ความคิดเห็นที่ 1 อ่านอักษรกลอนกานท์งานคนเพี้ยน เเสนพากเพียรเขียนถ้อยร้อยพจน์หวาน เป็นกวีที่ลึกตรึกดวงมาน ช่างผสานสร้างสรรค์อย่างมั่นคง แหะๆ. คนเพี้ยนขอเเจม.. จากคุณ : อาลีอา เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 23:40:52

ความคิดเห็นที่ 2 รีบมาใหกิ๊ฟก่อน เพราะคิดถึงมากๆ ไม่รู้เป็นไงซีนะ ถึงชอบ คนเพี้นคนนี้จัง..แหะ เดี๋ยวมาต่อกลอนด้วยค่ะ ตอนนี้ ยังไม่เพี้ยนเลยเขียนไม่ออก..555 จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 08:18:45

ความคิดเห็นที่ 3 คุณจังขัง เขียนกลอน สุนทรพจน์ ช่างงามงด หมดจด และสดใส ความงามของ กลอนคุณ นั้นอุ่นใน หฤทัย ยามอ่าน ตระการตา ใครเขาว่า จังงัง นังคนเพียน คนนั้นเปลียน คอนแทค แหกตาขวา แหกตาซ้าย ดูเถิด กลอนเลิศค่า ไม่ธรรมดา เลยหนอ บอใบไม้ มาร่วมวงเขียนกลอนครับผม ^^ จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 10:44:16

ความคิดเห็นที่ 4 อั่นแน่ คุณอาลีอา .. ลงรูปถูกใจจังแฮะ ถ้านุ่งกางเกงลิงสีชมพูเช้ากับใบหู คงจะเจ๋งเป้งมากกว่านี้อีก แต่ก็ดีนะ ได้บรรยากาศลิงเพี้ยนดี  ๕๕๕ .. คุณสุนันยา .. รูปผีเสื้อดอมดมดอกไม้ จังงังเคยเอามาเขียนเป็นบทอัศจรรย์นะ รึ ว่า จะชวนอัลมิตราทำกิจกรรมอัศจรรย์หนอ ๕๕๕ .. เข้าท่า เข้าทางวุ๊ย มาบอกว่าคิดถึงกันอย่างแรงนี้  ระวังน๊า จะตกหลุมรักโดยไม่ทันรู้ตัว คุณยิ้มแย้ม .. กลอนที่จังงังเขียน ไม่ได้มีความพิถีพิถันสักเท่าไหร่ ประมาณว่า จังงังเป็นคนไม่มีสาระ กลอนก็เลยไม่มีสาระตามไปด้วยน่ะ แต่อย่างนี้ก็ดีนะ เป็นลิงเป็นค่างไม่ต้องวางมาด ไม่ต้องติดหรูชูป้ายหรา แค่ใส่กางเกงตัวเดียวก็ดูดีแล้ว ฮาฮา .. เอ .. ตามประเพณีแถวนี้เขาต้องเขียนบทร่ำลายังไงกันนะ สวัสดีคร๊าบ ขอบคุณคร๊าบ สำหรับผู้ที่แวะเวียนเข้ามาอ่าน ทั้งที่แสดงตัวและไม่แสดงตัว และที่จะเข้ามาอ่านในช่วงหฤหรรษ์ต่อไป  ฮี่ ฮี่ ฮี่ ... สงสัยจะติดบทโจ๊คเกอร์มากเกินไปซะแล้ว จากคุณ : จังงัง เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 11:31:50

ความคิดเห็นที่ 5 ฤาลำพังระหว่างเส้นเช่นทางฝัน มีขอบคั่นจริง-ลวงช่วงอ่อนไหว ครั้นบรรจงกลั่นกรองทำนองใจ ด้วยหลงใหลร่ายรจน์ “บทกวี ” ย้ำหยดหมึกตรึกตรองพ้องอักษร เป็นกาพย์กลอนฉันท์โคลงบ่งศักดิ์ศรี ใช่เปรื่องปราดช่ำชองพ้องเมธี เพียงผู้ที่หัดเขียนเลียนแบบครู จำจดจารวรรณกรรมนำสื่อสาร แม้กลอนกานท์ไร้ค่าน่าอดสู ขอร่ายเรียงจินตนาการอันพร่างพรู ด้วยความรู้ยังด้อยคอยพากเพียร วอนเหล่าครูเมตตามาสอนสั่ง ศิษย์จักฟังอรรถรสแล้วจดเขียน ยากฤๅง่ายเพียงใดใคร่ร่ำเรียน ด้วยคำเธียรล้ำค่ากว่าสิ่งใด จักบรรจงบ่งความตามภาษา แล้วรจนาเรียงร้อยถ้อยขานไข อาจผิดเพี้ยนฉันทลักษณ์มากเพียงใด ขออย่าได้มองเห็นเป็นเศษกลอน ด้วยยังหมายขยายความตามใจหวัง หากพลาดพลั้งเผลอบ้างโปรดสั่งสอน อย่าเหนี่ยวรั้งอุดมการณ์ให้สั่นคลอน แม้นบทกลอนเป็นดั่งเกร็ด “..เศษกวี.. ” .......*~~~*~~~*~~~**~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*....... ...*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*... .......*~~~*~~~**~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*....... ......*~~~*~~~**::::( ( ( O ) ) )::::*~~~**~~~*...... .......*~~~*~~~*~~~**~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*....... ...*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*... .......*~~~*~~~**~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*....... จากคุณ : ลิงโง่โชว์กลอน (จังงัง) เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 11:53:23

ความคิดเห็นที่ 6 เขียนกลอนดีมีที่ไหนอย่างไรเพี้ยน คุณจังงังปลั่งเสถียรเพี้ยนตรงไหน หากคุณเพี้ยนแล้วผมล่ะจะเป็นไง คงจะเพี้ยนเวียนไปใหญ่ไกลห่างคน จากคุณ : เสกคาถา เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 18:22:41

ความคิดเห็นที่ 7 * แม่ยกเมี้ยนรำแต้มาแหหาบ   ด้วยเชิงกาพย์กลอนเกลาช่างเย้ายวน ถูกอกถูกใจได้ซื่นม่วน   แม่ร่ายล้วนรำร่ามาหน้าตั้ง บรรจงหยิบแบงค์ร้อยห้อยมาลัย สวมใส่ซอกศอพ่อจังงัง วางเชี่ยนหมากลากเสื่อลงบรรจงนั่ง เคี้ยวหมากพลางอ่านเอิ้นเพลินสบาย!* จากคุณ : ยายเมี้ยนเพี้ยนกว่า (แม่ปลื้ม) เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 20:20:14

ความคิดเห็นที่ 8 เขียนได้เขียนดี เขียนแล้วมีความสุข แต่งกลอนตอนปลดทุกข์ แต่งสนุกถ่ายซำบาย นั่งคุยกับนางฟ้าเมื่อคราก่อน นางฟ้าป้อนกลอนทิพย์จิบแล้วขม เลือดร้อนพล่านหวัดหายคลายระทม เพี้ยนล่มจม ขมฟ้า ทะลายโจร จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 21:39:52

ความคิดเห็นที่ 9 คุณเสกคาถา .. เสกคาถามาเขียนเป็นกลอนเก้า บวกกลอนแปดของเราช่างเข้าท่า แปดกับเก้าเคล้าคลอล้อเจรจา ไว้งวดหน้าทุ่มแน่แค่หมดตัว คุณแม่ปลื้ม .. มีพวงมาลัยร้อยแบงค์แบบนี้ เขียนขาดใจเลยเนี่ย ว่าแล้วรีบปะแป้งให้หน้าผ่องแล้วรำนวยนาดออกจากม่านมา เชิ๊บ เชิ๊บ .. คล้ายลิเกต้องกลมนตร์แม่ปลื้ม จนเกือบลืมเนื้อร้องทำนองไหน เห็นเคี้ยวหมากอยากบ้างรสอย่างใด แม่จักให้ไหมหนอหากขอชิม จากคุณ : จังงัง เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 22:09:08

ความคิดเห็นที่ 10 คุณแสงแรก ประดับดิน .. จิบนางฟ้าพาลขมข่มโมโห จิบลีโอยี่ห้อนี้ดีกว่าไหม จิบแล้วจูบลูบคลำจนหนำใจ รับรองได้อร่อยลิ้นกลิ่นละมุน ว่าจะชวนไปโรงเบียร์เยอรมันจั๊กโหน่ย แต่ที่โรงเบียร์ ไม่มีลีโอขาย ที่สำคัญ ไม่มีปฏิทินแจกอีกต่างหาก จากคุณ : จังงัง เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 22:27:48

ความคิดเห็นที่ 11 สวัสดีค่ะ คุณจังงัง อดมาแจมด้วยไม่ได้ ยินดีที่ได้อ่านกลอนของคุณค่ะ ^^ ฉันขียนกลอนบอกกล่าวเล่าบางอย่าง ที่ยังค้างคาใจไม่รู้หาย บางสิ่งซึ่งมิอาจกล่าวง่ายดาย ได้เพียงถ่ายทอดมาเป็นบทกลอน เคยอยากเขียนกลอนกานท์หวานวิจิตร เช่นประดิษฐ์โดยครูรู้อักษร แต่ยิ่งเพียรยิ่งคล้ายไร้ทางจร ชอบแบบก่อนแบบที่เป็นเช่นตัวเรา ขอพอใจผลงานที่ตนสร้าง คนมองต่างออกไปก็ช่างเขา คงดีกว่าเขียนให้เขาชื่นชมเรา แต่กลับหาเงาตนค้นไม่เจอ แต่ยินดีน้อมรับคำติชม มาผสมแก้ไขที่เออเร่อ ยังเขียนกลอนแม้บางครั้งฟังเบลอเบลอ หวังเพียงเจอคนรู้ใจได้รับฟัง แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 53 01:44:32 จากคุณ : Life's for Rent เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 01:44:10

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ Life's for Rent  .. ถ่ายทอดความรู้สึกเป็นบทกลอนที่ชัดเจนดีจัง นอกจากตัวเองที่เขียน ก็หวังเพียงคน ๆ เดียว ที่เห็นความสำคัญของบทกลอนนั้น เจ๋งในเนื้อคำ จ๊าบในความรู้สึก ยอดเยี่ยมกระเทียมโทนเหลือเกิน           ทั้งโคลงกาพย์กลอนฉันท์สารพันคิด           สู้มุ่งมั่นหมั่นประดิษฐ์หัดขีดเขียน           เรียงประโยคโยกความจนงามเนียน           ฉันพากเพียรเพื่อใครหวังใดกัน ?           แท้บุคคลคนเดียวหมายเกี่ยวข้อง           แค่เขาเหลือบแลมองร้อยกรองฉัน           หลากคำชมบนลานกลอนค่อนกำนัล           ฤๅ เทียบขวัญหนึ่งเขาอ่านเข้าใจ ถ้าเป็นอย่างตอนบทจบกลอนนี้ได้ก็ดีสิเนอะ   พอจะคุ้มกับการลงทุนเขียนหน่อยนึง แต่ถ้าหากเป็นอีกอย่างที่ตรงข้ามนี่สิ มันอาจจะทำให้คนอื่นเห็นว่าเพี้ยน ร่าเริง บ้าบอ อยู่คนเดียว แถมจังงัง เข้าข่ายอาการนี้ซะด้วย ฮา ฮา .... สวัสดี สวีดัด แด่มิตรรักแฟนกลอนทั้งหลาย ทั้งแม่ยก พ่อยก ยกมาทั้งครอบครัว พร้อมพวงอะไร (เอ๊ย พวงมาลัย) ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง อาจส่งผลให้อารมณ์แปรปรวน ฝนหลงฤดูได้ .. ไม่แปลก คนหลงจังงัง .. สิแปลก ว่าแต่ว่า .. มีซะที่ไหนกัน บอกแล้วไง   คนดีดีเขาไม่เขียนแบบนี้หรอก นอกจากคนบ้าบอ .. ฮี่ ฮี่ .. จากคุณ : จังงัง เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 07:43:06

ความคิดเห็นที่ 13 นึกถึงบทละคร "พระมะเหลเถไถ" ของคุณสุวรรณ จิครับ จะได้สบายใจ เมื่อนั้น                                      พระมะเหลเถไถมะไหลถา ชวนนางตะแลงแกงมะแลงกา      ขึ้นทรงคชามะลากุย ออกจากพลับพลามะลาโท           ทวยหาญขานโห่ตะลุ๋ยปุ๋ย ดัดดั้นบั่นบุกปุกปุย                      อีหลุกขลุกขลุยมะลุยปอย ... ท่านเขียนอย่างนี้ก็นับเป็นกวีนะ อิอิ =============== เขียนไปเถิดเกิดมาแล้วบ้าเขียน เห็นเล่าเรียนกันจังกับหนังสือ หอบตำราบ้าบอแล้วอออือ แล้วยึดถือทำไมถ้าไม่ทำ วางมือบนแป้นพิมพ์นิ้วจิ้มดะ ด้วยฉันทะละลักษณ์เพราะอยากขำ ใครว่าเหลวไม่หรูก็กรูจะรำ พิมพ์สักหมื่นล้านคำสะใจจ๊อด อ๊ะ อะ อา โย้ โอ้ โอ อะ อา อ๊อด อ๊อด อะ อา โย้ โอ้ โอ อ๊อด อ๊อด อ๊ะ อะ อา โย้ โอ้ โอ อะ อา อ๊อด อ๊อด อะ อา โย้ โอ้ โอ อ๊อด อ๊อด แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 53 10:19:22 จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 10:14:57

ความคิดเห็นที่ 14 คุณจังงัง เขียนกลอน อ้อนภาษา อักษรา พาชื่น ระรื่นไหล อ่านแล้วเพลิน เกินหัก รักด้วยใจ รักมีให้ ในถ้อยรส บทกวี ไยถ่อมตน เป็นคนเพี้ยน เขียนกลอนร่าย ทุกถ้อยที่ บรรยาย คล้ายหมองศรี อย่าสนใจ ใครว่าเรา เขาใช่ดี เพราะบางที เขาอาจแย่ แพ้ทางเรา เขียนกลอนเจ๋งแบบนี้ มีคนว่า สุนันยา  ยิ่งแย่ แพ้ใครเขา แต่นี่แหละ คือผล ตัวตนเรา ไม่ได้เรียน แบบเขา หรือแบบใคร เพี้ยนไปบ้าง สร้างสรรค์ ผลงานอ่าน ยิ่งตระการ งานเขียน เทียบเซียนได้ จังงังเป็น แบ[นี้ ซิได้ใจ อ่านเท่าไหร่ ไม่รู้เบื่อ เชื่อไหมเอย/.. แหมๆ หลงรักจังงัง แล้วมันผิดตรงไหนนนนนน....555   กลับมาต่อกลอนตามสัญญาค่ะ..มะวานยุ่งจริงๆอิอิ แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 53 15:35:11 จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 10:35:05

ความคิดเห็นที่ 15 คุณศาลายา .. "พระมะเหลเถไถ" เป็นเรื่องราวที่สนุกนะ เคยฟังที่เป็นเพลงด้วย แถมตอนเด็ก ๆ ก็ชอบร้องเหมือนกัน ท่อนนี้แหล่ะ อีกชุดก็ชอบนะ "ระเด่นลันได" พระเอก นางเอก อะไรจะขี้เหร่ปานนั้น ขี้ทูดชอบกล ๕๕๕ แต่สองเรื่องนี้ก็เหมาะกับจังงังนะ  อ่านแล้วดูเหมือนพระเอกไม่ได้หล่อระดับเทพซะเท่าไหร่ พอที่จะให้ฝันเคลิ้มได้บ้างล่ะ ฮา เพียรทอถักอักษรเป็นกลอนสวย เทียบเสียงด้วยดนตรีมีจังหวะ ทิงทิงทิง..ทิงทิง..ทิงทิงจ๊ะ เท่งเท่งป๊ะ..เท่งเท่ง..บรรเลงกัน ทิงทิงทิง..ทิงทิง..ทิงทิงจ๊ะ เท่งเท่งเท่ง..เท่งป๊ะ..จังหวะผัน เสียงดนตรีมีจังหวะสารพัน แต่กลอนฉันขอโทษมีโหมดเดียว โหมดน้ำเน่าเคล้าผสมอารมณ์จืด เขียนเป็นพรืดมากล้นไร้คนเหลียว สมญา"ปาด" เขาเหน็บเจ็บนักเชียว ถ้าได้เคี้ยว"กระดูกปราชญ์"อาจเก่งตาม จากคุณ : จังงัง เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 11:44:39

ความคิดเห็นที่ 16 รอปูเหลียวน๊า คุณสุนันยา จะรักกันทั้งที ก็ต้องไปบิ้วอารมณ์ให้สมจริงสมจังก่อน ตอนนี้ท้องร้องโครมครามกระแทกจนผนังสะดือแทบพัง "กินก่อน จีบทีหลัง"  .. คติพจน์ ล่ะ จากคุณ : จังงัง เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 11:46:11

ความคิดเห็นที่ 17 แต่ที่เห็นเป็นกลอนบทตอนสวย ช่างงามด้วยเจรจาพาหวั่นไหว ใครไหนอื่นเขาเห็นเป็นเช่นไร ฉันเทใจให้จังงังหลายครั้งนัก หากว่าเพี้ยนขอเรียนอยากเพี้ยนตาม เพี้ยนงดงามตามดูรู้ประจักษ์ เท่งเท่งป๊ะ! ทิงนองนอย คอยนำชัก จึงสมัครเพี้ยนบ้างอย่างจังงัง.. โหยยยยยยยย ...ชอบใจ.. จากคุณ : คุณแม่ใจดี เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 14:43:25

ความคิดเห็นที่ 18 นี่ขนาดเพี้ยนนะคะ ถ้าไม่เพี้ยนจะขนาดไหนเนี้ย อิอิ สวัสดีปีใหม่เจ้าค่ะคุณพี่ลิง จากคุณ : รวยระรินกลิ่นชา เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 14:48:31

ความคิดเห็นที่ 19 คุณสุนันยา .. โทษที ตอบช้าไปหน่อย อย่าถือสากันนะ พอดีว่า สงสัยจะเกิดจราจลในระบบย่อยอาหาร ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่าส่วนไหนมันก่อหวอดประท้วง แต่ก็ทำให้เกิดความรู้สึกปั่นป่วนชวนเข้าโรงหมอ รอดมาเนี่ย อยู่ได้อีกกี่นานก็ไม่รู้นะ เลิกรักจังงังเหอะ ปูเหลียวจะเป็นหม้ายในเน็ต น๊า เป็นคนเพี้ยนเขียนกลอนดูอ่อนหัด ไม่เจนจัดสมมาตรมาตรฐานเขา คล้ายคนโง่โอ่ถ้อยหนอยตัวเรา ยากเทียบเท่าเหล่าเมธีเชี่ยวฝีมือ คุณแม่ใจดี .. ชอบนามแฝงนี้จัง ชอบคนใจดี ไม่ชอบคนใจร้าย ในเน็ตนี้มีมากมายจังเลย เคยโดนทำร้ายจากคนใจร้ายมาแยะ และก็เคยรู้สึกสะเทือนใจกับคนใจดีมาบ้างนิดหน่อย (เอาไงกันดีนะ) แต่คนใจดี ย่อมดีกว่าคนใจร้ายแน่นอน ..  เมตตาจังงังมาก ๆ หน่อยนะ นึกว่าสงสารลูกลิงตาดำ ๆ ละกันเน้อ คุณคนสวย (รวยระรินกลิ่นชา) .. สวัสดีวันอาทิตย์ที่ 9 เน้อ นี่ล่ะ คนเพี้ยน ถ้าไม่เพี้ยน ก็ใกล้บ้า กระมัง จากคุณ : จังงัง เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 03:00:27

ความคิดเห็นที่ 20 อ่านกลอนเพี้ยนเขียนไวได้ความรู้ ยังดีกว่ากลอนประตูไม่เอาไหน รู้ตัวดีว่าเพี้ยนอย่าเปลี่ยนใจ เขียนเรื่อยไปเพี้ยนเป็นเพี้ยนเขียนมันเอย. จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 09:28:49

ความคิดเห็นที่ 21 คุณเจียวต้าย .. คนเพี้ยน คนบ้า คนเมา .. สามประเภทนี้ ยากนะที่จะหาคนที่ยอมรับว่าตัวเองเป็น ฮา.. เปล่าเฟ้ย ข้าเปล่าเพี้ยน เปล่านะ ช้านม่ายด๊ายบ้า เปล่า เอื๊อก ๆ เปล่า เปล่า เฮ้ย มาวที่ไหนกัน หนาย หนาย ดื่ม ๆ เป็นคนเพี้ยนเขียนพลั้งตั้งแต่ต้น เลยปราศใครใคร่สนวนเวียนหา กลอนดุจแกงเขียวหวานพาลระอา ปราศจากค่าชื่นชมสมใจใคร ถึงคนเขียนเพี้ยนก็ไม่ท้อจิต เขาจักคิดเทียบเท่ากับเขาไหน สู้สงบเสงียมเจียมตนมิสนใจ แล้วยังคงเพี้ยนไปให้เหมือนเดิม จากคุณ : จังงัง เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 21:28:33

ความคิดเห็นที่ 22 พึงเห็น ..ฮาฮา                                                                                         ...           มีหัวใจไว้เขียนจะเพี้ยบบ้าง ก็ไม่ได้เสสร้างอย่างใครเขา อย่างใจน้อยขี้บ่นจนทนเอา อยากจะเบาคล้ายนุ่น หรือ..ละมุม..ดังเมฆลอย เจ้าเอย.. จินตนาการใช่จะหยิบเชย มาใช่สอย ฟ้าแดง แสงจันทร์ ฝนปรอยปรอย ใครใครก็เอามาเรียงถ้อย ..... แล้วร้อยเป็นอารมณ์ ...นะ .... จากคุณ : วลี.. เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 14:16:00