บาปปาริชาต ตอนที่ 14
|
|
แก้วตาสีน้ำตาลเบิกกว้างอย่างตื่นตะลึง มองฝ่าความมืดไปรอบกาย เหลียวหาคนมาช่วยเหลือ ไกด์สามคนที่หล่อนจ้างมาจากตลาดเมื่อเช้านี้ ย่ำค่ำก็แปลงร่างเป็นทรชนซึ่งพร้อมจะย่ำยีหล่อนได้ตลอดเวลา หญิงสาวขยับตัวด้วยความหวาดระแวง นี่หล่อนจะหนีไปทางไหนดี ที่นี่ทั้งมืดทั้งเปลี่ยวไม่มีใครผ่านมาแน่นอน เบื้องหลังหล่อนมีแค่สถูปใหญ่ ส่วนเบื้องหน้าก็เพียงดงไพรในความมืดเท่านั้น นี่ไม่ใช่เวลาทำการ เจ้าหน้าที่คงไม่ผ่านมาทางนี้ง่ายๆ แน่นอน ทรงอกอิ่มของหล่อนสะท้านขึ้นลงด้วยความหวาดหวั่น หล่อนน่าจะเชื่อคำเตือนของเขา...
พี่เขตต์...ช่วยด้วย
มิสึสึร่ำร้องอยู่ภายใน ภาวนาให้เขาออกตรวจตราตอนกลางคืนแล้วผ่านมาทางนี้ แต่ดูเหมือนคำภาวนานั้นจะไม่เป็นผล ชายฉกรรจ์สามคนนั้นจ้องมองหล่อน ด้วยสายตาของนายพรานล่าเหยื่อ รอยยิ้มน่ารังเกียจผุดขึ้นจากใบหน้าเกรียมคล้ำแดด ยูเมะ...อย่าเล่นตัวน่า หรือว่าชอบแบบข่มขืน!
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สิบห้านาทีก่อนหน้านั้นหล่อนไม่มีวันคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับตนเองแน่ หล่อนไว้ใจคนมากเกินไป หรือเป็นเพราะหล่อนไม่สนใจสังเกตสังกา ความรู้สึกคนรอบๆ ตัวกันนะ ที่แล้วๆ มาก็มีปัญหาเพราะหมกมุ่นอยู่กับ เรื่องฝันร้ายจนมองข้ามความรู้สึกคนรอบข้างไป ครั้งนี้ก็เช่นกัน...
หญิงสาวหยุดยืนอยู่ที่ราวบันไดไม้ก่อนจะส่องไฟฉายไปในดงไม้ นั่นอย่างไรหล่อนมองเห็นสถูปอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก หล่อนก้มตัวรอดราวบันไดโปร่งนั่นแล้วโหนตัวลงเหยียบพื้นดิน ซึ่งมีต้นไม้เล็กๆ ขึ้นปกคลุมอยู่ เอก โด่งและช่วง รอดรั้วไม้ตามลงมา พื้นดินบริเวณนี้อยู่ต่ำกว่าบันไดทางขึ้นถ้ำเล็กน้อย และเทลาดลงมาเรื่อยๆ ตามสันเขา โชคดีที่ดินแห้งไม่เหนียวเฉอะแฉะ หล่อนจึงเดินได้อย่างคล่องแคล่ว
ลมเย็นเฉียบพัดผ่านสวนทางมาจนหญิงสาวรู้สึกยะเยือกจนขนที่ต้นคอลุก มิสึสึไม่แน่ใจว่าหล่อนอุปาทานไปเองหรือเป็นเพราะอากาศในภูเขาเย็นกว่าในเมืองกันแน่ ร่างอรชรสาวเท้าเข้าไปใกล้สถูปโบราณโดยมีชายหนุ่มทั้งสามตามติดมาห่าง พวกเขาพะวงกับบรรยากาศรอบและเสียงธรรมชาติยามค่ำคืน หริ่งหรีดเรไรร้องระงมดังกว่าปกติ และพากันซุบซิบกันเองไปตลอดทาง หล่อนไม่ได้ใส่ใจพวกเขาอีกจนกระทั่งหยุดยืนอยู่หน้าสถูป แม้ในความมืดมิดยังพอมองเห็นองค์สถูปสูง ฐานสี่เหลี่ยมนั้นมีร่องรอย การซ่อมแซมและใช้ปูนซีเมนฉาบติดกับพื้นส่วนฐานที่สูงขึ้นในชั้นถัดไปเป็นอิฐแดง สถูปทางภาคเหนือนั้นมิได้มีลักษณะกลมมนดังทรงระฆังคว่ำที่นิยมในภาคกลาง เรือนธาตุจึงเป็นสี่เหลี่ยมซ้อนสามชั้นลดหลั่นขนาดกันเช่นเดียว กับฐานสี่เหลี่ยมด้านล่าง และประดับด้วยบัวกลุ่ม เรือนยอดผอม สูงขึ้นไปถึงปลายยอดทรงบอกบัวตูม
มือเนียนยื่นไปสัมผัสฐานเย็นเฉียบเพราะตากน้ำค้างยามค่ำคืน ความรู้สึกเศร้าจากส่วนลึกภายในตีตื้นขึ้นมาจนหญิงสาวน้ำตาคลอ มันต่างกับความรู้สึกยามที่หลับฝัน ในตอนนั้นมิสึสึหวาดกลัวไม่อยากรับรู้สิ่งใด แต่เบื้องหน้าสถูปโบราณนี้หล่อนกลับรับรู้ถึงความเปล่าเปลี่ยวอ้างว้าง ราวกับนางกระดูกนางครวญกำลังรำพันหาใครบางคน
ยูเมะ...เปลี่ยนที่ดีกว่าตรงนี้มีแต่หญ้า เสียงร้องของสัตว์ไม่ทราบชนิดดังมาไกลๆ ทำเอาคนที่อยู่แถวนั้นใจฝ่อรีบเร่งหล่อน และเขาไม่เห็นว่าโลเกชันตรงนี้มันเหมาะบรรเลงเพลงรักอีกด้วย
หญิงสาวไม่ได้ตอบแต่คุกเข่าลงแล้วล้วงเอาของจากกระเป๋าเป้ออกมา เรียกความสนใจจากชายทั้งสามที่ช่วยฉายไฟส่อง เพราะสนใจใคร่รู้ว่าหล่อนพกอะไรมา แล้วก็ต้องพากันร้องอุทานด้วยความผิดหวัง
โธ่เอ้ย..ธูปนึกว่าอะไร?
แล้วพวกคุณคิดว่าอะไรหรือคะ? แม้จะไม่พูดกันคนละภาษา แต่หล่อนก็พอเดาสีหน้าพวกเขาออก
ก็ดี...รอบคอบดี ไหว้ก่อนกันผีหลอก คนถามคนกับตอบไม่ได้ฟังซึ่งกันและกัน แต่ต่างพูดสิ่งที่ตนเองกำลังคิดออกมา
ไม่มีใครบอกมิสึสึหรอกว่าพิธีกรรมควรทำอย่างไร หล่อนคิดว่าเมื่ออีกฝ่ายเป็นวิญญาณก็คงไม่ต่างกับการไหว้สุสานสักเท่าใด จึงเตรียมธูปเทียนและพวงมาลัยมะลิมาเซ่นไหว้
ฟองคำ...ฉันไม่รู้ว่าเธอยังโกรธฉันอยู่หรือเปล่า? หญิงสาวจุดธูปแล้วยกขึ้นพนมอธิษฐานถึงวิญญาณ ของหญิงที่โดนฆาตกรรมในความฝัน
โง่จริง...ฉันไม่น่าจะถามอะไรอย่างนั้นออกมาเลย... ก็รู้อยู่ว่าเธอคงโกรธและไม่ให้อภัยง่ายๆ แต่ว่า...ฉันอยากจะขอโทษ แม้มันจะไม่ทำให้เธอหายโกรธก็ตามที...ฉันขอโทษนะ...ขอโทษจริงๆ เสียงคำนึงในใจเงียบหายขาดช่วงไป แต่ถูกแทนด้วยเสียงสะอื้น
ฟองคำ...ถ้าหากว่าฉันเคยเป็นผู้หญิงคนนั้น...เป็นบัวซอนจริงๆ ล่ะก็...ฉัน...ฉัน ฉันไม่รู้จะพูดอย่างไรให้เธอให้อภัยฉัน แต่...ตอนนี้ฉันไม่ใช่บัวซอน ถ้าหากเป็นฉันในตอนนี้ฉันไม่มีทางทำร้ายเธออย่างเด็ดขาด... ฉันไม่รู้ว่าอะไรทำให้บัวซอนโหดร้ายขนาดนั้น...ฉะ...ฉันอยากขอโทษแทนบัวซอน หยาดน้ำอุ่นๆ ไหลรินออกมาจากดวงตาคู่งาม ริมฝีปากสีระเรื่อนั้นเม้มลงจนสนิท
ที่ผ่านมา...ในชาตินี้ ฉันไม่เคยมีความสุขเลย ฉันได้รับกรรมแล้ว ได้รับความทุกข์ทรมานสมกับที่เคยทำกับเธอไว้...จนฉันแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ ฟองคำ...ฉันเจ็บปวดมาก เธอได้ยินไหม? ไหล่บางของหล่อนสั่นสะท้านไปตามแรงสะอื้น
| จากคุณ |
:
แก้วกังไส
|
| เขียนเมื่อ |
:
13 ม.ค. 53 23:44:40
|
|
|
|