 |
ความคิดเห็นที่ 5 |
She says :
ฉันคงเป็นนักวิชาการที่ไม่เอาไหนที่สุด เพราะฉันแยกแยะความเหงากับความคิดถึงจากกันไม่ออก และไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า เพราะคิดถึงจึงเหงา หรือเพราะเหงาจึงคิดถึง แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม... จะเหงา หรือ คิดถึง หรือ ทั้งสองอย่าง เขาคือคนที่ฉันอยากเห็นหน้า อยากฟังเสียงที่สุดในเวลานี้
ฝนข้างนอกกำลังตก พยากรณ์อากาศก็บอกว่าที่ที่เขาอยู่ก็มีฝนตก ในขณะที่ฉันนั่งเขียนงานวิจัยอยู่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ ในห้องที่แห้งสะอาด ข้างโต๊ะมีกาแฟร้อน ๆ ที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นไว้กินคู่กับแครกเกอร์รสเค็มนิด ๆ แต่เขาล่ะ... ป่านนี้เขาจะอยู่ที่ไหน ตากฝนอยู่หรือเปล่า ได้กินอะไรบ้างหรือยัง
"กินเผื่อละกัน" ฉันกระซิบบอกคนไกล เอนหลังอิงพนักเก้าอี้ นึกถึงยามที่เราสองคนนั่งอิงหลังกัน ฟังเสียงฝนที่พร่างพรมอยู่นอกหน้าต่าง
ในวันนั้น เขาก็เอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาว่า "เราจะลงใต้นะ" ฉันหันหลังกลับไปมองหน้าเขาด้วยความตื่นตะลึง แม้จะพอรู้ข่าวนี้อยู่บ้าง แววตาที่แน่วแน่ของเขาที่สบตอบกลับมาทำให้ฉันเงียบไปครู่ใหญ่
"อือ..." ฉันรับคำ "ดูแลตัวเองดี ๆ... มาเป็นโลง หรือถุงใบเดียว ไม่เอา" เขาหัวเราะเบา ๆ "จะพยายามก็แล้วกัน"
ไอ้บ้าเอ๊ย แค่จะพยายาม ไม่ให้ความหวังกันบ้างเลย... ฉันนึกในใจ แต่ก็ได้แต่ทำใจและบอกตัวเองว่า พยายามแล้วทำไม่ได้ ก็น่าผิดหวังน้อยกว่าสัญญาแล้วทำไม่ได้ก็แล้วกัน
ฉันหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดหมายเลขโทรศัพท์ของเขา ไม่สบายใจเลยกับข่าวที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และเขาเองก็หนักใจ หากแต่อยู่ในสภาพน้ำท่วมปากเกินกว่าจะออกมาพูดอะไรได้ “เจ้านายเขาเชื่อของเขาอย่างงั้นว่ามันใช้ได้ เราเป็นคนใช้เรารู้ แต่ทำอะไรไม่ได้”
ฉันพยายามไม่วาดภาพชีวิตของเขาแขวนบนเส้นด้ายกับอุปกรณ์ที่ฉันเอง ก็นึกไม่ออกว่า เครื่องที่มีส่วนประกอบไม่กี่ชิ้นจะทำให้เขาปลอดภัยได้อย่างไร ได้แต่เก็บความกังวลไว้ในใจ และปลอบใจครอบครัวของเขาว่า ‘ไม่เป็นไร’ ทั้งที่เราสองคนต่างไม่แน่ใจว่า สิ่งที่เราพูดกับคนนั้นเป็นความจริงหรือไม่...
'ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก' เสียงตอบรับอัตโนมัติบอก และเมื่อโทรศัพท์ไปยังหมายเลขเดิมอีกครั้ง สายก็ตัดหายไปทันที ฉันถอนใจ... อีกแล้วสินะ เครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือกำลังทำงาน และแน่นอนที่สุดว่า เขาคงอยู่ในบริเวณนั้นด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย
ฉันมองออกไปนอกหน้าต่าง... ฝนยังคงตกอยู่ ขณะเพลงโปรดของเรากำลังบรรเลงแผ่วจากลำโพงโน้ตบุ๊ก ฉันอดคิดไม่ได้ว่า เขาจะฟังเพลง Scarborough Fair ทุกคืนเหมือนกันไหม
Tell her to reap it in a sickle of leather (War bellows, blazing in scarlet battalions).
Parsley, sage, rosemary, and thyme (Generals order their soldiers to kill).
And gather it all in a bunch of heather (And to fight for a cause they've long ago forgotten).
Then she'll be a true love of mine.*
หากเธอเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์มารวมกันด้วยเคียวหนังไร้คมได้... เธอจะเป็นคนรักแท้จริงของฉัน... เป็นคำขอที่ดูยากจะเป็นไปได้
แล้วเราจัดการกับปัญหาที่ดูเหมือนไร้ทางออกให้เด็ดขาด โดยไม่มีใครเจ็บเพราะคมเคียวและรวมทุกคนเป็นหนึ่งเดียวได้ไหม
“เราว่าเป็นไปได้” เขาบอก “จนกว่าจะถึงวันนั้น เธอจะรอเราไหม” ฉันพยักหน้า ยื่นมือออกไปจับมือกับเขาแทนคำมั่น “เราจะรอ” แล้วในวันนั้น เราคงจะได้บอกกันและกันอย่างเต็มปากว่า “You’ll be a true love of mine…”
เสียงเตือนว่ามีข้อความเข้าทำให้ฉันสะดุ้งสุดตัว หากข่าวสั้นที่ส่งผ่านระบบเอสเอ็มเอสทำให้ฉันเข่าอ่อนแทบทรุด มีเหตุระเบิดในท้องที่ความรับผิดชอบของเขา หลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ แต่ไม่พบว่ามีระเบิด... หากมันไม่เป็นเช่นนั้น... มีเจ้าหน้าที่หน่วย EOD ตายไป 2 ตำรวจ 1 เจ็บอีกเป็นสิบ...
ไอ้บ้าเอ๊ย... ฉันกรีดร้องอยู่ในใจ... แต่ไม่รู้ว่าตัวเองก่นด่าใครอยู่ บ้าที่สุด ฉันไม่อยากได้เขากลับมาในโลง กลับมาถุงเดียวก็ไม่เอา ฉันอยากได้เขากลับมาเป็น ๆ ... ขอร้องอย่าให้เขาเป็นหนึ่งในสองคนนั้นเลย
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ฉันเองก็ไม่รู้... ฝนยังไม่หยุดตก น้ำตาของฉันยังไม่หยุดไหล โทรศัพท์ของเขายังคงติดต่อไม่ได้ ฉันวางโทรศัพท์กลับคืนไปบนโต๊ะ ใช้มือเช็ดน้ำตา กลั้นสะอื้นเอาไว้ และในนาทีนั้น ฉันต้องผุดลุกจากที่นั่ง ตะครุบโทรศัพท์ที่ส่งเสียงเรียก
“ฝนตกหรือเปล่า ทางนั้น” เสียงที่คุ้นเคยเอ่ยถามมาทางโทรศัพท์ “เมื่อวานตากฝนจนไข้ขึ้นเลย ตอนนี้ก็ยังไม่หาย ไม่ได้ไปทำงาน” “เป็นหวัดเหมือนกันเหรอ เสียงอู้อี้เชียว” เขายังมีแก่ใจถามออกมาได้ “โทษทีนะ ตะกี้แถวตลาดมีการตัดสัญญาณมือถือเลยโทรหาไม่ได้”
ฉันไม่รู้เลยว่าตัวเองควรจะหัวเราะ ร้องไห้ดี แต่โล่งใจที่สุดในโลก “ไม่เป็นไรหรอก โทรมาก็ดีแล้ว... จริง ๆ นะ”
“อืม” เขารับคำ หัวเราะเบา ๆ “ไม่ได้ไปทำงาน เหงาเป็นบ้า แถมฝนยังตกลงมาอีกต่างหาก... เห็นฝนแล้วก็อดคิดถึงไม่ได้” เขาหยุดพูด แล้วไอถี่ ๆ พักหนึ่ง จากนั้นก็เงียบไปครู่ใหญ่ “เธอคิดถึงเราบ้างไหม...”
เสียงเพลง Scaborough Fair ของฉันแว่วผสานกับเสียงเพลงเดียวกัน ที่ถูกส่งผ่านมาทางคลื่นโทรศัพท์จากฟากฝั่งของเขา
Tell her to reap it in a sickle of leather Parsley, sage, rosemary, and thyme And gather it all in a bunch of heather Then she'll be a true love of mine.
ฉันยิ้ม และพยักหน้าให้คนที่อยู่ปลายสาย แม้เขาจะไม่เห็น “คิดถึงมาก...”
และหวังว่าอีกไม่นาน เราจะได้กลับมาพบกันอีก...
----------------------------------------
* Scarborough Fair (Canticle) ของ Simon & Garfunkel
จากคุณ |
:
ปิยะรักษ์
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ม.ค. 53 03:22:44
|
|
|
|
 |