..รักชาติ ต้องทำยังไง..

ผมนึกเรื่องนี้ขึ้นได้ตอนอาบน้ำ

(อันนี้ไม่เกี่ยว แต่เห็นด้วยกับผมมั้ยครับว่าตอนอาบน้ำนี่ สมองมันแล่นดีจริงๆ)

หลังจากดูรายการวู้ดดี้ทอล์ก สัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ดูเพลินดีครับ นายกตอบคำถามเก่งดี ไปหาดูคลิปย้อนหลังกันได้



    คุณวู้ดดี้ถามถึงความแตกต่างระหว่างการรักภรรยากับรักประเทศชาติ

ท่านนายกฯ ก็ตอบประมาณจุดมุ่งหมายแตกต่างกัน ระหว่างส่วนตัวกับส่วนรวม

ถ้าจำไม่ผิด ท่านน่าจะพูดคล้ายๆกับสุนทรพจน์ของอดีต ปธน.เคเนดี้ แห่ง สหรัฐอเมริกา

"อย่าถามว่าประเทศชาติให้อะไรแก่ท่าน แต่จงถามว่าท่านจะทำอะไรให้แก่ประเทศชาติ"

ท่าน นายกฯ บอกว่าท่านได้อะไรจากแผ่นดินนี้มาเยอะ

"ไม่มีแผ่นดินนี้ ก็ไม่มีผม" ท่านนายกฯ ทิ้งท้ายไว้แบบนั้น



    สิ่งที่ไหลผ่านออกจากฝักบัว ฝากตัวกับสายน้ำ และไหลเข้าหัวผมคือ

บทความหรือบทสัมภาษณ์ของคุณประภาส ชลศรานนท์ ชิ้นหนึ่ง

ผมเองจำไม่ได้ว่าอ่านเจอที่ไหน จำได้แค่คุณประภาส

บอกว่าเคยคิดจะเขียนเพลงเกี่ยวกับรักชาติ แต่สุดท้ายแล้วไม่ได้เขียน

ผมอ่านเจอก็สะุดุดบวกเสียดายสิครับ ระดับอย่างคุณประภาส ชลศรานนท์

ผลงานที่ออกมาล้วนคุณภาพทั้งสิ้น

ผมสงสัยว่า ถ้าคุณประภาสแกแต่งเพลงเกี่ยวกับรักชาติ แกจะแต่งออกมาแบบไหน

เดาเอาเองเล่นๆว่า ไปเป็นทหาร นายกรัฐมนตรี หรือ องค์กรเพื่อสังคมอะไรสักอย่าง

หรือถ้าเป็นเดี๋ยวนี้ก็อาจจะต้องไปร้องเพลงชาติออกโทรทัศน์กันรึปล่าว

คำตอบคือ 'ปล่าวครับ' คุณประภาสบอกว่า แกคิดชื่อเพลงแล้วก็เนื้อความไว้นิดหน่อยแล้วครับ

ชื่อเพลงคือ 'รักชาติ ต้องข้ามทางม้าลาย'

ผมต้องอ่านชื่อเพลงซ้ำสามรอบ เพื่อให้แน่ใจว่าผมอ่านไม่ผิด

ไม่ผิดว่ามันคือ 'รักชาติ จงอย่าทำลาย' หรือ 'รักชาติ ไปจนวันตาย'

แต่ผมอ่านไม่ผิดครับ  'รักชาติ ต้องข้ามทางม้าลาย'



    ที่ผมต้องอ่านซ้ำๆก็เพราะทัศนคติเรื่องความรักชาติ ที่ผมถูกปลูกฝังมาตลอดตั้งแต่วัยเยาว์

ผมเคยได้ยินแต่ครูสมศรี สมัย ป.4 บอกว่า ผู้ชายต้องไปเป็นทหารเพื่อรับใช้ชาติ

หรือคำขวัญทำนองว่าว่า รักประเทศไทย ใช้ของไทย อะไรเทือกๆนั้น

แต่เล่นเอาเรื่อง การข้ามทางม้าลายมาผูกกับการรักชาติ นั้น

ยอมรับตามตรงครับ ว่าเจอจากคุณประภาส เป็นที่แรก



    ผมคิดมาตลอดว่าเราถูกพูดกรอกหูอยู่ทุกวันเรื่องการรักชาติ

จนรู้สึกได้ว่าเราจะต้องรักชาติ ซึ่งผมรู้สึกตามนั้นจริงๆ

ผมสามารถพูดได้เต็มปากว่าผมรักชาติ

ครับ เรื่องพูดใครใครก็ทำได้

แต่การกระทำเพื่อพิสูจน์คำพูดนั้นตะหากที่สำคัญกว่า

ชาติไม่ใช่ผู้หญิง ที่จะแสดงความรักโดยการซื้อดอกกุหลาบไปให้

และชาติก็ไม่ใช่พ่อแม่ ที่จะมานั่งให้เรากอดหรือกราบเท้าด้วยดอกมะลิ

แล้วรักชาติต้องทำยังไง ?  

เป็นทหาร , เป็นนักการเมือง ,  ออกมาชุมนุม , รวมตัวร้องเพลงชาติ ฯลฯ

สิ่งเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นคำตอบที่ถูกต้อง แต่รู้อะไรไหมครับ

มันช่างเป็นคำตอบที่ไกลตัวผมเสียเหลือเกิน

จะรักชาติทั้งที มันลำบากถึงเพียงนั้น ?

ถึงตอนนี้ทุกคนคงรู้ว่าคำตอบที่ผมกำลังจะตอบ

ก็มาจากชื่อเพลงของคุณประภาสนั้นเอง



      รักชาติไม่ใช่เรื่องยาก รักชาติไม่ใช่เรื่องใหญ่

ก่อนที่จะไปเป็นทหารถือปืนรบรากับข้าศึก

คุณข้ามถนนตรงทางม้าลายหรือสะพานลอยหรือยัง

ก่อนที่จะเป็น ส.ส. เพื่อออกกฎหมายพัฒนาประเทศ (แต่ผมว่า ส.ส. หลายคนมีจุดประสงค์อื่น)

คุณทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทางหรือยัง

ครับ รักชาติเป็นเรื่องเล็กๆ อย่างการข้ามถนน หรือ การทิ้งขยะ แค่นั้นเอง

เราทุกคนสามารถใช้สมองและสองมือของเราทำให้สังคมนี้ดีขึ้นได้

ไม่เห็นต้องคิดใหญ่ คิดเล็กแต่ทำให้ได้

น่าจะสำคัญกว่า คิดใหญ่ แต่ไม่ลงมือทำ



    รักชาติโดยการทำให้สังคมนี้ดีขึ้น

ตั้งคำถามว่าจะทำให้สังคมนี้ดีขึ้นได้อย่างไรและลงมือทำมัน

นักการเมืองจะออกนโยบายอย่างไรให้สังคมนี้ดีขึ้น

คนชับแทกซี่จะขับรถยังไงให้สังคมมันน่าอยู่

สถาปนิกจะใช้ดินสอออกแบบให้สังคมดีขึ้นยังไง

วิศวกรจะใช้ความสามารถในการสร้างให้สังคมดีขึ้นแบบไหน

คุรครูจะใช้ไม้เรียวสร้างสังคมที่ดียังไง

คนทำขนมจะทำขนมที่ทำให้สังคมดีขึ้นยังไง

นักเขียนจะใช้ปากกาของเขาสร้างสังคมยังไง

แม่ค้าจะขายของยังไงที่ทำให้สังคมน่าอยู่

คนกวาดขยะเองก็สามารถใช้ไม้กวาดสร้างสังคมที่ดีขึ้นได้

ฯลฯ



ถ้าคำถามด้านบนมันยากนัก ลองตั้งคำถามอีกแบบไหมครับ

คุณจะทำอย่างไร ให้คุณได้อยู่ในที่ที่น่าอยู่ ?

แบบนี้จะได้ดูมีแรงในการทำอะไรสักหน่อย

ทำอะไรก็ได้ ให้กูได้อยู่ในที่ที่สบาย ที่ที่น่าอยู่

ลองหาคำตอบและลงมือทำเถอะครับ

ผมคนนึงละครับที่ไม่เชื่อว่า  คำตอบที่ออกมาจะไม่รักชาติ

----------

จากคุณ	: torprc
เขียนเมื่อ	: 11 ม.ค. 53 17:52:04