิตใจอย่างมากที่ผมตอบปฏิเสธไป ผมบอกพี่แมนว่าผมมีคนที่เลือกแล้ว ผมไม่อยากจะทำให้ใครต้องเสียใจทั้งนั้น ตัด ใจตอนนี้ถึงแม้มันอาจจะทำให้ต้องเจ็บปวด แต่คงจะเป็นความรู้สึกเจ็บปวดสั้นๆที่เกิดขึ้นเพียงแค่วันนี้ มันดีกว่าที่จะปล่อยให้ทุกอย่างมันสายไปมากกว่านี้ ผมไม่อยากให้ใครต้องมาเสียใจในภายหลัง ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกดีที่ต้องทำร้ายจิตใจใครแบบนั้น ผมเองคงเป็นคนที่ใจร้ายมากสินะ แต่ผมคิดว่าสิ่งที่ผมทำมันคือความถูกต้องที่ควรจะทำ และการที่ผมเลือกใครซักคน ผมก็จะดูแลเอาใจใส่เค้าให้ดีที่สุด เท่าที่ผมจะทำได้ พี่แมน : ทอยตอนนี้มีใครอยู่รึปล่าว ทอย : อืม ทำไมละครับ พี่แมน : ทอยจะคบกับพี่มั้ย พี่รู้สึกดีกับทอยนะ ทอย : พี่แมนครับ สำหรับพี่แล้ว พี่ก็เป็นคนที่ดูดีในสายตาผมนะครับ ผมเองก็ไม่ได้ไม่ชอบอะไรในตัวพี่เลย หากเพียงแต่ ว่า ผมคิดว่าตอนนี้ผมมีคนที่ผมเลือกเค้าแล้ว และผมเพิ่งตัดสินใจไม่นานนี้เองครับ พี่แมน : รู้จักกันที่ไหน นานรึยัง ทอย : รู้จักกันในเนตครับ ก็โทรหากันประจำ แต่ยังไม่เคยเจอกันหรอกครับ พี่แมน : แล้วเค้าอยู่ที่ไหนละ ทอย : เชียงใหม่ครับ ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้ชอบเค้าหรอก แต่ก็คุยกันมาได้นานซักระยะแล้ว ทุกครั้งที่เราคุยกัน มันทำให้ผม รู้สึกอบอุ่น และรู้สึกดี ผมคิดว่าผมเลือกเค้าแล้ว พี่แมน : กรุงเทพ – เชียงใหม่ ไม่คิดหรอว่ามันไกลกันนะ ระยะทางก็ไม่ใช่ไกล้ๆ ถ้าจะคบกันจริงๆมันเป็นเรื่องยากนะ มัน ไม่ง่ายหรอกสำหรับคนสองคนอยู่ไกลกัน อุปสรรคมันเยอะนะ ทอย : ไม่รู้สิครับ ผมไม่สนใจมันหรอก ไม่ว่ามันจะไกลแค่ไหนก็ตาม ผมรู้เพียงแต่ว่า ผมรู้สึกดีกับเค้า แล้วอีกอย่าง เค้าก็เป็นคนที่เข้ามาทำให้ใจของผมหายดี เป็นกำลังที่ทำให้ผมลุกขึ้นมามีรอยยอ้มได้อีกครั้ง เค้าดีต่อผมและทำให้ผม รู้สึกดีครับ ผมเลือกเค้าไปแล้ว ผมเลือกใครแล้วผมก็จะทำให้ดีที่สุด สิ่งที่ผมพูดออกไปมันคงจะทำร้ายความรู้สึกของคนที่ชอบผม ผมรู้ดีว่ามันทำร้ายจิตใจ ผมอาจจะเป็นคนที่ใจร้ายเกินไปรึปล่าว ผมคงจะพูดได้เพียงแค่คำว่า ขอโทษครับ…………… ... จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 16:51:31

ความคิดเห็นที่ 7 ... หลังจากวันนั้นพี่แมนก็ยังโทรมาหาผมอยู่เหมือนเดิม ผมยังย้ำคำเดิมอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้พี่แมนต้องคิดกับผมเกินมากกว่าที่ใจผมจะรู้สึกได้ เพราะใจของผมตอนนี้ผมได้ให้กับนุไปแล้ว ผมรอเพียงอย่างเดียวคือวันที่ผมจะไปเชียงใหม่ ผมกับนุใช้ช่วงเวลาที่เหลือก่อนวันที่เราจะได้พบกันมาถึง ด้วยการโทรหาทุกคืน ห้าทุ่มของทุกคืนเป็นเวลาที่ผมจะต้องรอโทรศัพท์จากนุ หรือบางทีถ้าผมหลับไปก่อนผมก็จะตื่นขึ้นมา เพราะนั่นเป็นช่วงเวลาที่เราตกลงกัน ผมปล่อยให้นุได้ทำการบ้านและเล่นเกมส์ ส่วนหลังจากห้าทุ่มจะเป็นช่วงเวลาที่เราใช้คุยกันแทนความคิดถึง นุมักจะแกล้งผมทางโทรศัพท์บ่อยด้วยการให้ผมบอกว่าคิดถึง แต่ผมไม่พูดหรอก เพราะผมขี้อายมาก ยิ่งคาดคั้นผมก็จะยิ่งไม่พูด ยิ่งผมไม่พูดนุก็จะยิ่งแกล้งให้ผมพูดมากขึ้น แต่ผมก็จะแอบพูดเวลาที่นุเค้าเผลอไม่ตั้งใจฟังผมแทน หรือบางที่อยากให้ผมร้องเพลงให้ฟังนุก็จอขอให้ผมร้อง แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเวลาที่คนขอร้องหรือตื๊อผม ผมจะไม่ทำ แต่ผมจะไปทำตอนที่เค้าไม่สนใจแทน เราต่างรู้ดีในความเป็นจริงเรื่องความรักของเราสองคน คงจะไม่มีใครที่จะเข้าใจความรู้สึกของเรา เราอยากจะจับมือกันเพื่อหนีไปให้ไกลแสนไกล ที่ที่มีเพียงเราสองคนเท่านั้น ไม่ต้องรับรู้ความจริงใดๆ ไม่ต้องแคร์ความรู้สึกคนรอบๆข้างว่าเค้าจะคิดยังไง การที่เรารักกันมันเป็นเรื่องที่ที่ผิดและไม่ยอมรับของคนในสังคม มันช่างยากและทำให้รู้สึกเหนื่อยเหลือเกินกับความเป็นจริงที่เป็นอยู่ คงจะไม่มีใครที่จะเข้าใจความรักของเราได้ดีพอ คงมีเพียงแค่เราสองคนเท่านั้นที่เข้าใจ เราเองต่างรู้ดีว่าทุกคนรอบข้างรักและหวังดีในตัวเรา เค้าจึงอยากจะเห็นเราเป็นในสิง่ที่เค้าคาดหวังและคิดว่ามันดีและถูกต้อง แต่สิ่งที่ทุกคนคาดหวังนั้นมันกลับเป็นการบีบคั้นและกดดันความรู้สึกที่แท้จริงของเรา แล้วจะต้องทำเช่นไร……. ในเมื่อทางที่เลือกมันมีไม่มีกี่ทาง ถ้าเราเลือกที่จะทำตามอย่างที่ทุกคนคาดหวัง มันก็จะทำให้คนรอบข้างมีความสุข แต่มันหมายถึงเราจะต้องแบกรับความเจ็บปวดทั้งหมดใว้ที่ตัวเราคนเดียวไปทั้งชีวิต หรือหากเราเลือกที่จะทำเพื่อความสุขของตัวเราเองโดยไม่ต้องแคร์คนอื่น แต่มันหมายถึงการไม่ยอมรับจากคนในสังคมและคนรอบๆข้าง สิ่งที่เราเป็นอยู่มันช่างยากเหลือเกิน นี่เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้เราเข้าใจกันและกันมากกว่าคนอื่น เราไม่ได้เลือกที่จะเกิดมาเป็นแบบนี้ มันไม่ใช่ความตั้งใจที่จะเป็นหรือเพราะความอยากให้มันเป็น ถ้าผมเลือกได้ผมก็คงอยากจะเป็นเหมือนกับคนปกติทั่วๆไป เวลาที่ผมมีความรักผมก็ได้แสดงออกถึงความรักให้กับคนที่ผมรักได้อย่างไม่ต้องปกปิดมันไว้อย่างนี้ คงจะไม่มีใครที่จะเข้าใจถึงความรักของเราสองคนที่มีให้กัน ......... ..... .. จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 16:52:27

ความคิดเห็นที่ 8 อับเดทตอนที่สองเสร็จแล้วครับ ได้เวลาไปออกกำลังกายแล้ว..... จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 16:52:58

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณสำหรับหลังไมค์อวยพรในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่นะครับ  ขอให้คุณ จขกท. เจอแต่สิ่งดีดี มีความสุขสมหวัง สุขภาพแข็งแรง รวยๆ เช่นกันนะครับ^^ เด๋วกลับมาอ่านเรื่องเล่าต่อวันหลังนะครับ ติดไว้ก่อน เช่าหนังสือมาอ่านเยอะเลย อิอิ พูดถึงการออกกำลังกาย ผมโดดมา2อาทิตย์แร่ะ พรุ่งนี้ต้องไปให้ได้!!! จากคุณ : ZoXigEn_TonG_x_Zhi เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 01:12:07

ความคิดเห็นที่ 10   ตามไปอ่านในบล็อกมาแล้วนะคะ ^^ อย่าลืมอัพต่อไวๆน๊าาา จากคุณ : K.TNG เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 19:47:09 A:125.24.100.231 X: TicketID:201002

ความคิดเห็นที่ 11 มาอ่านแล้วคะ รวมถึงบทที่ 1 แล้วด้วยนะคะ จากคุณ : mypim เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 12:28:17

ความคิดเห็นที่ 12   มาเขียนต่อได้แล้วค่ะ รออ่านอยู่ จากคุณ : kanya_pura เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 22:39:09

ความคิดเห็นที่ 13 ฮ่าๆๆ ผมก็รออยู่่เหมือนกันครับ... คุณ รู้สึกเหมือนกันกะผมเลย... จากคุณ : at_thajak เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 20:12:37

ความคิดเห็นที่ 14 ครับ ผมลงตอนที่ 3 ในกระทู้แล้วครับ ตอนนี้เริ่มเขียนตอนที่ 3 บทที่ ละครับ จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 20:16:05