Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
The Sun Seeker - บทที่ 7 - ลบล้าง (2/7)  

บทที่ 1
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2009/09/W8362557/W8362557.html
บทที่ 2 (ครึ่งแรก)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2009/09/W8377260/W8377260.html
บทที่ 2 (ครึ่งหลัง)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2009/10/W8388926/W8388926.html
บทที่ 3 (1/3)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2009/10/W8440081/W8440081.html
บทที่ 3 (2/3)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2009/10/W8465703/W8465703.html
บทที่ 3 (3/3)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2009/10/W8490666/W8490666.html
บทที่ 4 (1/3)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8568964/W8568964.html
บทที่ 4 (2/3)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8593857/W8593857.html
บทที่ 4 (3/3)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8620296/W8620296.html
บทที่ 5 (1/4)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8637782/W8637782.html
บทที่ 5 (2/4)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8654680/W8654680.html
บทที่ 5 (3/4)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8670619/W8670619.html
บทที่ 5 (4/4)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8694862/W8694862.html
บทที่ 6 (ครึ่งแรก)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8705905/W8705905.html
บทที่ 6 (ครึ่งหลัง)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8719636/W8719636.html
บทที่ 7 (1/7)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8743597/W8743597.html

* * * * *

คุณ scottie - ผมคิดว่าเพราะส่วนตัวนิกซ์ไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่ถูกเลี้ยงมาให้แคร์ความเจ็บปวดของคนอื่น เลยไม่ค่อยมีความรู้สึกต้องปกป้องร่างกายของตนเอง และใช้การเอาตัวเองรับความเจ็บปวดของคนอื่นเป็นการแสวงหาการยอมรับจากคนอื่นแฮะ

เรื่องเซราหัวไว ก็หวังว่าจะไม่เกินอายุนะครับ ตัวผมเองสอนพิเศษเด็กป. 5-6 อยู่ แล้วก็มักจะพบว่าเด็กๆ ยุคนี้รู้เรื่องพอประมาณ (ผู้ชายจะรู้พวกศัพท์สแลง คำคะนอง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าฟังกันมาจากไหน แต่เด็กผู้หญิงน่าจะเป็นพ่อแม่เตือนไว้ให้ป้องกันตัวมากกว่า) กลายเป็นรุ่นผมตอนอายุเท่ากันยังตามพวกนี้ไม่ทัน = =a

โลกของเรื่องนี้เป็นแฟนตาซีแนวอนาคต ฉากแนวเมืองใหญ่และสลัม ปัญหาเรื่องอาชญากรรมน่าจะสูง ถึงอยู่ในบ้านที่ปลอดภัย เซราเองก็คงถูกสอนเพื่อให้ระวังไว้ในฐานะเด็กผู้หญิง และให้รู้เรื่องของบาปต่างๆ เพื่อตัวเองจะได้ระวัง (และก็คงเพราะท่านพ่อท่านพี่อยากหาแนวร่วมประณามและปราบปรามคนทำบาปพวกนี้เหมือนกัน) แต่ก็ไม่ได้รู้ลึกมาก คิดว่าตอนนี้ที่เธอรู้สึกน่าจะเป็น "การข่มขืนเป็นตราบาป ร่วมเพศเดียวกันเป็นบาปหนัก เท่ากับนิกซ์ถูกบังคับให้รับตราบาปชั่วชีวิต แต่ก็ต้องรับเพื่อปกป้องคนอื่น" น่ะครับ

ถ้าคุณ scottie กับผู้อ่านท่านอื่นๆ เห็นว่าเขียนขยายความมากขึ้นจะทำให้สมจริงขึ้นว่าเด็กวัยเซราเข้าใจได้ ผมจะพยายามแก้ไขดูครับ ที่จริงที่พยายามเขียนอ้อมๆ ไว้ เพราะไม่แน่ใจว่าระดับไหนจึงจะไม่ถือว่าเรตเกินไป เรื่องนี้มีประเด็นเรื่องผู้ถูกล่วงละเมิดความเป็นมนุษย์ ทั้งทางกาย ทางอิสรภาพ รวมถึงทางใจค่อนข้างมาก แต่ไม่อยากให้มีคนมองว่าเขียนชี้โพรงให้กระรอกด้วยครับ

คุณ Mnemosyne - ดีใจที่คุณ Mnemosyne อ่านแล้วสนุกนะครับ ^^

คุณ Waasuthep - ขอบคุณที่ติดตามครับ ผมคิดว่าตัวละครอีกหลายๆ ตัวก็คงมีเรื่องที่ต้องเรียนรู้จากคนอื่น หรือถูกกระตุ้นให้คิดด้วยตัวเองเหมือนกัน สำหรับเซราเป็นก้าวแรก และคนอื่นๆ ก็จะตามมาในไม่ช้าครับ

* * * * *

4 – สิ่งที่ครูเซเดอร์หนุ่มเห็นว่าควรลบล้าง


แมกนัสรู้สึกเหมือนตนเองคิดผิดทันทีที่เปิดประตูเข้าไปพบสายตาห้าหกคู่จ้องเขาเป็นตาเดียวในห้องพักรอของร้านหมอมอสคาตี ทั้งคุณมาร์กาเร็ตที่เป็นพยาบาล และสาวน้อยไปจนถึงสาวใหญ่ที่คงกำลังคุยฆ่าเวลาขณะรอหมอ (หรือไม่อย่างนั้นก็ไม่ได้ฆ่าเวลา แต่เข้ามาพูดคุยเฉยๆ เหมือนวันก่อนๆ ที่เขาได้ยินเสียงแว่วมาตอนเฝ้าหน้าห้องเจ้าเด็กนิกซ์)

“สวัสดีค่ะ” นางพยาบาลเป็นคนพูดทำลายความเงียบคนแรก “คุณ...เอ่อ...มาหาแอนเธียเหรอ”

“หา?” ชายหนุ่มอุทาน “รู้ได้ไงครับ”

“ก็...” เธอพยักพเยิดมาทางช่อดอกไม้พลาสติกสีชมพูที่เขาถืออยู่

“เมื่อคืนฉันเห็นคุณไปดื่มเหล้ากับแอนเธีย” สาวใหญ่คนหนึ่งรายงาน “เพิ่งบอกคุณมาร์กาเร็ตเมื่อกี้นี้เอง”

“แล้วเมื่อคืนฉันก็เห็น คุณพูดอะไรกับแอนเธียไม่รู้ แต่ท่าทางเขาจะโกรธมาก คุณเลยมาง้อใช่มั้ย” สาวน้อยอีกคนเสริม

ครูเซเดอร์หนุ่มได้แต่กะพริบตาปริบๆ เมื่อบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่สรุปความตั้งใจให้เขาเรียบร้อย ภรรยาของหมอโจเซฟยิ้มจางๆ

“แอนเธียไม่อยู่ค่ะ ออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว”

“ป...ไปไหนเหรอครับ”

“ไม่ได้บอกค่ะ บอกแค่ว่าจะไปเดินเล่น”

แมกนัสยืนเงียบ ไม่รู้เลยว่าจะไปตามเธอที่ไหนดี เขาไม่คุ้นกับเก็ตโตที่นี่ และไม่รู้ว่าแอนเธียชอบไปที่ไหน เกิดเดินสวนกันไปมาคงไม่ได้พูดเสียที

“คุณจะนั่งรอที่นี่มั้ยคะ” คุณพยาบาลมาร์กาเร็ตถาม “หรือจะฝากของให้แอนเธีย”

“เอ้อ...ไม่เป็นไรครับ” ชายหนุ่มตัดสินใจพูด

...ถึงอย่างไรเขาก็ไม่อยากอยู่เป็นเป้าสายตาของผู้หญิงมากขนาดนี้ แถมยังเป็นผู้หญิงที่พร้อมใจมองอย่างรู้ทันเสียอีก...

“ผ...ผมจะออกไปหาเขาดู ข...ขอตัวก่อนนะครับ”

ชายหนุ่มกลับหลังหัน รีบเปิดประตูโดยอัตโนมัติ จากนั้นก็จ้ำยาวๆ ไปตามถนนหนทาง มองหาที่ที่น่าจะเหมาะแก่การเดินเล่นสำหรับคนที่เขาตามหา

แน่ละว่าไม่มีทิวทัศน์อะไรให้ชมในเก็ตโตหรอก สวนสาธารณะไม่ต้องพูดถึง ที่ใดว่างพอมีคนจับจองก็มักมีการตั้งบ้านจากเศษวัสดุอย่างง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นไม้อัดเทียมหรือสังกะสี แต่พวกซอกมุมที่ไม่มีคนพลุกพล่านคงพอมี อย่างแอนเธีย ถ้าอยากเดินเล่นคงไม่ชอบอยู่ในคนมากๆ เท่าไร

ชายหนุ่มถือช่อดอกไม้ ก้าวไปตามถนนพลางสอดส่ายสายตามองหา หลายครั้งเขาเห็นเงาของผู้หญิงผมยาวประมาณไหล่ดูคล้ายเธอไปหมด โดยเฉพาะคนที่สวมเสื้อไหมพรมแขนยาวสีนวล ที่จริงผมสีน้ำตาลแดงแบบคนอัสลานของแอนเธียโดดเด่นอยู่หรอก แต่ใต้แสงไฟสลัวตามท้องถนน แมกนัสต้องยอมรับว่าสายตาของเขาเห็นสีเพี้ยนไปไม่น้อยในระยะไกล

เดินไปเดินมา สุดท้ายชายหนุ่มก็ตัดสินใจเก็บช่อดอกไม้สีชมพูเข้าในเสื้อโค้ตเมื่อคนมองมากขึ้นทุกที นึกดูเขาก็โทษคนพวกนั้นไม่ได้ คงไม่ใช่ทุกวันที่มีผู้ชายตัวใหญ่โย่งสวมโค้ตดำถือช่อดอกไม้พลาสติกสีชมพูหวานแหววเดินดุ่มไปตามถนนของเก็ตโต เหมือนกำลังใช้ดอกไม้นั้นเป็นเครื่องมือเร่งตามหาระเบิดเวลาลูกใหญ่ที่จะทำลายทั้งเมืองให้ราบหรอก

แมกนัสจ้ำเอาๆ จนได้ยินเสียงใครสักคนเรียกชื่อตน

หันไปก็เห็นบิวเรน สีหน้าของเพื่อนร่วมงานเขาไม่สู้ดีนัก ดูเพลีย ขอบตาคล้ำลึกโหลเหมือนอดนอน และผมกับเสื้อผ้าก็ค่อนข้างยุ่ง

“แกจะไปไหน” “แกเห็นแอนเธียมั้ย” ทั้งสองพูดแทบพร้อมกัน แล้วต่างคนก็เงียบไปอีกครู่หนึ่ง

“ครั้งสุดท้ายยังเห็นแกอยู่กับเจ้าหล่อนเลยไม่ใช่เหรอ” บิวเรนตอบแห้งๆ “ไปทำเขาหล่นหายที่ไหนล่ะ”

“ทำไมแกโทรมอย่างนี้” แมกนัสรีบเปลี่ยนเรื่อง “ผู้กองฮัมบี้เอาแกไปอยู่เวรหรือแบกกระสอบปูนวะ”

บิวเรนก้มหน้า หลับตา ใช้นิ้วกดขมับตน

“อยู่เวรกับพวกเทมพลาร์ แค่พวกนั้นมองก็ยิ่งกว่ามีกระสอบปูนกดบ่าแล้ว” เพื่อนร่วมงานเขายังไม่ลืมประเด็นเดิม “ว่าแต่แกเหอะ ถามหาแอนเธียทำไม เมื่อคืนเผลอไปทำมิดีมิร้ายเขา เขาเลยหนีหน้าแกหรือไง”

“เปล่า ประมาณว่าฉันพูดอะไรไม่เข้าท่า...ประมาณนั้นแหละ” แมกนัสพยายามดึงบิวเรนไม่ให้สันนิษฐานนอกลู่นอกทางนัก เขาบอกอีกฝ่ายเรื่องตนไปร้านหมอ และรู้มาว่าหญิงสาวออกไปเดินเล่น ก่อนตั้งคำถาม “แกว่า...เก็ตโตแถวนี้มีที่ไหนน่าเดินเล่นบ้างวะ”

คนถูกถามเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะชี้ไปทางที่ตนเพิ่งเดินมา

“ตรงนั้นมีโบสถ์ร้าง มันก็ใหญ่ดีอยู่หรอก ที่สวย บรรยากาศเป็นใจให้พาผู้หญิงไปจู๋จี๋ ลองไปดูแล้วกัน ฉันไปนอนก่อนล่ะ”

...โบสถ์ร้างเหรอ... แมกนัสคิดว่าแอนเธียโตมาในโบสถ์ บางทีคงชอบสถานที่แนวนี้อยู่บ้าง จึงได้รีบขอบใจบิวเรน แล้วก็จ้ำต่อไปโดยไม่รบกวนเขาอีก

- - - - -

จากคุณ : Anithin
เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 15:16:51




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com