 |
ความคิดเห็นที่ 9 |
๐ ริ้วลมหนาว.....๐
๐ ย่างฤดูลมหนาวล่องข้าวแล้ว พร้อมหวีดแว่วเสียดรวง-วันช่วงฉาย สรวงบนฝูงนกว่อน..ปีกร่อนราย- หยอกล้อสายลมเช้า..ใต้เงากาล
๐ แก้วดอกขาวหอมอ่อนกำจรกลิ่น ผ่านรื่นรสรวยรินล้อมถิ่นฐาน เกสรรูปช้อยช่อร่ำรอ-ฆาน- สัมผัสหวานหอมพรม..กลางลมโรย
๐ อ่อยเอื่อยลมลูบไล้ล้อใบข้าว รวงเม็ดพราว, สูรย์แผ้ว, ลมแผ่วโผย หอมรูปนามปรารถนา..ก็ปร่าโปรย- อยู่ในสายลมโชย..แห่งรุ่งเช้า
๐ เหน็บหนาวกลางลมเหนือ, สูรย์เรื่อแสง- โลมหล้าแหล่งโน้มเหนี่ยวความเปลี่ยวเปล่า คำนึงก็โลมลูบด้วยรูปเงา- ของวัยเยาว์กอปรยิ้มมาพิมพ์ใจ
๐ เอิบอิ่มแก้มแย้มมานัยน์ตารื่น แววตอบตื่นราวซ่อนความอ่อนไหว- ของร่องรอยปรารถนาแรงอาลัย- ที่ขับไขคุณค่าเต็มตาแล้ว
๐ คลื่นลมหนาวล่องฟ้า..ผ่านป่าฝน ริ้วลมวนเวียนโชย..แม้นโผยแผ่ว- หาก-รวงข้าวยังค้อมยอดพร้อม-แวว- ตาฝันงามผ่องแผ้ว..ไม่แล้วลา
๐ คลื่นอาวรณ์พลันล่วงฝ่าห้วงคะนึง เอื้องามซึ้งหวานพร้อม..ละม่อมหน้า อยู่ร่ำรอพฤติขวัญ..รูปจรรยา ร่วมบรรสารเสน่หาสู่อารมณ์
๐ งดงามกลางดอกดวงลดามาศ แลโอภาสปลาบปลั่งลงถั่งถม คุณค่าเฝ้าเปรียบเปรยรอเชยชม ก็พลิ้วผ่านสายลมลงห่มครอง
๐ จึง-ฤดูลมหนาว..รอบหนาวนี้ อุ่นยังมีบ่ายโบกสู่โลกผอง อ้อนแอบแววเนตรพรับ..ให้จับจอง- ความนัยของแววชม้าย..ที่คล้ายเมิน
๐ แม้-ฤดูลมหนาว..ในคราวนี้ แววเนตรที่ลอบชม้าย..จะคล้ายเขิน เมื่อสายลมผ่านระลอกคล้ายหยอกเอิน ใครหนอนั่นสั่นสะเทิ้นทั้งแววตา
๐ อบร่ำริ้วลมหนาว..เมื่อผ่าวผ่าน ถ้วนปวงความอ่อนหวานก็ปานว่า- โหมแรงลงบรรสารรอบมารยา เติมแต้มอาวรณ์ชู้ให้รู้ชม
๐ แก้วดอกขาวหอมอ่อนกำจรกลิ่น พารสรินรื่นสู่ให้รู้สม งามท่วงทีลักขณารูปปรารมภ์ นั้นยิ่งฉมชื่นกุสุม..เร้ารุมทรวง . .
จากคุณ |
:
สดายุ...
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ม.ค. 53 18:34:00
|
|
|
|
 |