ตะกอนใต้น้ำ
บทที่ 1
เครื่องบินลำใหญ่ค่อยๆ ลดเพดานบินลง แสงอาทิตย์ยามเช้าตรู่สาดเข้ามาทางหน้าต่างเป็นแสงสีส้มดูอบอุ่นสวยงาม ผู้โดยสารบนเครื่องส่วนมากแม้จะตื่นแล้ว แต่ก็ยังมีอาการงัวเงีย อ่อนเพลียเนื่องจากการเดินทาง
แต่หญิงสาวร่างสูง ตาคม ผิวขาวจัดอย่างคนที่โตมาในเมืองหนาว กลับไม่มีอาการงัวเงีย สีหน้ายังคงราบเรียบไม่บ่งบอกความรู้สึกใดๆ มีเจ้าตัวเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าในใจคิดอะไรอยู่
ดร.คริส ไคลน์ เพื่อนร่วมงานหนุ่มชาวอเมริกันที่นั่งอยู่ข้างๆ หล่อนทักขึ้นว่า
“ตื่นเต้นไหมนีน่า ไม่ได้กลับเมืองไทยนานเท่าไรแล้วล่ะ”
นีรภา หรือ ดร. นีน่า คินดริก กระพริบตาเพียงครั้งเดียวก่อนหันมาตอบด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ได้กลับมายี่สิบกว่าปีแล้ว บ้านเมืองคงเปลี่ยนไปมากทีเดียว” นีรภาเลือกตอบเฉพาะคำถามสุดท้าย
ศาสตราจารย์ ดร.มาร์ก แซนเบิร์ก ชายวัยกลางคนผู้เป็นหัวหน้าทีม หยอกหญิงสาวคนเดียวในกลุ่มอย่างอารมณ์ดี เมื่อได้ยินการโต้ตอบของทั้งสองคน
“คุณยังมีเวลาอีกหนึ่งเดือนเต็ม ที่จะรำลึกความหลังนะนีน่า”
นีรภาได้แต่ยิ้มแทนคำตอบ
ทั้งสามคนเข็นกระเป๋าออกมาตามทางเดินผู้โดยสารขาเข้า นีรภาเดินรั้งท้ายสุด กวาดสายตามองไปรอบๆ สนามบิน นึกย้อนไปวันที่หล่อนเดินทางออกจากประเทศนี้ ตอนนั้นเด็กหญิงยังอายุไม่เต็มสิบปี ในความรู้สึกขณะนั้นมีทั้งตื่นเต้นและเศร้าสร้อยปะปนไปพร้อมกัน
เวลาผ่านไปกว่ายี่สิบปี หญิงสาวเพิ่งจะได้มีโอกาสกลับมาบ้านเกิดเมืองนอนตนเองก็ครั้งนี้เอง
นีรภาเดินตามหลังมาร์กและคริสจนกระทั่งได้พบป้ายชื่อที่ระบุชื่อบริษัทของพวกหล่อน ผู้ที่ถือคือชายหนึ่งในสองคนที่มายืนรอรับ ทั้งสองคนมีหน้าตา และบุคลิกที่แตกต่างกัน
นีรภาจำคนที่หน้าอ่อนกว่า คมคายกว่าได้ทันที เขาชื่ออนิรุทธิ์ เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท เลิศอัญมณี ซึ่งก่อนที่จะเดินทางมาเมืองไทย นีรภาศึกษาประวัติของบริษัทนี้ รวมถึงผู้บริหารทุกคนมาแล้วเป็นอย่างดี ซึ่งทีมงานของหล่อนอีกสองคนก็ทำเช่นเดียวกัน
เมื่อมาเห็นหน้ากันชัดๆ ในวันนี้ อนิรุทธิ์หน้าตาดีกว่าในรูปมาก ผิวพรรณสะอาดสะอ้าน บ่งบอกเชื้อสายจีนอย่างเด่นชัด
แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 53 16:17:56
แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 53 16:16:31
แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 53 16:14:27
แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 53 09:05:43