Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรื่องเล่าสยองของข้าพเจ้า ตอน อย่าเล่นซ่อนหาตอนกลางคืน  

สามารถอานเรื่องเล่าสยองทั้งหมดได้ที่ blog ของมูนนี่ค่ะ
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moonyforever

ตอน วิญญาณที่ตายไม่รู้ตัว
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8795325/W8795325.html

เรื่องที่ 50

อย่าเล่นซ่อนหาตอนกลางคืน

เคยบ้างไหมที่ตื่นมากลางดึกเพื่อจะเข้าห้องน้ำ พอเสร็จธุระกำลังกลับไปนอนต่อก็มีเหตุบางอย่างดลใจให้มองออกไปนอกบ้านเพื่อที่จะเจอกับอะไรบางอย่างนั่งอยู่บนรั้ว

เรื่องเล่าคราวนี้เกิดขึ้นนานมาก แถมตอนนั้นพี่ยังเด็กเลยไม่แน่ใจว่าสิ่งที่พบเป็นเพียงเงาของต้นไม้หรือภูตผีปิศาจมาหลอกหลอนให้ตกใจเล่น

ตอนนั้นพี่อยู่ในช่วงประถมต้นและยังอาศัยอยู่ที่บ้านดอนเมือง รั้วบ้านยังคงเป็นไม้ระแนงซึ่งเว้นช่องว่างพอให้เด็กซนๆปีนได้แต่สูงเกินกว่าจะข้าม พวกเด็กๆจึงมักจะมาเล่นที่รั้วบ้านพี่เป็นประจำ เรียกว่าซ่อมกันไม่หวาดไม่ไหวจนตอนหลังพ่อต้องเปลี่ยนเป็นคอนกรีตครึ่งไม้เพื่อความคงทนแข็งแรง

ในสมัยนั้นไม่ค่อยมีโจรขโมยมากนัก แถมแถบที่พี่อาศัยอยู่ในเขตทหาร(ในสมัยนั้น)ซึ่งถ้ามีใครทำตัวเกกมะเหรกเกเรหรือลักข้าวของของคนอื่นมีหวังโดนจับติดคุกหัวโต

หากใครได้อ่านเรื่องเล่าของพี่มาตั้งแต่ต้นคงทราบดีว่าบ้านดอนเมืองนั้นชุกชุมไปด้วยเรื่องราวสยองตั้งแต่ผีกระสือ ผีโดนรถไฟทับ อาจจะเพราะที่นั่นเคยเป็นจุดยุทธศาสตร์สมัยสงครามโลกด้วยเลยมีคนล้มตายกันมากตอนสนามบินโดนทิ้งระเบิด

พี่ยังเคยไปดูหลุมหลบภัยที่อยู่แถวๆฝั่งโขงด้วย แต่มีเด็กเข้าไปหลงในนั้นบ่อยครั้งตอนหลังเขาเลยห้ามเข้าและปิดตายไปในที่สุด

ถึงจะมีวิญญาณมากมายแต่ไม่ใช่ว่าบ้านทุกหลังจะพบเห็น บางครอบครัวเคยเจออะไรเลยในขณะที่บางบ้านพบเห็นผีเป็นประจำ อย่างบ้านหลังที่สร้างใกล้สระน้ำของหมู่บ้านซึ่งมีคนตกลงไปตายทุกปี วันดีคืนดีจะเห็นเงาคนยืนก้มหน้าบนผิวน้ำกลางสระ ถ้าใครเผลอร้องทักเขาจะเงยหน้าขึ้นและกวักมือเรียกให้เข้าไปหา ถ้าอยู่ในช่วงดวงตกหรือถึงฆาตก็จะกลายเป็นฝีเฝ้าบ่อแทน

ไม่แน่ใจว่าเดี๋ยวนี้บ่อน้ำนั้นโดนถมทิ้งไปหรือยัง เพราะสีห้าปีก่อนบังเอิญผ่านไปแถวนั้นเห็นสระถูกรุกที่จนกลายเป็นบ่อน้ำเน่าเล็กนิดเดียว

ในสมัยนั้นการเล่นซ่อนหาตอนพลบค่ำเป็นเรื่องต้องห้าม แต่ความเป็นด็กพวกพี่จึงมักจะแอบเล่นกันหลายครั้งซึ่งถ้าถูกจับได้ล่ะก็ โดนฟาดด้วยก้านมะยมแบบไม่มีการอุทรณ์

ทั้งเจ็บ แสบและคันยิบๆเลยล่ะ

ถึงจะโดนตีแต่ก็ไม่เคยเข็ด พวกเราจะแอบเล่นกันทุกครั้งที่ถ้าผู้ใหญ่เผลอ พี่เองก็ออกไปเล่นกับพื่อนๆหลายครั้งจนกระทั่งเจอสิ่งน่ากลัวจนพี่ต้องเลิกเล่นซ่อนหาตอนกลางคืน

เย็นวันหนึ่งหลังจากเล่นซ่อนหากันจนค่ำ พี่กับน้องก็กลับเข้าบ้านและอาบน้ำกินข้าวกินปลาจากนั้นก็นั่งดูทีวีกับพ่อแม่จนถึงสองทุ่มก็เข้านอน สมัยก่อนเด็กๆจะนอนกันเร็วค่ะเพราะการ์ตูนจะมีแค่หกโมงเย็น ราวหนึ่งทุ่มจะมีหนังฝรั่งอย่างพวกซุปเปอร์แมน แบทแมนให้ดูตอนเดียวเท่านั้น ที่เหลือก็เป็นละครไทยซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแนวรักรันทดหรือไม่ก็หวานซึ้งจนน้ำตาลปี๊บยังอาย

อ้าว นอกเรื่องอีกแล้ว

บ้านพี่ไม่นิยมละครรักเลยนอนกันเร็ว พี่หลับเป็นตายเพราะเหนื่อยจากเล่นซนมาทั้งวัน มาตื่นอีกทีก็ตอนดึกเพราะปวดฉี่(ไม่ต้องปัสสาวะหรอกนะ) ตอนนั้นก็น่าจะอยู่ในราวๆเที่ยงคืน

พี่นอนกับพ่อแม่อยู่บนชั้นสอง ห้องน้ำอยู่ชั้นล่างด้านหลังซึ่งต้องเปิดประตูบ้านออกไป ตอนแรกก็ไม่กล้าลุกหรอกค่ะ แต่มันปวดจนทนไม่ไหวจะเรียกพ่อกับแม่ก็เกรงใจเลยลุกไปคนเดียว ตอนออกไปก็ลุ้นเหมือนกันว่าจะเจออะไรหรือเปล่า จะมีฝีหน้าตาน่ากลัวโผล่มาจ๊ะเอ๋กับเราเหมือนในหนังเรื่องแม่นาคมั้ย หรือจะเจอดวงไฟแบบกระสือ(จำได้ว่าตอนนั้นสองเรื่องนี้ดังมากและน่ากลัวสุดๆ) ก็คิดไปเรื่อยจนกระทั่งเสร็จธุระก็รีบกลับเข้าบ้าน เดินขึ้นบันไดไปจนถึงห้อง ตอนกำลังจะล้มตัวลงนอนก็ได้ยินเรียกเหมือนใครมาเขย่ารั้ว พี่เลยดินไปที่หน้าต่างและมองลงไป

เด็กค่ะ อายุรุ่นราวคราวเดียวกับพี่กำลังยืนก้มหน้าอยู่ริมรั้วนอกบ้าน ท่าทางเหมือนกำลังนับเลขเวลาเราเล่นซ่อนหากัน พยายามมองว่าเป็นใครก็มองไม่เห็น พี่เลยหันหน้าเตรียมจะเรียกพ่อกับแม่แต่เสียงเขย่ารั้วมันดังอีกครั้งคราวนี้แรงกว่าเก่าก็เลยหันหน้ากลับไปมอง

เด็กคนนั้นขึ้นมานั่งยองๆอยู่บนรั้วแล้ว

ตอนนั้นรู้สึกทันทีเลยว่าต้องไม่ใช่คนแน่เพราะขอบรั้วไม้ระแนงเล็กมากไม่มีทางที่คนจะปีนขึ้นไปนั่งแบบนั้นได้ แต่เด็กนั่นก็นั่งนิ่งอยู่แบบนั้นไม่ได้ทำอะไร ส่วนตัวพี่น่ะเหรอคะ

คว้าผ้าห่มโดดไปนอนระหว่างพ่อกับแม่ทันที ตอนกำลังคลุมโปงเหมือนได้ยินเสียงเบาๆว่า

เอาหรือยัง

ใครจะไปตอบล่ะคะ พี่นอนหลับตาปี๋ในใจก็ลุ้นว่าเด็กคนนั้นจะปีนหน้าต่างเข้ามาในบ้านหรือเปล่าเพราะสมัยนั้นไม่มีมุ้งลวดเหล็กดัด แล้วก็หลับไปโดยไม่รู้ตัว

ตื่นเช้าขึ้นมาก็รีบเล่าให้พ่อกับแม่ฟัง พ่อพี่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีบอกว่าอาจเป็นเพราะเล่นมากไปแถมตอนนั้นยังงัวเงียอยู่เลยตาฝาด แต่แม่ไม่พูดอะไรจนกระทั่งพ่อออกไปทำงาน ท่านจึงเรียกพี่ไปสั่งสอนสองสามคำพร้อมกับบอกว่าที่โบราณไม่ให้เล่นซ่อนหาตอนกลางคืนเพราะกลัวผีลักตัวเด็กไปซ่อน ถ้าผู้ใหญ่หาเจอก็โชคดีไปแต่ถ้าไม่เจอเด็กคนนั้นก็จะติดอยู่อีกโลกหนึ่งจนกว่าจะหมดกรรมหรือมีคนใหม่ไปแทน

แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาพี่ก็ไม่เคยเล่นซ่อนหาตอนกลางคืนอีกเลย

*/*/*/*

เรื่องเล่าครั้งนี้อาจจะไม่ค่อยน่ากลัวนักเพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนานมาก รายละเอียดจริงสั้นๆเพราะเป็ฯการเห็นแบบแว่บเดียว มันเป็นความทรงจำที่ค่อนข้างลางเลือนสักหน่อยค่ะ

จากคุณ : Moony_Lupin
เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 15:19:15




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com