หนทางสู่รัก (บทที่ 31) โดย มานัส
|
|
เรื่อง : หนทางสู่รัก นามปากกา : มานัส บทที่ : 31 ****************************
รถตู้คันใหญ่สองคันจอดหน้าอาคารผู้โดยสารขาเข้าของสนามบินนานาชาติ ร่างสูงของชายหนุ่มก้าวลงมาจากตอนหลังของรถตู้คันแรกที่วาววับเพราะการดูแลขัดจนเป็นเงา
สูทสีเทาของเขาตัดมาอย่างปราณีต เน็คไทด์ลายเรียบหากถูกจัดมาให้เหมาะกับการแต่งกายและบุคลิกของผู้สวมใส่
กำลังผ่านตรวจคนเข้าเมืองอยู่ครับ คุณกิตต์เข้าไปจัดการด้วยตัวเอง คนที่ยืนคอยอยู่ริมฟุตบาทรายงานทันที ไม่มีปัญหาครับ
ขอบใจ คำบอกนั้นเรียบเฉย ดวงหน้านิ่ง
ด๊อกเตอร์จะรอที่ห้องวีไอพี
ไม่เป็นไร คนที่มาเขาไม่ชอบพิธีรีตรองกัน ผมจะไปรอที่ตรงทางออกด้านใน
ร่างที่เดินตัวตรงดูโดดเด่นจนเป็นที่จับตามองของคนที่เห็น ถึงแม้ว่าผู้หญิงที่เดินสวนไปหลายคนส่งยิ้มให้ ทว่าดวงหน้าขาวสะอาดยังคงนิ่งเฉย
การรอในครั้งนี้มิได้ใช้เวลานาน เพราะเกือบทันทีที่เขาไปถึงประตูทางออกของผู้โดยสารต่างประเทศ รถเข็นที่มีน้องชายของเขาเข็นนำออกมาจึงปรากฏพร้อมกับการโบกมืออย่างดีใจของบุคคลในครอบครัว
เจิ้ง! เสียงที่ตะโกนเรียกอย่างดีใจของผู้ชายร่างค่อนข้างท้วมทำให้ชายหนุ่มที่ถูกเรียกยิ้มเพียงมุมปากเท่านั้น
ร่างสูงเดินเข้าไปหาผู้เป็นแม่แล้วก้มลงกราบที่หัวไหล่ ก่อนที่จะหันไปไหว้ผู้เป็นน้าสาว แล้วจึงหันไปทักทายพี่ชาย ก่อนที่จะบอก รถรออยู่ข้างนอกครับ
สายตาคมของเขามองไปยังผู้ช่วยอีกสองคน ที่รีบเข้าไปเข็นรถใส่กระเป๋าอย่างรู้หน้าที่
ชานนท์รู้สึกได้ถึงมือของมารดาที่โอบเอวของเขาไว้
เจิ้งดูคล้ำไปนะลูก คุณปีย์วราเงยหน้ามองบุตรชายที่ยังคงยิ้มเพียงนิดเดียว
แดดที่เมืองไทยมันแรงจ้ะแม่ เขาบอกด้วยน้ำเสียงเบาที่ทอดลงนุ่มนวลอย่างห่วงใย จนกระทั่งเมื่อถึงด้านนอกแม่กับน้าปาขึ้นรถเถอะครับ พวกกระเป๋านั่นเดี๋ยวเขาจัดการให้เอง
ผู้หญิงทั้งสองได้แต่ทำตาม ก่อนที่ชานนท์จะก้าวขึ้นรถเข้าไปนั่งข้างมารดา และเมื่อพี่และน้องของเขาขึ้นนั่งเรียบร้อยแล้ว ผู้เป็นเจ้าของรถจึงเอื้อมมือไปเคาะกระจกทึบที่กั้นระหว่างตอนหลังของรถตู้และส่วนของคนขับ คล้ายส่งคำสั่งให้เคลื่อนตัว
และเมื่อรถตู้คันงามวิ่งออกไปช้าๆ คนที่อยู่ในสูทเรียบร้อยจึงเข้าสวมกอดผู้เป็นมารดาในทันที
คิดถึงแม่จังจ้ะ น้าปาด้วยจ้า แล้วก็คิดถึงพี่จ่างนิดนึง
เสียงอ้อนและท่าทางคล้ายเด็กชายขี้ประจบทำให้ผู้ชายร่างค่อนข้างท้วมต้องหัวเราะเสียงดัง
ไอ้ด๊อกน้องนี่ท่ามากจริงๆ
พี่จ่างเพิ่งรู้เหรอ กิตต์เสริมด้วยเสียงหัวเราะเช่นกัน ผมรู้แจ้งมานานแล้ว
ทว่าคนที่ถูกรุมค่อนกลับหัวเราะเสียงดัง
ผมก็อยากเป็นเจิ้งเอ๋อร์ใจจะขาดอยู่แล้ว เป็นด๊อกเตอร์ชาร์ลส์แล้วมันเหนื่อย อ้อมแขนของเขายังคงกอดมารดาไว้หลวมๆ วันนี้ให้สัมภาษณ์โน่นนี่ทั้งวัน พูดจนเสียงแหบเจ็บคอ
แกมันฮ๊อต ปพณบอกเนื้อแกมันหอมกว่านายใหญ่ของแก ก็ดีแล้วให้พวกนักข่าวเขาขุดคุ้ยเรื่องแก จะได้ไม่มายุ่งเรื่องนายใหญ่ของแกกับฉัน
ค่าจ้างของผมไม่รวมการเป็นหนังหน้าไฟนะ เสียงหัวเราะของเขาสดใสด้วยความสุข
ของผมก็ไม่มีที่จะต้องเป็นเลขาฯ ส่วนตัวของหนังหน้าไฟ พอได้ทีเจ้านายและลูกน้องในหน้าที่การงานก็เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย
แล้วฉันจะบอกให้นายใหญ่ของแกเพิ่มค่าจ้างตรงนี้ให้ แกสองคนได้โดนไฟลวกแน่ๆ
การหยอกล้อโต้เถียงพร้อมเสียงหัวเราะยังคงเป็นไปอีกพักใหญ่ จนรถตู้แล่นเข้าสู่เขตตัวเมืองกรุงเทพฯ
ที่ตรงนั้นของผม ตึกนั้นก็ขอผม ที่กำลังสร้างอยู่ก็ใช่ ตึกโน้นก็ใช่
อ้อ เป็นของกิตต์ด้วย ตึกโน้น
แหม ตึกโน้นของเราสามคนพี่น้องเลย ชานนท์บอกอย่างสนุก
ยื่นคุกยื่นตารางให้พี่น้อง กิตต์บ่นอุบ ยังดีที่ผมถือแค่หุ้นเดียว
กะจะเพิ่มหุ้นให้แกในตึกโน้น ผู้เป็นพี่มิได้บอกเปล่าๆ หากยังมีการชี้ให้ดูอีกด้วย
มันจะคุ้มกับเงินที่ได้มาไหมเนี่ย คุณปีย์วราบ่นอย่างถอดใจ
ไม่มีอะไรหรอกจ้ะแม่ ฝีมือด๊อกเตอร์ชาร์ลส์ซะอย่าง ปั้นน้ำเป็นตัวได้สบายๆ ดวงตาคู่นั้นเป็นประกายซุกซนอารมณ์ดี อ้อ
ด๊อกเตอร์พอลอย่าลืมนะครับว่าผมให้เวลาสนุกแค่ห้าวัน จากนั้นก็กรุณาไปรายงานตัวที่โรงพยาบาลด้วย
คร้าบไอ้ทั่นด๊อกน้อง เสียงนั้นลากยาวคล้ายหมั่นไส้
ตกลงบ้านยังไม่เสร็จใช่มั้ยจ๊ะเจิ้ง ปาริชาตถามหลานชาย
ใกล้
จวน
เจียนเสร็จแล้วครับ
ด๊อกเตอร์ชาร์ลส์เรื่องมากครับ กิตต์บอกอย่างคนที่รู้ดีที่สุด
เอ
แล้วบ้านหลังเก่าของเราล่ะลูก
มันเก่าแล้วก็เล็ก ไม่สะดวกหรอกครับ แม่กับน้าจะอึดอัด ชานนท์บอกอย่างเป็นห่วง แล้วผมก็ยังไม่มีโอกาสไปเลย ยัยป้าจอมจุ้นนั่นคงขูดเลือดขูดเนื้อถ้าขอซื้อคืนหรือขอเช่าจากแก
แม่กับน้าปาไม่ค่อยอยากพักโรงแรมนะลูก ผู้เป็นมารดาบอกลูกๆ
ผมทราบครับ
นี่ก็เลยหาบ้านให้แม่กับน้าอยู่ก่อน ในกรุงเทพฯ นี่แหละ
ในตัวเมืองซะด้วย ทั้งสวยทั้งกว้าง ลูกๆ ทั้งสามก็ไปทำงานสะดวก ทุกคนในครอบครัวชอบไม่ชอบอะไร เขาย่อมรู้ดี ส่วนบ้านของเรา
ผมพยายามเร่งครับ แต่อาจช้าหน่อย เพราะต้องการให้บ้านออกมาปราณีตที่สุด
บ้านหลังงามในอาณาเขตกว้างริมแม่น้ำที่ต่างจังหวัดกำลังถูกเนรมิตขึ้นมาด้วยเงินของเขา จำนวนเงินที่ใช้ก่อสร้างและตกแต่งนั้นน้อยนิด เมื่อเทียบกับรายได้ของเขาในฐานะผู้บริหารของไททัส และคงน้อยยิ่งกว่าที่จะแลกเพื่อให้ได้มาความสะดวกสบายกายและใจของผู้เป็นที่รัก
ถ้ามันเหนื่อยมากเจิ้งเอ๋อร์ก็ต้องเพลาๆ บ้างนะลูก ผู้เป็นแม่ได้เคยเตือนอยู่บ่อยครั้ง
ไม่ได้หรอกครับ หากน้ำเสียงของลูกชายยังคงลงอย่างหนักแน่น บ้านของเราก็ต้องออกมาดีที่สุด และสมบูรณ์ที่สุด
มันไม่มีอะไรที่ดีที่สมบูรณ์ที่สุดในโลกหรอกลูก มันจะเพี้ยนจะผิดไปบ้างก็เป็นปรกติ หลายปีที่ผ่านมาผู้เป็นมารดาได้แต่บอกด้วยความห่วงใย
แต่บ้านของเราจะไม่มี
พลาด
ชานนท์ย่อมมั่นใจ เขาไม่เคยทำอะไรผิดพลาด บ้านจะต้องออกมาสมบูรณ์อย่างที่ต้องการ
การทุ่มเทให้กับคนที่รักเป็นที่สุดคือความสุขของเขา การที่เห็นบุคคลผู้เป็นที่รักมีความสุขย่อมเป็นสิ่งที่เขาต้องการ
เงินจะบันดาลทุกอย่าง และเขาก็จะใช้เงินที่เขามีมากมายอย่างคุ้มค่าที่สุด
เอกสารที่ตั้งกองบนโต๊ะทำงานบนชั้นสูงของโรงพยาบาลในย่างใจกลางเมืองนั้นมีมากเสียจนคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะต้องโยนบางแฟ้มลงบนพื้น
นั่นทำอะไร
คนที่เขามาใหม่ถามอย่างประหลาดใจ
จัดการกับเอกสารบางส่วน เพื่อที่จะได้เตรียมจัดส่งให้กับทางไททัส โกวิทมิได้เงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นพ่อตา ถ้าไม่ดูให้ดีมันจะเป็นหลักฐานมัดผมกับคุณอาว่าได้ค่าตอบแทนจากที่นี่ไปเท่าไหร่
ค่าตอบแทนที่ว่านั้นทั้งคนพูดและคนฟังย่อมรู้ว่ามิใช่ได้มาโดยสุจริต
ค่าตอบแทนงวดสุดท้ายก้อนของเรา
อาจมีปัญหา
ครับ? ผู้เป็นบุตรเขยแทบจะกระโดดจากเก้าอี้
นี่
ไพโรจน์โยนซองสีน้ำตาลลงตรงหน้าอีกฝ่าย เรื่องก่อสร้างอาคารสอง ทางโน้นไม่ใช่เพียงแค่ขอรายละเอียดเรื่องการประมูลผู้รับเหมา แต่จะขอให้ระงับการประมูลไปก่อนด้วย
อะไรกัน! การระงับหมายถึงเงินฮั้วที่กำลังจะเข้ากระเป๋าของทั้งพ่อตาและลูกเขย หรือว่ามันอยากจะแบ่งด้วย
ไม่รู้
แต่ว่าตอนนี้ที่ฉันรู้ก็คือเงินของแกและของฉันจะหายไปเยอะ ดัง่นั้นอะไรเล็กน้อยที่รูดมาได้ก็หาทางเอามาก่อน
ตอนนี้ไม่ใช่ง่าย คนของไททัสเข้ามานั่งแล้ว อีกสองวันผู้อำนวยการทางการแพทย์คนใหม่ก็จะเข้ามา แว่วว่าเป็นพี่ชายของด๊อกเตอร์ชาร์ลส์ด้วย ไอ้ด๊อกเตอร์นั่นคงอยากได้ส่วนแบ่งจากประมูล
เงินแค่นี้คงไม่คณามือของเขาหรอก ว่าแต่โปร์ไฟล์ของหมอปพณก็ไม่ใช่ย่อยนะ หมอศัลยกรรมระบบประสาทมือดี จะมีปัญหาก็แค่ไม่เคยงานบริหารเท่านั้น ไพโรจน์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก็ดูๆ แล้วกัน ถ้าดึงอะไรได้ก็จัดการเอาไว้ก่อน ตอนนี้อาเริ่มเหนื่อย
ว่าแต่เรื่องยัยฝ้ายไปถึงไหนแล้ว
ก็ยังอยู่ที่บ้านคุณหญิง
ไม่ไปดูเขาหน่อย
คนเป็นพ่อก็ยังห่วงลูก คงแค่งอนไปตามเรื่อง
ไว้ผมจะหาเวลาไป โกวิทบอกอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนที่จะก้มดูบรรดาเอกสารที่อยู่บนโต๊ะ
ไพโรจน์มองบุตรเขาของเขา หากด้วยความรู้สึกสงสารลูกสาวและหลานชายของเขาอย่างจับใจ ถึงเขามิใช่พ่อที่ดีของลูกสาวคนเดียว แต่เขาก็มิได้ต้องการให้ลูกและหลานตาต้องลำบากกายใจมากกว่าที่ได้เป็นอยู่
สองคนแม่ลูกนั่นต้อง ทน มากแค่ไหนในการใช้ชีวิตกับผู้ชายคนนี้
(ต่อ)
| จากคุณ |
:
Sentimentally Smooth
|
| เขียนเมื่อ |
:
19 ม.ค. 53 20:20:27
|
|
|
|