พระอุปัชฌาย์ที่ผมรู้จัก
|
|
เจ้าคณะอำเภอหาดใหญ่ อดีตเจ้าอาวาสวัดคอหงษ์ พระปริยัติวรานุกูล ฐานะธรรมโม (สุนทร จันทฤทธิ์) เป็นพระอุปัชฌาย์ของผมช่วงบวชที่วัดปากน้ำหาดใหญ่ ท่านเป็นพระรูปร่างอวบอ้วนดูเจ้าเนื้อแต่แข็งแรงมาก ถ้ามองรูปร่างจากภายนอกจะเห็นว่าท่านรูปร่างสูงใหญ่ และร่างกายค่อนข้างจะแข็งแรงมาก แต่เมื่อได้พิจารณาและอยู่กับท่านอย่างใกล้ชิดแล้ว ก็จะพบว่าความจริงท่านรูปร่างสันทัดออกจะไม่สูง แต่มีสุขภาพกายและจิตดีมากท่านหนึ่ง น่าจะเป็นบุญบารมีอย่างหนึ่งของท่าน
อดีตเจ้าอาวาสท่านนี้ เป็นที่เลื่องลือขึ้นชื่อกันว่าดุมาก แต่มีเมตตาองค์หนึ่งของหาดใหญ่ ตามประวัติเล่าขาน/เป็นเรื่องราวที่จริงมีการเล่าสืบกันมา คือ มีช่วงหนึ่งที่ราชการห้ามพระปักกลดแบบพระธุดงค์ ในเขตเทศบาลเมืองหาดใหญ่ ถ้ามีชาวบ้านร้องเรียนมาว่ามีพระมาปลักกลดธุดงค์ในเขตหวงห้าม ท่านก็จะออกตรวจตราตระเวณไปขับไล่พระที่ปลักกลดธุดงค์ ให้ไปอาศัยอยู่ตามวัดในหาดใหญ่ ถ้าไม่เชื่อก็มีการใช้กำลังบังคับรื้อกลดแถมประเคนมวยไทยให้ พร้อมกับขับไล่ให้ออกจากหาดใหญ่ไปเลย
บางเวลาก็ออกตรวจสอบใบสุทธิของพระ (บัตรประชาชนของพระที่บวชจะต้องมีใบดังกล่าว ระบุวันบวช วัดที่พระสงฆ์สังกัดอยู่) ว่าใช่พระจริงพระปลอมในกรณีที่ชาวบ้านแจ้งมา ถึงพระที่ประพฤติผิดวินัย หรือโลกวัชระ(ชาวโลกติเตียน) บางครั้งก็มีการยื้อยุดฉุดกระชากกันหรือใช้แม้ไม้มวยไทย ในบางองค์ที่ดื้อหรือไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งท่าน ท่านก็พร้อมจะเป็นคนใช้กำลังในการจัดการในเรื่องเหล่านี้ จนเป็นที่เลื่องลือและฮือฮากันมากในเรื่องการใช้กำลังหรือแม่ไม้มวยไทย ทำให้พระสงฆ์องค์เจ้าที่ทำผิดศิลและวินัยสงฆ์ จะเกรงกลัวท่านมากในเรื่องนี้ เป็นที่ทราบกันทั่วไป ความที่เป็นคนที่โผงผางและพร้อมจะใช้กำลังจัดการ พระที่ประพฤติผิดศีลผิดวินัยต่างทราบข่าวและเข็ดขยาด ทำให้ตำรวจมักจะมาขอใช้บริการจากท่านเสมอ เวลาพระสงฆ์รูปใดทำผิดศีลผิดวินัย แล้วตำรวจไม่กล้าดำเนินการกลัวผิดบาปหรือผิดศีลธรรม
มีครั้งหนึ่งท่านทราบข่าวจากชาวบ้านมาฟ้องว่า มีพระรูปหนึ่งขับรถยนต์มาพร้อมศิษย์วัดแล้ว ค่อยลงมาเดินบิณฑบาตร ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่น่าจะผิดศิลผิดวินัย แต่เป็นโลกวัชระ (ชาวโลกติเตียน) แต่ที่วัดธารน้ำไหล(สวนโมกข์) บางครั้งจะเห็นพระภิกษุ ขับรถกะบะขนของภายในบริเวณวัดได้ ท่านก็ไปนั่งรอก่อนเช้ามืดเพื่อซุ่มจับที่สามแยกคอหงษ์ นั่งซุ่มอยู่กว่าสัปดาห์ แต่ไม่พบเลยเลิกการซุ่มจับ คาดว่าจะมีคนไปบอกพระรูปนั้นเลยไม่กล้าทำแบบนี้อีก ส่วนความมีเมตตาของท่านที่ท่านเล่าให้ฟังเองคือ มีครั้งหนึ่งทหารในค่ายคอหงษ์ทะเลาะ กับคนขับรถโดยสารประจำทางสายหาดใหญ่สงขลา ไม่พอใจอย่างไรไม่ทราบก็เลยขว้างหินใส่รถยนต์โดยสาร ปรากฎว่าหินกระเด็นถูกศีรษะท่านแตก เลือดไหลอาบ ท่านเคยชี้แผลดังกล่าวให้ผู้เขียนดูแผลเป็นดังกล่าว ผู้โดยสารต่างตกใจกันมากในเรื่องนี้และด่าทอทหาร ที่ทำการนี้และวิ่งหนีเข้าค่ายทหารไป แต่ท่านบอกไม่เป็นไรเป็นเรื่องเวรเรื่องกรรมในอดีต และไม่ติดใจเอาโทษแต่อย่างใด ความจริงวัดนี้เดิมตังอยู่ในบริเวณค่ายทหารปัจจุบัน แต่ต่อมาราชการทหารต้องการพื้นที่ทำเป็นค่ายทหาร เลยต้องย้ายวัดออกมาตั้งในที่บริเวณนี้ในปัจจุบัน โดยมากทหารจะทำพิธีการต่าง ๆ ก็มักจะมานิมนต์พระวัดนี้
เรื่องการปาศีรษะท่านแตก เป็นที่กล่าวขานกันมากในหาดใหญ่ ญาติโยมหลายคนต่างไม่ยอมในเรื่องนี้ จะแจ้งความเอาโทษถึงที่สุด ความเรื่องนี้ทราบถึงผู้การค่ายทหารคอหงษ์ ผู้การก็ตกใจในเรื่องที่เกิดขึ้นกับอดีตเจ้าอาวาสดังกล่าว เพราะวัดกับค่ายทหารอยู่ใกล้กัน ผู้การเลยรีบสั่งการให้ทำการติดตามจับกุมทหารและเพื่อน ที่ร่วมก่อเหตุการณ์ดังกล่าวมาลงโทษให้ได้ แม้ว่าทราบแต่ต้นแล้วว่าท่านไม่ติดใจเอาความแต่อย่างใด ในที่สุดกับจับกุมตัวทหารพร้อมกับเพื่อนที่ก่อเหตุได้ ให้มาขอขมาโทษกับท่าน ท่านก็รับขมาโทษและก็กำชับผู้การว่า อย่าไปทำอะไรกับทหารเหล่านั้น แต่โทษและวินัยทางทหารต้องทำตามระเบียบอยู่
ในการดูแลเอาใจใส่พระภิกษุ สามเณร เมื่อต้องไปรักษาพยาบาลก็จะมอบปัจจัยให้ส่วนหนึ่ง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว แม้ว่าพระภิกษุสามเณร จะได้รับสิทธิในการรักษาพยาบาลฟรีหรือต่ำมากก็ตาม และเมื่อพระภิกษุสามเณรเดินทางไปต่างจังหวัด หรือไปสอบบาลีที่กรุงเทพฯ ก็มอบปัจจัยให้เช่นกัน รวมทั้งมีการให้รางวัลกับพระภิกษุสามเณร ที่เรียนเก่งและประพฤติดี และมีการตั้งกองทุนต่าง ๆ เป็นเงินมากกว่าสิบล้านบาทสำหรับการจับจ่ายใช้สอย ในด้านการศึกษาให้กับพระเณรและเด็กนักเรียนเทศบาล ที่มีการตั้งโรงเรียนเทศบาลในวัดคอหงษ์
เรื่องนี้จำได้เพราะเคยไปทำบุญกับแม่ที่วัดท่าน พอถวายปัจจัยและของต่าง ๆ เสร็จแล้ว ท่านก็ให้ลูกศิษย์นำปัจจัยไปเก็บไว้ในตู้ส่วนกลาง แล้วบอกว่าให้เอาของถวายไปแบ่ง ๆ กัน หรือนำไปให้พระองค์นั้นองค์นี้ด้วย
บางครั้งผมก็เคยนำรองเท้านักเรียนของลูก ๆ ไปมอบให้กับท่านหลังจากสอบถามท่านก่อนว่า สมควรให้หรือรับได้หรือไม่ ท่านก็บอกว่าดีไม่เป็นไรให้นำมาวางไว้ จะได้มอบให้กับศิษย์วัดหรือเด็กนักเรียน ในโรงเรียนนำไปใช้ต่อไป
ด้านปัจจัยต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานสวดทั่วไป งานศพ ก็จะให้สามเณรได้เข้าร่วมด้วยเสมอ แม้ว่าตามธรรมเนียมประเพณีทั่วไป คนทำบุญมักจะอยากได้พระภิกษุมาสวดมนตร์ ในการทำพิธีกรรมมากกว่า แต่ท่านก็มักจะมอบหมายให้สามเณรเข้าร่วมสม่ำเสมอ ทั้งนี้ เพื่อจะได้มีปัจจัย/ของถวายในการใช้สอย สำหรับพิธีกรรมใด ๆ ในวัดคอหงษ์สมัยท่านอยู่ พอพิธีเริ่มไปสักพัก ท่านก็มักจะเดินมานั่งตรงบริเวณ ด้านข้างท้ายสุดของพระภิกษุ หรือ สามเณร พร้อมกับไม้หวายในมือตีพื้นเปาะแปะไปตามประสา(นัยว่าไล่ยุง) ขณะที่พระภิกษุสามเณรกำลังสวดมนตร์อยู่ ทั้งนี้ก็เพื่อตรวจตราและดูแลความเรียบร้อยทั่วไป ในการสวดมนตร์ว่า อักขระ ถูกต้อง ชัดเจนหรือ มั่วหรือไม่ ทำให้พระภิกษุสามเณร ต่างก็ต้องตั้งใจสวดมนตร์ หรือทำหน้าที่อย่างดีในเวลาสวดมนตร์พิธี หรือภาษาชาวบ้านมักพูดกันว่า ท่านมานั่งจับผิด หรือมานั่งแถมให้ฟรี ไม่ต้องถวายหรือต้องมอบปัจจัยใด ๆ ให้กับท่านแต่อย่างไรเลย เพียงทักทายท่านก็เพียงพอ ส่วนชาวบ้านส่วนมากก็รู้จักและเคารพนับถือท่านอยู่แล้ว ก็ยินดีในเรื่องนี้ส่วนหนึ่งด้วย
แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 53 22:04:16
จากคุณ |
:
ravio
|
เขียนเมื่อ |
:
13 ม.ค. 53 16:06:13
|
|
|
|